

ฉีดสเต็มเซลล์ผม คืออะไร เหมาะกับใคร ต่างจากการปลูกผมอย่างไร?
ปัญหาผมร่วง ผมบาง จนมองเห็นหนังศีรษะทำให้เกิดความไม่มั่นใจ เทคนิคการฉีดสเต็มเซลล์ผม หรือที่บางคลินิกเรียกว่า Cell Regen เป็นนวัตกรรมที่นำเซลล์ชีวภาพจากรากผมของคนไข้มาใช้กระตุ้นรากผมให้กลับมาแข็งแรง จึงเป็นอีกทางเลือกของคนที่ต้องการแก้ปัญหาโดยไม่ต้องผ่าตัด ช่วยกระตุ้นให้รากผมมีความแข็งแรง ฟื้นฟูเซลล์จากภายใน
หากใครที่ยังมีข้อสงสัยว่าปลูกผมแบบไม่ผ่าตัดด้วยวิธีนี้คืออะไร เห็นผลลัพธ์ได้ถาวรไหม ทำกี่ครั้งเห็นผล เหมาะกับใครบ้าง มีข้อจำกัดไหม สามารถติดตามอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากข้อมูลต่อไปนี้ได้เลย

Key Takeaways
- การฉีดสเต็มเซลล์ผม เป็นเทคนิคที่นำสเต็มเซลล์จากรากผมของผู้ป่วยเอง คัดแยกและฉีดกลับเพื่อฟื้นฟูรากผมให้แข็งแรง โดยไม่ต้องผ่าตัด
- นอกจากการฉีดสเต็มเซลล์แล้ว ยังมีวิธีฟื้นฟูผมร่วงอื่นๆ ที่ไม่ต้องผ่าตัด เช่น การฉีด PRP การใช้ Exosome และการฉีดเซลล์ไขมัน ซึ่งต่างก็มีช่วยฟื้นฟูรากผมและกระตุ้นการงอกใหม่
- กระบวนการทำงานของการฉีดสเต็มเซลล์ผมเริ่มจากการคัดแยกเซลล์ชีวภาพจากหนังศีรษะด้วยอุปกรณ์เฉพาะ แล้วนำกลับมาฉีดเพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูรากผมให้แข็งแรงขึ้น
- วิธีการฉีดสเต็มเซลล์ผมเหมาะสำหรับผู้ที่ยังมีรากผมหลงเหลืออยู่ เช่น ผู้ที่มีภาวะผมร่วงระยะแรก ผมร่วงจากฮอร์โมน ความเครียด หรือหลังคลอด
- การฉีดสเต็มเซลล์ผมเป็นหนึ่งในเทคนิค Cell Regen ซึ่งแตกต่างจากการปลูกผมอย่างชัดเจน โดย Cell Regen จะเน้นการฟื้นฟูรากผมเดิมให้แข็งแรง ส่วนการปลูกผมเป็นการย้ายรากผมใหม่ไปยังบริเวณที่ศีรษะล้าน
- โดยทั่วไปการรักษาฉีดสเต็มเซลล์ผมด้วยเทคนิค Cell Regen จะทำประมาณ 3–6 ครั้ง ห่างกัน 2–4 สัปดาห์ และเริ่มเห็นผลในช่วง 2–3 เดือนหลังการรักษา
- ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นมีเพียงอาการบวมแดงหรือคันเล็กน้อย ซึ่งมักหายไปได้เองภายในไม่กี่วัน
- เทคโนโลยี Regenera Activa ถือเป็นหนึ่งในระบบฉีดสเต็มเซลล์ผมที่ได้รับการยอมรับจากยุโรป โดยใช้เครื่องมือพิเศษในการคัดแยก Micrografts อย่างแม่นยำและปลอดภัย
- การรักษารากผมด้วยฉีดสเต็มเซลล์ผมสามารถทำได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ที่ยังมีรากผมเดิมหลงเหลืออยู่ และยังสามารถทำควบคู่กับการปลูกผมเพื่อช่วยให้รากผมใหม่ฟื้นตัวดีขึ้น
- แม้ผลลัพธ์จะแตกต่างกันในแต่ละคน แต่ส่วนใหญ่มักเห็นการเปลี่ยนแปลงในช่วง 2–3 เดือน และผลลัพธ์จะอยู่ได้นานราว 6–12 เดือน ขึ้นอยู่กับสุขภาพและการดูแลหลังทำ
- การฉีดสเต็มเซลล์ผมเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูรากผมโดยไม่ต้องผ่าตัด ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับรากผม และกระตุ้นการงอกของเส้นผมใหม่อย่างปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ
ฉีดสเต็มเซลล์ผม คืออะไร?
สำหรับการฉีดสเต็มเซลล์ผม เป็นหนึ่งในเทคนิคการทำ Cell Regen ด้วยการนำเอาเซลล์ต้นกำเนิด หรือ สเต็มเซลล์ จากรากผมของคนไข้นำเข้าสู่กระบวนการทางการแพทย์เพื่อคัดแยกเอาสเต็มเซลล์ที่มีคุณภาพออกมา หลังจากนั้นแพทย์จะฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิวในตำแหน่งที่ต้องการกระตุ้นให้รากผมแข็งแรง เส้นผมใหม่งอกเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นช่วยลดการทำงานของฮอร์โมนที่ทำให้เกิดอาการ ผมร่วง ให้น้อยลง ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เป็นสเต็มเซลล์จากรากผมของคนไข้เองไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมจึงมีความปลอดภัย
การฉีดสเต็มเซลล์ผมมีหลายเทคนิค หนึ่งในเทคโนโลยีที่เป็นที่รู้จักในระดับสากล คือ Regenera Activa ซึ่งเป็นการคัดแยก Micrografts จากหนังศีรษะโดยใช้เครื่องมือเฉพาะ แล้วนำกลับมาฉีดในตำแหน่งที่ต้องการกระตุ้นรากผม
ปลูกผม Long Hair ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง?
นอกจากการฉีด Stem cell ผมด้วยนำเอาสเต็มเซลล์จากรากผมมาใช้แก้ปัญหาได้แล้ว ยังมีเทคนิคอื่น ๆ ที่สามารถช่วยรักษาอาการผมร่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ฉีด PRP ผม
โปรแกรมการฉีด PRP ผม เป็นการนำเอาเลือดของคนไข้ออกมาในปริมาณที่กำหนดเพื่อเอาเข้าไปใส่ในเครื่องปั่นแยก หลังจากนั้นจะได้เกล็ดเลือดเข้มข้นฉีดเข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการแก้ปัญหา ช่วยกระตุ้นการสร้างและซ่อมแซมเซลล์จากภายใน กระบวนการสร้างเส้นเลือดฝอยที่จะลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนมาเลี้ยงบริเวณรากผมให้เพิ่มขึ้น รากผมจึงแข็งแรง สุขภาพดี ผมหนาขึ้น เส้นผมงอกใหม่เพิ่มขึ้น
ฉีด Exosome
สำหรับโปรแกรมฉีด Exosome เป็นการฉีดด้วยสารอาหารและ Growth Factor ซึ่งได้จากการสกัดออกมาจากรก ไขมันสัตว์ หรือสกัดจากพืช มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูเซลล์จากภายใน ช่วยเพิ่มกระบวนการเติบโตของเซลล์รากผม กระตุ้นการสร้างเส้นเลือดฝอยที่มาเลี้ยงรากผมให้มากขึ้น
ปลูกผมด้วยเซลล์ไขมัน
เป็นการนำเอาไขมันของคนไข้มาเข้าสู่กระบวนการสกัดเอาเซลล์ไขมันที่มีโมเลกุลขนาดเล็กสุด หลังจากนั้นนำกลับมาฉีดบริเวณที่ต้องการแก้ไขปัญหา ซึ่งในไขมันเหล่านี้จะอุดมไปด้วย Growth Factor เข้มข้น จึงสามารถช่วยกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมเซลล์รากผมให้ดีขึ้น รากผมแข็งแรงมีจำนวนเพิ่มขึ้น ผมหนาขึ้นเป็นธรรมชาติ

หลักการทำงานของการฉีดสเต็มเซลล์ผม
สำหรับการใช้สเต็มเซลล์จากรากผมเพื่อนำมาแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง เป็นการนำเอาเซลล์รากผมเข้าสู่กระบวนการคัดแยกด้วยเครื่องมือพิเศษเพื่อให้ได้สเต็มเซลล์ที่มีความแข็งแรง หลังจากนั้นนำกลับมาฉีดเข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการแก้ไขปัญหา ด้วยคุณสมบัติของสเต็มเซลล์ที่สามารถแบ่งตัวได้ไม่จำกัดจึงสามารถช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์รากผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้รากผมแข็งแรงสุขภาพดี กระตุ้นกระบวนการสร้างเส้นเลือดฝอยที่มาเลี้ยงบริเวณรากผมให้เพิ่มขึ้น ลดอาการหลุดร่วง ช่วยให้เส้นผมหนาดกดำเป็นธรรมชาติ นอกจากนั้นยังสามารถช่วยลดการทำงานของฮอร์โมน DHT ต้นเหตุของอาการผมร่วง ผมบาง ให้น้อยลงได้อีกด้วย
ฉีดสเต็มเซลล์ผม เหมาะกับใคร?
