เทคนิคดึงหน้า MACS Lift เป็นหนึ่งในวิธียกกระชับใบหน้าแบบแผลเล็กที่ได้รับความนิยม เพราะช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ โดยไม่ต้องเปิดแผลขนาดใหญ่ ฟื้นตัวเร็ว เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน สำหรับใครที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยและกำลังมองหาวิธียกกระชับปรับรูปหน้าอย่างเห็นผล แนะนำให้อ่านรายละเอียดจากเนื้อหาต่อไปนี้ที่ Vincent Clinic Plastic Surgery ได้รวบรวมมาให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคนี้คืออะไร เหมาะกับใครบ้าง หลังทำมีผลข้างเคียงอะไรไหม มีข้อจำกัดหรือข้อควรรู้อะไรบ้างก่อนตัดสินใจเลือกทำ
Key Takeaways
- MACS Lift คือการดึงหน้าเฉพาะจุดแบบแผลเล็ก เน้นแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยบริเวณใบหน้าส่วนกลาง ตั้งแต่ขมับลงมาถึงแก้มและคางเล็กน้อย โดยสามารถยกถึงชั้น SMAS ทำให้ใบหน้ายกกระชับและดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- MACS Lift เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อยระดับน้อยถึงปานกลาง มีร่องแก้มลึก กรอบหน้าไม่ชัด หรือแก้มห้อยย้อย แต่ยังไม่ถึงขั้นจำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่แบบ Full Facelift
- ผู้ที่เคยทำหัตถการยกกระชับอื่น ๆ เช่น ร้อยไหม หรือเครื่องยกกระชับแล้วไม่ได้ผลชัด สามารถเลือกทำ MACS Lift เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นานกว่า
- ข้อดีของการดึงหน้า MACS Lift คือมีแผลขนาดเล็ก ฟื้นตัวเร็ว แผลซ่อนแนวไรผมหรือขอบใบหู ทำให้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ สามารถใช้ชีวิตปกติได้ภายใน 5 – 7 วัน
- ผลลัพธ์ของ MACS Lift อยู่ได้เฉลี่ย 5 – 10 ปี ขึ้นกับอายุ สภาพผิว และการดูแลตัวเองหลังทำ โดยในอนาคตหากผิวหย่อนคล้อยอีกสามารถทำซ้ำได้
- เทคนิค MACS Lift ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก ผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรง ควบคุมไม่ได้ มีการติดเชื้อในบริเวณที่จะผ่าตัด หรือผู้ที่มีความคาดหวังเกินจริง
- เมื่อเทียบกับการดึงหน้าแบบอื่น เทคนิค MACS Lift จะเป็นตัวเลือกตรงกลางที่ตอบโจทย์คนอายุ 35 – 55 ปี ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยปานกลาง ต้องการผลที่ชัดเจน ฟื้นตัวไว และไม่ต้องผ่าตัดใหญ่
ดึงหน้า MACS Lift คืออะไร?
ดึงหน้า MACS Lift คือ เทคนิค ดึงหน้า เฉพาะจุดแบบแผลเล็ก ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้าส่วนกลาง (Midface) ในบริเวณขมับยาวลงมาถึงบริเวณแก้มช่วงล่าง รวมถึงบริเวณคางเล็กน้อย ซึ่งสามารถเข้าไปดึงผิวได้ลึกถึงชั้น SMAS ช่วยให้ใบหน้ายกกระชับ แลดูอ่อนเยาว์ แก้ปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยในระดับปานกลางได้ดี
MACS Lift เหมาะกับใคร?
MACS Lift เป็นการดึงหน้าเฉพาะจุดที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่หรือกรีดรอยแผลยาว ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีปัญหาและความต้องการดังนี้
- ผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อยไม่มากไปจนถึงระดับปานกลาง ส่งผลกระทบทำให้ใบหน้าโดยรวมดูแก่กว่าวัย
- ผู้ที่มีร่องแก้มลึก กรอบหน้าไม่ชัด หรือมีปัญหาแก้มห้อยย้อย ทำให้หน้าเสียสมดุล
- ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยแต่ยังไม่พร้อมทำศัลยกรรมดึงหน้าแบบ Full Facelift
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าและยกกระชับให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- ผู้ที่ใช้หัตถการยกกระชับแบบอื่น ๆ แล้วไม่เห็นผลหรืออาจจะเห็นผลลัพธ์น้อยลง เช่น เครื่องยกกระชับ ร้อยไหม เป็นต้น
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์คงอยู่ยาวนานมากกว่าการยกกระชับแบบไม่ผ่าตัด
เทคนิคดึงหน้า MACS Lift ไม่เหมาะกับใคร
แม้ MACS Lift จะเป็นเทคนิคดึงหน้าที่มีแผลเล็ก ฟื้นตัวไว และให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับวิธีนี้ จึงทำให้ในบางกรณีไม่สามารถทำเทคนิคนี้ได้ แพทย์อาจจะพิจารณาเลือกวิธีการอื่นที่ตอบโจทย์มากกว่า โดยกลุ่มคนที่ไม่เหมาะกับเทคนิคดึงหน้าแบบนี้ ได้แก่
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยค่อนข้างมาก ซึ่งการดึงหน้าชนิดนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์ หรือทำแล้วเห็นผลน้อย
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่อยู่ในระดับรุนแรงจนควบคุมไม่ได้ เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรือโรคที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด เป็นต้น
- ผู้ที่มีอาการติดเชื้อหรือมีแผลอักเสบในบริเวณที่จะทำการผ่าตัด อาจจะต้องรอให้อาการเหล่านี้หายดีก่อน
- ผู้ที่มีความคาดหวังต่อผลลัพธ์เกินความเป็นจริง หรือต้องการให้ใบหน้าเกิดการเปลี่ยนแปลงมากๆ
- ไม่เหมาะกับคนที่มีประวัติเป็นคีลอยด์หรือเคยมีรอยแผลเป็นนูนใหญ่ แนะนำให้แจ้งแพทย์ก่อนรับบริการ เพื่อให้แพทย์วางแผนการรักษาที่เหมาะสม
ดึงหน้าแบบ MACS Lift อันตรายไหม?
การดึงหน้าแบบ MACS Lift เป็นการผ่าตัดที่มีความปลอดภัยหากอยู่ภายใต้การดูแลโดยศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ถนัดเทคนิคการดึงหน้า ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย มีห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดเชื้อ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องของภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมไปถึงหลังทำควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสเกิดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงให้น้อยลง ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีและปลอดภัย

หลังทำ MACS Lift มีผลข้างเคียงไหม?
สำหรับการทำ MACS Lift อาจมีผลข้างเคียงบางอย่างเกิดขึ้นได้บ้างเล็กน้อยซึ่งเป็นอาการปกติที่สามารถพบได้ เช่น อาการบวมช้ำ รู้สึกปวดตึง หรือเจ็บที่บริเวณแผลผ่าตัดและบริเวณใบหน้าที่ถูกดึงในช่วงแรก แต่จะค่อย ๆ ไปได้เองในช่วงประมาณ 2 – 3 สัปดาห์หลังทำ และผลลัพธ์จะเริ่มเข้าที่ภายในช่วง 3 เดือน
ก่อนทำ MACS Lift ควรเตรียมตัวอย่างไร?
การเตรียมตัวก่อนทำ MACS Lift เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น โดยสามารถเตรียมตัวก่อนทำได้ดังนี้
- ปรึกษาแพทย์เพื่อรับการประเมินปัญหา วิเคราะห์โครงหน้า และเลือกเทคนิคที่เหมาะสม เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลสำหรับวางแผนการรักษาที่ตอบโจทย์คนไข้แต่ละคนมากที่สุด
- หากมีประวัติแพ้ยา มีโรคประจำตัว หรือยาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ก่อนรับบริการ
- ตรวจสุขภาพอย่างละเอียด เพื่อยืนยันความพร้อมของร่างกายและลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1–2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพราะจะทำให้แผลหายช้า และร่างกายฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่
- งดอาหารเสริม วิตามิน สมุนไพร หรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามินอี โสม เป็นต้น
- พักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนเข้ารับบริการ เพื่อให้ร่างกายพร้อมเต็มที่สำหรับการผ่าตัด
ขั้นตอนการทำ MACS Lift
การทำ MACS Lift เป็นการดึงหน้าเฉพาะจุดด้วยเทคนิคแผลเล็กที่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีความเข้าใจเทคนิคการดึงหน้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดี ใบหน้ายกกระชับเต่งตึงอย่างเป็นธรรมชาติ โดยมีลำดับขั้นตอนในการผ่าตัด ดังนี้
- แพทย์ออกแบบใบหน้าและวางแผนการรักษา โดยกำหนดจุดที่จะทำการผ่าตัดให้เหมาะกับโครงหน้าและปัญหาของคนไข้
- ทำความสะอาดบริเวณใบหน้าและตำแหน่งที่จะทำการผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อให้น้อยลง
- แพทย์ฉีดยาชาเฉพาะจุด หรือใช้ยาสลบโดย วิสัญญีแพทย์ ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้และการประเมินโดยแพทย์ เพื่อไม่ให้รู้สึกเจ็บระหว่างทำ
- แพทย์เปิดแผลขนาดเล็กบริเวณด้านหน้าหู เพื่อสอดเครื่องมือเข้าไปดึงและยึดเนื้อเยื่อชั้น SMAS ขึ้นมาขึงไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม
- จัดเรียงชั้นผิวและตัดผิวหนังส่วนเกิน เพื่อให้ผิวเรียบตึงและได้ใบหน้าที่กระชับเป็นธรรมชาติ
- หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดแพทย์จะเย็บแผลซ่อนไว้ตามไรผม จอนผม หรือตามขอบด้านหน้าใบหู และใส่ผ้ารัดยกกระชับ
- ในกรณีของคนที่ใช้ยาสลบ เมื่อฤทธิ์ยาหมดแล้วสามารถกลับบ้านได้

เทคนิค MACS Lift ต่างจากการดึงหน้าแบบอื่นอย่างไร?
นอกจากเทคนิค MACS Lift ยังมีการดึงหน้าด้วยเทคนิคอื่นๆ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการและแก้ปัญหาที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละรายบุคคล ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายด้าน ทั้งเรื่องของผลลัพธ์ ขั้นตอนการทำ และตำแหน่งที่ทำ เป็นต้น โดยมีรายละเอียดของแต่ละเทคนิค ดังนี้
เทคนิคดึงหน้า Mini Facelift
ดึงหน้าด้วยเทคนิค Mini Facelift เป็นการผ่าตัดเพื่อยกกระชับเฉพาะจุดที่มีแผลขนาดเล็ก โดยนิยมทำในบริเวณช่วงขมับ คิ้ว หางตา ลงมาถึงเพียงบริเวณแก้มช่วงบน เหมาะกับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย ต้องการจัดการปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ
เทคนิคดึงหน้า MACS Lift
เทคนิคดึงหน้าแบบ MACS Lift เป็นเทคนิคดึงหน้าที่มีแผลเล็ก ยกกระชับเฉพาะจุด ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยบริเวณหน้าส่วนกลาง ตั้งแต่ช่วงขมับยาวลงมาถึงบริเวณแก้มช่วงล่างรวมถึงคางเล็กน้อย ซึ่งสามารถเข้าไปดึงผิวได้ถึงชั้น SMAS ช่วยให้ใบหน้ายกกระชับ แลดูอ่อนเยาว์ลง เหมาะกับคนที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยระดับปานกลาง
เทคนิคดึงหน้า Full Facelift
เทคนิคดึงหน้าแบบ Full Facelift เป็นการดึงหน้าที่ครอบคลุมทั่วทั้งใบหน้า ตั้งแต่หน้าผากจนถึงกรอบหน้าช่วงล่างและสามารถดึงลำคอได้ด้วย ซึ่งวิธีการนี้แผลจะมีขนาดค่อนข้างยาวแต่แพทย์จะซ่อนเอาไว้ตามแนวไรผมหรือหลังใบหู ซึ่งเป็นจุดที่สังเกตเห็นได้ยาก หากดูแลอย่างเคร่งครัดตามแพทย์แนะนำแผลจะจางลงจนมองแทบไม่เห็น เหมาะกับคนที่มีความหย่อนคล้อยค่อนข้างเยอะ ยกกระชับได้ถึงชั้น SMAS
เทคนิคดึงหน้า Deep Plane Facelift
เทคนิคดึงหน้าแบบ Deep Plane Facelift เป็นการผ่าตัดยกกระชับใบหน้าในระดับลึก โดยจะเข้าไปยกกระชับลึกกว่าชั้น SMAS บริเวณเส้นเอ็นที่ยึดระหว่างกระดูกกับเนื้อเยื่อด้านบนเอาไว้ ทำให้แพทย์สามารถจัดเรียงใบหน้าได้อย่างอิสระ แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยหนัก ๆ ที่การแก้ไขเพียงชั้น SMAS อย่างเดียวไม่เพียงพอ ซึ่งต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงและมีความเข้าใจเทคนิคนี้เป็นอย่างมาก
การดูแลหลังทำ MACS Lift
การดูแลตัวเองหลังทำ MACS Lift เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน และช่วยให้ผลลัพธ์จากการดึงหน้าเข้าที่ได้ไวขึ้น แนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนี้
- ควรประคบเย็นในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังทำ เพื่อช่วยลดอาการบวมให้ยุบไวขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส กด หรือบีบหน้าแรง ๆ ในช่วง 2 – 3 สัปดาห์แรก เพื่อป้องกันไม่ให้ใบหน้าและแผลผ่าตัดได้รับการกระทบกระเทือน
- ควรนอนหงายและยกศีรษะสูงอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด เพื่อลดอาการบวมให้น้อยลงและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก หรือกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากในช่วง 4 – 6 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด
- ควรรับประทานอาหารอ่อน เคี้ยวง่าย ไม่ต้องออกแรงเยอะในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เพื่อให้กล้ามเนื้อใบหน้าเคลื่อนไหวน้อยที่สุด เพราะอาจส่งผลกระทบต่อรอยแผลผ่าตัดและการเข้าที่ของผลลัพธ์
- ควรทำความสะอาดแผลผ่าตัดอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ควรใส่ผ้ารัดหน้าเพื่อยกกระชับในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังทำ ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อช่วยให้ผลลัพธ์เข้าที่เร็ว ยุบบวมไว
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบและมาพบแพทย์ตามกำหนด
- หากพบอาการผิดปกติควรเข้าพบแพทย์ทันที
หลังดึงหน้า MACS Lift กี่วันเห็นผล? ผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม?
หลังจากทำการดึงหน้า MACS Lift จะเกิดอาการบวมและค่อยๆ ดีขึ้นในช่วง 1 – 2 สัปดาห์ โดยจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ที่ดีขึ้นประมาณ 3 – 6 เดือนหลังทำ โดยสามารถคงอยู่ได้ประมาณ 5 – 10 ปี ขึ้นอยู่กับอายุที่เพิ่มขึ้น การดูแลตัวเองหลังทำ และสภาพผิวในแต่ละคนที่แตกต่างกัน
ราคาของการดึงหน้าแบบ MACS Lift อยู่ที่เท่าไหร่?
ราคาของการดึงหน้าแบบ MACS Lift มีด้วยกันหลากหลายราคาขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ความซับซ้อนของปัญหา เทคนิคที่ใช้ ความต้องการของคนไข้ และประสบการณ์ของแพทย์ โดยดึงหน้าแบบ MACS Lift ราคาประมาณ 80,000 – 200,000 บาท แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์โดยตรงเพื่อรับการประเมินเฉพาะรายบุคคลและข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนมากที่สุด
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ MACS Lift
สำหรับคนที่กำลังอยากทำ MACS Lift แต่ยังมีความกังวล การทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำถามที่พบบ่อยเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลลัพธ์ที่ได้ การฟื้นตัว หรือข้อจำกัดต่าง ๆ การตอบคำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีข้อมูลที่ครบถ้วนและมั่นใจในการตัดสินใจเลือกทำการศัลยกรรมดึงหน้าด้วยเทคนิคนี้มากยิ่งขึ้น
Q: MACS Lift เหมาะกับช่วงอายุเท่าไหร่ที่สุด?
A: โดยทั่วไปการดึงหน้าด้วยเทคนิค MACS Lift เหมาะกับผู้ที่มีอายุประมาณ 35 – 55 ปี ที่เริ่มมีผิวหย่อนคล้อยระดับน้อยถึงปานกลาง
Q: MACS Lift ทำแล้วต้องพักฟื้นนานกี่วัน?
A: โดยทั่วไปหลังทำจะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 5 – 7 วัน โดยงดออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงเยอะๆ ในช่วง 2 – 3 สัปดาห์หลังทำ เพื่อให้ผลลัพธ์เข้าที่และแผลหายสนิท
Q: ผลลัพธ์ของ MACS Lift อยู่ได้นานแค่ไหน?
A: สำหรับผลลัพธ์หลังดึงหน้าด้วยเทคนิค MACS Lift สามารถอยู่ได้นานประมาณ 5 – 10 ปี ขึ้นกับสภาพผิว อายุ และการดูแลหลังทำ
Q: MACS Lift สามารถทำซ้ำได้หรือไม่?
A: หลังทำไปแล้วหลายปีหากมีปัญหาความหย่อนคล้อยกลับมาอีกก็สามารถทำซ้ำได้ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับปัญหา ณ เวลานั้นๆ ของคนไข้ที่ไม่เหมือนกันในแต่ละคน
Q: หลังทำ MACS Lift สามารถแต่งหน้าได้เมื่อไหร่?
A: โดยทั่วไปหลังดึงหน้าจะแนะนำให้รอแผลผ่าตัดหายสนิท ผลลัพธ์เริ่มเข้าที่ หรือหลังตัดไหม จึงเริ่มกลับมาแต่งหน้าได้ ประมาณ 7 – 10 วันหลังทำ
สรุป
MACS Lift เป็นเทคนิคดึงหน้าเฉพาะจุด ด้วยการเปิดแผลขนาดเล็กบริเวณช่วงขมับลงมาถึงแก้มช่วงบน สามารถเข้าไปดึงผิวหน้าได้ลึกถึงชั้น SMAS ทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ ยกกระชับ หน้าไม่หย่อนคล้อย ฟื้นตัวเร็ว เหมาะสำหรับคนที่มีอายุประมาณ 35 – 55 ปี ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระดับปานกลาง ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ สำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้า ยกกระชับผิวให้เต่งตึง ต้องการแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อรับการประเมินปัญหา วิเคราะห์โครงสร้างใบหน้า และออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล