สำหรับคนที่มีปัญหาผิวหน้าไม่กระชับ อยากดึงแก้ม แก้แก้มหย่อน จัดการปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้าบริเวณช่วงกลางให้กลับมาเต่งตึง แลดูอ่อนเยาว์ ซึ่งปัญหาความหย่อนคล้อยนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน หากไม่ดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ จะทำให้ปัญหารุนแรงจนรักษาได้ยาก สำหรับใครที่สงสัยว่าการดึงบริเวณแก้มให้กระชับและยกขึ้นนั้นคืออะไร ช่วยเรื่องอะไรบ้าง เหมาะกับใคร มีเทคนิคแบบไหนบ้าง มีข้อดีอย่างไร ผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากข้อมูลต่อไปนี้
Key Takeaways
- การดึงแก้มช่วยยกกระชับผิว แก้ปัญหาแก้มตก แก้มหย่อน ให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และชัดกรอบมากขึ้น
- ดึงแก้ม แก้แก้มหย่อนทำได้ทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ไม่จำเป็นต้องรอให้แก่ หากเริ่มเห็นความหย่อนคล้อยสามารถปรึกษาแพทย์ได้ทันที
- มีหลายเทคนิค เช่น ผ่าตัดดึงแก้ม (อยู่ได้นาน 5–10 ปี), ร้อยไหม (ประมาณ 12–18 เดือน), ยกกระชับด้วยคลื่นพลังงาน (ประมาณ 1 ปี)
- เมื่อทำหัตถการดึงแก้ม อาจมีผลข้างเคียง เช่น บวม ช้ำ ชา หรือแผลเป็น ซึ่งส่วนใหญ่หายเองเมื่อพักฟื้นตามคำแนะนำแพทย์
- การดึงแก้มต่างจากดึงหน้าเต็มตรงที่ยกเฉพาะส่วนกลางใบหน้า พักฟื้นน้อยกว่า แผลเล็กกว่า
- หลังดึงแก้มสามารถทำหัตถการอื่นเสริมได้ เช่น ฟิลเลอร์ หรือเครื่องยกกระชับ เพื่อปรับรูปหน้าให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
แก้มหย่อน แก้มตกเกิดจากอะไร? ทำไมหน้าถึงดูโทรมก่อนวัย?
ปัญหาแก้มหย่อนหรือแก้มตก เกิดจากการที่ชั้นผิวบริเวณแก้มสูญเสียคอลลาเจนและไขมัน ผิวขาดความยืดหยุ่น เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อย ส่งผลทำให้ใบหน้าแก่กว่าวัย ซึ่งมีปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาดังนี้
- อายุที่เพิ่มขึ้น อีกหนึ่งตัวการสำคัญที่ทำให้ร่างกายเกิดการเสื่อมสภาพลง ชั้นผิวเริ่มสูญเสียคอลลาเจน กระบวนการผลิตคอลลาเจนลดลง ผิวจึงขาดความยืดหยุ่นไม่แข็งแรง
- พฤติกรรมเสี่ยง สำหรับคนที่ชอบดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ จะส่งผลทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้น้อยลง คอลลาเจนถูกทำลายมากขึ้น ผิวขาดน้ำ นอกจากนั้นการใช้ชีวิตกลางแจ้งหรือต้องเผชิญกับรังสี UVA UVB เป็นประจำโดยไม่ทากันแดด สามารถทำให้โครงสร้างผิวและคอลลาเจนถูกทำลายเร็วมากขึ้น
- พันธุกรรม อีกหนึ่งตัวกำหนดโครงหน้าที่สำคัญ หากพ่อแม่มีโครงหน้า ชั้นกระดูก หรือสภาพผิว แบบใด สามารถส่งต่อให้กับลูกหลายได้เช่นกัน เช่น ความแข็งแรงของชั้นผิว การสะสมไขมันบริเวณแก้ม ประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตคอลลาเจน เป็นต้น
- การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก สำหรับคนที่น้ำหนักขึ้น-ลงอย่างรวดเร็วอยู่บ่อย ๆ ทำให้ผิวหนังเกิดการยืดหดเป็นประจำ ผิวจึงเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่น นำไปสู่ปัญหาความหย่อนคล้อย
ดึงแก้ม คืออะไร? แก้ปัญหาแก้มตกได้อย่างไร?