หลายคนคงอยากเลือก ฉีดสเต็มเซลล์ผม แทนการผ่าตัด เพราะไม่อยากเจ็บ ไม่อยากมีแผล แต่เทคนิคนี้ไม่ใช่ว่าจะทำได้กับทุกคน เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะกับกลุ่มคนดังต่อไปนี้
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ในระยะแรกเริ่ม ซึ่งยังคงมีรากผมหลงเหลืออยู่
- เหมาะกับคนที่มีภาวะเครียดหรือเป็นโรคดึงผมตัวเอง
- เหมาะกับคนที่มีภาวะผมร่วงซึ่งเกิดจากกรรมพันธุ์
- เหมาะกับคนที่ผมร่วงจากฮอร์โมน
- เหมาะกับคนที่มีอาการผมร่วงหลังคลอด
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาผมร่วงในระดับน้อยไปถึงปานกลาง
- เหมาะกับคนที่เคยปลูกผมและต้องการเพิ่มความแข็งแรงให้รากผมมากขึ้น
การทำ Cell Regen ด้วยการฉีดสเต็มเซลล์ผม กับ ปลูกผม ต่างกันอย่างไร?
การทำ Cell Regen ด้วยการฉีดสเต็มเซลล์ผมกับ การ ปลูกผม มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจน ทั้งเรื่องของกระบวนการรักษา ระดับปัญหาที่แก้ไขได้ รวมถึงผลลัพธ์หลังทำ โดยมีรายละเอียดของความแตกต่างดังนี้
Cell Regen
เป็นการใช้สเต็มเซลล์ของคนไข้นำเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเซลล์ที่มีคุณภาพและฉีดกลับเข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการ เพื่อฟื้นฟูและซ่อมแซมรากผมเดิมที่มีอยู่ให้กลับมาแข็งแรง สารอาหารไปเลี้ยงรากผมได้มากขึ้น เส้นผมหนาขึ้น ดกดำเป็นธรรมชาติ
ปลูกผม
เป็นการใช้เทคนิคทางการแพทย์เข้าไปเก็บเอากราฟผมที่บริเวณด้านหลังของศีรษะซึ่งมีความแข็งแรง ย้ายมาปลูกไว้ในตำแหน่งที่มีปัญหาศีรษะล้าน ไม่มีรากผมหลงเหลืออยู่แล้ว ได้ผลลัพธ์ที่ถาวร ออกแบบและจัดเรียงแนวผมได้ตามต้องการ
ตารางเปรียบเทียบ Cell Regen (ฉีดสเต็มเซลล์ผม) vs การปลูกผม
รายละเอียด | Cell Regen (ฉีดสเต็มเซลล์ผม) | การปลูกผมแบบย้ายราก |
วิธีการ | ใช้สเต็มเซลล์จากรากผมของตัวเอง คัดแยกและฉีดกลับเข้าสู่บริเวณที่มีปัญหา | ย้ายรากผมจากบริเวณท้ายทอยมาปลูกยังจุดที่ศีรษะล้าน |
ต้องผ่าตัดไหม | ไม่ต้องผ่าตัด | เป็นหัตถการผ่าตัด |
เหมาะกับใคร | ผู้ที่ยังมีรากผมหลงเหลืออยู่ ผมร่วงระยะต้น–กลาง | ผู้ที่หัวล้านถาวร ไม่มีรากผมเดิมในบริเวณปัญหา |
ผลลัพธ์ | รากผมเดิมแข็งแรงขึ้น ผมงอกใหม่เพิ่มขึ้น | ได้แนวผมใหม่ถาวรในบริเวณที่ไม่มีรากผมเลย |
ระยะเวลาเห็นผล | 2–3 เดือน | 4–6 เดือน และเข้าที่ใน 9–12 เดือน |
จำนวนครั้งที่ทำ | 3–6 ครั้ง ห่างกัน 2–4 สัปดาห์ | ส่วนใหญ่ทำครั้งเดียว หากไม่ได้ผลอาจปลูกซ้ำได้ |
พักฟื้น | ไม่ต้องพักฟื้น | ต้องพักฟื้น 5–7 วันแรก |
ความเจ็บ/บวม | เจ็บเล็กน้อย ทายาชาก่อนทำ | มีแผลขนาดเล็ก/รอยแดงจากการย้ายราก |
ค่าใช้จ่าย | ปานกลาง–ค่อนข้างสูง (แต่ไม่ต้องผ่าตัด) | สูงกว่าในภาพรวม แต่ได้ผลถาวร |
ทำร่วมกันได้ไหม | ทำควบคู่กันได้ | ทำคู่กับ Cell Regen เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้ |
ทั้ง Cell Regen และการปลูกผมต่างก็มีข้อดีในแบบของตัวเอง และเหมาะกับคนละประเภทของปัญหา หากคุณยังมีรากผมเดิมอยู่ และต้องการฟื้นฟูโดยไม่ผ่าตัด การฉีดสเต็มเซลล์ผมเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย ไม่เจ็บตัว และสามารถเห็นผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติได้โดยไม่ต้องพักฟื้น
