เย็บตา 3 จุด อีกหนึ่งเทคนิคทำตาสองชั้นที่ช่วยแก้ปัญหาชั้นตาไม่ชัด ตาตี่ ตาเล็ก ได้อย่างเห็นผล ช่วยให้ใบหน้าดูสดใส แลดูอ่อนเยาว์ ซึ่งมีความแตกต่างจากเทคนิคศัลยกรรมตาสองชั้นแบบอื่นในหลายด้าน ทั้งผลลัพธ์ ความเหมาะสมกับปัญหา สภาพผิว เพื่อช่วยให้เข้าใจเทคนิคนี้มากขึ้น Vincent Clinic Plastic Surgery จึงได้รวบรวมเอาข้อมูลเกี่ยวกับการทำตาสองชั้นแบบเย็บ 3 จุด ว่าคืออะไร เหมาะกับใครบ้าง ต่างจากเทคนิคอื่นอย่างไร มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง สามารถอ่านได้จากเนื้อหาต่อไปนี้
Key Takeaways
- เย็บตา 3 จุด คือ เทคนิคทำตาสองชั้นแบบไม่กรีดแผล จึงไม่มีรอยแผลขนาดใหญ่ ทำให้ได้ชั้นตาที่เป็นธรรมชาติ ไม่ชัดมากเกินไป
- เทคนิคเย็บตา 3 จุด เหมาะกับคนที่อายุไม่มาก ไม่ต้องแก้ไขปัญหาชั้นตาเยอะ ต้องการชั้นตาที่ดูละมุนสวย มีเปลือกตาบาง ไม่มีไขมันสะสมมาก ไม่มีปัญหาหนังตาตก หรือกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
- หลังเย็บตาสามจุด มีอาการบวมน้อยกว่าเทคนิคอื่น ใช้เวลาพักฟื้นค่อนข้างน้อยประมาณ 3 – 5 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว การดูแลตัวเองหลังทำ ความเร็วในการฟื้นตัวของแต่ละคนที่แตกต่างกัน
- ทำตาสองชั้นด้วยเทคนิคเย็บตาสามจุด เป็นเทคนิคที่ได้ผลลัพธ์ไม่ถาวร เพราะเป็นการเย็บไหมคล้องชั้นตาเอาไว้ เมื่อเวลาผ่านไปไหมจะคลายตัวหรือจมเข้าไปในเนื้อเยื่อจนอาจทำให้ชั้นตาหลุดหรือคลายตัวได้
- ทำตาสองชั้นแบบเย็บตา 3 จุด ไม่สามารถแก้ปัญหาตาตกหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ เนื่องจากไม่ได้มีการผ่าตัดเข้าไปปรับโครงสร้างชั้นตาหรือกล้ามเนื้อตา
ทำตาแบบเย็บ 3 จุด คืออะไร?
เย็บตา 3 จุด คือ เทคนิค ทำตาสองชั้น ด้วยการเย็บที่บริเวณเปลือกตา 3 จุด โดยไม่ทำให้เกิดรอยแผลผ่าตัดขนาดใหญ่เหมือนกับเทคนิคทำตาสองชั้นแบบอื่น ๆ ทำให้ได้ชั้นตาที่ไม่เด่นชัดมากเกินไป ผลลัพธ์มีความเป็นธรรมชาติ รอยแผลเนียนกลืนไปกับเปลือกตาทำให้มองไม่เห็นรอยแผลเวลาที่หลับตา

เทคนิคเย็บตา 3 จุด เหมาะกับใคร?
สำหรับเทคนิคทำตาสองชั้นแบบเย็บตาสามจุดช่วยให้เห็นชั้นตาที่ชัดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยที่ไม่เน้นชั้นตาชัดมากเกินไป จึงเหมาะกับคนที่มีความต้องการหรือมีปัญหาเกี่ยวกับตาสองชั้น ดังนี้
- คนที่มีโครงสร้างตาค่อนข้างดี มีปัญหาบริเวณเปลือกตาไม่มาก หนังตาบางไม่มีไขมัน
- คนที่ไม่มีปัญหาหนังตาตก หางตาตก เปลือกตาหย่อน หรือ กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
- คนที่ต้องการให้ตาสองชั้นมีความเป็นธรรมชาติ ไม่อยากให้ชั้นตามีความคมชัดมากเกินไป
- คนที่มีปัญหาตาชั้นเดียว หรือ ชั้นตาหลบใน ซึ่งไม่ได้เกิดจากปัญหาของไขมันสะสม หรือหนังตาหย่อน
- คนที่มีเวลาพักฟื้นน้อย ไม่อยากให้มีรอยแผลผ่าตัด ต้องการกลับไปใช้ชีวิตประจำวันอย่างรวดเร็ว
- คนที่อายุยังน้อย ผิวหนังบริเวณเปลือกตายังคงมีความกระชับไม่หย่อนคล้อย

ข้อดี ข้อเสียของการทำตาสองชั้นเทคนิคเย็บตาสามจุด
เทคนิคเย็บตาสามจุดเป็นหนึ่งในวิธีทำตาสองชั้นที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการชั้นตาธรรมชาติ ฟื้นตัวไว และไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ วิธีนี้ใช้การเย็บไหมสามตำแหน่งเพื่อสร้างรอยพับที่เปลือกตา จึงมีทั้งจุดเด่นและข้อจำกัดที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ ดังนี้
ข้อดีของทำตาสองชั้นแบบเย็บสามจุด
- แผลเล็กมาก เห็นรอยแผลน้อยหรือแทบไม่เห็น เพราะเป็นเพียงรอยเย็บจุดเล็ก ๆ บนเปลือกตา
- ไม่ต้องตัดไหม เนื่องจากไม่มีแผลกรีดภายนอก ทำให้การดูแลหลังทำง่าย
- บวมไม่มาก ฟื้นตัวเร็ว เพราะการเย็บกระทบเนื้อเยื่อน้อยกว่าเทคนิคกรีด
- ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชั้นตาละมุน ไม่ชัดจนเกินไป
- เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นนานหรือมีเวลาจำกัด
ข้อเสียของทำตาสองชั้นแบบเย็บสามจุด
- ชั้นตาหลุดง่ายหรือเลื่อนลงได้ เพราะไม่ได้เกิดพังผืดถาวรจากการผ่าตัด ทำให้ผลลัพธ์อยู่ไม่นานเท่าวิธีกรีด
- หากเย็บทะลุผิว อาจเกิดความระคายเคืองบริเวณดวงตา และมีโอกาสเลือดออกจุดเล็ก ๆ
- มีโอกาสเกิดตุ่มนูนหรือซีสต์บริเวณจุดที่เย็บ ซึ่งบางรายอาจต้องแก้ไข
- ไม่สามารถทำชั้นตาใหญ่หรือคมชัดมากได้ โดยเฉพาะในคนที่ผิวเปลือกตาหนา หรือมีไขมันเยอะ
- เสี่ยงชั้นตาไม่เท่ากัน หากแรงเย็บหรือการผูกไหมไม่สมดุล
- เอาไขมันออกได้น้อย ทำให้ข้อจำกัดมากกว่าวิธีกรีดสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาไขมันหรือหนังตาตก
เย็บตาสามจุด ต่างจากเทคนิคอื่นอย่างไร
เทคนิคเย็บตา 3 จุด VS เทคนิคกรีดสั้น VS เทคนิคกรีดยาว ต่างก็มีความเหมาะสมกับสภาพผิว ปัญหา ลักษณะของชั้นตา และความต้องการของแต่ละคนที่ต่างกันออกไป โดยความแตกต่างกันดังนี้
เทคนิคเย็บ 3 จุด VS เทคนิคกรีดสั้น
เทคนิคทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้น จะเป็นการกรีดแผลบริเวณกลางเปลือกตา โดยมีขนาดของแผลอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 2 เซนติเมตร สามารถช่วยแก้ปัญหาหนังตาตกในระดับน้อย มีไขมันเปลือกตาน้อย ไม่อยากพักฟื้นนาน ซึ่งแตกต่างจากเทคนิคเย็บตาสามจุดตรงที่พักฟื้นน้อยกว่าและเหมาะกับคนที่เปลือกตาบาง ไม่มีไขมันสะสม
เทคนิคเย็บ 3 จุด VS เทคนิคกรีดยาว
เทคนิคทำตาสองชั้นแบบกรีดยาว จะเป็นการกรีดแผลตลอดแนวชั้นตาตั้งแต่บริเวณหัวตายาวไปจนถึงบริเวณหางตา สามารถแก้ปัญหาโครงสร้างตาได้ค่อนข้างเยอะ แก้ปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรง หนังตาตก หางตาตก เปลือกตาหนาหรือมีไขมันค่อนข้างเยอะ ปรับรูปตาให้ยาวขึ้น ชั้นตาชัด ตาโตสดใส ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่างจากการทำตาสองชั้นแบบเย็บ 3 จุด ที่จะเป็นการเย็บผิวบริเวณเปลือกตาเพื่อให้เกิดชั้นตา แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างภายในชั้นผิวได้ ทำให้ได้ผลลัพธ์คงอยู่ชั่วคราวมีโอกาสที่ชั้นตาจะหลุดได้มากกว่าในอนาคต
สำหรับศัลยกรรมตาสองชั้นยังมีเทคนิค Sakura eyes ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของ Vincent Clinic ที่จะช่วยให้ได้ชั้นตาละมุนสวย รับกับโครงสร้างใบหน้า ดวงตาโตสดใสมีมิติมากขึ้น ช่วยเสริมให้แลดูอ่อนเยาว์ ลดอาการบวม สามารถฟื้นตัวได้เร็ว
เย็บตาสามจุด ราคาเท่าไร?
ทำตาสองชั้นแบบเย็บตา 3 จุด ราคาอยู่ที่ประมาณ 15,000 – 40,000 บาท ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระดับความรุนแรงของปัญหา สภาพผิว โครงสร้างดวงตา เทคนิคที่ใช้ ประสบการณ์ของแพทย์ และโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกที่แตกต่างกัน แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับจักษุแพทย์โดยตรงเพื่อให้ได้รับรายละเอียดที่ถูกต้องเหมาะสมกับแต่ละรายบุคคล
สามารถดูราคาทำตาสองชั้นเพิ่มเติมได้ที่ : โปรโมชั่นทำตาสองชั้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเย็บตา 3 จุด (FAQ)
เพื่อให้เข้าใจการทำตาสองชั้นด้วยเทคนิคเย็บตาสามจุดมากขึ้น ในเนื้อหาต่อไปนี้จึงได้รวบรวมเอาคำถามที่พบบ่อยและคำตอบที่จะช่วยคลายความสงสัยและสามารถใช้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการตัดสินใจ
Q: ทำตาสองชั้นด้วยเทคนิคเย็บตา 3 จุด อยู่ได้ถาวรไหม?
A: ผลลัพธ์หลังทำตาสองชั้นแบบเย็บตา 3 จุด ไม่คงอยู่ถาวร เนื่องจากเป็นการเย็บไหมคล้องกับชั้นตาเท่านั้น เมื่อระยะเวลาผ่านไปไหมที่เย็บไว้จะค่อย ๆ เลื่อนหรือจมลงสู่เนื้อเยื่อบริเวณเปลือกตา ส่งผลทำให้ชั้นตาเลื่อนหลุดได้ เป็นการทำตาสองชั้นแบบชั่วคราว
Q: เย็บตา 3 จุด จะเป็นพังผืดที่ตาไหม?
A: การเย็บตาสามจุดเป็นการทำตาสองชั้นแบบชั่วคราว จึงไม่ทำให้เกิดพังผืดในระยะยาว เพราะไม่มีการกรีดแผลขนาดยาวเหมือนเทคนิคอื่น ๆ ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณเปลือกตาถูกรบกวนน้อย ปัจจัยที่จะกระตุ้นให้เกิดพังผืดที่ชั้นตาจึงน้อยตามไปด้วย
Q: เทคนิคเย็บสามจุดแก้ปัญหาตาตกได้ไหม?
A: ทำตาสองชั้นด้วยเทคนิคเย็บตาสามจุด ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาตาตกได้ เพราะไม่มีการเข้าไปจัดเรียงโครงสร้างชั้นผิวหรือชั้นไขมัน รวมไปถึงไม่สามารถเข้าไปจัดการปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้เหมือนการใช้เทคนิคกรีดยาว
Q: ต้องพักฟื้นกี่วันหลังจากเย็บตาสามจุด?
A: หลังทำศัลยกรรมตาสองชั้นด้วยเทคนิคเย็บตา 3 จุด จะใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นที่ค่อนข้างน้อยกว่าเทคนิคอื่น ๆ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 3 – 5 วัน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำ สภาพผิว และการฟื้นฟูร่างกายของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป
Q: วิธีดูแลหลังทำตาเทคนิคเย็บ 3 จุด
A: วิธีดูแลตัวเองหลังทำตาสองชั้นแบบเย็บตา 3 จุด ในช่วง 2 – 3 วันแรกสามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมให้ยุบไวขึ้น ควรนอนหงายและยกศีรษะให้สูงขึ้นเพื่อช่วยให้อาการบวมที่เปลือกตาหายไวขึ้น ไม่ทำให้รอยเย็บตาถูกกระทบกระเทือน ทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอด้วยสำลีชุบน้ำเกลือ ทาขี้ผึ้งฆ่าเชื้อและรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบ รวมไปถึงเข้าพบแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้งเพื่อติดตามผลการรักษา
สรุป
เย็บตา 3 จุด เป็นเทคนิคในการทำตาสองชั้นด้วยการเย็บจึงทำให้ได้ชั้นตาที่เป็นธรรมชาติ ชั้นตาไม่ใหญ่มากเกินไป เมื่อระยะเวลาผ่านไปไหมที่เย็บไว้จะค่อย ๆ คลายตัวลงหรือจมเข้าไปในเนื้อเยื่อทำให้ชั้นตาหลุด เหมาะกับคนที่โครงสร้างตาค่อนข้างดีหรือมีปัญหาน้อยไม่ต้องแก้ไขเยอะ เปลือกตาบางไม่มีไขมัน แต่ในกรณีของคนที่เปลือกตาหนา หนังตาตก ต้องการชั้นตาที่ชัด หรือต้องการปรับรูปทรงตาให้ได้สัดส่วนรับกับใบหน้ามากขึ้น ควรเลือกใช้เทคนิคอื่นซึ่งสามารถตอบโจทย์ได้มากกว่า สำหรับใครที่ต้องการทำตาสองชั้น ต้องการปรับลุค เปลี่ยนบุคลิกให้ดูดีขึ้น แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อรับการประเมินปัญหา วิเคราะห์โครงสร้างตา วิเคราะห์โครงหน้า และออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล