

ดึงหน้า คืออะไร เหมาะกับใครบ้าง มีกี่เทคนิค ข้อดีมีอะไรบ้าง?
ดึงหน้า ทางเลือกของคนที่ต้องการยกกระชับใบหน้าให้เห็นผลชัดเจน ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับผิวหย่อนคล้อยที่หัตถการทั่วไปอาจช่วยได้ไม่มากหรือทำแล้วแทบไม่เห็นผล ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน ต้นเหตุของใบหน้าโทรม แก่กว่าวัย เห็นกรอบหน้าไม่ชัด ริ้วรอยความเหี่ยวย่น และความหย่อนคล้อย หากใครที่ยังสงสัยว่าศัลยกรรมยกกระชับใบหน้าคืออะไร เหมาะกับใครบ้าง มีเทคนิคการผ่าตัดแบบไหนบ้าง อาการหลังทำเป็นอย่างไร ราคาเท่าไหร่ ควรดูแลตัวเองหลังผ่าตัดอย่างไร สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมจากบทความนี้ได้เลย

ดึงหน้า (Face Lift) คืออะไร?
ดึงหน้า (Face Lift) คือ ศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า แก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ดึงผิวหน้าให้เรียบตึงมากขึ้น ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกให้จางลง ผิวเรียบเนียนเต่งตึง โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนังออกไปและดึงกล้ามเนื้อชั้น SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic system) ขึ้นมาในตำแหน่งที่กำหนดไว้ โดยชั้นนี้เป็นชั้นที่อยู่ลึกลงไปจากผิวหนังประมาณ 4.5 มม. ทำหน้าที่ยึดกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อต่าง ๆ เอาไว้ จึงช่วยให้ใบหน้ามีความยกกระชับขึ้นได้อย่างเห็นได้ชัด โดยแพทย์จะประเมินระดับปัญหา วิเคราะห์โครงหน้า ออกแบบใบหน้าเฉพาะรายบุคคล และวางแผนการรักษาให้เหมาะกับคนไข้แต่ละคน
เช็กปัญหาผิวหย่อนคล้อย ก่อนดึงหน้า
ก่อนดึงหน้า แนะนำให้ลองเช็กปัญหาผิวเบื้องต้นว่ามีความรุนแรงมากแค่ไหน สามารถใช้หัตถการอื่น ๆ ช่วยได้หรือเปล่า เพราะปัญหาผิวพรรณที่เกิดขึ้นกับแต่ละคนมีสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น อายุที่เพิ่มขึ้น ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต การดูแลตัวเอง มงภาวะที่ต้องพบเจอ เป็นต้น โดยสามารถลองเช็กปัญหาผิวก่อนตัดสินใจเลือกทำผ่าตัดยกกระชับใบหน้าได้ดังนี้
- บริเวณหน้าผาก มีความหย่อนล้อย มีริ้วรอยเหี่ยวย่นช่วงไรผมลงมาถึงบริเวณคิ้ว รวมไปถึงปัญหาคิ้วตก
- บริเวณรอบดวงตา มีริ้วรอย ความหย่อนคล้อย หางตาตก หนังตาตก จนทำให้บดบังการมองเห็น
- บริเวณแก้ม มีความหย่อยคล้อย แก้มห้อย มีร่องแก้มและร่องน้ำหมากลึก ผิวไม่เต่งตึง
- บริเวณมุมปากคว่ำลง มุมปากตก มีริ้วรอย ทำให้ใบหน้าดูหมอง หน้าดูเศร้า
- บริเวณลำคอ มีรอยพับเยอะ มีความหย่อนคล้อย มีคางสองชั้นหรือมีเหนียงเยอะ มองเห็นกรอบหน้าไม่ชัด

ผ่าตัดดึงหน้า เหมาะกับใครบ้าง?
ผ่าตัดดึงหน้า เหมาะกับคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยมาก ๆ ใบหน้าไม่กระชับ มีริ้วรอยความเหี่ยวย่นเยอะ ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ศัลยกรรมเพื่อดึงผิวหน้าให้เรียบตึงยกกระชับจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะกับคนที่มีความต้องการและปัญหา ดังนี้
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวค่อนข้างเยอะและซับซ้อน ซึ่งใช้หัตถการอื่นก็ไม่ได้ผลหรือเห็นความเปลี่ยนแปลงได้น้อย
- เหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปหน้า เก็บกรอบหน้าชัด หน้าดูเด็กลง
- เหมาะกับคนที่ต้องการแก้ปัญหาหนังตาตก คิ้วตก หางตาตก
- เหมาะกับคนที่หน้าผากมีความหย่อนคล้อย มีรอยยับ ผิวเหี่ยวย่น
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาร่องลึกและต้องการแก้ไขให้ตื้นขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก เป็นต้น
- เหมาะกับคนที่มีปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการหนังตาตกหรือหย่อนคล้อยจนบดบังการมองเห็น
- เหมาะกับคนที่ต้องการแก้ปัญหาเหนียงหรือคางสองชั้น
- เหมาะกับคนที่ผิวบริเวณคอมีความเหี่ยวย่น มีรอยยับ หรือมีความหย่อนคล้อย
ข้อดี และ ข้อควรรู้ ของการดึงหน้า
Face Lift เป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมเลือกใช้กันมากเนื่องจากสามารถตอบโจทย์ความต้องการในเรื่องของการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ได้อย่างเห็นผลชัดเจน โดยมีรายละเอียดของข้อดีและข้อควรรู้ ดังนี้
ข้อดี ของการดึงหน้า
- เห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ทันทีหลังทำ (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
- ช่วยยกกระชับใบหน้าที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยหนัก ๆ ได้อย่างเห็นผลชัดเจน
- ช่วยแก้ปัญหาคิ้วตก หางตาตก และหนังตาตก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใบหน้าดูเด็กลง
- นอกจากยกกระชับ ดึงผิวหน้าให้ตึงแล้ว ยังได้เรื่องของผิวเรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอย
- สามารถปรับรูปหน้า ดึงผิวตึง ยกกระชับ แบบเฉพาะส่วนได้
ข้อควรรู้ ของการดึงหน้า
เนื่องจากมีการตัดแต่งผิวหนังส่วนเกินและเย็บตามตำแหน่งที่แพทย์กำหนด อาจเกิดรอยแผลเป็นหลังผ่าตัดได้ แต่แพทย์จะทำการซ่อนรอยแผลไว้ในจุดที่สังเกตเห็นได้ยาก
ต้องดูแลแผลผ่าตัดอย่างเคร่งครัดตามคำสั่งแพทย์
อาจเกิดอาการบวมแดงหลังทำได้ แต่จะหายไปได้เองตามระยเวลาการฟื้นตัวของร่างกายแต่ละคน โดยสามารถใช้วิธีการประคบเย็นเข้าช่วยบรรเทาอาการได้

ดึงหน้า ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง?
ดึงหน้า สามารถทำได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า เพื่อแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ช่วยยกกระชับปรับใบหน้าเรียบตึง โดยมีการแบ่งพื้นที่ในการทำศัลยกรรมเพื่อยกกระชับใบหน้าออกเป็นสัดส่วน ดังนี้
ยกกระชับใบหน้าส่วนบน (Upper Face)
เป็นการผ่าตัดเพื่อดึงผิวหน้าช่วงบนบริเวณหน้าผาก ขมับ คิ้ว ช่วงตา ให้ยกขึ้น ช่วยลดเลือนรอยยับบริเวณหน้าผากให้จางลง แก้ปัญหาหนังตาตก หางตาตก เปิดตาให้โตขึ้น สดใส หน้าไม่โทรม โดยแพทย์จะซ่อนแผลผ่าตัดเอาไปตามไรผมบริเวณหน้าผากและบริเวณขมับ
ยกกระชับใบหน้าส่วนกลาง (Middle Face)
เป็นการผ่าตัดเพื่อดึงหน้าบริเวณช่วงกลางหน้า บริเวณใต้ตา แก้ม โหนกแก้ม ถึงช่วงเหนือริมฝีปาก ช่วยแก้ปัญหาแก้มที่ดูห้อยให้กลับมายกกระชับ ร่องแก้มลึกแลดูตื้นขึ้น โดยแพทย์จะซ่อนแผลไว้ที่บริเวณไรผมบริเวณขมับและบริเวณหน้าหู
ยกกระชับใบหน้าส่วนล่าง (Lower Face)
เป็นการผ่าตัดดึงผิวหน้าบริเวณช่วงล่าง ได้แก่ ปาก คาง แก้มช่วงล่าง และกรอบหน้า เป็นต้น ช่วยแก้ปัญหาร่องน้ำหมาก คางห้อย เก็บเหนียง เก็บกรอบหน้าชัด ช่วยให้มุมปากยกขึ้น โดยแผลผ่าตัดจะถูกซ่อนไว้บริเวณขอบไรผมช่วงขมับและบริเวณหน้าหู
ยกกระชับผิวลำคอ (Neck Lift)
เป็นการผ่าตัดเพื่อยกกระชับผิวบริเวณใต้คางไปจนถึงบริเวณลำคอ แก้ปัญหาริ้วรอยหรือรอยพับให้จางลง ช่วยจัดการคางสองชั้นหรือเหนียงให้ลดลง ผิวเรียบตึงกระชับขึ้น โดยแผลผ่าตัดจะถูกซ่อนเอาไว้ที่บริเวณหลังหู
เทคนิคดึงหน้า มีด้วยกันกี่แบบ?
การดึงหน้า เป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมมานานทำให้มีเทคนิคที่หลากหลาย ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากเทคนิคดั้งเดิม จึงทำให้การยกกระชับใบหน้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น เห็นผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย ซึ่งแต่ละเทคนิคที่ใช้สามารถตอบโจทย์ความต้องการและแก้ปัญหาที่แตกต่างกันออกไป โดยเทคนิคที่ใช้ในการกระชับผิวหน้าให้เรียบตึง มีดังนี้
เทคนิค Face Lift แบบดั้งเดิม
เทคนิคนี้เป็นวิธีการแบบเก่าซึ่งแพทย์จะทำการเปิดแผลบริเวณผิวหนังชั้นบน ดึงผิวให้ตึงกระชับและตัดแต่งผิวหนังส่วนเกินออก บริเวณไรผม หน้าหู และหลังหู ทำให้เกิดแผลขนาดใหญ่ โดยวิธีการนี้สามารถช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยในระดับผิวชั้นตื้น
เทคนิค Endoscopic Face Lift
เป็นเทคนิคการผ่าตัดยกกระชับด้วยการส่องกล้อง แพทย์จะเปิดแผลผ่าตัดเพียง 1 – 2 ซม. จำนวน 3 – 5 จุด บริเวณหนังศีรษะ และสอดกล้องเอนโดสโคปเข้าไปตามแผลที่เปิดไว้เพื่อทำการผ่าตัดแยกชั้นผิว SMAS ให้ยกกระชับขึ้น โดยไม่ทิ้งรอยแผลที่มองเห็นชัดเจนบนผิวหน้า ช่วยให้ฟื้นตัวได้ไวขึ้น แผลมีขนาดเล็ก
เทคนิค Endotine Face Lift
เป็นการผ่าตัดเปิดแผลและใส่หมุดชนิดพิเศษเข้าไปยึดชั้น SMAS ที่หย่อนคล้อยให้ยกกระชับขึ้น โดยวัสดุที่ใช้สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่เกิดการตกค้าง โดยแบ่งเอนโดไทน์ที่ใช้ออกเป็นหลายประเภทตามตำแหน่งที่ใช้ ได้แก่ Endotine Forehead, Endotine TransBleph, Endotime Midface, Endotine Ribbon มีพื้นที่ในการยกกระชับที่กว้างและแรงดึงที่ดีกว่าการร้อยไหม เป็นเทคนิคการยกกระชับใบหน้าที่มีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน มีความเป็นธรรมชาติ และปลอดภัย
ดึงหน้า กี่วันหาย?
หลังผ่าตัดดึงหน้า อาจเกิดอาการบวมขึ้นได้ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล และจะค่อย ๆ หายไปได้เองในช่วง 2 – 3 สัปดาห์หลังทำ หลังจากนั้นใบหน้าจะเข้าที่ในช่วงประมาณ 1 – 3 เดือน ซึ่งผลลัพธ์จะเห็นผลชัดเจนในอีก 6 – 12 เดือน
ดึงหน้า หลังทำควรดูแลตัวเองอย่างไร?
หลังทำ Face Lift แนะนำให้ดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้ไวขึ้น ไม่เกิดผลข้างเคียงตามมา โดยสามารถดูแลตัวเองหลังผ่าตัดได้ดังนี้
- 3 – 5 วันแรกหลังผ่าตัด สามารถประคบเย็นเพื่อช่วยบรรเทาอาการบวมให้ลดลงได้
- ควรนอนหมอนสูง ยกศีรษะขึ้น เพื่อช่วยลดอาการบวมและป้องกันแผลถูกกดทับ
- งดออกกำลังกาย ยกของหนัก หรือทำกิจกรรมที่อาจส่งผลทำให้เกิดการกระทบกระเทือนกับแผลผ่าตัด ในช่วง 1 เดือนแรกหลังทำ
- ห้ามให้แผลโดนน้ำประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ เพื่อลดโอกาสแผลติดเชื้อให้น้อยลง
- งดอาหารหมักดอง อาหารทะเล อาหารกึ่งสุดกึ่งดิบ เพื่อลดโอกาสที่แผลผ่าตัดจะติดเชื้อ
- ควรทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด ควรใส่ผ้ารัดใบหน้าเอาไว้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ใบหน้าเข้าที่ได้รูปทรงตามต้องการ
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีผลทำให้แผลหายช้า ร่างกายฟื้นตัวช้าลง
อาการ หลังผ่าตัดดึงหน้า
หลังผ่าตัดดึงหน้า อาจเกิดอาการต่าง ๆ ขึ้นตามมาได้ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดที่ต้องเข้าไปยกกระชับจากภายในและมีการดึงผิวหนังส่วนอกพร้อมทั้งตัดแต่งให้สวยงาม จึงทำให้เนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ และผิวหนัง ได้รับความกระทบกระเทือนจนนำไปสู่อาการ ดังต่อไปนี้
- ในช่วง 1 – 3 วันแรกหลังผ่าตัด อาจเกิดอาการบวมช้ำ ปวดตึง แต่จะค่อย ๆ หายไปได้เองตามการฟื้นฟูของร่างกาย
- ในช่วงระยะเวลา 1 – 3 เดือนแรก รอยแผลผ่าตัดอาจจะมีลักษณะที่แดงหรือนูนขึ้นได้บ้างเล็กน้อย และรอยแผลจะจางลงไปในอีก 6 – 12 เดือน
- อาจมีความรู้สึกชาบริเวณผิวหน้าซึ่งจะค่อย ๆ บรรเทาลงไปในช่วง 2 – 3 เดือน และจะหายสนิทในอีกประมาณ 6 เดือน
ผ่าตัดดึงหน้า ผู้ชายและผู้หญิง ต่างกันไหม?
ผ่าตัดดึงหน้า สามารถทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เพื่อช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ใบหน้าตึงกระชับ ดูเด็กลง ซึ่งลักษณะของโครงสร้างใบหน้าของผู้ชายและโรงหน้าของผู้หญิงมีความแตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ สภาพผิวหนัง กล้ามเนื้อ เป็นต้น ทำให้แพทย์ต้องออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีตอบโจทย์ความต้องการและแก้ปัญหาในแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไปได้อย่างครอบคลุม
ผ่าตัดดึงหน้า ราคาเท่าไหร่?
การดึงหน้า เป็นศัลยกรรมที่มีราคาไม่เท่ากันในแต่ละรายบุคคล ขึ้นอยู่กับระดับปัญหา เทคนิคที่ใช้ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหา วิเคราะห์ใบหน้า และออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีรับกับใบหน้าของแต่ละคนมากที่สุด โดยทั่วไปมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 60,000 – 200,000 บาท
ผ่าตัดดึงหน้า อยู่ได้นานกี่ปี
ผลลัพธ์หลังดึงหน้า สามารถอยู่ได้นานประมาณ 5 – 10 ปี ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งสามารถเข้ามาทำซ้ำได้อีกตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อคงผลลัพธ์หน้าเด็กและใบหน้าที่ยกกระชับเรียบตึงให้คงอยู่ได้นานยิ่งขึ้น
สรุป
ดึงหน้า ศัลยกรรมยกกระชับปรับรูปหน้าลึกถึงชั้น SMAS จึงให้ผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงดีขึ้นอย่างชัดเจน ทำได้ทั่วทั้งใบหน้าและลำคอสามารถแก้ปัญหาผิวเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย มีริ้วรอยให้กลับมาเรียบตึง ทั้งยังช่วยจัดเหนียง เก็บกรอบหน้าชัด ช่วยให้ใบหน้ากลับมาอ่อนเยาว์ หน้าไม่โทรม ใบหน้ามีมิติมากขึ้น สำหรับใครที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยที่ค่อนข้างหนักหรือมีปัญหาผิวที่ใช้หลายวิธีแล้วก็ไม่ค่อยเห็นผล สามารถเข้ามาปรึกษาทีมแพทย์มากประสบการณ์ของ Vincent Clinic เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมิน วิเคราะห์ใบหน้า ออกแบบใบหน้า และวางแผนการรักษาเฉพาะรายบุคคล