แต่หากคุณมีปัญหาศีรษะล้านถาวร หรือไม่มีรากผมหลงเหลืออยู่เลย การปลูกผมจะเป็นวิธีที่เหมาะสมและตรงจุดมากกว่า เพราะสามารถสร้างแนวผมใหม่ได้อย่างถาวร โดยแพทย์จะช่วยออกแบบรูปทรงและความหนาแน่นตามต้องการ
ดังนั้นการเลือกเทคนิคที่เหมาะสมจึงควรขึ้นอยู่กับ ระดับปัญหา สภาพรากผมเดิม และเป้าหมายของคุณเอง ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์เพื่อประเมินและวางแผนอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ
ฉีดสเต็มเซลล์ผม ต้องฉีดกี่ครั้งถึงเห็นผล?
หนึ่งในเทคนิคการฉีดสเต็มเซลล์ผมที่ได้รับความนิยมและเป็นมาตรฐานสากลคือ Regenera Activa ซึ่งจำนวนครั้งในการทำขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมินในเรื่องของระดับปัญหา ความแข็งแรงของรากผม และความต้องการของคนไข้ เนื่องจากเป็นการใช้สเต็มเซลล์ในการกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูและซ่อมแซมรากผมจากภายในจึงต้องทำอย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์วางแผนการรักษาเอาไว้ โดยทั่วไปจะฉีดอยู่ที่ประมาณ 3 – 6 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างกันในแต่ละครั้งประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ โดยจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ในช่วงประมาณ 2 – 3 เดือนหลังทำ
ข้อดีของการฉีดสเต็มเซลล์ผม
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เนื่องจากการฉีดสเต็มเซลล์ผมเป็นหัตถการที่ไม่ต้องมีบาดแผลขนาดใหญ่ และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังทำทันที
- ใช้เซลล์ของตัวเอง ปลอดภัย ไม่เกิดการต่อต้าน เพราะเป็นการนำเซลล์จากรากผมของคนไข้เองมาคัดแยกและฉีดกลับเข้าไป จึงลดโอกาสเกิดอาการแพ้หรือผลข้างเคียงรุนแรง
- ช่วยกระตุ้นรากผมเดิมให้แข็งแรงขึ้น เสริมสร้างสภาพแวดล้อมของรากผมให้ดีขึ้น เพิ่มการไหลเวียนเลือด และฟื้นฟูโครงสร้างเซลล์อย่างเป็นธรรมชาติ
- เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการปลูกผมหรือยังไม่พร้อมผ่าตัด โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาผมบางจากฮอร์โมน ความเครียด หรือหลังคลอด ซึ่งยังมีรากผมเดิมหลงเหลืออยู่
- สามารถทำควบคู่กับการปลูกผมได้ เพื่อเพิ่มอัตราการรอดของรากผมใหม่ และช่วยให้การปลูกผมเห็นผลดีขึ้น
ข้อจำกัดของการฉีดสเต็มเซลล์ผม
- ไม่เหมาะกับผู้ที่หัวล้านถาวรหรือไม่มีรากผมเหลืออยู่ หากไม่มีรากผมเดิมให้กระตุ้น การฉีดจะไม่สามารถสร้างรากผมใหม่ขึ้นมาได้
- ต้องทำหลายครั้งต่อเนื่องตามแผนการรักษา โดยปกติต้องฉีด 3–6 ครั้ง และฉีดซ้ำทุก 4–6 เดือนเพื่อคงผลลัพธ์
- ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับปัจจัยเฉพาะบุคคล เช่น อายุ สุขภาพหนังศีรษะ พฤติกรรมดูแลตัวเอง และระดับฮอร์โมน
- ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับทรีตเมนต์ทั่วไป เนื่องจากเป็นเทคนิคเฉพาะทาง ใช้อุปกรณ์พิเศษ และต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการฉีดสเต็มเซลล์ผม
ยังมีหลายคำถามที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับการฉีดสเต็มเซลล์ผม ด้วยการทำ Cell Regen ในหลาย ๆ ด้าน บทความนี้จึงได้รวบรวมเอาส่วนหนึ่งของคำถามเอาไว้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกทำในอนาคต โดยมีรายละเอียด ดังนี้
Q : ฉีดสเต็มเซลล์ผมเจ็บไหม?
A : ก่อนทำจะมีการทายาชาช่วยลดความรู้สึกเจ็บ คนไข้ส่วนใหญ่มักรู้สึกเพียงเล็กน้อยระหว่างฉีดและสามารถทนได้ค่ะ
Q : ผู้หญิงสามารถฉีดสเต็มเซลล์ผมได้ไหม?
A : ได้ค่ะ เทคนิคนี้เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผมร่วงจากฮอร์โมน ความเครียด หรือหลังคลอด
Q : ฉีดสเต็มเซลล์ผมเหมาะกับใครมากที่สุด?
A : เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางในระยะแรก และยังมีรากผมเดิมหลงเหลืออยู่ โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะผมร่วงจากกรรมพันธุ์ ฮอร์โมน หรือความเครียด
Q : ฉีดสเต็มเซลล์ผมช่วยแก้ผมบางถาวรได้ไหม?
A : ถ้ายังมีรากผมเดิม การฉีดสามารถช่วยให้ผมหนาขึ้นได้ค่ะ แต่ถ้าศีรษะล้านถาวรและไม่มีรากผมแล้ว แนะนำให้ปลูกผมจะเห็นผลดีกว่า
Q : ฉีดสเต็มเซลล์ผมใช้เวลาทำนานไหม?
A : ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 60–90 นาที ขึ้นอยู่กับจุดที่ฉีดและขั้นตอนเตรียมเซลล์ หลังทำสามารถกลับบ้านได้ทันทีค่ะ
Q : ต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผลลัพธ์?
A : แนะนำ 3–6 ครั้ง ห่างกัน 2–4 สัปดาห์ และสามารถฉีดซ้ำทุก 4–6 เดือนตามคำแนะนำของแพทย์ค่ะ
Q : ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?
A : มักเห็นผลในช่วง 2–3 เดือนแรก และผลลัพธ์จะอยู่ได้นานราว 6–12 เดือน ขึ้นอยู่กับสุขภาพหนังศีรษะและการดูแลหลังทำค่ะ
Q : ทำ Cell Regen แล้วผมขึ้นทุกคนไหม?
A : ไม่ใช่ทุกคนค่ะ เทคนิคนี้ต้องมีรากผมเดิมให้กระตุ้น ถ้าศีรษะล้านถาวรโดยไม่มีรากผม อาจต้องใช้การปลูกผมแทน
Q : การฉีด Regenera Activa มีผลข้างเคียงไหม?
A : ผลข้างเคียงมีเพียงเล็กน้อย เช่น บวม แดง หรือคันบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายไปได้เองภายในไม่กี่วัน และไม่ก่อให้เกิดการต่อต้านเพราะใช้เซลล์จากร่างกายตัวเอง
Q : การฉีดสเต็มเซลล์ผมสามารถทำร่วมกับการปลูกผมได้ไหม?
A : ได้ค่ะ การทำร่วมกันช่วยให้รากผมใหม่ฟื้นตัวดีขึ้น เพิ่มอัตราการงอกใหม่ และให้ผลลัพธ์ที่แน่นและธรรมชาติมากขึ้น
สรุป
ฉีดสเต็มเซลล์ผม เป็นเทคนิค Cell Regen ที่เหมาะกับคนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ในระยะขั้นเริ่มต้นที่ยังคงมีรากผมหลงเหลืออยู่ โดยจะเข้าไปช่วยกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์รากผมให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการสร้างเส้นเลือดฝอยที่ไปหล่อเลี้ยงรากผมเพิ่มมากขึ้น รากผมแข็งแรงสุขภาพดี เส้นผมงอกใหม่เพิ่มขึ้น เส้นหนาดกดำเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น สำหรับใครที่ต้องการปลูกผมหรือมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะ แนะนำให้เข้ามาปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อให้แพทย์ผู้มีประสบการณ์ช่วยวินิจฉัยปัญหา วิเคราะห์สภาพผิว เลือกวิธีการรักษา และออกแบบการรักษาที่เหมาะกับคนไข้แต่ละคน