รูปตาสวยคม ดวงตามีมิติ ด้วยการดึงหางตาให้ดูเฉี่ยวขึ้น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่อยากปรับลุคให้มีความสายฝอมากขึ้น รูปทรงตามีความยาวขึ้น ช่วยยกหางตาเชิดขึ้นในตำแหน่งที่เหมาะสม เปิดดวงตาสดใส ช่วยเปลี่ยนบุคลิกได้อย่างเห็นผลชัดเจน
สำหรับคนที่มีความสงสัยเกี่ยวกับการดึงบริเวณหางตาให้มีความเฉี่ยวขึ้นทำอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง มีด้วยกันกี่เทคนิค อยู่ได้นานไหม หลังทำมีผลข้างเคียงหรือไม่ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากข้อมูลต่อไปนี้
ดึงหางตา คืออะไร? แตกต่างจากการเปิดหางตาอย่างไร
ดึงหางตาให้ตาดูเฉี่ยวขึ้น คือ เทคนิคทางการแพทย์ที่สามารถช่วยดึงชั้นผิวบริเวณหางตาและหางคิ้วให้ยกขึ้น ช่วยปรับรูปทรงตาให้มีความเฉี่ยวคม ช่วยดึงให้ผิวช่วงหางตาที่มีความหย่อนคล้อยมีความตึงกระชับ ริ้วรอยหรือตีนกาบริเวณหางตาลดลง ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ สามารถทำได้ทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหา สภาพผิว ความต้องการของคนไข้ เป็นต้น ซึ่งแพทย์จะประเมินและเลือกวิธีที่เหมาะสมกับแต่ละคนมากที่สุด ซึ่งแตกต่างจากการ เปิดหางตา ที่จะเน้นในเรื่องของการขยายพื้นที่บริเวณช่วงหางตาให้กว้างขึ้น ทรงตามีความยาวมากขึ้น
ดึงหางตาให้ตาดูเฉี่ยวขึ้น เหมาะกับใคร?
สำหรับการดึงหางตา เป็นเทคนิคที่ช่วยยกให้หางตาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ทั้งยังช่วยแก้ปัญหาบริเวณหางตาได้อย่างเห็นผล จึงเป็นวิธีที่เหมาะสมกับคนที่มีความต้องการหรือมีปัญหาดังนี้
- เหมาะกับคนที่อยากปรับลุคเป็นสายฝอ ดวงตาเฉี่ยวคม ดูเซ็กซี่ขึ้น
- เหมาะกับคนที่หางตาตก หางคิ้วตก
- เหมาะกับผู้ที่เคยทำ ตาสองชั้น แล้วต้องการให้รูปตาชัดและเฉี่ยวขึ้น
- เหมาะกับคนที่ผิวบริเวณหางตาหย่อนคล้อย ต้องการยกกระชับ
- เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยหรือรอยตีนกาบริเวณหางตา
- เหมาะกับคนที่หางตาไม่เท่ากัน
- เหมาะกับคนที่ตาดูเศร้าหรือตาปรือดูง่วงตลอดเวลา
เทคนิคดึงหางตามีกี่แบบ? ต่างกันอย่างไร
ในส่วนของเทคนิคที่ใช้ดึงหางตาให้ตาดูเฉี่ยวขึ้น มีด้วยกันหลายวิธี โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินระดับของปัญหาประกอบกับความต้องการของคนไข้ เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมมากที่สุด โดยมีวิธีที่นิยมใช้กันดังต่อไปนี้
เครื่องยกกระชับ
เทคนิคนี้แพทย์จะเลือกใช้คลื่นพลังงานต่าง ๆ เข้ามาช่วยยกกระชับผิวบริเวณหางตา ช่วยแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่งแต่ไม่เท่ากันการผ่าตัด ผลลัพธ์ไม่ถาวรอาจจะต้องกลับเข้ามาทำซ้ำเพื่อให้หางตายังคงยกขึ้นอยู่เสมอ ความถี่ในการทำนั้นขึ้นอยู่กับคลื่นพลังงานที่ใช้รักษา สภาพผิวของคนไข้ และความรุนแรงของปัญหา ซึ่งเครื่องยกกระชับที่ได้รับความนิยมเลือกใช้ ได้แก่ Ulthera SPT, Thermage FLX, Ultraformer MPT เป็นต้น
ร้อยไหมดึงหางตา
การร้อยไหม คือการใช้ไหมละลายสำหรับยกกระชับที่มีเงี่ยงอยู่ตามตัวเส้นไหม ร้อยเข้าไปใช้ชั้นผิวเพื่อเกี่ยวดึงชั้นผิวบริเวณนั้นให้ยกขึ้นในตำแหน่งที่ต้องการ โดยเส้นไหมจะค่อย ๆ สลายไปในช่วง 4 – 5 เดือน หากต้องการให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานต้องกลับมาร้อยไหมซ้ำอีก
การดึงหางตาผ่านแผลในแนวผม (Temporal Lift)
เป็นเทคนิคที่แพทย์ผ่าตัดเปิดแผลเล็ก ๆ ซ่อนอยู่บริเวณแนวไรผมด้านข้างศีรษะ แล้วทำการยกหางตาและหางคิ้วขึ้นพร้อมกัน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณหางตาและหางคิ้วร่วมกัน
การเย็บยกหางตา (Canthopexy)
เป็นการเย็บเส้นเอ็นหางตาให้กระชับและเชิดขึ้น โดยไม่ตัดผิวหนังหรือกล้ามเนื้อ วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่ยังไม่มีความหย่อนคล้อยมาก แต่ต้องการปรับมุมหางตาให้ดูเฉียบคมขึ้น เทคนิคนี้มีข้อดีที่ไม่ต้องผ่าตัดลึก ไม่ต้องตัดผิวหนัง เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว เหมาะกับผู้ที่อยากเปลี่ยนลุคแบบธรรมชาติ
การดึงหางตาแบบ Foxy Eyes (Foxy Eyes Surgery)
เทคนิคนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ได้ลุคตาเฉี่ยวแบบสายฝอ โดยใช้การผสมผสานหลายวิธี เช่น การผ่าตัดดึงหางตาร่วมกับการร้อยไหม หรือการยกคิ้ว เพื่อสร้างผลลัพธ์ให้หางตาเชิดขึ้นในองศาที่เหมาะสม และเกิดมิติที่ชัดเจน ข้อดีคือได้ลุค Foxy Eyes ที่กำลังเป็นเทรนด์ ปรับรูปตาให้ดูยาว คม โฉบเฉี่ยวแบบสายฝอ สามารถปรับระดับความเฉี่ยวได้ตามต้องการ
การผ่าตัดดึงหางตา (Lateral Canthoplasty หรือ Temporal Lift)
ผ่าตัดดึงหางตา เป็นการใช้เทคนิคในการผ่าตัดเข้าไปดึงกล้ามเนื้อที่ดึงรั้งบริเวณหางตาขึ้นมาเย็บไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม ทั้งยังสามารถยกกระชับผิวเพื่อแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยหรือริ้วรอยบริเวณหางตาได้อีกด้วย ซึ่งเป็นการศัลยกรรมเพื่อปรับรูปทรงหางตาให้ยกขึ้น ช่วยให้ดวงตาดูเรียวยาว คมชัด และเฉี่ยวขึ้น โดยมักทำเพื่อแก้ปัญหาหางตาตกตามวัย หรือเพื่อปรับบุคลิกให้ดูสดใสมีเสน่ห์มากขึ้น เหมาะกับคนที่มีปัญหาค่อนข้างเยอะหรือต้องการผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้นาน ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานหลายปีโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5 – 10 ปี ขึ้นอยู่กับการเสื่อมสภาพของผิวหนังคนไข้แต่ละคนที่ไม่เท่ากันและปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย
ขั้นตอนการผ่าตัดดึงหางตาให้ตาดูเฉี่ยวขึ้น
ขั้นตอนในการดึงหางตา มีลักษณะที่คล้ายกับการดึงหน้า เนื่องจากเป็นการใช้เทคนิคผ่าตัดเข้าไปยกกล้ามเนื้อที่ดึงรั้งบริเวณหางตาขึ้นมาในตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งสามารถทำร่วมกับการดึงหน้าไปในครั้งเดียวได้อีกด้วย โดยมีขั้นตอนของการผ่าตัดเพื่อดึงบริเวณหางตาขึ้นดังนี้
- เข้าพบแพทย์เพื่อรับการประเมินและออกแบบทรงตาที่ต้องการ วางตำแหน่งระดับหางตาที่ต้องการยก กำหนดจุดที่จะทำการเปิดแผล
- หลังจากแพทย์กำหนดตำแหน่งในการรักษาแล้วจะมีการใช้ยาชาเฉพาะจุดหรือยาสลบ ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้และดุลยพินิจของแพทย์ที่จะเลือกใช้ให้เหมาะกับแต่ละคน
- หลังจากยาชา/ยาสลบออกฤทธิ์ แพทย์จะเปิดแผลบริเวณหนังศีรษะหลังไรผม เพื่อเข้าไปยกชั้นกล้ามเนื้อที่ดึงบริเวณหางตาขึ้นมาเย็บไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม ตัดแต่งผิวหนังส่วนเกิน และทำการเย็บปิดแผลซ่อนไว้หลังไรผม
- หลังทำสามารถกลับบ้านได้ ในกรณีที่ใช้ยาสลบอาจจะเฝ้าดูอาการประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง ให้แน่ใจว่าหมดฤทธิ์แล้ว ก็สามารถกลับบ้านได้ แนะนำให้มีญาติรอรับกลับจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
ดึงหางตาอยู่ได้นานไหม? ต้องทำซ้ำหรือไม่
ผลลัพธ์หลังผ่าตัดดึงหางตา สามารถอยู่ได้นานประมาณ 5 – 10 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิว การเสื่อมลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น การดูแลตัวเองหลังทำ พฤติกรรมการใช้ชีวิต และปัจจัยอื่น ๆ ของคนไข้ที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งสามารถกระทบต่อความคงทนของผลลัพธ์ได้เช่นกัน ในระหว่างที่ผลลัพธ์ยังคงอยู่สามารถทำหัตถการอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานยิ่งขึ้น
ดึงหางตามีผลข้างเคียงไหม?
หลังดึงหางตาให้ตาดูเฉี่ยวขึ้น อาจเกิดอาการบางอย่างซึ่งเป็นเรื่องปกติที่พบได้จากการผ่าตัด รวมไปถึงอาจมีความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนี้
- อาการบวมช้ำ เป็นอาการปกติที่สามารถพบได้หลังการผ่าตัด เนื่องจากเนื้อเยื่อถูกปรับแต่ง แก้ไข และได้รับการกระทบกระเทือน ซึ่งจะหายไปได้เองตามความเร็วของการฟื้นตัวของร่างกายคนไข้ที่ไม่เท่ากัน โดยปกติจะหายไปได้เองประมาณ 3 – 5 วัน
- หางตาไม่เท่ากัน อาจเกิดขึ้นจากแพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอ จึงวางตำแหน่งในการยกกล้ามเนื้อทั้งสองข้างคลาดเคลื่อน เย็บกล้ามเนื้อผิดตำแหน่ง เป็นต้น
- รูปตาไม่เป็นธรรมชาติ อาการนี้อาจเกิดขึ้นได้หากผ่าตัดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ไม่เข้าใจเทคนิคในการผ่าตัดมากพอ ทำให้อาจดึงกล้ามเนื้อมากเกินไปทำให้ตาไม่เป็นธรรมชาติได้
ดึงหางตาต่างจาก Foxy Eyes อย่างไร?
หลายคนอาจสับสนระหว่างการทำ Foxy Eyes กับการดึงหางตา เพราะดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว Foxy Eyes ไม่ใช่ชื่อของหัตถการ แต่คือ ลุคหรือผลลัพธ์ที่ได้ จากการใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อยกหางตาให้เฉี่ยว เชิด ดูมีเสน่ห์และโฉบเฉี่ยวมากขึ้นตามเทรนด์ความงามที่ได้รับความนิยม
หนึ่งในเทคนิคที่ใช้เพื่อให้ได้ลุค Foxy Eyes คือ การดึงหางตา ซึ่งเป็นหัตถการทางศัลยกรรมที่แพทย์อาจเลือกใช้ร่วมกับวิธีอื่น เช่น การเย็บยกหางตาชั่วคราว, การดึงผ่านแผลในแนวไรผม (Temporal Lift) หรือแม้กระทั่งการใช้ไหมละลายหรือเทคนิค non-surgical ในบางราย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับความหย่อนคล้อยของผิว อายุ และโครงสร้างรอบดวงตาของแต่ละคน
กล่าวอีกนัยหนึ่ง Foxy Eyes คือผลลัพธ์ที่ต้องการ ส่วนการดึงหางตาคือวิธีที่ใช้ ซึ่งแพทย์จะเลือกวิธีการที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและเข้ากับรูปหน้าของแต่ละบุคคลมากที่สุด
ดึงหางตาให้ตาดูเฉี่ยวขึ้น ราคาเท่าไหร่?
สำหรับราคาค่าบริการดึงหางตาจะขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ ระดับความรุนแรงของปัญหา สภาพผิว ความต้องการของคนไข้ และประสบการณ์ของแพทย์ เป็นต้น โดยราคาค่าผ่าตัดดึงบริเวณหางตานั้นจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 – 80,000 บาท
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับดึงหางตาให้ตาดูเฉี่ยวขึ้น
สำหรับคนที่ยังสงสัยเกี่ยวกับการดึงหางตาเพิ่มเติม ในบทความนี้ได้รวบรวมเอาคำถามที่พบบ่อยมาไว้ให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ดังนี้
Q: ผ่าตัดดึงหางตาเจ็บไหม? ต้องดมยาสลบหรือไม่?
A: สำหรับการดึงหางตาจะมีการใช้ยาชาหรือยาสลบร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา จึงทำให้คนไข้ไม่เจ็บ ผ่อนคลายระหว่างทำการผ่าตัด
Q: ต้องพักฟื้นกี่วันหลังดึงหางตา?
A: หลังการผ่าตัดดึงหางตาอาจเกิดอาการบวมช้ำขึ้นได้ซึ่งจะหายไปได้เองในช่วงระยะเวลาประมาณ 3 – 5 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการฟื้นฟูตัวเองของคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกัน โดยรอยแผลและอาการต่าง ๆ จะดีขึ้นภายใน 1 – 2 สัปดาห์หลังทำ
Q: ดึงหางตาทำให้รูปตาเปลี่ยนถาวรไหม?
A: การดึงหางตาสามารถทำให้รูปตาเปลี่ยนได้จริง แต่ระยะเวลาจะคงอยู่ประมาณ 5 – 10 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิว การดูแลตัวเองหลังทำ อายุที่เพิ่มมากขึ้น พฤติกรรมการใช้ชีวิต และปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลทำให้เกิดความหย่อนคล้อย ซึ่งในระหว่างที่ผลลัพธ์ยังคงดีอยู่สามารถเลือกทำหัตถการยกกระชับใบหน้าร่วมด้วยได้ จะช่วยยืดระยะเวลาของผลลัพธ์ให้นานยิ่งขึ้น หรือหากว่าผ่านไปหลายจนความหย่อนคล้อยกลับมา สามารถทำซ้ำได้
Q: ดึงหางตาแล้วตาไม่เท่ากันเกิดจากอะไร? แก้ไขได้หรือไม่?
A: ปัญหาตาไม่เท่ากันหลังดึงหางตา อาจเกิดขึ้นได้จากแพทย์ผู้ผ่าตัดไม่มีประสบการณ์มากพอ ทำให้การกำหนดตำแหน่งที่จะเย็บคลาดเคลื่อน ดึงกล้ามเนื้อมากเกินไป เป็นต้น สามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดปรับตำแหน่งใหม่หลังจากแผลหายดีแล้วประมาณ 3 – 6 เดือน
สรุป
ศัลยกรรมดึงหางตา ทางเลือกของคนที่มีปัญหาตาหนังตาตก คิ้วตก บริเวณหางตามีความหย่อนคล้อย มีตีนกาหรือริ้วรอยเยอะ ช่วยให้ดวงตามีความโฉบเฉี่ยว หางตาเชิดสวย เพิ่มความเซ็กซี่น่าดึงดูด สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้หลังทำ (ขึ้นอยู่กับรายบุคคล) สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับหางตาตก มีความหย่อนคล้อย ริ้วรอยเยอะ หรือต้องการปรับรูปทรงตาให้ดูดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดึงหางตาหรือการทำ ศัลยกรรมตาโต แนะนำให้เข้ามาปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อให้ทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ช่วยประเมินปัญหา วิเคราะห์โครงหน้า และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะกับคนไข้แต่ละคนมากที่สุด