vincent.jpg.png
vc_3.png
Vincent Clinic Bangkok Plastic Surgery
คลินิกศัลยกรรมความงาม ดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit
แบนเนอร์ตาสองชั้น pc
แบนเนอร์ ตาสองชั้น mobile

ยกคิ้ว คืออะไร มีด้วยกันกี่เทคนิค เหมาะกับใคร มีผลข้างเคียงไหม?

ยกคิ้ว คือหนึ่งในเทคนิคศัลยกรรมเพื่อแก้ปัญหา คิ้วตก และ หนังตาหย่อน ซึ่งทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า เศร้าหมอง หรือแก่กว่าวัย เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังบริเวณหน้าผากและคิ้วมักสูญเสียความยืดหยุ่นจนคิ้วเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม การยกคิ้วจะช่วยจัดเรียงชั้นผิวใหม่และดึงกลับไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อเปิดดวงตาให้ดูสดใส ทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นอีกครั้ง

อยากรู้เรื่องอะไร? คลิกที่หัวข้อได้เลย!
ศัลยกรรมยกคิ้ว

ยกคิ้ว คืออะไร?

ยกคิ้ว คือ การผ่าตัดเปิดแผลบริเวณขอบด้านบนของคิ้วเพื่อเข้าไปจัดเรียงชั้นผิวภายในและเย็บดึงเอาไว้ให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย หนังตาตก หางคิ้วตก เป็นต้น ซึ่งทำให้ใบหน้าแลดูแก่กว่าวัย หน้าไม่สดใส ดูเหมือนเศร้าตลอดเวลา บางรายผิวหนังที่ตกลงมาอาจบังชั้นตาจนทำให้มองเห็นชั้นตาไม่ชัด หากเกิดปัญหามาก ๆ หนังตาอาจตกลงมาบดบังการมองเห็นได้

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม

สาเหตุที่ทำให้ต้องผ่าตัดยกหางคิ้ว?

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ต้องยกคิ้วด้วยการผ่าตัดนั้น เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุซึ่งทำให้คิ้วตก คิ้วทั้งสองข้างไม่เท่ากัน หรืออาจเกิดขึ้นพร้อมกับปัญหาหนังตาตกได้อีกด้วย โดยการแก้ไขในแต่ละรายบุคคลแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและเลือกใช้เทคนิคการผ่าตัดที่เหมาะสมกับแต่ละคน โดยรายละเอียดของสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหามีดังนี้

  • เป็นมาตั้งแต่กำเนิด สามารถเป็นได้ทั้งแบบข้างเดียวหรือสองข้างได้เช่นกัน
  • เกิดขึ้นจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากร่างกายสูญเสียคอลลาเจน ขาดความยืดหยุ่น 
  • มีลักษณะหนังตาที่หนาหรือมีเยอะมากกว่าปกติ ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยได้มากขึ้น
  • กล้ามเนื้อบริเวณคิ้วอ่อนแรง ไม่สามารถดึงคิ้วให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมได้ ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยหรือห้อยลงมา
ศัลยกรรมยกหางตา Subbrow lift

เทคนิคการยกคิ้วมีกี่แบบ?

  • เป็นมาตั้งแต่กำเนิด สามารถเป็นได้ทั้งแบบข้างเดียวหรือสองข้างได้เช่นกัน
  • เกิดขึ้นจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากร่างกายสูญเสียคอลลาเจน ขาดความยืดหยุ่น 
  • มีลักษณะหนังตาที่หนาหรือมีเยอะมากกว่าปกติ ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยได้มากขึ้น
  • กล้ามเนื้อบริเวณคิ้วอ่อนแรง ไม่สามารถดึงคิ้วให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมได้ ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยหรือห้อยลงมา

เทคนิค Direct Brow Lift คืออะไร?

เทคนิคนี้คือการเปิดแผลบริเวณขอบด้านบนของคิ้ว โดยสามารถกรีดแผลยาวตั้งแต่หัวคิ้วไปจนถึงหางคิ้ว หรือเลือกทำเฉพาะบริเวณหางคิ้ว ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของปัญหาในแต่ละราย แพทย์จะทำการจัดเรียงชั้นผิวใหม่และเย็บยึดผิวให้คิ้วยกขึ้นอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคิ้วตกเฉพาะจุดหรือหางคิ้วตกมากเป็นพิเศษ

เทคนิค Sub Brow Lift ดีอย่างไร?

เทคนิคนี้จะเปิดแผลบริเวณขอบล่างของคิ้ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยของหนังตาค่อนข้างมาก โดยแพทย์จะเย็บชั้นผิวให้ยกขึ้น แล้วซ่อนแผลไว้ใต้ท้องคิ้วอย่างแนบเนียน หลังทำจะช่วยให้ดวงตาดูโตขึ้น สดใส และใบหน้าโดยรวมดูอ่อนวัยลงอย่างเป็นธรรมชาติ

เทคนิค Pretrichial Brow Lift เหมาะกับใคร?

เทคนิค Pretrichial Brow Lift เป็นวิธีเก่าที่ยังใช้กันอยู่ในบางกรณี โดยจะกรีดแผลยาวบริเวณแนวไรผมด้านหน้าแล้วดึงชั้นผิวขึ้นพร้อมกับยกหน้าผากไปด้วย วิธีนี้สามารถลดรอยย่นบริเวณหน้าผากได้ในคราวเดียวกัน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยชัดเจนร่วมกับคิ้วตก อย่างไรก็ตามอาจมีแผลขนาดใหญ่ให้เห็นบริเวณไรผม จึงต้องประเมินอย่างรอบคอบ

เทคนิค Temporal Lift ช่วยอะไรได้บ้าง?

เทคนิค Temporal Lift หรือที่รู้จักกันว่า “การดึงขมับ” เป็นการผ่าตัดเปิดแผลบริเวณขมับเพื่อลดความหย่อนคล้อยของหางคิ้วหรือหางตา โดยจะดึงผิวขึ้นด้านข้าง ช่วยให้บริเวณหางตาดูเปิดขึ้น ลดรอยย่นเล็กน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับทรงคิ้วด้านข้างโดยเฉพาะ แต่ควรระวังเรื่องรอยแผลชัดเจนบริเวณขมับ

เทคนิค Endoscopic Brow Lift เจ็บน้อยจริงไหม?

เทคนิคนี้ใช้กล้องส่อง (Endoscope) ร่วมกับอุปกรณ์พิเศษอย่าง Endotine เพื่อยกชั้นผิวจากภายใน ทำให้เกิดแผลเล็ก เจ็บน้อย และฟื้นตัวได้เร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องเปิดแผลยาว เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ไม่ต้องการให้เห็นรอยแผลหลังทำชัดเจน

ผ่าตัดยกหางคิ้ว เหมาะกับใคร

ผ่าตัดยกหางคิ้ว เหมาะกับใคร?

การยกคิ้วเป็นหัตถการที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความหย่อนคล้อยของใบหน้าได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาและหน้าผาก ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีลักษณะต่อไปนี้

  • คนที่มีคิ้วตกจนใบหน้าดูเหนื่อยล้า หากคุณรู้สึกว่าใบหน้าแลดูเศร้า ดูไม่สดใส หรือดูเหนื่อยตลอดเวลา โดยมีสาเหตุมาจากคิ้วที่ตกลงมาต่ำกว่าตำแหน่งปกติ การยกคิ้วสามารถช่วยยกใบหน้าให้ดูเปิดและอ่อนเยาว์ขึ้นได้อย่างชัดเจน ทั้งยังเสริมความมั่นใจในการพบปะผู้คน
  • คนที่หนังตาหย่อนจนบดบังการมองเห็น ในบางราย หนังตาอาจหย่อนลงมามากจนบังชั้นตา ทำให้ดวงตาดูเล็ก หรือในกรณีที่รุนแรง อาจบดบังการมองเห็นอย่างแท้จริง การยกคิ้วสามารถช่วยเปิดพื้นที่บริเวณรอบดวงตา ช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น และลดความรู้สึกอึดอัดรอบดวงตา ในบางกรณีที่หนังตาหย่อนลงมาจนบดบังชั้นตา การยกคิ้วเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอ แพทย์อาจแนะนำให้ทำร่วมกับ การทำตาสองชั้นโดยจักษุแพทย์ เพื่อแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
  • คนที่คิ้วสองข้างสูง-ต่ำไม่เท่ากัน ผู้ที่มีลักษณะคิ้วไม่สมดุลกันตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดจากปัญหากล้ามเนื้อใบหน้าทำงานไม่เท่ากัน เช่น กล้ามเนื้อหน้าผากด้านหนึ่งอ่อนแรง ส่งผลให้คิ้วข้างนั้นตกต่ำลง อีกกรณีอาจมาจากความหย่อนคล้อยที่ไม่เท่ากัน การยกคิ้วช่วยปรับระดับคิ้วให้สมดุลกับโครงหน้า สร้างความสมมาตรที่เป็นธรรมชาติ
  • คนที่หางคิ้วตกหรือหางตาตก เมื่อหางคิ้วหรือหางตาตกลงมา จะทำให้ดวงตาดูเศร้า หรือใบหน้าดูเหนื่อยโดยไม่ตั้งใจ การยกคิ้วบริเวณหางสามารถช่วยให้หางตาดูยกขึ้น เพิ่มความสดใสให้ดวงตา และทำให้ภาพรวมใบหน้าดูอ่อนโยนขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้การแต่งหน้าหรือเขียนคิ้วดูได้รูปและง่ายขึ้นอีกด้วย
  • คนที่มีช่องว่างระหว่างคิ้วกับตาแคบ ช่องว่างระหว่างคิ้วกับดวงตาที่แคบเกินไปอาจทำให้ใบหน้าดูดุ หรือดูมีอารมณ์เครียดอยู่ตลอด การยกคิ้วจะช่วยเพิ่มระยะห่างบริเวณนี้ ให้ใบหน้าดูผ่อนคลาย สดใส และเป็นมิตรขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับภาพลักษณ์ให้ดูนุ่มนวลมากขึ้น
  • คนที่ต้องการปรับรูปคิ้วให้ได้สัดส่วน ผู้ที่ต้องการปรับทรงคิ้วให้ดูยกขึ้น มีแนวโครงที่ชัด หรือปรับหางคิ้วให้ดูยาวขึ้นอย่างพอดี สามารถใช้การผ่าตัดยกคิ้วเพื่อสร้างรูปคิ้วที่รับกับใบหน้าได้ แพทย์จะประเมินร่วมกับโครงสร้างใบหน้าเพื่อออกแบบรูปคิ้วที่เหมาะสมที่สุด
  • ผู้สูงอายุที่คิ้วตกลงมาใกล้ดวงตา เมื่ออายุเพิ่มขึ้น คิ้วมักตกลงมาจากตำแหน่งเดิมใกล้ชั้นตา ทำให้ใบหน้าดูอ่อนแรงหรือดูมีอายุ การยกคิ้วในกลุ่มผู้สูงอายุช่วยยกผิวหนังบริเวณนั้นขึ้น ลดความรู้สึกหนักตา และคืนความสดชื่นให้ใบหน้าโดยรวมอย่างเป็นธรรมชาติ

ยกคิ้ว ไม่หมาะกับใคร?

แม้ว่าการยกคิ้วจะช่วยแก้ปัญหาคิ้วตกและหนังตาหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็มีบางกลุ่มที่อาจ ไม่เหมาะสมกับการผ่าตัดยกคิ้ว เนื่องจากข้อจำกัดเฉพาะบุคคล หรือมีความเสี่ยงที่ผลลัพธ์จะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ

  • ผู้ที่เคยเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคนมาก่อน ในผู้ที่เคยผ่านการเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน การผ่าตัดยกคิ้วอาจรบกวนโครงสร้างของซิลิโคนที่ฝังอยู่ ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อการเคลื่อนตัว หรือแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อหรือการกดทับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง แพทย์จึงมักไม่แนะนำให้ทำการยกคิ้วในกลุ่มนี้ ยกเว้นกรณีที่มีการถอดซิลิโคนหรือมีแผนผ่าตัดร่วมกันโดยผู้เชี่ยวชาญ
  • ผู้ที่มีรอยสักคิ้วอยู่ในตำแหน่งสูงกว่าคิ้วจริง ถ้ารอยสักคิ้วเดิมอยู่สูงกว่าตำแหน่งคิ้วตามโครงสร้างกระดูก การยกคิ้วขึ้นไปตามแนวผิวหนังจะทำให้เกิดความไม่สมดุลชัดเจน เช่น คิ้วจริงขึ้นไปซ้อนกับรอยสัก หรือเห็นเป็น “คิ้วสองชั้น” ซึ่งดูไม่เป็นธรรมชาติและยากต่อการแก้ไข ผู้ที่มีคิ้วสักถาวรจึงควรพิจารณาเลเซอร์ลบรอยสักก่อน หรือประเมินร่วมกับแพทย์ว่าทำได้หรือไม่
  • ผู้ที่มีคิ้วบางมากหรือไม่มีขนคิ้ว การผ่าตัดยกคิ้วบางเทคนิค เช่น Direct หรือ Sub Brow Lift จะมีรอยแผลบริเวณขอบคิ้ว ซึ่งปกติสามารถซ่อนได้ใต้แนวขนคิ้ว แต่หากผู้ป่วยมีคิ้วบางหรือไม่มีขนคิ้วเลย รอยแผลอาจเห็นชัดเจนจนกระทบต่อความมั่นใจและความสวยงาม ผู้ที่มีลักษณะนี้ควรพิจารณาวิธีการอื่น เช่น ยกคิ้วแบบส่องกล้อง (Endoscopic) หรือเน้นเทคนิคที่ซ่อนแผลได้ดี

ผู้ที่มีหางตาตกหรือช่องว่างระหว่างคิ้วกับตาแคบ มักจะได้ผลลัพธ์ที่ดีหากทำการยกคิ้วควบคู่กับ ศัลยกรรมตาโต ซึ่งช่วยให้ดวงตาดูเปิดขึ้นและใบหน้าโดยรวมดูสดใสเป็นธรรมชาติ

ดูแลตัวเองหลังผ่าตัดยกหางคิ้ว

ดูแลตัวเองหลังผ่าตัดยกหางคิ้ว

หลังการผ่าตัดยกคิ้ว การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้แผลหายไว ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และได้ผลลัพธ์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติ การปฏิบัติตัวในช่วงพักฟื้นควรเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยมีแนวทางดังต่อไปนี้

ช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด ประคบเย็นเพื่อลดบวม

ในช่วงสองวันแรกหลังการผ่าตัด อาจมีอาการบวม แดง หรือรู้สึกตึงบริเวณแผล แนะนำให้ประคบเย็นบริเวณโดยรอบแผลผ่าตัดอย่างเบามือ วันละ 3–4 ครั้ง ครั้งละ 10–15 นาที เพื่อช่วยให้หลอดเลือดหดตัว ลดอาการบวมช้ำ และบรรเทาอาการปวด

หากมีเลือดซึมเล็กน้อยจากแผลผ่าตัด สามารถใช้ผ้าก๊อซสะอาดกดแผลไว้เบา ๆ โดยไม่ต้องออกแรงมาก และหลีกเลี่ยงการขยับใบหน้าแรง ๆ

การทำความสะอาดแผล อย่างอ่อนโยนและสม่ำเสมอ

ควรทำความสะอาดแผลผ่าตัดทุกวันโดยใช้สำลีพันก้านชุบน้ำเกลือเช็ดเบา ๆ เพื่อกำจัดคราบเลือดหรือสิ่งสกปรก ไม่ควรใช้แอลกอฮอล์หรือยาฆ่าเชื้อที่รุนแรง เพราะอาจทำให้แผลระคายเคืองหรือแสบมากขึ้น

ห้ามให้แผลเปียกน้ำ โดยเฉพาะในช่วง 5–7 วันแรก หรือจนกว่าแพทย์จะอนุญาตให้ล้างหน้าได้ตามปกติ และห้ามแกะแผลเด็ดขาด

การนอนและพักผ่อน ศีรษะสูง ลดบวมเร็ว

ควรนอนยกศีรษะให้สูงกว่าระดับหัวใจ โดยใช้หมอน 2 ใบ หรือหมอนลิ่ม (wedge pillow) รองในช่วง 2–3 วันแรก จะช่วยให้ของเหลวไม่คั่งในใบหน้า ลดอาการบวม และฟื้นตัวได้เร็วขึ้น หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงข้างที่โดนแผล

ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรง หรือเคลื่อนไหวศีรษะมาก เช่น การก้มแรง ๆ หรือออกกำลังกาย

การดูแลอาการช้ำและปวด ใช้การประคบอุ่นและยาตามแพทย์สั่ง

หลังผ่านไปประมาณ 3 วัน หากมีรอยเขียวช้ำ สามารถเปลี่ยนมาใช้การประคบอุ่นบริเวณรอบแผล เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นและลดรอยช้ำได้เร็วขึ้น

หากรู้สึกเจ็บหรือปวดมาก สามารถรับประทานยาแก้ปวดพาราเซตามอลตามที่แพทย์สั่ง ห้ามใช้ยาแอสไพรินหรือกลุ่มยาต้านการแข็งตัวของเลือด เพราะอาจทำให้เลือดออกเพิ่มขึ้น

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อลดการอักเสบและติดเชื้อ

ในช่วง 1–2 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด ควรหลีกเลี่ยงสิ่งต่อไปนี้อย่างเคร่งครัด

  • อาหารหมักดอง อาหารทะเล แอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่
  • การแต่งหน้าบริเวณแผล
  • การสัมผัสแผลโดยตรงหรือเกา
  • การออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก

การงดสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ลดโอกาสติดเชื้อ และช่วยให้ผลลัพธ์หลังผ่าตัดออกมาสวยงามและปลอดภัย

ยกคิ้ว ราคาเท่าไหร่?

ยกคิ้วมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของปัญหา เทคนิคที่ใช้ สภาพผิว ความต้องการของคนไข้ และประสบการณ์ของแพทย์ โดยราคาทั่วไปมักอยู่ที่ประมาณ 20,000 – 100,000 บาท แนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์โดยตรงเพื่อให้แพทย์ได้ประเมินจากปัญหาจริงและออกแบบการรักษาที่เหมาะสม ช่วยให้ได้รายละเอียดที่ครบถ้วนถูกต้องมากที่สุด

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาการยกคิ้ว

  • เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด เช่น Direct Brow Lift, Endoscopic, Temporal Lift ฯลฯ แต่ละเทคนิคมีความซับซ้อนและต้นทุนแตกต่างกัน
  • ความยากของเคส เช่น หนังตาหนา คิ้วตกมาก หรือไม่สมดุลทั้งสองข้าง อาจต้องใช้เทคนิคเสริมเพิ่มเติม
  • ลักษณะผิวและโครงสร้างใบหน้า ผิวที่บางหรือมีปัญหาพิเศษอาจต้องดูแลแผลละเอียดขึ้น หรือใช้วัสดุพิเศษ
  • ประสบการณ์ของศัลยแพทย์ ที่มีประสบการณ์สูง มักมีค่าฝีมือสูงขึ้นตามคุณภาพผลลัพธ์ที่ได้รับ
  • สถานพยาบาลและเครื่องมือที่ใช้ คลินิกที่ได้มาตรฐาน มีห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ อาจมีราคาสูงกว่า แต่ให้ความปลอดภัยมากกว่า

ช่วงราคาการยกคิ้วโดยทั่วไป

ราคายกคิ้วในประเทศไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ20,000 – 100,000 บาท  ซึ่งอาจสูงหรือต่ำกว่านี้ได้ตามปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้น ตัวอย่างเช่น:

  • การยกหางคิ้วเฉพาะจุด อาจเริ่มที่ 20,000–30,000 บาท
  • การยกคิ้วเต็มแนวหรือใช้กล้อง Endoscope อาจอยู่ในช่วง 60,000–100,000 บาท

ควรประเมินราคาเฉพาะบุคคล

เนื่องจากปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงไม่สามารถใช้ราคากลางตายตัวได้ การเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อให้ประเมินใบหน้าจริง จะช่วยให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำ ทั้งในเรื่องของเทคนิค ระยะเวลาพักฟื้น ไปจนถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมด

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการยกคิ้ว

ก่อนตัดสินใจทำหัตถการยกคิ้ว หลายคนอาจมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความปลอดภัย ผลลัพธ์ ระยะเวลาพักฟื้น และวิธีดูแลตัวเองหลังผ่าตัด เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการยกคิ้ว พร้อมคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและมีข้อมูลครบถ้วน

Q : ต้องเตรียมตัวยังไงก่อนผ่าตัดยกคิ้ว?

A : ควรงดวิตามินหรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา แอสไพริน อย่างน้อย 7 วันก่อนผ่าตัด พักผ่อนให้เพียงพอ งดแอลกอฮอล์ และแจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือใช้ยาประจำทุกชนิด

Q : ยกคิ้วเจ็บไหม?

A : ไม่เจ็บมากในระหว่างผ่าตัด เพราะแพทย์จะให้ยาชาเฉพาะจุด ส่วนหลังผ่าตัดอาจมีอาการตึงหรือระบมเล็กน้อยในช่วง 2–3 วันแรก แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดตามแพทย์สั่ง

Q : ต้องพักฟื้นนานแค่ไหน?

A : โดยปกติใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 5–7 วัน สามารถกลับไปทำงานหรือใช้ชีวิตปกติได้ แผลจะเริ่มแห้งในช่วง 1 สัปดาห์ และยุบบวมเต็มที่ภายใน 2–3 สัปดาห์

Q : หลังผ่าตัดยกคิ้วจะมีแผลเป็นหรือไม่?

A : อาจมีรอยแผลเล็ก ๆ ซึ่งแพทย์จะซ่อนบริเวณแนวขอบคิ้วหรือไรผม ส่วนใหญ่รอยแผลจะจางลงและมองเห็นได้น้อยมากเมื่อแผลหายดี

Q : หลังผ่าตัดยกคิ้วจะเขียนคิ้วหรือแต่งหน้าได้เมื่อไหร่?

A : ควรรอให้แผลหายสนิทและตัดไหมเรียบร้อยก่อน ซึ่งปกติประมาณ 7–10 วัน หลังจากนั้นสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ โดยหลีกเลี่ยงการถูหรือลงแรงกดที่บริเวณแผล

Q : ยกคิ้วอยู่ได้นานแค่ไหน?

A : ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานหลายปี โดยเฉลี่ย 5–10 ปี ขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิว และการดูแลตนเองหลังการผ่าตัด

Q : ยกคิ้วแล้วหน้าจะดูเปลี่ยนไปมากไหม?

A : โดยทั่วไปใบหน้าจะดูสดใสขึ้น ไม่ได้เปลี่ยนจนจำไม่ได้ แต่หากยกคิ้วมากเกินไปโดยไม่ได้ประเมินอย่างรอบคอบ อาจทำให้หน้าดูตึงหรือแข็งได้ แพทย์ที่มีประสบการณ์จะออกแบบให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติที่สุด

Q : ยกคิ้วต่างจากโบท็อกซ์ยังไง?

A : โบท็อกซ์เป็นวิธีชั่วคราว เห็นผลนานประมาณ 3–6 เดือน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาน้อย ส่วนการยกคิ้วด้วยการผ่าตัดเป็นการแก้ปัญหาแบบถาวร เห็นผลชัดเจน เหมาะกับผู้ที่มีคิ้วตกหรือหนังตาหย่อนมาก

Q : ถ้าไม่อยากผ่าตัด มียกคิ้ววิธีอื่นไหม?

A : มีหัตถการอื่น เช่น โบท็อกซ์ HIFU หรือร้อยไหม ซึ่งเป็นวิธีไม่ผ่าตัด ผลลัพธ์อยู่ได้ระยะสั้นและเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไม่มาก หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน การผ่าตัดยังเป็นทางเลือกหลัก

Q : ยกคิ้วกับดึงหน้าแตกต่างกันอย่างไร?

A : ยกคิ้วเน้นเฉพาะคิ้วและหน้าผาก ส่วนการดึงหน้าเน้นยกกระชับบริเวณแก้ม กราม หรือลำคอ หากมีปัญหาหลายจุด แพทย์อาจแนะนำให้ทำร่วมกันเพื่อความสมดุลของใบหน้า

Q : ใครที่ไม่เหมาะกับการยกคิ้วแบบผ่าตัด?

A : ผู้ที่เคยเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน, มีคิ้วบางมาก หรือสักคิ้วไว้สูงกว่าตำแหน่งจริง อาจไม่เหมาะกับบางเทคนิค ควรให้แพทย์ประเมินอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ

สรุป

ยกคิ้ว อีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ต้องการแก้ปัญหาคิ้วตก หนังตาหย่อน ด้วยการผ่าตัดเข้าไปดึงชั้นผิวขึ้นมาเย็บไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม ช่วยเปิดตาให้ดูโต สดใส ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ ซึ่งมีด้วยกันหลากหลายเทคนิคขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้เลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาของแต่ละคน หากใครที่กำลังมองหาวิธีการแก้ไขอาการคิ้วตกหรือหนังตาตก แนะนำให้เข้ามาปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic Surgery เพื่อให้ทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ช่วยประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละคนมากที่สุด

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม
Scroll to Top
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit