

เปิดหัวตา คืออะไร ช่วยเรื่องอะไร เหมาะกับใคร จำเป็นต้องทำไหม?
ดวงตาเป็นอีกจุดที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ใบหน้าได้ หลายคนจึงเลือก เปิดหัวตา เพื่อช่วยแก้ปัญหา ตาเล็ก หัวตาชิดกันมากเกินไป หรือดวงตาทั้งสองข้างไม่สมส่วนกัน เป็นต้น ซึ่งวิธีการนี้สามารถช่วยให้ดวงตาดูโตขึ้น สดใส ใบหน้ามีมิติ หากใครที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มความมั่นใจ อยากมีดวงตาโตสวยรับกับใบหน้าเพิ่มความน่าดึงดูดมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนเอเชียมีมักจะมีดวงตาเล็กมาตั้งแต่กำเนิด ในเนื้อหาต่อไปนี้จะพาไปทำความเข้าใจกับเทคนิคที่ใช้ในการเปิดบริเวณหัวตาให้กว้างขึ้นว่าคืออะไร ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง มีด้วยกันกี่เทคนิค ควรดูแลตัวเองหลังทำอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง

Key Takeaways
- การเปิดหัวตาคือเทคนิคผ่าตัดเพื่อขยายความยาวดวงตาด้านใน โดยตัดหนังที่ปิดบริเวณหัวตาออก ทำให้ดวงตาดูโต สดใส และยาวรับกับใบหน้ามากขึ้น
- ลักษณะหัวตามี 4 แบบหลักที่ควรรู้ก่อนผ่าตัด ได้แก่ Tarsalis, Supraciliaris, Palpebralis และ Inversus ซึ่งมีผลต่อการมองเห็นหัวตาและความสมดุลของชั้นตา
- ศัลยกรรมเปิดหัวตาเหมาะกับผู้ที่มีหัวตาปิด ตาสั้น หรือดวงตาไม่สมดุล โดยเฉพาะคนเอเชียที่ต้องการเพิ่มมิติและความสมดุลให้ใบหน้า
- การเปิดหัวตาช่วยให้ตาดูโตยาว มีชั้นตาที่ชัดเจน และได้รูปสวยเป็นธรรมชาติ แก้ปัญหาตาห่าง หัวตาปิด หรือดวงตาดูแข็งได้อย่างเห็นผล
- ก่อนตัดสินใจผ่าตัด ควรรู้ว่าแผลอาจมีบวมแดงและรอยจางในช่วงแรก และการเปิดมากเกินไปอาจทำให้ดูตาโปนจนน่าตกใจ จึงควรทำกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญเท่านั้น
- เตรียมตัวก่อนผ่าตัดอย่างเหมาะสม เช่น งดยา งดคอนแทคเลนส์ และแจ้งประวัติสุขภาพ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- หลังผ่าตัดควรดูแลแผลอย่างเคร่งครัด ประคบเย็น และหลีกเลี่ยงฝุ่นหรือการสัมผัสแรง ๆ เพื่อให้แผลหายไว ลดรอยแผล และลดความเสี่ยงติดเชื้อ
- หัตถการอื่นที่ทำร่วมกับการเปิดหัวตาได้ เช่น ตาสองชั้น เปิดหางตา หรือฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยเสริมให้รูปตาสวยคม ชัด และมีมิติเพิ่มขึ้น
- ค่ารักษาสำหรับการเปิดหัวตาอยู่ที่ประมาณ 30,000 – 90,000 บาท ขึ้นอยู่กับเทคนิค ความยาก และประสบการณ์ของแพทย์
เปิดหัวตา คืออะไร?
เปิดหัวตา คือ หนึ่งในเทคนิคที่ใช้ในการ ศัลยกรรมตาโต เพื่อแก้ปัญหาผิวหนังบริเวณหัวตาที่ปิดมากเกินไปจนทำให้ตาดูเล็ก ขาดความสมดุล ด้วยการผ่าตัดผิวหนังที่ปิดทับบริเวณหัวตา (Epicanthal fold) ออกไป ช่วยให้ตาดูโตขึ้น ดวงตามีรูปร่างยาวขึ้น รอยพับของชั้นตาบริเวณหัวตามีความโค้งเป็นธรรมชาติ
เปิดหัวตา จำเป็นต้องทำเสมอหรือไม่?
แม้การเปิดหัวตาจะเป็นหนึ่งในหัตถการที่สามารถช่วยปรับรูปตาให้ดูโตและมีมิติมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่ต้องการทำตาสองชั้นหรือศัลยกรรมตาโตจะ จำเป็นต้องเปิดหัวตา เสมอไป
ในหลายกรณี แพทย์อาจแนะนำให้ทำเฉพาะตาสองชั้น หรือใช้เทคนิคอื่นร่วมแทนโดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดหัวตา หากลักษณะดวงตาเดิมของคนไข้มีความสมดุลอยู่แล้ว หรือไม่มีหนังตาที่ปิดบริเวณหัวตามากนัก
ตัวอย่างกรณีที่อาจไม่จำเป็นต้องเปิดหัวตา เช่น
- ดวงตามีความกว้างอยู่แล้ว ชั้นตาชัด ไม่มีหนังพับปิดบริเวณหัวตา
- ต้องการเพียงการปรับชั้นตาให้คมชัดขึ้น แต่ไม่ต้องการให้ตายาวหรือดูโตเกินไป
- เคยเสริมจมูกมาแล้ว ทำให้หัวตาดูเปิดอยู่แล้วตามธรรมชาติ
- กรณีที่แพทย์สามารถใช้เทคนิคการทำตาสองชั้นแบบ “เลี่ยงหัวตา” เพื่อเปิดบริเวณหัวตาเล็กน้อยโดยไม่ต้องกรีด
ดังนั้น การเปิดหัวตาเป็นหัตถการที่ เสริม การศัลยกรรมดวงตา ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจำเป็นต้องทำ การประเมินโดยแพทย์จึงมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้าและความต้องการของแต่ละคนโดยเฉพาะ
หัวตา มีด้วยกันกี่ลักษณะ?
ก่อนที่จะทำศัลยกรรมเปิดหัวตา ควรทำความรู้จักกับหัวตาก่อนว่ามีด้วยกันกี่แบบ จะช่วยให้เข้าใจและตัดสินใจเลือกเทคนิคการแก้ปัญหาที่เหมาะสมได้มากยิ่งขึ้น โดยมีลักษณะของหัวตาที่พบได้มีด้วยกันดังนี้
Epicanthus Tarsalis เป็นลักษณะของหนังตาที่พับลงมาคลุมบริเวณหัวตาไม่มาก ยังคงมองเห็นดวงตาได้เป็นปกติ ไม่มีผลกระทบหรือปัญหากับรูปทรงตามากนัก
Epicanthus Supraciliaris เป็นลักษณะของหนังตาที่พับลงมาปกคลุมบริเวณหัวตาค่อนข้างมาก ทำให้มองไม่เห็นหัวตาหรือมองเห็นได้น้อย ส่งผลกระทบทำให้ไม่เห็นชั้นตาหรือกลายเป็นตาชั้นเดียว
Epicanthus Palpebralis ลักษณะนี้คือหัวตาที่มีหนังตาปิดลงมาคลุมไม่มาก แต่มีการดึงรั้งทำให้เกิดรอยพับเป็นเส้นยาวบริเวณเปลือกตาด้านบนและลงมาถึงบริเวณใต้ตา
Epicanthus Inversus เป็นลักษณะของหนังตาที่พับลงมาปิดหัวตาเล็กน้อย แต่มีการดึงรั้งทำให้เกิดรอยพับยาวลงมาที่บริเวณใต้ตา

เปิดหัวตา เหมาะกับใคร?
ศัลยกรรมเปิดหัวตา เป็นอีกทางเลือกของคนที่ต้องการให้ดวงตาดูโตขึ้น ดวงตามีรูปทรงที่ยาวสวยได้สัดส่วนมากขึ้น ซึ่งเหมาะกับกลุ่มคนดังต่อไปนี้
- เหมาะกับคนที่บริเวณหัวตามีหนังตาที่ปิดทับลงมามากเกินไป หากทำตาสองชั้นแต่ไม่เปิดหัวตาอาจจะทำให้เห็นชั้นตาไม่ชัด ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร หรือดูไม่เป็นธรรมชาติได้
- เหมาะกับคนที่หัวตาปิดค่อนข้างมาก แต่ต้องการทำชั้นตาใหญ่ หากไม่เปิดหัวตาอาจทำให้ดวงตาดูไม่สมส่วนและไม่เป็นธรรมชาติ
- เหมาะกับคนที่ตาทั้งสองข้างมีระยะห่างจากกันจนทำให้ดูเหมือนเป็นคนตาเหล่ เมื่อเปิดหัวตาแล้วจะทำให้เห็นตาขาวเยอะขึ้น ช่วยให้ตาดำอยู่ตรงกลาง และช่วยทำให้ดวงตาขยับเข้ามาใกล้จมูกมากขึ้นจึงทำให้ดวงตาดูไม่เหล่เหมือนก่อนทำ
- เหมาะกับคนที่มีลักษณะดวงตาที่ดูสั้น บริเวณหัวตาปิดมากเกินไป
- เหมาะกับคนที่มีตาสองชั้นแต่หัวตาปิด ทำให้ดวงตาดูดุ ตาแข็ง ไม่ได้สัดส่วนที่เหมาะสมกับใบหน้า
ใครไม่ควรทำศัลยกรรมเปิดหัวตา?
แม้การเปิดหัวตาจะเป็นหัตถการที่สามารถช่วยปรับรูปตาให้ดูโต เรียวยาว และสมดุลกับใบหน้าได้ดี แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับการผ่าตัดชนิดนี้ โดยเฉพาะในกรณีที่มีลักษณะหรือปัจจัยบางอย่างที่อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่ได้ดั่งหวัง หรือเสี่ยงต่อผลข้างเคียงมากกว่าปกติ ดังนั้นจึงควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วนหากคุณมีคุณสมบัติเหล่านี้
- ผู้ที่มีลักษณะดวงตาเรียวยาวและไม่มีหนังบริเวณหัวตาปิดบังอยู่ ดวงตาลักษณะนี้มักไม่มีปัญหาเรื่องหัวตา จึงไม่จำเป็นต้องเปิดหัวตาเพิ่มเติม หากทำอาจได้ผลลัพธ์ที่ดูโปนหรือเบิกโพลงจนไม่เป็นธรรมชาติ
- ผู้ที่ต้องการลุคดวงตาธรรมชาติ ไม่ต้องการความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนเกินไป เนื่องจากการเปิดหัวตาเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างรอบดวงตา หากไม่ต้องการความเปลี่ยนแปลงมาก หรือแค่ต้องการให้ตาดูสดใสขึ้นเพียงเล็กน้อย อาจเลือกใช้หัตถการอื่นที่ไม่ต้องผ่าตัดแทน เช่น ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หรือทำตาสองชั้นเท่านั้น
- ผู้ที่มีประวัติเคยเป็นแผลเป็นคีลอยด์ง่าย การผ่าตัดเปิดหัวตาแม้จะใช้เทคนิคซ่อนแผล แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดแผลเป็นได้ โดยเฉพาะในคนที่ผิวไวต่อการเกิดพังผืด จึงควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ
- ผู้ที่มีแผนจะผ่าตัดเสริมจมูกในอนาคตอันใกล้ การ เสริมจมูก บางเคสจะช่วยให้หัวตาดูเปิดมากขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดหัวตา หากทำหัวตาก่อนแล้วเสริมจมูกตามทีหลัง อาจทำให้หัวตาดูกว้างเกินไปได้
- ผู้ที่ไม่สามารถพักฟื้นหรือดูแลแผลผ่าตัดอย่างเคร่งครัดได้ การดูแลหลังผ่าตัดมีความสำคัญมาก หากไม่สามารถปฏิบัติตามข้อแนะนำเรื่องการทำความสะอาด หลีกเลี่ยงฝุ่น หรือประคบแผลได้ อาจทำให้เกิดแผลนูนหรือการติดเชื้อได้ง่าย
ดังนั้นการตัดสินใจทำศัลยกรรมเปิดหัวตาควรเป็นไปอย่างมีสติ รอบคอบ และอยู่ภายใต้การประเมินของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้อย่างเหมาะสม
ข้อดีของการเปิดหัวตา
ศัลยกรรมเปิดหัวตา สามารถช่วยแก้ปัญหาบริเวณดวงตาได้หลายอย่าง ทั้งเรื่องของรูปทรงตาและชั้นตาให้ดีขึ้นได้อย่างชัดเจน จึงมีข้อดีดังนี้
- ช่วยให้รูปทรงตามีความเรียวยาวขึ้น
- ช่วยเปิดให้ดวงตาดูโตสวยขึ้น
- ช่วยเปิดให้เห็นชั้นตาที่ชัดเจน ผลลัพธ์สวยเป็นธรรมชาติ
- ช่วยปรับระยะห่างของดวงตาทั้งสองข้างให้ชิดเข้ามาใกล้จมูกมากขึ้น แก้ปัญหาตาเหล่
- ช่วยให้คนที่มีหัวตาปิดแต่ต้องการให้ชั้นตาใหญ่ ได้ชั้นตาที่สวยตามต้องการและมีความเป็นธรรมชาติ
- ช่วยให้ดวงตามีมิติได้สัดส่วนรับกับใบหน้า
- ช่วยแก้ปัญหาตาสั้น ตาดุ ตาแข็ง ให้มีความละมุนมากขึ้น
ผลลัพธ์หลังทำเปิดหัวตาเป็นอย่างไร?
หลังจากผ่าตัดเปิดหัวตา ผู้เข้ารับการรักษาจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปตาได้อย่างชัดเจน โดยผลลัพธ์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ระยะ คือ
ระยะสั้น (1-4 สัปดาห์หลังทำ)
- ดวงตาจะดูโตและยาวขึ้นทันทีหลังผ่าตัด แม้อาจยังมีอาการบวมเล็กน้อย
- ชั้นตาบริเวณหัวตาจะชัดขึ้น ทำให้ใบหน้าดูสดใสและมีเสน่ห์มากขึ้น
- ความต่างของก่อนและหลังทำจะเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในคนที่หัวตาปิดมาก่อน
ระยะยาว (หลัง 1-3 เดือน)
- รอยแผลจะค่อย ๆ จางลงจนแทบมองไม่เห็น โดยเฉพาะเมื่อดูแลตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
- ชั้นตาจะเข้าที่ ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่โปน ไม่เบิกโพลง
- ใบหน้าโดยรวมจะดูละมุนขึ้น ดวงตาดูหวาน ไม่แข็งเกินไป และรับกับสัดส่วนจมูก-คิ้วได้ดีขึ้น
ซึ่งผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับลักษณะดวงตาเดิม เทคนิคที่ใช้ และการดูแลหลังผ่าตัด
ข้อควรรู้ก่อนกรีดหัวตา
ก่อนกรีดหัวตา ควรศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วนเพราะวิธีการนี้ไม่ได้มีเพียงข้อดีเท่านั้น แต่ยังมีข้อควรรู้ที่พึงระลึกไว้ก่อนทำอีกด้วย ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- หลังทำอาจเกิดรอยแผลบริเวณหัวตาได้บ้างเล็กน้อย หากดูแลตามแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดรอยแผลจะจางลงได้เอง จนแทบมองไม่เห็น
- ในช่วงแรกหลังทำอาจเกิดอาการบวมแดงได้บ้าง แต่จะหายไปได้เองตามระยะเวลาการฟื้นฟูของร่างกายแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป
- ระวังการเปิดหัวตาที่มากเกินไปจะทำให้ดวงตาดูกว้างผิดปกติ เหมือนตกใจหรือถลึงตาอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติอีกด้วย
- ในกรณีของคนที่มีประวัติเคยเป็นคีลอยด์อาจมีโอกาสสูงกว่าคนทั่วไปที่จะเกิดรอยแผลนูนได้ จึงต้องดูแลตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- หากมีแพลนที่จะทำจมูกในอนาคตแนะนำให้แจ้งแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม เพราะการทำจมูกจะทำให้หัวตามีความกว้างมากขึ้นได้ บางกรณีหลังเสริมจมูก หัวตาอาจเปิดขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดเพิ่ม
- ในบางกรณีแค่ทำตาสองชั้น หัวตาก็สามารถเปิดกว้างขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด จึงต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินและออกแบบการรักษาที่เหมาะสม
เปิดหัวตา ต้องใช้เทคนิคอะไรบ้าง?
ในการผ่าตัดเปิดหัวตา แพทย์สามารถเลือกใช้ได้หลายเทคนิคตามลักษณะของหนังตา รูปร่างหัวตา และผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยแต่ละเทคนิคจะมีจุดเด่นต่างกัน ซึ่งการเลือกใช้จะพิจารณาจากความเหมาะสมรายบุคคล โดยเทคนิคที่นิยมมีดังนี้
เทคนิค Z-Plasty
เป็นเทคนิคมาตรฐานที่ใช้สำหรับเปิดหัวตา โดยการกรีดแผลเป็นรูปตัว Z ทำให้สามารถตัดและเคลื่อนเนื้อหนังรอบหัวตาให้เปิดออกได้ในทิศทางที่ต้องการ ข้อดีคือสามารถควบคุมทิศทางของแผลได้ดี และลดความตึงของเนื้อบริเวณแผล
เทคนิค W-Plasty
เป็นเทคนิคที่กรีดแผลเป็นรูปตัว W หรือฟันปลาฉลาม ใช้ในกรณีที่ต้องการซ่อนแผลเป็นให้แนบเนียนมากยิ่งขึ้น โดยเหมาะกับคนที่ต้องการลดโอกาสการเกิดแผลคีลอยด์ หรือมีประวัติเป็นแผลนูนง่าย
เทคนิคไร้รอยแผล (No-scar Epicanthoplasty)
เทคนิคนี้เป็นการผ่าตัดโดยกรีดแผลเล็กมาก ซ่อนอยู่ตามแนวพับของหนังตา หรือบางกรณีใช้การกรีดด้านในเปลือกตา ทำให้ไม่มีรอยแผลภายนอก เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบเป็นธรรมชาติมากที่สุด และไม่ต้องการให้เห็นแผลเลยหลังทำ
เทคนิคปรับชั้นตาร่วม
มักใช้ร่วมกับการทำตาสองชั้น เพื่อให้ชั้นตาที่ได้มีความสมดุลกับหัวตาที่เปิดออก เทคนิคนี้ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์เป็นพิเศษ เพราะต้องคำนวณมุมของหัวตา ชั้นตา และโครงสร้างเบ้าตาไปพร้อมกัน
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเปิดหัวตา
เพื่อให้การเปิดหัวตาไม่เกิดปัญหาและผ่านไปได้ด้วยดี แนะนำให้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง ไม่เพียงแต่ทำให้คนไข้ได้รับการรักษาที่ปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังช่วยให้แพทย์ทำงานได้ง่ายขึ้นอีกด้วย โดยมีขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนรับบริการ ดังนี้
- งดวิตามิน อาหารเสริม หรือยาที่มีผลกับการแข็งตัวของเลือด ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- หากมีโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา หรือมียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนผ่าตัดทุกครั้ง
- งดใส่คอนแทคเลนส์และการแต่งหน้าในวันที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด
- ควรงดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับบริการ
วิธีดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมเปิดหัวตา
เพื่อให้แผลหายดีและได้ผลลัพธ์ที่ดีหลังเปิดหัวตา ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยสามารถดูแลตัวเองหลังทำได้ตามหัวข้อต่อไปนี้
- ในช่วง 1 – 3 วันแรกอาจเกิดอาการบวมแดงขึ้นได้ สามารถประคบเย็นรอบ ๆ บริเวณดวงตาโดยห้ามกดทับลงบนแผลโดยตรง จะช่วยบรรเทาอาการให้ลดลงได้
- งดจับ กด ถู นวด ขยี้ หรือสัมผัสแรง ๆ บริเวณแผลผ่าตัด ในช่วงแรกที่แผลยังไม่หายดี
- ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ทีมีฝุ่นหรือมลภาวะเยอะ ๆ หากต้องออกไปข้างนอกแนะนำให้สวมแว่นตาเพื่อป้องกันแผลผ่าตัดติดเชื้อจากสิ่งสกปรกที่ปลิวเข้ามาติดที่แผล
- ควรทายาลดรอยแผลเป็นตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
- ทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้สำลีพันก้านไม้ชุบกับน้ำเกลือและเช็ดแผลอย่างเบามือ
เปิดหัวตาทำคู่กับอะไรได้บ้าง?
สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจอยากกรีดหัวตาเพื่อให้ดวงตาโตสวยได้รูปทรงตามต้องการ สามารถเลือกทำหัตถการอื่น ๆ หรือ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับชั้นตาควบคู่กันไปได้เช่นกัน เพื่อเสริมให้ผลลัพธ์ของให้ดวงตาและใบหน้าดูโดดเด่นยิ่งขึ้น โดยสิ่งที่สามารถทำคู่กันได้มีดังนี้
- ตาสองชั้น ในกรณีของคนที่ชั้นตาไม่ชัดหรือมีตาชั้นเดียวแล้วดางเล็ก สามารถผ่าตัดเพื่อเปิดผิวหนังบริเวณหัวตาให้กว้างขึ้นและทำตามสองชั้นไปพร้อมกันได้เลย จะยิ่งช่วยให้ดวงตาได้สัดส่วน รูปทรงตาสวย รับกับใบหน้ามากขึ้น
- เปิดหางตา สำหรับคนที่หางตาเฉียงขึ้นเยอะ ๆ มีรูปตาสั้น ขาดมิติ สามารถทำเทคนิคนี้ควบคู่กันไปได้ เพื่อช่วยเปิดดวงตาให้สวยงามยิ่งขึ้น
- ยกหางตา เป็นการผ่าตัดเพื่อยกแนวหางตาให้สูงขึ้น เพื่อแก้ปัญหาตาตก หางตาตก หรือทำให้ดวงตาดูเฉียบคม สดใสขึ้น ซึ่งสามารถทำพร้อมกับเปิดหัวตาได้ เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับลุคให้ดวงตาดูยาวขึ้นทั้งด้านหัว-หาง ให้รูปตาคมแต่หวาน มีความสดใสและมั่นใจมากขึ้น
- แก้ไขกล้ามเนื้ออ่อนแรง ในกรณีของคนที่มีหนังตาตกลงมาเยอะ ๆ จากสาเหตุของกล้ามเนื้อบริเวณดวงตาอ่อนแรง สามารถแก้ไขไปพร้อมกันกับการทำชั้นตาและเปิดบริเวณหัวตาได้เลย
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สำหรับใครที่อยากทำตาไปพร้อมกับการฉีดสารเติมเต็มใต้ตาสามารถทำได้ แต่ต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินเพื่อวางแผนและลำดับการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละคนมากที่สุด
เปิดหัวตา แตกต่างจาก เปิดหางตา อย่างไร?
แม้ว่า เปิดหัวตา และ เปิดหางตา จะเป็นการศัลยกรรมตกแต่งรอบดวงตาทั้งคู่ แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองหัตถการมีจุดประสงค์และบริเวณที่ผ่าตัดแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนี้
- เปิดหัวตา จะเป็นการผ่าตัดบริเวณหัวตาด้านในของดวงตา โดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดหนังที่คลุมบริเวณหัวตา (epicanthal fold) ออก ให้ดวงตาดูยาวขึ้นจากด้านใน ใบหน้าดูหวานละมุนมากขึ้น เหมาะกับคนที่มีหัวตาปิดมาก หรือตาดูชิดกันเกินไป
- เปิดหางตา เป็นการผ่าตัดบริเวณหางตาด้านนอก เพื่อขยายความยาวของตาออกไปด้านข้าง ทำให้ดวงตาดูเรียวยาว มีความเฉียบคม เหมาะกับคนที่หางตาสั้นหรือหางตาชี้ขึ้นมากเกินไปจนดูแข็ง
หัตถการทั้งสองสามารถทำร่วมกันได้หากต้องการปรับให้ดวงตาดูยาวขึ้นทั้งด้านหัวและด้านหาง ซึ่งจะช่วยให้รูปตาดูสมส่วนมากขึ้น ดึงเสน่ห์ของใบหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าควรเลือกทำเพียงด้านใดด้านหนึ่ง หรือทั้งสองด้านร่วมกันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เปิดหัวตาแล้ว จะต้องทำตาสองชั้นด้วยเสมอไหม?
คำตอบคือ ไม่จำเป็นต้องทำตาสองชั้นเสมอไป ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาของเปลือกตาเดิม ความต้องการของคนไข้ และการประเมินของแพทย์อย่างละเอียด
กรณีที่อาจ ไม่จำเป็นต้องทำตาสองชั้น ได้แก่
- มีชั้นตาชัดอยู่แล้ว แต่หัวตาปิด จึงต้องเปิดแค่บริเวณหัวตาเพื่อให้ตาเรียวยาวขึ้น
- ต้องการปรับเฉพาะมุมหัวตาโดยไม่เปลี่ยนความลึกหรือลักษณะชั้นตา
ในทางกลับกัน กรณีที่ ควรทำร่วมกับตาสองชั้น ได้แก่
- มีตาชั้นเดียว หรือ ชั้นตาหลบใน การเปิดหัวตาอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการปรับลุคโดยรวม
- ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน เห็นดวงตาโตขึ้นทั้งแนวขวางและแนวตั้ง
- มีหนังตาเยอะหรือหย่อน การทำชั้นตาจะช่วยเก็บผิวหนังส่วนเกินให้เรียบเนียนขึ้น
การทำ เปิดหัวตาอย่างเดียว หรือ ร่วมกับตาสองชั้น ควรอยู่ภายใต้การออกแบบที่แม่นยำโดยแพทย์ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูสมดุล รับกับโครงสร้างใบหน้า และให้ดวงตาดูสวยคม มีมิติแบบธรรมชาติ
เปิดหัวตา ราคาเท่าไหร่?
สำหรับราคาในการเปิดหัวตาอยู่ที่ประมาณ 30,000 – 90,000 บาท ขึ้นอยู่กับระดับปัญหา เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด ความต้องการของคนไข้ และประสบการณ์ของแพทย์ แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับแพทย์โดยตรงเพื่อให้ได้รับรายละเอียดที่ถูกต้องครบถ้วน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการเปิดหัวตา
สำหรับใครที่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ ศัลยกรรมเปิดหัวตา สามารถอ่านเพิ่มเติมจากคำถามที่พบบ่อย ซึ่งได้ถูกรวบรวมเอาไว้ในบทความนี้แล้ว เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจและช่วยคลายความกังวลของคนไข้ให้ลดลง
Q : เปิดหัวตาทำแล้วแผลจะเห็นชัดไหม?
A : แผลจากการเปิดหัวตาโดยทั่วไปจะถูกซ่อนอยู่ในรอยพับของชั้นตา แพทย์จะใช้เทคนิคที่ช่วยให้แผลเล็กและแนบเนียน หากดูแลตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด แผลจะค่อย ๆ จางลงจนแทบมองไม่เห็นในระยะเวลา 1–3 เดือน
Q : เปิดหัวตาต้องพักฟื้นนานแค่ไหน?
A : ระยะเวลาพักฟื้นเบื้องต้นอยู่ที่ประมาณ 5–7 วัน อาจมีอาการบวม แดง ช้ำในช่วงแรก หลังจากนั้นสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยแนะนำให้งดการแต่งหน้าและเลี่ยงแสงแดดจัดจนกว่าแผลจะหายดี
Q : เปิดหัวตาอันตรายไหม?
A : หากทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคลินิกที่ได้มาตรฐาน ถือว่าเป็นหัตถการที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามหากเปิดมากเกินไปหรือดูแลแผลไม่ถูกต้อง อาจทำให้ตาดูโปนเกินไปหรือเกิดแผลนูนได้ จึงควรทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น
Q : เปิดหัวตาทำให้ตาเหลือกไหม?
A : ไม่ทำให้ตาเหลือกโดยตรง แต่หากเปิดหัวตามากเกินไป อาจทำให้ดวงตาดูกว้าง เบิกโพลง หรือดูตกใจอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ การออกแบบควรอยู่ภายใต้การประเมินที่แม่นยำจากแพทย์เท่านั้น
Q : หลังเปิดหัวตาจะต้องทำตาสองชั้นด้วยไหม?
A: ไม่จำเป็นเสมอไป ขึ้นอยู่กับลักษณะเปลือกตาเดิมของแต่ละคน หากมีชั้นตาอยู่แล้ว อาจไม่ต้องทำเพิ่มเติม แต่หากต้องการให้ตาโตและได้รูปมากขึ้น แพทย์อาจแนะนำให้ทำร่วมกับตาสองชั้นเพื่อให้ผลลัพธ์ดูสมดุลและชัดเจนขึ้น
Q : เปิดหัวตาทำซ้ำได้หรือไม่?
A : สามารถทำซ้ำได้ในกรณีที่ผลลัพธ์จากการทำครั้งแรกไม่เพียงพอ หรือเกิดรอยแผลหดรั้ง แต่การทำซ้ำมีข้อจำกัดมากกว่าครั้งแรก จึงควรให้แพทย์วางแผนอย่างรอบคอบและพิจารณาเนื้อเยื่อรอบดวงตาเดิมประกอบด้วย
Q : ผู้ชายสามารถเปิดหัวตาได้ไหม?
A : ได้แน่นอน ศัลยกรรมเปิดหัวตาสามารถทำได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย โดยแพทย์จะออกแบบให้เหมาะกับลักษณะใบหน้าและความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของตัวบุคคล
Q : ผลลัพธ์ของการเปิดหัวตาอยู่ได้นานแค่ไหน?
A : เป็นหัตถการถาวรที่ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานหลายปี ซึ่งปกติแล้วจะไม่กลับมาปิดอีก ยกเว้นมีการหดรั้งของพังผืดหรือการเปลี่ยนแปลงของชั้นตาในระยะยาว
Q : ดูแลตัวเองอย่างไรหลังเปิดหัวตา?
A : หลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลโดยตรง ประคบเย็นใน 3 วันแรก ห้ามกด ขยี้ หรือแต่งตาในช่วงแรก และควรรักษาความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอโดยใช้สำลีชุบน้ำเกลือ เช็ดอย่างเบามือ พร้อมทายาลดรอยแผลตามแพทย์สั่ง
Q : ทำไมบางคนไม่จำเป็นต้องเปิดหัวตา?
A : ในบางกรณี การทำตาสองชั้นเพียงอย่างเดียวก็สามารถเปิดหัวตาได้ระดับหนึ่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะในคนที่ไม่มีหนังตาปิดหัวตามากนัก หรือในคนที่เคยเสริมจมูกมาแล้วทำให้หัวตาดูเปิดตามธรรมชาติ แพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยว่าจำเป็นหรือไม่ในแต่ละราย
Q : ควรเลือกคลินิกหรือแพทย์อย่างไรหากสนใจเปิดหัวตา?
A : ควรเลือกคลินิกที่มีศัลยแพทย์เฉพาะทาง มีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมตาโดยตรง มีรีวิวเคสจริงให้ดู มีการให้คำปรึกษารายบุคคล และสามารถให้ข้อมูลชัดเจนเรื่องเทคนิค ผลลัพธ์ และการดูแลหลังผ่าตัด
สรุป
เปิดหัวตา อีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ต้องการแก้ไขรูปทรงตาให้โตและดูยาวมากขึ้น ด้วยเทคนิคผ่าตัดทางการแพทย์ที่จะเข้าไปแก้ปัญหาหนังตาที่ลงมาทับหัวตาให้เปิดออก ทั้งยังสามารถทำตาสองชั้นควบคู่กันไปได้อีกด้วย จะช่วยให้ได้รูปทรงตาที่โตขึ้น ได้สัดส่วน รับกับใบหน้า สำหรับใครที่ต้องการทำตาสองชั้น อยากผ่าตัดเปิดหัวตา หรือต้องการแก้ไขปัญหาบริเวณดวงตา แนะนำให้เข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินจากปัญหาจริงของคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกันออกไปและใช้เป็นข้อมูลในการออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล