vincent.jpg.png
vc_3.png
Vincent Clinic Bangkok Plastic Surgery
คลินิกศัลยกรรมความงาม ดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit
บทความ
ฉีดไขมันคาง คืออะไร มีข้อดี-ข้อเสียไหม ต่างจากฟิลเลอร์คางหรือไม่?
แชร์ :

ฉีดไขมันคาง คืออะไร มีข้อดี-ข้อเสียไหม ต่างจากฟิลเลอร์คางหรือไม่?

ฉีดไขมันคางคืออะไร
อยากรู้เรื่องอะไร? คลิกที่หัวข้อได้เลย!

ฉีดไขมันคาง อีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น ด้วยการใช้ไขมันนำมาเติมเข้าไปที่คางเพื่อเพิ่มขนาดและปรับรูปทรงให้รับกับใบหน้ามากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น แต่วิธีการนี้มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดในบางประเด็นซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับคนบางกลุ่ม เพื่อให้เข้าใจหัตถการนี้มากขึ้นว่าคืออะไร ควรใช้ไขมันจากส่วนไหนน้ำมาฉีด ฉีดคางด้วยไขมันตัวเองแตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์คางอย่างไร มีข้อควรรู้อะไรบ้าง สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากเนื้อหาต่อไปนี้ที่ Vincent Clinic Plastic Surgery ได้รวบรวมเอาไว้ให้ได้เลย

Key Takeaways

  • ฉีดไขมันคางเป็นการใช้ไขมันจากร่างกายตัวเอง เช่น หน้าท้องหรือต้นขา โดยการดูดออกมาแล้วเข้ากระบวนการคัดแยกเซลล์ไขมันดีเพื่อนำมาฉีดบริเวณคาง
  • ผลลัพธ์ของการฉีดไขมันคางสามารถอยู่ได้นานประมาณ 2–3 ปีหรือถาวร ขึ้นอยู่กับรายบุคคล แต่มีโอกาสที่ไขมันบางส่วนจะสลายไป จึงอาจต้องฉีดเติมซ้ำเพื่อช่วยคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น
  • การฉีดไขมันคางเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์คาง มีข้อดีคือมีความเป็นธรรมชาติและคงอยู่ได้ถาวรบางส่วน เมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ แม้จะเห็นผลหลังทำ แก้ไขได้ง่าย แต่ไม่คงอยู่ถาวร เพราะ HA สามารถสลายไปได้เองตามธณรมชาติ 
  • เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดไขมันคางคงอยู่ได้นานและไขมันติดดีมากขึ้น ควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และเข้าพบแพทย์เพื่อติตดามผลการรักษาอย่างต่อเนื่องตามนัดหมาย
  • หลังฉีดไขมันคางหากต้องการแก้ไขอาจจะต้องรอให้ไขมันสลายตัวไปเองหรืออาจจะต้องใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อเอาก้อนไขมันออก

ฉีดไขมันคาง คืออะไร?

ฉีดไขมันคาง คือ การนำไขมันจากตำแหน่งอื่นๆ ในร่างกายของคนไข้เอง มาฉีดเข้าไปบริเวณคางเพื่อช่วยปรับรูปทรงหรือเพิ่มขนาดให้คางได้สัดส่วนตามต้องการ มีความสมดุลรับกับใบหน้ามากขึ้น โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือในการดูดไขมัน ตามร่างกายออกมา หลังจากนั้นนำเข้าสู่กระบวนการคัดแยกให้ได้ไขมันดีที่เหมาะกับการใช้เพื่อฉีดเติมเต็มในบริการที่ต้องการ

ฉีดไขมันคาง ใช้ไขมันจากตำแหน่งไหนได้บ้าง

ฉีดไขมันคาง ใช้ไขมันจากตำแหน่งไหนได้บ้าง?

การฉีดไขมันคาง ไม่ใช่ว่าจะดูดไขมันจากตำแหน่งไหนก็ได้ แต่จะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมในเรื่องของปริมาณไขมัน และปัจจัยอื่น ฃๆ ร่วมด้วย เพราะไขมันที่ดูดออกมาต้องผ่านการคัดแยกเอาเฉพาะไขมันที่เหมาะกับการฉีดเติมเต็มเท่านั้น ซึ่งไขมันที่ผ่านการคัดแยกแล้วจะมีปริมาณที่ค่อนข้างน้อย จึงต้องเลือกตำแหน่งที่มีไขมันจำนวนมากเพียงพอต่อการดูดในแต่ละครั้ง โดยตำแหน่งที่แพทย์ส่วนใหญ่เลือกใช้จะมีด้วยกัน 2 ตำแหน่ง ดังนี้

  • ดูดไขมันหน้าท้อง เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่มีไขมันสะสมค่อนข้างมาก เหมาะกับการใช้เติมเต็มได้ดี นอกจากนั้นยังสามารถดูดไขมัน Six Pack หรือ ดูดไขมัน Sexy Line เพื่อดูแลรูปร่างและลดสัดส่วนควบคู่ไปด้วยได้
  • ดูดไขมันต้นขา เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งในร่างกายที่มีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ค่อนข้างมาก ซึ่งเพียงพอต่อการนำไปคัดแยกเพื่อใช้ฉีดเติมเต็มในตำแหน่งที่ต้องการต่อไป หากใครที่อยากลดต้นขาให้เรียวเล็กลง สามารถที่จะแจ้งแพทย์เพื่อให้วางแผนในการดูแลสัดส่วนเพิ่มเติมได้อีกด้วย

ฉีดไขมันคางอันตรายไหม มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?

ฉีดไขมันคางเป็นการใช้ไขมันจากร่างกายของคนไข้เอง จึงไม่ทำให้เกิดการแพ้หรือต่อต้านสิ่งแปลกปลอม นอกจากนั้นหากอยู่ภายใต้การดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยได้มาตรฐาน มีการวางแผนที่ถูกต้องและแม่นยำ จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีและมีความปลอดภัย สำหรับผลข้างเคียงหลังทำบริเวณคางอาจมีอาการบวมช้ำได้บ้างซึ่งจะค่อยๆ หายไปได้เองตามการฟื้นฟูของร่างกาย รวมไปถึงบริเวณที่ทำการดูดไขมันจะมีรอยแผลขนาดเล็กและอาจเกิดรอยเขียวช้ำได้ หากดูแลตัวเองตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้แผลหายไว ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

ฉีดไขมันคาง vs ฉีดฟิลเลอร์คาง

ฉีดไขมันคาง VS ฉีดฟิลเลอร์คาง

การฉีดไขมันคางมีความแตกต่างกับการฉีดฟิลเลอร์คาง ในหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น ขั้นตอนการทำ ผลลัพธ์ที่ได้ ระยะเวลาของผลลัพธ์ เนื่องจากไขมันที่ใช้ในการฉีดเป็นของคนไข้เองจึงไม่ทำให้แพ้หรือมีการต่อต้านสิ่งแปลกปลอม แต่ไขมันที่ฉีดเข้าไปจะไม่ติดทั้งหมด อาจเกิดการสลายตัวไปบางส่วนซึ่งในแต่ละคนก็สลายไปไม่เท่ากัน จึงต้องติดตามผลการรักษากับแพทย์เป็นระยะเพื่อฉีดเติมในส่วนที่ขาดหายไป ถ้าไขมันส่วนไหนที่ติดไปแล้วก็จะคงอยู่ถาวร 

สำหรับฟิลเลอร์คางหลังฉีดสามารถเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงได้เลย ทั้งยังคงอยู่ได้นานแต่ไม่ถาวรเพราะ HA สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ สามารถฉีดเติมได้ภายหลัง โดยหากต้องการคางที่ดูเป็นธรรมชาติไม่แข็งเกินไป ต้องเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคการฉีดที่เหมาะสม วางตำแหน่งของฟิลเลอร์ได้แม่นยำ และเลือกเนื้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดคาง

ตารางเปรียบเทียบ ฉีดไขมันคาง vs ฉีดฟิลเลอร์คาง

หัวข้อ ฉีดไขมันคาง ฉีดฟิลเลอร์คาง
วัสดุที่ใช้ ไขมันตัวเอง (ดูดจากต้นขา หน้าท้อง) Hyaluronic Acid (HA)
การคงอยู่ของผลลัพธ์ ไขมันบางส่วนที่ติดแล้วจะคงอยู่ถาวร มีบางส่วนค่อย ๆ สลายไปตามการดูดซึมและระบบในร่างกาย ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 12 – 18 เดือน ขึ้นกับยี่ห้อ โมเลกุลของฟิลเลอร์ ชั้นผิวที่ฉีด เทคนิคของแพทย์ 
จำนวนครั้งในการฉีด อาจต้องทำมากกว่า 1 ครั้ง เพื่อทดแทนไขมันที่สลายตัวไป ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและคงอยู่ได้นาน ฉีด 1 ครั้ง สามารถเห็นผลลัพธ์ได้หลังทำ
ความเจ็บ ก่อนฉีดจะมีการใช้ยาชา ยาสลบเพื่อช่วยให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างทำ แต่หลังทำอาจรู้สึกเจ็บหรือระบมได้มากกว่า เนื่องจากมีการดูดไขมันตามร่างกายและอาจเกิดรอยเขียวช้ำได้บ้าง ซึ่งจะหายไปได้เองตามระยะเวลาการฟื้นตัวของร่างกายและการดูแลตัวเองหลังทำ  ก่อนฉีดจะมีการใช้ยาชาทำให้ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างทำ หลังทำอาจรู้สึกเจ็บได้บ้างเล็กน้อย จากเข็มที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์ 
การแก้ไข อาจต้องปล่อยให้ไขมันค่อยๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ หรือทำการผ่าตัดเอาก้อนไขมันออกซึ่งค่อนข้างยุ่งยากและมีความซับซ้อนสูง สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ด้วย Hyaluronidase
เหมาะกับใคร คนที่อยากลดสัดส่วน และเสริมคางไปด้วย อยากได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ รวมไปถึงคนที่แพ้สารเติมเต็ม คนที่อยากเห็นผลเร็ว ต้องการปรับรูปหน้าเฉพาะจุด ไม่อยากพักฟื้นนาน
ราคา ราคาค่อนข้างสูง เพราะมีทั้งการดูดไขมัน กระบวนการคัดแยกเซลล์ไขมัน และการนำไขมันไปฉีดเติมเต็ม ราคาถูกกว่า ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์และจำนวน CC ที่ใช้
ข้อควรระวัง ไขมันที่ฉีดไม่ติดทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ อาจมีการสลายไปบางส่วนทำให้ต้องฉีดเติมเพิ่มหลายครั้ง ขึ้นอยู่กับรายบุคคล หากเลือกเนื้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับการฉีดคาง แพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอ ไม่ถนัดเทคนิคการฉีดคาง อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่ดี เสี่ยงผิดรูปทรง หรือสัดส่วนคางไม่รับกับใบหน้า

**ตารางนี้เป็นการเปรียบเทียบเบื้องต้นเท่านั้น ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล

ข้อดี-ข้อจำกัดของการฉีดไขมันคาง

ถึงแม้การฉีดไขมันคางจะมีความปลอดภัยเพราะเป็นเซลล์ไขมันที่ได้จากร่างกายของคนไข้เอง แต่ก็ไม่ใช่มีเพียงแค่ข้อดีเท่านั้น ยังมีข้อจำกัดในบางเรื่องที่ควรทราบไว้เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ โดยมีรายละเอียดของทั้งข้อดีและข้อจำกัดของการเติมไขมันคาง ดังนี้

ข้อดีของฉีดไขมันคาง

  • ไม่เกิดอาการแพ้หรือร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอม เนื่องจากเป็นไขมันของตัวเองไม่ใช่สารสังเคราะห์จึงไม่ทำให้เกิดปัญหาตามมาหลังทำ
  • สามารถช่วยปรับรูปทรงคางและเพิ่มขนาดคางควบคู่ไปกับการลดไขมันเฉพาะจุดได้อีกด้วย ทำให้ได้สัดส่วนที่เล็กลง สมส่วนมากขึ้น
  • ได้ผลลัพธ์ผิวคางสวยเรียบเนียน มีความละมุน เนื่องจากเซลล์ไขมันเป็นเซลล์ที่มีขนาดเล็กมากจึงกลืนไปกับผิวได้ดี
  • ไม่เกิดอาการดื้อสารเติมเต็มหรือดื้อยา เพราะเป็นไขมันจากร่างกายจึงสามารถเติมได้ทันทีหรือเติมบ่อย ๆ ได้ เมื่อเกิดการยุบตัวของไขมันบริเวณคางที่ฉีดไป
  • ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมโทรมให้กลับมาอิ่มฟู ผิวมีความเต่งตึงกระชับมากขึ้น หลังจากไขมันเข้าที่แล้ว

ข้อจำกัดของฉีดไขมันคาง

  • อาจจะต้องฉีดไขมันปริมาณมากเผื่อไว้ในครั้งแรกที่ฉีด เพราะไขมันสามารถสลายไปได้บางส่วน
  • ในช่วงแรกอาจมีอาการบวมหรือคางมีขนาดใหญ่เกินไป เนื่องจากแพทย์ต้องฉีดไขมันปริมาณเยอะในครั้งแรก และจะค่อยๆ ยุบลงไปเอง เพราะมีการสลายตัวของไขมัน
  • ต้องฉีดเติมไขมันหลายครั้งเพราะไขมันจะมีการสลายตัวไปบางส่วน จึงไม่เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ทันที
  • อาจเกิดปัญหาผิวไม่เรียบเนียน เป็นคลื่น คางไม่เท่ากัน ทรงคางไม่ตรงตามต้องการ เพราะไขมันจะสลายไปบางส่วน จึงต้องติดตามผลการรักษากับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
  • มีรอยแผลจากการดูดไขมันในตำแหน่งที่ทำการเอาไขมันออกมา และอาจมีรอยเขียวช้ำเกิดขึ้นได้ ซึ่งจะหายไปได้เองตามระยะเวลาที่ร่างกายฟื้นตัวและการดูแลหลังทำ
  • หากฉีดมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาคางนิ่มยวบยาบ เนื้อบริเวณคางเหลว ไม่เป็นทรง ผลลัพธ์ไม่เป็นธรรมชาติ
  • ในกรณีของคนที่มีไขมันตามร่างกายค่อนข้างน้อย อาจไม่เพียงพอต่อการดูดออกมาเพื่อนำไปฉีดเติมเต็ม

ฉีดไขมันคางอยู่ได้นานแค่ไหน กี่วันเห็นผล?

ผลลัพธ์หลังฉีดไขมันคาง เพื่อปรับรูปหน้าให้เข้าที่และได้สัดส่วนมากขึ้นนั้น จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและเข้าที่ในช่วงประมาณ 1 – 3 เดือนหลังทำ โดยผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นาน 2 – 3 ปีขึ้นไป หรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับอายุ เทคโนโลยีที่ใช้ดูดไขมัน การเตรียมเซลล์ไขมัน เทคนิคในการฉีด และการดูแลตัวเองหลังทำของคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกัน จึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

วิธีดูแลหลังฉีดไขมันคาง

เพื่อผลลัพธ์การฉีดไขมันคางออกมาดี คงอยู่ได้นาน และร่างกายฟื้นตัวได้ไวขึ้น ควรดูแลตัวเองตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด โดยสามารถดูแลตัวเองได้ดังนี้

  • ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังทำ งดกด บีบ นวดหน้า ทาครีม ทาโลชั่น หรือสัมผัสบริเวณคาง เพราะไขมันยังไม่เข้าที่ อาจทำให้คางผิดรูปได้
  • ควรนอนหงายและยกศีรษะสูงในช่วง 3 – 5 วันหลังทำ ช่วยลดอาการบวมช้ำให้ยุบไวขึ้น และไม่ควรนอนคว่ำหรือนอนตะแคงในช่วงนี้เพราะจะทำให้คางถูกกดทับจนเสียรูปทรงได้
  • หลีกเลี่ยงอุณหภูมิที่เย็นจัดหรือร้อนจัด เช่น เข้าซาวน่า อบไอน้ำ เพราะอาจส่งผลกระทบกับคางที่เพิ่งฉีดไขมัน
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ในช่วง 1 สัปดาห์หลังทำ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้เต็มที่ ไขมันติดดีขึ้น
  • งดออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ออกแรงเยอะ ๆ ประมาณ 1 สัปดาห์ ควรรอให้ไขมันที่ฉีดไปเข้าที่ก่อน
  • ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบและเข้าพบแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้ง
  • หากพบอาการผิดปกติควรเข้าพบแพทย์ทันที

ฉีดไขมันคางราคาเท่าไร?

ราคาฉีดไขมันคางอยู่ที่ประมาณ 40,000 – 80,000 บาท ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เทคนิคที่ใช้ ปริมาณไขมัน ตำแหน่งที่ดูดไขมัน ประสบการณ์ของแพทย์ แนะนำให้เข้าไปปรึกษากับแพทย์โดยตรงเพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนถูกต้องเฉพาะรายบุคคล

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฉีดไขมันคาง (FAQ)

ฉีดไขมันคาง เป็นหัตถการที่สามารถช่วยปรับสัดส่วนคางให้รับกับใบหน้า รูปทรงสมดุลมากขึ้น ด้วยการใช้ไขมันจากร่างกายของตัวเอง ซึ่งมีความซับซ้อนหลายขั้นตอนทำให้มีคนที่เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการฉีดไขมันเพื่อปรับรูปทรงคางในแง่มุมต่าง ๆ ในเนื้อหาต่อไปนี้จึงได้รวบรวมเอาคำถามที่พบบ่อยมาไว้ให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ดังนี้

Q: ฉีดไขมันคางประคบเย็นได้ไหม?
A: หลังฉีดไขมันคางอาจเกิดอาการบวมแดงขึ้นได้ สามารถใช้การประคงเข้าช่วยให้อาการบวมยุบเร็วขึ้น โดยประคบบริเวณโดยรอบ ไม่แนะนำให้ประคบลงบนคางโดยตรงเพราะจะทำให้ไขมันมีโอกาสเคลื่อนไปในตำแหน่งอื่น นอกจากนั้นความเย็นอาจทำปฏิกิริยากับไขมันทำให้ไม่ติดตามปริมาณที่ควรจะเป็นได้

Q: ฉีดไขมันคางเจ็บไหม ต้องพักฟื้นหรือเปล่า?
A: ระหว่างทำจะไม่รู้สึกเจ็บเนื่องจากมีการใช้ยาชา หรือยาสลบร่วมด้วย แต่หลังจากทำเสร็จแล้วเมื่อยาหมดฤทธิ์อาจรู้สึกเจ็บ ปวดระบม หรือมีรอยเขียวช้ำบริเวณที่ดูดไขมัน และอาจมีอาการบวมบริเวณคางที่ฉีดไขมันได้เช่นกัน ซึ่งจะหายไปได้เองตามระยะเวลาที่ร่างกายฟื้นตัว และการดูแลตัวเองหลังทำ

Q: ศัลยกรรมคางมาแล้วฉีดไขมันคางได้ไหม?
A: สำหรับคนที่เคย เสริมคาง มาแล้วสามารถฉีดไขมันคางร่วมด้วยได้ เพื่อช่วยให้คางมีความละมุนสวย ลบขอบ หรือรอยต่อของซิลิโคนให้กลืนไปกับผิว ละมุนสวยเป็นธรรมชาติ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะกับแต่ละคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด

Q: ฉีดไขมันคางร่วมกับฉีดไขมันจุดอื่นๆ ได้ไหม?
A: หากใครที่อยากเจ็บตัวครั้งเดียวแล้วสวยครบทุกส่วนบนใบหน้าสามารถทำร่วมกันได้ โดยแพทย์จะต้องกำหนดจุดที่จะฉีดไขมัน คำนวณปริมาณไขมันที่เหมาะสมทั้งการดูดออกมา และปริมาณที่เหมาะในการฉีดเข้าไป เติมไขมันที่หน้า หรือนำไปเติมหน้าออกได้ และกำหนดตำแหน่งที่จะทำการดูดไขมัน หากคนไข้มีไขมันค่อนข้างน้อยอาจใช้สารเติมเต็มประเภท HA ฉีดบริเวณใบหน้าแทนได้เช่นกัน

Q: ก่อนฉีดไขมันคางต้องเตรียมตัวอย่างไร?
A: ก่อนฉีดไขมันคางควรเข้ามาปรึกษากับแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม หากมีโรคประจำตัว มีประวัติแพ้ยา หรือมียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนรับบริการทุกครั้ง หากตำลงวันทำหัตถการได้แล้วก่อนทำประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ควรงดวิตามิน อาหารเสริม หรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด รวมไปถึงงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนรับบริการประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนและผลข้างเคียงร้ายแรง

สรุป

การฉีดไขมันคาง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน โดยใช้ไขมันจากร่างกายตัวเอง เช่น หน้าท้องหรือต้นขา มาฉีดเติมเต็มบริเวณคางเพื่อเพิ่มความยาวหรือปรับทรงให้สมดุลกับใบหน้า จุดเด่นคือมีความเป็นธรรมชาติและลดความเสี่ยงต่อการแพ้เพราะใช้ไขมันของตนเอง แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น ไขมันไม่ติดทั้งหมด ต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์และอาจต้องเติมซ้ำหลายครั้ง สำหรับใครที่ต้องการปรับรูปหน้า อยากมีคางที่ได้สัดส่วนสวยรับกับใบหน้ามากขึ้น รวมไปถึงคนที่เคยทำคางมาแล้วเกิดปัญหาอยากแก้ไข แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของ Vincent Clinic Plastic Surgery ได้เลย

Scroll to Top
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit