vincent.jpg.png
vc_3.png
Vincent Clinic Bangkok Plastic Surgery
คลินิกศัลยกรรมความงาม ดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit
บทความ
เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ คืออะไร ต่างจากเหนือกล้ามเนื้ออย่างไร?
แชร์ :

เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ คืออะไร ต่างจากเหนือกล้ามเนื้ออย่างไร?

เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อคืออะไร
อยากรู้เรื่องอะไร? คลิกที่หัวข้อได้เลย!

Key Takeaways

  • เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ คือ การวางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อหน้าอก เพื่อผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ลดการเสียดสีระหว่างซิลิโคนกับผิวหนัง และซ่อนขอบซิลิโคนได้ดีขึ้น
  • เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกน้อย ผิวบาง หรือกังวลเรื่องการเคลื่อนที่ของซิลิโคนและการเกิดพังผืด
  • เสริมใต้กล้ามเนื้อต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเพราะการผ่าตัดมีความซับซ้อน พักฟื้นนานกว่า และไม่สามารถเสริมซิลิโคนขนาดใหญ่เกินไปได้
  • คนที่ชอบออกกำลังหนัก ๆ สายฮาร์ดคอร์ เวลาที่กล้ามเนื้อมีการหดเกร็งมาก ๆ อาจทำให้ขอบซิลิโคนโผล่ได้บ้าง

เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ อีกหนึ่งเทคนิคศัลยกรรมเต้านมที่ช่วยปรับรูปทรงและขนาดให้ได้ตามที่ต้องการ รับกับสรีระมากขึ้น เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งยังมีหลายคนที่สงสัยเกี่ยวกับรายละเอียดของเทคนิคนี้ Vincent Clinic Plastic Surgery จึงได้รวบรวมข้อมูลว่าคืออะไร แตกต่างจากเทคนิคอื่นอย่างไรบ้าง เหมาะกับใครบ้าง มีข้อดีหรือข้อเสียอะไรบ้าง ควรเตรียมตัวก่อนรับการผ่าตัดด้วยเทคนิคนี้อย่างไร สามารถติดตามอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเนื้อหาต่อไปนี้ได้เลย

เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อคืออะไร?

เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ คือ เทคนิค เสริมหน้าอก ที่วางซิลิโคนไว้ในตำแหน่งใต้กล้ามเนื้อหน้าอก ป้องกันไม่ให้ซิลิโคนเสียดสีกับผิวหนังหรือเนื้อเต้านมโดยตรง ลดความเสี่ยงการเกิดผลข้างเคียงในอนาคตได้ดี ให้ผลลัพธ์ที่มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น ช่วยล็อกซิลิโคนไม่ให้เคลื่อนไปตำแหน่งอื่น

เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อแตกต่างจากการเสริมเหนือกล้ามเนื้ออย่างไร?

สำหรับเทคนิคเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อมีความแตกต่างจากเทคนิคเสริมหน้าอกเหนือกล้ามเนื้ออย่างชัดเจน เพราะเสริมเหนือกล้ามเนื้อแพทย์จะวางซิลิโคนไว้บนกล้ามเนื้อ เหมาะกับคนที่มีเนื้อหรือไขมันบริเวณเต้านมค่อนข้างเยอะ ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ การผ่าตัดไม่ซับซ้อน พักฟื้นน้อย เห็นทรงหน้าอกที่ชัดเจนหลังทำ ต่างจากใต้กล้ามเนื้อที่วางซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อหน้าอกทั้งหมด ซึ่งวิธีที่ค่อนข้างซับซ้อน พักฟื้นนาน แต่จะช่วยแก้ไขปัญหาหน้าอกได้ครอบคลุม และเป็นธรรมชาติมากกว่า

เทคนิคเสริมหน้าอก Dual Plane คืออะไร เหมือนเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อไหม

สำหรับการเสริมหน้าอก Dual plane เป็นการวาง ซิลิโคนเสริมหน้าอก แบบผสมผสาน โดยส่วนบนของซิลิโคนจะอยู่ใต้กล้ามเนื้อและส่วนล่างของซิลิโคนจะอยู่นอกกล้ามเนื้อสัมผัสกับเนื้อหน้าอกโดยตรง ช่วยให้หน้าอกได้ทรงสวยเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นบล็อก ลดโอกาสเกิดพังผืดให้น้อยลง ซึ่งต่างจากการเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อที่จะวางซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อหน้าอกเท่านั้น

เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ เหมาะกับใคร?

สำหรับเทคนิคเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ มีข้อดีด้วยกันหลายอย่างซึ่งตอบโจทย์ปัญหาและความต้องการได้หลากหลาย จึงเป็นเทคนิคที่เหมาะกับคนกลุ่มต่อไปนี้

  • คนที่มีเนื้อหน้าอกน้อย ผิวบาง สำหรับคนที่มีเต้านมเดิมเล็ก หน้าอกเล็ก มาก หรือมีชั้นไขมันบาง การใส่ซิลิโคนเหนือกล้ามอาจทำให้เห็นขอบซิลิโคนชัดเจนจึงเหมาะกับการเสริมใต้กล้ามเนื้อมากกว่า
  • คนที่ต้องการได้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ เทคนิคใต้กล้ามเนื้อช่วยให้หน้าอกไม่แข็งเป็นก้อน แต่มีความโค้งมนสวยเหมือนหน้าอกจริงมากกว่า
  • คนที่ต้องการได้สัมผัสของหน้าอกที่นุ่ม เพราะมีกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อปกปิดซิลิโคนอยู่ด้านบน จึงทำให้หน้าอกที่ได้มีความนุ่ม ไม่เป็นก้อนแข็ง สัมผัสใกล้เคียงธรรมชาติ
  • คนที่กังวลเรื่องของซิลิโคนเคลื่อนไปในตำแหน่งอื่น การวางใต้กล้ามช่วยให้ซิลิโคนอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง ลดความเสี่ยงที่ซิลิโคนจะเลื่อนหรือขยับผิดตำแหน่ง
  • คนที่มีความกังวลเรื่องการเกิดพังผืด เทคนิคใต้กล้ามเนื้อมีโอกาสเกิด พังผืดเกาะซิลิโคน น้อย เนื่องจากการกดรัดและการไหลเวียนเลือดบริเวณนั้นดีกว่า ทำให้โอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนลดลง

เสริมใต้กล้ามเนื้อไม่เหมาะกับใครบ้าง?

ถึงแม้ว่าเทคนิคเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ จะสามารถช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาและผลข้างเคียงในอนาคตได้ดี แต่ก็ยังมีคนที่ไม่เหมาะกับเทคนิคนี้อยู่ด้วยเช่นกัน ได้แก่

  • คนที่ต้องการเสริมหน้าอกขนาดใหญ่มากๆ หากเลือกไซซ์ที่ใหญ่เกินไปอาจทำให้กล้ามเนื้อกดทับซิลิโคนจนดูไม่สวยงาม หรือเกิดการผิดรูปได้ง่าย
  • คนที่กังวลเรื่องของอาการเจ็บ หรือการพักฟื้นนานๆ การเสริมใต้กล้ามมักเจ็บมากกว่าแบบเหนือกล้าม เพราะต้องแยกชั้นกล้ามเนื้อออกเพื่อใส่ซิลิโคน ทำให้ช่วงแรกมีอาการตึง เจ็บ หรือฟื้นตัวช้า
  • คนที่เป็นนักกีฬา หรือมีกล้ามเนื้อหน้าอกหนามาก เพราะเมื่อกล้ามเนื้อหดเกร็งอาจทำให้เห็นขอบซิลิโคนชัด หรือหน้าอกดูผิดรูปได้ 
  • คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ เช่น กล้ามเนื้อไม่แข็งแรงผิดปกติ หรือกล้ามเนื้อหดตัวมากเกินไป หากเสริมใต้กล้ามเนื้ออาจเกิดผลข้างเคียง เช่น หน้าอกไม่เท่ากัน

ข้อดีของการเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ

ข้อดี และข้อจำกัดของการเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ

ผ่าตัดเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อเป็นเทคนิคที่มีข้อดีด้วยกันหลายอย่าง ซึ่งสามารถตอบโจทย์ปัญหาและความต้องการของคนไข้ได้อย่างครอบคลุม แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างด้วยเหมือนกัน ดังนี้

ข้อดีเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ

  • ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เห็นขอบซิลิโคน ผิวหน้าอกเรียบเนียน
  • หน้าอกเต็มทรงและอวบอิ่ม แม้จะมีเนื้อหน้าอกน้อยหรือผิวบาง
  • ลดโอกาสเกิดพังผืดและภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น หน้าอกแข็ง พังผืดหดรั้งจนผิดรูป
  • สามารถให้นมบุตรได้ตามปกติ เพราะเทคนิคนี้ไม่กระทบกับต่อมน้ำนม

ข้อจำกัดเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ

  • เทคนิคนี้ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง เพราะเป็นการผ่าตัดที่มีความซับซ้อน
  • พักฟื้นนาน เนื่องจากมีการเลาะกล้ามเนื้อทำให้ร่างกายต้องทำการซ่อมแซม และฟื้นฟูมากขึ้น
  • เสริมซิลิโคนขนาดใหญ่มากไม่ได้ เพราะพื้นที่ในการใส่ซิลิโคนถูกจำกัดขนาดกล้ามเนื้อ ต้องเลือกซิลิโคนที่มีขนาดพอดีกับสรีระของแต่ละคน
  • แผลผ่าตัดใหญ่ ถึงแม้แผลผ่าตัดจะมองได้ยากเนื่องจากอยู่ใต้ราวนม แต่แผลจะขนาดใหญ่กว่าวิธีอื่น
  • ทรงหน้าอกอาจจะไม่ชัดเท่ากับการเสริมเหนือกล้ามเนื้อ เพราะถูกกล้ามเนื้อหน้าอกกดทับเอาไว้

เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อควรเลือกซิลิโคนแบบไหน

เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อควรเลือกซิลิโคนแบบไหนดี?

ซิลิโคนที่เหมาะกับการเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อไม่ได้มีรูปทรงที่เฉพาะเจาะจง สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของปัญหา สรีระร่างกาย และความต้องการของคนไข้ ซึ่งแพทย์จะเป็นคนช่วยประเมินเลือกใช้ให้เหมาะกับแต่ละคนมากที่สุด แต่อาจจะต้องคำนึงถึงเรื่องของขนาดมากกว่า เพราะเทคนิคนี้ไม่สามารถเสริมซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่มากๆ ได้

ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ

ในส่วนของขั้นตอนการเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ มีความซับซ้อนที่มากกว่าแบบเหนือกล้ามเนื้อ เนื่องจากแพทย์ต้องเลาะกล้ามเนื้อเพื่อใส่ซิลิโคนเข้าไปให้พอดี โดยมีขั้นตอนการผ่าตัดดังนี้

  • แพทย์ประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม กำหนดตำแหน่งที่จะผ่าตัด
  • ดมยาสลบโดย วิสัญญีแพทย์ เพื่อไม่ให้คนไข้รู้สึกเจ็บ เมื่อยาสลบออกฤทธิ์แพทย์จึงลงมือผ่าตัดตามตำแหน่งที่กำหนดไว้
  • แพทย์เปิดแผลบริเวณใต้ราวนม จากนั้นเลาะกล้ามเนื้อหน้าอกเพื่อสร้างโพรงสำหรับใส่ซิลิโคนเข้าไป
  • หลังจากผ่าตัดเสร็จสิ้น แพทย์จะทำความสะอาดทั้งภายใน และภายนอกแล้วจึงเย็บแผลปิดไว้
  • พาคนไข้ไปห้องพักฟื้นเพื่อดูอาการ และรอให้ยาสลบหมดฤทธิ์ หลังจากนั้นจึงปล่อยให้กลับบ้านได้

การเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อคือการเตรียมตัวก่อนทำ เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนระหว่างทำไม่ให้เกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นน้อยที่สุด โดยสามารถเตรียมตัวก่อนผ่าตัดได้ดังนี้

  • เข้าพบแพทย์เพื่อรับการประเมิน โดยแพทย์จะวางแผนการรักษาเฉพาะรายบุคคล เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาได้ตรงตามความต้องการคนไข้
  • แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองกับแพทย์ หากมีโรคประจำตัว ยาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ หรือมีประวัติแพ้ยา ต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบครบถ้วนก่อนรับบริการทุกครั้ง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างผ่าตัด
  • งดอาหารเสริม วิตามิน หรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี โสม น้ำมันปลา แอสไพริน เพราะจะทำให้เลือกไหลไม่หยุด จึงควรงดก่อนผ่าตัดประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ เนื่องจากแอลกอฮอล์อาจทำให้เลือดออกง่าย ส่วนสูบบุหรี่จะลดประสิทธิภาพการไหลเวียนเลือดทำให้แผลหายช้า ควรงดก่อนผ่าตัดประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างน้อย 7 – 8 ชั่วโมง จะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เต็มที่ เสริมภูมิคุ้มกัน ลดความเครียด และทำให้พร้อมต่อการผ่าตัด

วิธีดูแลหลังเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ

หลังผ่าตัดเสริมหน้าอกเทคนิคใต้กล้ามเนื้อ แนะนำให้ดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยลดผลข้างเคียงให้น้อยลง หน้าอกเข้าที่เร็ว แผลผ่าตัดหายไวขึ้น โดยสามารถดูแลตัวเองหลังผ่าตัดได้ดังนี้

  • ใส่ซัพพอร์บรา ในช่วง 1 เดือนแรกหลังผ่าตัดควรใส่ ซัพพอร์ตบรา ตลอด 24 ชั่วโมง และลดเป็น 12 ชั่วโมงต่อวัน เมื่อเข้าสู่เดือนที่ 2 และ 3 เพื่อช่วยพยุงให้หน้าอกเข้าที่ไว ลดอาการบวม 
  • งดนอนตะแคงและนอนคว่ำ ในช่วง 1 เดือนแรกหลังทำ เพื่อป้องกันหน้าอกถูกกดทับและได้รับการกระทบกระเทือน
  • ควรนอนหงายโดยใช้หมอนรองหลังเพื่อยกตัวขึ้นเล็กน้อย การนอนแบบนี้ช่วยลดอาการบวม และแรงกดทับหน้าอกให้น้อยลง
  • งดออกกำลังกายหนักหรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงเยอะๆ เพราะอาจทำให้ซิลิโคนเคลื่อนหรือแผลเปิดได้ แต่สามารถทำกิจกรรมเบาๆ ในช่วง 4 – 6 สัปดาห์แรกหลังทำ
  • งดสูบบุหรี่ และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากนิโคติน และแอลกอฮอล์ส่งผลต่อการไหลเวียนเลือด ทำให้แผลหายช้า เพิ่มโอกาสติดเชื้อ และอาจทำให้เกิดพังผืดได้ง่ายขึ้น ควรงดไปก่อน 2 สัปดาห์
  • งดอาหารหมักดอง อาหารทะเล อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาจกระตุ้นการอักเสบ ทำให้แผลบวมช้ำมากขึ้น เพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อได้ ควรเลือกทานอาหารปรุงสุก และมีประโยชน์ต่อการฟื้นตัว เช่น โปรตีนจากเนื้อสัตว์ ไข่ และผักผลไม้สด
  • รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบ และเข้าพบแพทย์ตามนัดหมาย ไม่ควรหยุดยาเองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ เพราะยาที่ให้มามีทั้งยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และยาแก้อักเสบเพื่อลดบวมช้ำ รวมถึงควรเข้าพบแพทย์ตามกำหนดเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของแผล และตำแหน่งซิลิโคน
  • หากมีความผิดปกติควรเข้าพบแพทย์ทันที ถ้ามีอาการปวดมากผิดปกติ เลือดออก แผลบวมแดงร้อน มีหนอง ไม่ควรปล่อยไว้ควรติดต่อแพทย์ทันที

เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?

หากผ่าตัดเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ จะไม่เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงหรือผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ตามมา แต่ก็อาจมีอาการบางอย่างเกิดขึ้นได้บ้าง เช่น

  • รู้สึกปวดหรือเจ็บบริเวณหน้าอก ซึ่งจะหายไปได้เองตามระยะเวลาการฟื้นตัวของร่างกายแต่ละคน
  • มีอาการบวมช้ำ เป็นอาการที่เกิดขึ้นตามปกติหลังทำหน้าอก ซึ่งจะค่อยๆ หายไปเองตามระยะเวลาพักฟื้น
  • รู้สึกแน่นหรือหนักบริเวณหน้าอก เกิดจากความที่ร่างกายยังไม่เคยชินกับหน้าอกที่มีขนาดเพิ่มขึ้น เมื่อร่างกายปรับสภาพเข้าที่แล้วจะดีขึ้นเอง
  • อาจเกิดปัญหาความหย่อนคล้อย ปัญหานี้เกิดขึ้นได้หากดูแลตัวเองไม่ดี และไม่ใส่ซัพพอร์ตบราตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ถ้ามีอาการอื่นๆ เช่น หน้าอกแข็ง ซิลิโคนเคลื่อนหรือพลิก มีก้อนนูนแข็ง แผลอักเสบติดเชื้อ ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นอาการผิดปกติที่ไม่ควรเกิดขึ้นหลังทำหน้าอก ควรเข้าพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย และรักษาทันที

ซิลิโคนหน้าอกอยู่ได้นานไหม? ต้องเปลี่ยนเมื่อไหร่?

สำหรับอายุการใช้งานซิลิโคนหน้าอกโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 10 – 15 ปีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและปัจจัยส่วนตัวของคนไข้ หากไม่มีปัญหาเกิดขึ้น หรือไม่ได้ต้องการเปลี่ยนทรงหน้าอก การเปลี่ยนซิลิโคนก็ไม่จำเป็น

เลือกเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อที่ไหนดี?

เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหลังเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ ควรศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วนถูกต้องก่อนตัดสินใจเลือกทำ แนะนำให้พิจารณาจากรายละเอียดต่อไปนี้

  • คลินิกต้องมีความน่าเชื่อถือ เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีเลขใบอนุญาต 11 หลักติดไว้อย่างชัดเจน มีห้องผ่าตัดที่สะอาดได้มาตรฐาน
  • ศัลยแพทย์มีประสบการณ์ เข้าใจเทคนิคการผ่าตัดใต้กล้ามเนื้อ สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ ให้คำปรึกษาที่ครบถ้วนถูกต้อง
  • ซิลิโคนหน้าอกเป็นของแท้ ซิลิโคนต้องผ่านอย. ไทย มีการนำเข้าอย่างถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้ 
  • มีรีวิวคนไข้จริงให้ดูประกอบการตัดสินใจ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์หลังทำและเห็นฝีมือของแพทย์ก่อนเลือกทำ

เพื่อให้การเสริมหน้าอกผลลัพธ์ออกมาปลอดภัย และตรงตามความต้องการจำเป็นต้องเลือกคลินิกให้ดี โดยสามารถอ่านวิธีเลือกแบบเจาะลึกได้ที่ : เสริมหน้าอกที่ไหนดี

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ (FAQ)

เสริมหน้าอกเทคนิคใต้กล้ามเนื้อ ยังมีหลายคนที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติมนอกเหนือจากข้อมูลที่ได้กล่าวมาข้างต้น เพื่อช่วยไขข้อข้องใจเนื้อหาต่อไปนี้ได้นำเอาคำถามที่พบบ่อยมาไว้ให้เป็นข้อมูลเสริมความเข้าใจ ดังนี้

Q: เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อเหมาะกับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำหรือไม่?
A: หากเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายแบบทั่วไป มักจะไม่มีปัญหากับการเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ หากใครที่มีไลฟ์สไตล์ชอบทำกิจกรรมหนักๆ ออกกำลังกายแบบสายโหด ควรแจ้งไลฟ์สไตล์ให้แพทย์ทราบก่อนผ่าตัดเพื่อวางแผนเลือกใช้เทคนิคผ่าตัดที่เหมาะสม

Q: ถ้าเคยเสริมเหนือกล้ามเนื้อ สามารถเปลี่ยนเป็นใต้กล้ามเนื้อได้หรือไม่?
A: สามารถทำได้แต่ไม่ทุกคน ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมินจาก พังผืด สภาพผิว ปัญหาที่ต้องแก้ไข ตำแหน่งการวางซิลิโคนเดิม เป็นต้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีและมีความปลอดภัย

Q: ซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อจะเห็นขอบหรือคลำเจอไหม?

A: เนื่องจากซิลิโคนถูกกล้ามเนื้อหน้าอกคลุมไว้ทั้งหมดจึงไม่เห็นขอบหรือคลำเจอได้ง่ายๆ แต่ในกรณีที่คนไข้ออกกำลังกาย หรือมีการหดเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกมากๆ อาจทำให้เห็นขอบโผล่ออกมาได้บ้าง

Q: หลังเสริมใต้กล้ามเนื้อจะสามารถยกของหนักหรืออุ้มลูกได้เมื่อไหร่?
A: โดยเบื้องต้นแพทย์จะแนะนำให้งดการยกของหนัก ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ออกแรงเยอะ ๆ ในช่วง 1 เดือนแรก เพื่อให้หน้าอกเข้าที่และร่างกายฟื้นฟูได้เต็มที่ก่อน

Q: การเสริมใต้กล้ามเนื้อมีโอกาสเกิดพังผืดน้อยกว่าหรือไม่?
A: การเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อสามารถช่วยลดการเสียดสีระหว่างซิลิโคนกับเนื้อหน้าอกและผิวหนัง กล้ามเนื้อบล็อกการเคลื่อนไหวของซิลิโคน ทำให้ขยับได้น้อยลง จึงมีโอกาสเกิดพังผืดได้น้อยตามไปด้วย

สรุป

การเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อเป็นอีกทางเลือกของคนที่กังวลเรื่องของพังผืดหลังทำ เนื้อหน้าอกน้อย ผิวหนังค่อนข้างบาง ช่วยให้ได้ผลลัพธ์หน้าอกที่เป็นธรรมชาติ ซ่อนขอบซิลิโคนได้อย่างแนบเนียน สำหรับใครที่ต้องการเสริมหน้าอก ปรับลุคให้สวยมีเสน่ห์มากขึ้น หรือต้องการแก้หน้าอกเดิมที่ทำมาแล้วแต่ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ แนะนำให้เข้ามาปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อให้ทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ช่วยประเมินปัญหา เลือกเทคนิคการผ่าตัดที่เหมาะสม ออกแบบทรงหน้าอกเฉพาะรายบุคคล 

Scroll to Top
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit