เสริมคางแผลใน ทางเลือกของคนที่ต้องการแก้ปัญหาคางไม่ได้รูป ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ให้กลับมาเข้ารูป สมส่วน และดูดีมากขึ้น ซึ่งเทคนิคนี้สามารถทำได้กับทุกคนเพราะมีข้อดีหลายอย่าง ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครอบคลุม แต่อาจจะมีเงื่อนไขบางประการที่ควรพิจารณาร่วมด้วย ในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับเทคนิคเสริมคางด้วยการเปิดแผลในปากว่าคืออะไร เหมาะกับใครบ้าง แตกต่างจากเทคนิคแผลนอกไหม ราคาเท่าไหร่ หลังทำต้องดูแลอย่างไร มีข้อดีและข้อควรรู้อะไรบ้าง ติดตามอ่านได้จากบทความนี้
เสริมคางแผลใน คืออะไร?
เสริมคางแผลใน คือ เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัดเสริมคางด้วยการเปิดแผลด้านในช่องปากบริเวณซอกเหงือกฟันหน้าด้านล่างไม่เกินประมาณ 2 เซนติเมตร เพื่อเปิดเยื่อหุ้มกระดูกคางและใส่ซิลิโคนเข้าไปในตำแหน่งที่กำหนดไว้ เมื่อจัดวางได้ตำแหน่งตามที่ต้องการแล้วจึงทำการเย็บด้วยไหมละลาย ซ่อนแผลผ่าตัดไว้ด้านในปากจึงไม่ต้องกังวลว่าจะเห็นรอยแผลผ่าตัดชัดเจน
เสริมคางแผลใน เหมาะกับใครบ้าง?
เสริมคางแผลใน เป็นเทคนิคการผ่าตัดปรับแก้คางให้ได้รูปทรงตามต้องการ ช่วยให้ใบหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น จึงเป็นศัลยกรรมที่เหมาะกับคนที่มีความต้องการหรือปัญหาดังต่อไปนี้
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาคางสั้น ต้องการเพิ่มความยาวให้กับคาง
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาคางตัด อยากปรับทรงคางให้โค้งมนมากขึ้น
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาคางบุ๋ม ต้องการปรับเติมเต็มรอยยุบหรือรอยบุ๋มให้เรียบขึ้น
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาคางถอย ต้องการปรับรูปทรงคางให้ได้สัดส่วน ส่งผลทำให้ใบหน้าสมส่วนมากขึ้น
- เหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าเรียวยาวขึ้น ใบหน้าสมส่วนมากขึ้น
- เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการให้มีรอยแผลผ่าตัดอยู่ด้านนอก
เสริมคางแผลใน มีข้อดีและข้อควรรู้อะไรบ้าง?
การเสริมคางแผลใน มีทั้งข้อดีและข้อควรรู้ที่ควรพิจารณาร่วมกันก่อนตัดสินใจเลือกทำ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าคนไข้สามารถรับเงื่อนไขของเทคนิคผ่าตัดคางแบบแผลในได้มาก–น้อยแค่ไหน โดยมีรายละเอียดดังนี้
ข้อดีของการเสริมคางแผลใน
- ไม่ก่อให้เกิดแผลเป็นหรือรอยแผลผ่าตัดที่อยู่ภายนอก
- ไม่ต้องตัดไหมเพราะใช้ไหมละลาย
- แผลสามารถโดนน้ำได้
ข้อควรรู้ของการเสริมคางแผลใน
- ใช้เวลาพักฟื้นนานประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
- ดูแลแผลผ่าตัดค่อนข้างยากเพราะแผลอยู่ภายในปาก
- มีโอกาสติดเชื้อสูงเนื่องจากภายในปากมีทั้งเชื่อแบคทีเรีย น้ำลาย อาหารที่รับประทาน เป็นต้น
- หลังผ่าตัดอาจส่งผลกระทบทำให้รับประทานอาหารได้ลำบาก
- มีโอกาสบวมหรืออักเสบได้มากกว่า
- มีโอกาสเลือดออกได้มากกว่าเทคนิคแผลนอก
- มีความเสี่ยงที่อาจจะกระทบกับเส้นประสาทรับความรู้สึกบริเวณปลายคางได้มากกว่า
เสริมคางแผลใน ต่างกับ เสริมคางแผลนอก อย่างไร?
เสริมคางแผลใน และ การเสริมคางแผลนอก มีความแตกต่างกันในหลายเรื่อง มีความยาก–ง่ายในการดูแลที่ไม่เหมือนกัน โดยมีรายละเอียดของความแตกต่างกัน ดังนี้
- ผ่าตัดเสริมคางแบบแผลใน เป็นการเปิดแผลด้านในปากบริเวณซอกเหงือกฟันหน้าด้านล่าง เย็บแผลด้วยไหมละลายไม่มีรอยแผลเป็นอยู่ภายนอกให้เห็น ต้องดูแลเป็นพิเศษเพราะมีโอกาสติดเชื้อและอักเสบสูง เนื่องจากสัมผัสกับน้ำลาย อาหาร และแบคทีเรียภายในช่องปากอยู่เสมอ พักฟื้นนาน แผลหายช้า
- ผ่าตัดเสริมคางแบบแผลนอก เป็นการเปิดแผลใต้คาง แพทย์สามารถใส่ซิลิโคนได้อย่างแม่นยำ ดูแลง่าย แผลหายไว พักฟื้นไม่นาน มีแผลผ่าตัดอยู่ใต้คางอาจจะต้องดูแลและทายาลดรอยแผลเป็นอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์
เสริมคางแผลใน กี่วันหาย?
พักฟื้นหลัง เสริมคางแผลใน ระยะเวลาของอาการบวมจะเกิดขึ้นประมาณ 3 – 5 วัน โดยในช่วง 7 – 10 วันแรกหลังทำเป็นช่วงที่อาการบวมจะค่อย ๆ หายไป หลังจากนั้นแผลผ่าตัดจะสมานตัวและฟื้นฟูจนหายสนิทประมาณ 1 เดือนขึ้นไป ไหมละลายที่เย็บแผลไว้จะค่อย ๆ ละลายไปเองในช่วงเวลานี้ โดยผลลัพธ์ของการผ่าตัดคางแบบแผลในจะเข้าที่ประมาณ 1 – 3 เดือนหลังทำ
เสริมคางแผลใน หลังทำควรดูแลตัวเองอย่างไร?
เนื่องจากการ เสริมคางแผลใน เป็นการเปิดแผลผ่าตัดอยู่ด้านในปากซึ่งมีโอกาสที่จะสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรีย น้ำลาย และอาหารที่รับประทานได้ง่าย จึงต้องดูแลเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยสามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นได้ ดังนี้
- หลังทำอาจเกิดอาการบวมขึ้นได้บ้าง สามารถประคบเย็นเพื่อช่วยบรรเทาอาการในช่วง 1 – 3 วันแรกได้ โดยประคบบริเวณรอบ ๆ ไม่ควรกดลงบนคางโดยตรง
- งดนอนคว่ำหรือนอนตะแคง ควรนอนหมอนสูงยกศีรษะขึ้น เพื่อลดอาการบวม ป้องกันซิลิโคนโดนกระทบกระเทือน
- งดกด บีบ นวด หรือเท้าคาง ในช่วง 3 เดือนแรกหลังทำ เพราะผลลัพธ์ยังไม่เข้าที่และแผลผ่าตัดยังไม่หายดี อาจทำให้เกิดการเคลื่อนที่ไปในตำแหน่งอื่นที่ไม่ต้องการได้
- รับประทานยาให้ครบกำหนดตามแพทย์สั่ง
- หลังรับประทานอาหารควรบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือทันที เพื่อทำความสะอาดช่องปาก กำจัดเศษอาหารที่ตกค้างในช่องปาก ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อให้น้อยลง ไม่ควรใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพราะจะทำให้แสบแผลและอาจอักเสบได้มากขึ้น
- ควรรับประทานอาหารอ่อน เช่น โจ๊ก ซุป ไข่ตุ๋น เป็นต้น งดอาหารเคี้ยวยาก เหนียว หรือมีความแข็ง เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกับแผลผ่าตัดจนเกิดอาการบวมช้ำหรืออักเสบมากขึ้น
- รับประทานอาหารประเภทโปรตีน เช่น ไข่ เนื้อสัตว์ เป็นต้น เพราะโปรตีนจะเข้าไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยให้แผลสมานเร็วขึ้น
- งดอาหารหมักดอง อาหารทะเล หรืออาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อย่างน้อย 1 เดือนแรกหลังทำ เพราะมีโอกาสที่จะกระตุ้นการอักเสบหรือติดเชื้อได้มากขึ้น
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 เดือนหลังผ่าตัด เพราะมีผลทำให้แผลหายช้า และเสี่ยงที่จะอักเสบติดเชื้อได้มากขึ้น
- งดออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงเยอะ ๆ เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูเต็มที่ประมาณ 1 เดือนหลังทำ เพราะมีผลกระทบทำให้เกิดการอักเสบ บวมช้ำ หรือทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของซิลิโคนได้มากขึ้น
เสริมคางแผลใน ราคาเท่าไหร่?
ราคา เสริมคางแผลใน มีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละรายบุคคล ขึ้นอยู่กับปัญหา เทคนิคการผ่าตัด ซิลิโคนที่ใช้ เป็นต้น โดยราคาทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 15,000 – 50,000 บาท โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหา วิเคราะห์ใบหน้า และออกแบบการรักษาที่เหมาะกับคนไข้แต่ละรายบุคคลมากที่สุด
สรุป
เสริมคางแผลใน อีกหนึ่งเทคนิคที่ได้รับความนิยมเนื่องจากเป็นการผ่าตัดเปิดแผลด้านในปาก จึงไม่มีแผลให้เห็นภายนอก แต่จะต้องดูแลเป็นพิเศษเพราะแผลผ่าตัดต้องสัมผัสกับน้ำลาย อาหาร และแบคทีเรียในช่องปากอยู่ตลอดเวลา แต่ผลลัพธ์หลังทำสามารถปรับแก้รูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น หน้าเรียวยาวสมส่วน แก้ปัญหาคางตัด คางสั้น คางบุ๋ม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับใครที่อยากผ่าตัดเสริมคางหรืออยากแก้คางที่เคยทำมาแล้วให้ได้ทรงตามต้องการ แนะนำให้เข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ของ Vincent Clinic เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินและวางแผนการรักษาเฉพาะรายบุคคล