ดึงแก้ม คือ การดึงหน้าบริเวณส่วนกลาง (Midface Lift) ซึ่งอยู่ในช่วงบริเวณใต้ตาไปจนถึงเหนือริมฝีปาก ช่วยกระชับช่วงแก้มที่หย่อนคล้อยให้ยกขึ้น ร่องแก้มจางลง ยกริมฝีปาก จัดการกรอบหน้าเข้ารูปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแพทย์จะเข้าไปจัดเรียงชั้นไขมัน กล้ามเนื้อ และผิวหนัง เพื่อดึงให้ผิวเรียบตึงมากขึ้น ซึ่งทำได้ด้วยหลายวิธีทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ขึ้นอยู่กับระดับปัญหาและความต้องการของแต่ละคน โดยแพทย์จะประเมินและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะกับคนไข้มากที่สุด
ดึงแก้มเหมาะกับใคร? ต้องรอแก่ก่อนหรือไม่?
หลายคนเข้าใจผิดว่าการดึงแก้มต้องรอแก่ก่อนค่อยทำ แต่จริง ๆ แล้วการยกกระชับบริเวณแก้มสามารถทำได้ตั้งแต่อายุไม่มาก เพราะปัญหาความหย่อนคล้อยสามารถพบได้ทุกวัย ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนตัวและปัจจัยรอบด้านที่เข้ามากระทบจนเกิดปัญหาขึ้น หากเริ่มสังเกตเห็นว่าแก้มหย่อนคล้อย หน้าไม่ตึงกระชับก็สามารถเข้ามาให้แพทย์ประเมินปัญหาเพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม อย่าปล่อยให้ปัญหาลุกลามหนักมากขึ้นเพราะจะแก้ไขได้ยากในอนาคต
ข้อดีของการดึงแก้ม
สำหรับการดึงแก้ม แก้แก้มหย่อน มีข้อดีด้วยกันหลายอย่าง นับว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้อย่างเห็นผลชัดเจน โดยมีข้อดีดังต่อไปนี้
- แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้อย่างเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- ยกกระชับเฉพาะจุดโดยไม่ต้องทำทั้งหน้า
- สามารถเลือกทำได้ทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ขึ้นอยู่กับระดับปัญหาของแต่ละคน
- เห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้หลังทำ ขึ้นอยู่กับวิธีที่เลือกใช้ในการแก้ปัญหาและสภาพผิวของคนไข้แต่ละคน
- ช่วยปรับรูปหน้าเรียวสวยได้สัดส่วนมากขึ้น ใบหน้าวีเชฟ มากขึ้น
ดึงแก้มมีกี่แบบ? แต่ละแบบต่างกันอย่างไร?
สำหรับวิธีการดึงแก้ม แก้แก้มหย่อน มีด้วยกันหลายวิธีขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมินและวางแผนการรักษาให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและเหมาะสม ตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้ได้อย่างครอบคลุม โดยมีวิธีการที่ได้รับความนิยมดังต่อไปนี้
ดึงแก้มแบบผ่าตัด
การดึงแก้มแบบผ่าตัด (Midface Lift) วิธีการนี้จะเป็นการผ่าตัดเปิดแผลบริเวณด้านหน้าหูและโค้งไปตามแนวร่องหู เพื่อเข้าไปจัดเรียงชั้นไขมัน ชั้นกล้ามเนื้อด้านใน ตัดแต่งผิวหนังส่วนเกินและเย็บซ่อนแผลตามแนวที่กรีดเปิดแผลไว้ ให้ผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้นานประมาณ 5 – 10 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนตัวของคนไข้ เหมาะกับคนที่มีปัญหาค่อนข้างหนัก กล้ามเนื้อหย่อนคล้อย หรือยกกระชับมาหลายวิธีแล้วแต่ไม่ได้ผล
ร้อยไหมดึงแก้ม
การร้อยไหมดึงแก้ม เป็นการยกกระชับแก้มโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งแพทย์จะใช้ไหมสำหรับการยกกระชับร้อยเข้าไปใต้ชั้นผิวเพื่อยกผิวหน้าบริเวณ Midface ขึ้น ทั้งยังกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวให้เพิ่มขึ้น โดยไหมที่ใช้เป็นไหมละลายสามารถคงอยู่ได้ประมาณ 6 – 8 เดือน หลังจากนั้นผลลัพธ์ที่ได้สามารถคงอยู่ได้ประมาณ 12 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและปัจจัยส่วนตัวของคนไข้แต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน
ยกกระชับแก้ม โดยไม่ต้องผ่าตัด
ในกรณีนี้จะเป็นการใช้คลื่นพลังงานปล่อยลงสู่ชั้นผิวเพื่อทำให้เนื้อเยื่อเกิดการหดตัว ผิวจึงยกกระชับขึ้น กระตุ้นคอลลาเจน สลายไขมัน ปรับรูปหน้าเรียว ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยที่ไม่หนักมาก มีทั้งแบบที่ส่งพลังงานลงชั้น SMAS และ แบบที่ส่งพลังงานถึงชั้นไขมันหรือชั้นหนังแท้ โดยแพทย์จะประเมินเพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกัน
ดึงแก้มอยู่ได้นานแค่ไหน? ต้องทำซ้ำไหม?
สำหรับผลลัพธ์หลังทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงแก้ม สามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 5 – 10 ปีขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำและสภาพผิวของคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป ในส่วนของวิธีการยกกระชับบริเวณแก้มด้วยวิธีอื่นผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้แตกต่างกันออกไป ดังนี้
- ร้อยไหมยกกระชับแก้ม ตัวไหมจะสามารถคงอยู่ได้ประมาณ 6 – 8 เดือน แล้วจึงสลายไป หลังจากนั้นผลลัพธ์คงอยู่ได้อีกประมาณ 12 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนตัวของคนไข้แต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน
- เครื่องยกกระชับ เช่น Ulthera SPT ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้ประมาณ 1 ปี เป็นต้น
วิธีเตรียมตัวก่อน – หลังดึงแก้มให้เห็นผลดี
เพื่อให้การแก้แก้มหย่อนคล้อยไม่เกิดปัญหาขึ้นทั้งในระหว่างทำและหลังทำ ทั้งยังช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดี มีความปลอดภัย แนะนำให้เตรียมตัวก่อนทำและดูแลหลังทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งในเนื้อหาต่อไปนี้จะโฟกัสไปที่การเตรียมตัวก่อนและหลังผ่าตัดยกกระชับแก้ม เนื่องจากมีการดูแลที่ค่อนข้างมากกว่าการรักษาแบบอื่น โดยมีรายละเอียดดังนี้
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ
- สำหรับคนไข้ที่มีประวัติแพ้ยา มียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ หรือมีโรคประจำตัว ควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง
- งดวิตามิน งดอาหารเสริม และงดรับประทานยาที่ส่งผลกระทบต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการ
- อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ก่อนทำ ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ เพราะจะส่งผลทำให้แผลผ่าตัดหายช้า
- ก่อนผ่าตัดประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง ควรงดการรับประทานอาหารและน้ำ
- แนะนำให้เตรียมระยะเวลาในการพักฟื้นหลังผ่าตัดเอาไว้ประมาณ 2 – 3 สัปดาห์
การดูแลหลังทำ
- แนะนำให้ประคบเย็นในช่วง 3 วันแรกหลังผ่าตัด เพื่อลดอาการบวมและทำให้ยุบไวขึ้น
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายให้หายไวขึ้น เช่น อาหารที่มีโปรตีนสูง วิตามินซี เป็นต้น
- ห้ามให้แผลโดนน้ำประมาณ 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังทำ เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อมากขึ้นได้
- หลังผ่าตัดประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือนาน ๆ เพื่อลดอาการตึงของกล้ามเนื้อและแผลผ่าตัดให้น้อยลง
- ควรใส่ผ้ารัดอย่างต่อเนื่องวันละประมาณ 10 – 12 ชั่วโมง ในช่วง 1 เดือนแรก สามารถคลายออกได้ครั้งละประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง หากรู้สึกแน่นเกินไป หลังจากนั้นแนะนำให้ใส่ผ้ารัดต่อเนื่องไปอีกประมาณ 2 – 3 เดือน เพื่อช่วยลดบวม ทำให้ใบหน้าเข้ารูปไวขึ้น
- ในช่วงแรกหลังทำควรนอนหงายและยกศีรษะสูง เพื่อลดอาการบวมให้น้อยลง
- ไม่ควรนอนคว่ำหรือนอนตะแคงประมาณ 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังทำ เพื่อป้องกันการกดทับและไม่ให้เกิดการกระทบประเทือนกับแผลผ่าตัด
- ในช่วงแรกหลังผ่าตัดควรงดออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ออกแรงเยอะ เพราะจะส่งผลกระทบต่อแผลผ่าตัด
- งดอาหารหมักดอง อาหารทะเล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ เพราะส่งผลทำให้แผลหายช้า ร่างกายฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ เพิ่มโอกาสทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อมากขึ้น
- ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากเกิดอาการผิดปกติควรพบแพทย์ทันที
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้หลังดึงแก้ม
หลังทำศัลยกรรมดึงแก้ม อาจเกิดอาการบางอย่างขึ้นได้ซึ่งสามารถพบได้ปกติหลังผ่าตัด อาการเหล่านี้จะหายไปได้เองในไม่กี่วันขึ้นอยู่กับความเร็วในการฟื้นฟูของร่างกายแต่ละคน นอกจากนั้นยังมีอาการผิดปกติบางอย่างที่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
- อาการบวม ตึง บริเวณแผลผ่าตัดและบริเวณช่วงแก้มที่ทำการยกกระชับ เป็นเรื่องปกติที่สามารถพบได้และจะหายไปได้เอง แต่ถ้ามีอาการบวมแดงเรื้อรัง รู้สึกเจ็บ แม้จะผ่านไปแล้วมากกว่า 1 สัปดาห์ แนะนำให้พบแพทย์ทันที
- เกิดรอยแผลเป็น ในคนที่มีประวัติเป็นคีลอยด์มาก่อนหรือดูแลตัวเองไม่ดี อาจเพิ่มโอกาสทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้ แต่โดยปกติแพทย์จะใช้เทคนิคในการเย็บแผลซ่อนไว้ตามไรผมหรือขอบหน้าเพื่อให้เนียนไปกับผิวมากที่สุด
- มีเลือดซึมออกมาที่แผลผ่าตัด สามารถเกิดขึ้นได้เล็กน้อย หากมีเลือดซึมออกมามากกว่าปกติ ควรพบแพทย์ทันที
- อาจเกิดอาการชาขึ้นบริเวณใบหน้าที่ผ่าตัด เนื่องจากมีการเลาะเนื้อเยื่อและมีจัดระเบียบชั้นผิวใหม่ แต่อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อผิวหนังสมานติดกันดี
- ใบหน้าไม่เป็นธรรมชาติ ขาดสมดุล เกิดขึ้นได้จากการที่แพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอ ทำให้การจัดวางตำแหน่งใบหน้าผิดสัดส่วน ก่อนทำควรเลือกแพทย์ที่น่าเชื่อถือและมีประสบการณ์
- กล้ามเนื้อหน้าอ่อนแรง สามารถเกิดขึ้นได้จากอาการบวมหลังการผ่าตัด เข้าไปกดทับบริเวณเส้นประสาท แต่เมื่ออาการบวมหายไปทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นปกติ
- เส้นประสาทบนหน้าทำงานได้ไม่เต็มที่ เป็นกรณีที่พบได้น้อยมาก ซึ่งโดยทั่วไปเส้นประสาทบนใบหน้าจะกลับมาทำงานได้ปกติในช่วง 3 – 6 เดือนหลังผ่าตัด
เปรียบเทียบ “ดึงแก้ม” กับ “ดึงหน้าเต็ม” ต่างกันอย่างไร?
ความแตกต่างระหว่าง ดึงแก้ม กับ ดึงหน้าเต็ม มีด้วยกันหลายจุด ทั้งเรื่องของกระบวนการทำ ตำแหน่งที่ทำ ผลลัพธ์ที่ได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ศัลยกรรมดึงแก้ม เป็นการผ่าตัดเพื่อยกกระชับบริเวณ Midface หรือใบหน้าส่วนกลางช่วงใต้ตาไปถึงเหนือริมฝีปาก จึงไม่สามารถแก้ปัญหาบริเวณหน้าผากหรือบริเวณใบหน้าช่วงล่างและกรอบหน้าได้ แก้ปัญหาได้เฉพาะจุด
- ดึงหน้า เป็นการผ่าตัดยกกระชับทั่วใบหน้าทุกส่วน จึงใช้ระยะเวลาพักฟื้นที่นานกว่า มีแผลผ่าตัดหลายตำแหน่ง สามารถแก้ปัญหาได้ครอบคลุมทั่วใบหน้า ปรับหน้าเรียวสวย โครงหน้าได้รูปมากขึ้น
คำถามที่พบบ่อย FAQ เกี่ยวกับการดึงแก้ม แก้แก้มหย่อน
หากใครที่ต้องการยกกระชับแก้ม แต่ยังมีข้อสงสัยอื่น ๆ เพิ่มเติม ในบทความนี้ได้รวบรวมเอาส่วนหนึ่งของคำถามที่พบบ่อยเอาไว้ให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
Q : ดึงแก้มแล้วแก้มตอบไหม? หน้าโทรมหรือไม่?
A : หลังยกกระชับแก้ม จะช่วยทำให้ผิวเต่งตึง หน้าดูเด็กลง แก้มไม่หย่อนคล้อย จึงไม่เกิดปัญหาแก้มตอบขึ้น แต่ถ้าแพทย์จัดเรียงชั้นไขมันไม่สมดุลกับใบหน้าคนไข้ ไม่ถนัดเทคนิคการผ่าตัดเพื่อยกกระชับ อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้
Q : ดึงแก้มตอนอายุเท่าไรดีที่สุด?
A : ความหย่อนคล้อยมักจะเริ่มเห็นได้ชัดเจนเมื่อก้าวเข้าสู่วัย 30+ หากใครมีความกังวลเรื่องของแก้มที่หย่อนคล้อย ผิวไม่ตึงกระชับ ก็สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะกับแต่ละคนได้ อย่ารอให้ปัญหาพอกพูนมากเกินไปจนแก้ไขได้ยาก
Q : เคยร้อยไหมมาแล้ว จะดึงแก้มแบบผ่าตัดได้ไหม?
A : สามารถทำได้ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าไหมที่ร้อยไปสลายไปหมดหรือยัง มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้การผ่าตัดมีปัญหาหรือไม่ ถ้าไม่มีอะไรที่น่ากังวลแพทย์ก็จะวางแผนเพื่อทำการผ่าตัดยกกระชับให้ได้เลย แต่ถ้าผ่าตัดไม่ได้แพทย์ก็จะพิจารณาเลือกวิธีการที่เหมาะสมมากกว่าในการรักษา
Q : หลังดึงแก้มต้องพักฟื้นนานแค่ไหน?
A : ถ้าคนไข้ใช้เครื่องยกกระชับก็ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามรถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ สำหรับคนไข้ที่เลือกร้อยไหมหลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่อาจมีอาการบวมในช่วง 1 สัปดาห์แรก และจะค่อย ๆ หายไปได้เอง ในส่วนของคนที่เลือกผ่าตัดอาจจะมีอาการบวมช้ำประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ซึ่งอาจจะต้องดูแลตัวเองมากกว่าปกติและควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
Q : ดึงแก้มสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม?
A : หลังผ่าตัดแก้แก้มหย่อน สามารถทำหัตถการอื่น ๆ ร่วมด้วยได้ แต่ควรแจ้งความประสงค์ต่อแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม โดยอาจเว้นระยะให้แผลผ่าตัดหายดีและร่างกายฟื้นฟูเต็มที่ จึงเข้ามาทำหัตถการอื่น ๆ เช่น Ulthera SPT ฉีดฟิลเลอร์ เติมไขมัน เป็นต้น เพื่อช่วยเก็บรายละเอียดและเสริมผลลัพธ์ให้ออกมาดีมากยิ่งขึ้น
สรุป
ดึงแก้ม แก้แก้มหย่อน อีกหนึ่งทางเลือกของคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยบริเวณแก้มช่วงกลาง Midface ช่วยให้แก้มไม่ห้อยย้อย ยกมุมปากขึ้น ผิวเรียบตึง ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ สามารถทำได้ทั้งการผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของปัญหาและความต้องการของคนไข้ ซึ่งแพทย์จะช่วยประเมินและเลือกวิธีที่เหมาะกับแต่ละคนมากที่สุด สำหรับใครที่ต้องการผลลัพธ์หน้าตึงถาวรคงอยู่ได้หลายปี หรือกำลังมีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ดูแก่กว่าวัย แนะนำให้เข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อรับการประเมิน วิเคราะห์โครงหน้า และวางแผนการผ่าตัดแบบเฉพาะรายบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีและปลอดภัย