vincent.jpg.png
vc_3.png
Vincent Clinic Bangkok Plastic Surgery
คลินิกศัลยกรรมความงาม ดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit
บทความ
ปลูกผม FUT คืออะไร เหมาะกับใคร มีข้อจำกัดไหม ต่างจาก FUE อย่างไร?
แชร์ :

ปลูกผม FUT คืออะไร เหมาะกับใคร มีข้อจำกัดไหม ต่างจาก FUE อย่างไร?

ข้อควรรู้เกี่ยวกีบการปลูกผมเทคนิค FUT
อยากรู้เรื่องอะไร? คลิกที่หัวข้อได้เลย!

Key Takeaways

  • ปลูกผม FUT สามารถย้ายกราฟผมจำนวนมากได้ในครั้งเดียว แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างได้ดี
  • การปลูกผม FUT ให้ผลลัพธ์ถาวร สามารถเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้หลังทำตั้งแต่ 6 เดือนเป็นต้นไป
  • ข้อดีของการปลูกผม FUT สามารถแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ที่เกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์ได้
  • เนื่องจากมีการตัดแถบหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยจึงทำให้เกิดรอยแผลเป็นยาวและต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าเทคนิค FUE

เทคนิคปลูกผม FUT เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการแก้ปัญหาของคนที่มีอาการผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้าน ให้กลับมาผมหนาดกดำแบบถาวร เพราะสามารถส่งผลกระทบกับความมั่นใจและบุคลิกภาพเป็นอย่างมาก ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นกับหนังศีรษะและเส้นผมนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน เพื่อให้เข้าใจเทคนิคการปลูกผม ในรูปแบบ FUT ให้มากขึ้น รวมไปถึงรู้ที่มาที่ไปของปัญหาจะได้หาทางป้องกันและแก้ไขได้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคนี้คืออะไร เหมาะกับใครบ้าง หลังทำต้องดูแลอย่างไรบ้าง มีผลข้างเคียงไหม สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้จากเนื้อหาต่อไปนี้จาก Vincent Clinic Plastic Surgery

ปลูกผม FUT คืออะไร?

ปลูกผม FUT (Follicular Unit Transplantation) คือ เทคนิคปลูกผมแบบดั้งเดิมที่ช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้านได้อย่างถาวร ด้วยการย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณท้ายทอยมาปลูกใหม่ในตำแหน่งที่ต้องการแก้ปัญหา โดยแพทย์จะผ่าตัดเอาแถบหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยออกมา ซึ่งเซลล์รากผมบริเวณนี้จะมีความแข็งแรงและไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมน DHT ที่มีผลทำให้เกิดปัญหารากผมอ่อนแอหลุดร่วงกลายเป็นปัญหาศีรษะล้าน 

ข้อดีของการปลูกผม FUT

การปลูกผม FUT มีข้อดีด้วยกันหลายอย่าง ซึ่งสามารถตอบโจทย์การแก้ปัญหาเกี่ยวกับผมบาง ศีรษะล้านได้เป็นอย่างดี โดยมีข้อดีดังต่อไปนี้

  • สามารถย้ายรากผมจำนวนมากได้ในครั้งเดียว
  • กราฟผมมีคุณภาพดีเนื่องจากยังคงมีเนื้อเยื่อและไขมันห่อหุ้มรอบรากผมอยู่ 
  • ใช้เวลาน้อยกว่าการเจาะเก็บรากผมทีละกราฟ
  • บริเวณท้ายทอยผมจะไม่ดูบางลง

ข้อจำกัดของการปลูกผม FUT

สำหรับเทคนิคปลูกผม FUT เป็นเทคนิคแบบเก่าที่ใช้กันมานาน แม้จะมีข้อดีที่ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างเห็นผล แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในหลายด้านเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น

  • หลังผ่าตัดจะมีรอยแผลเป็นยาวอยู่บริเวณท้ายทอย ในตำแหน่งที่ตัดหนังศีรษะออกมาเพื่อเก็บกราฟผมไปปลูก
  • หากคนไข้ไว้ผมสั้นมาก ๆ หรือโกนหัว เป็นเห็นรอยแผลเป็นชัดเจน อาจจะต้องไว้ผมให้มีความเพียงพอที่จะปิดรอยแผลเป็นได้
  • ในกรณีของคนที่มีหนังศีรษะค่อนข้างตึง ผิวไม่ยืดหยุ่นเท่าที่ควร อาจทำให้รอยเย็บบริเวณท้ายทอยตึงเกินไปจนแผลปริแตกได้ง่าย แพทย์อาจจะพิจารณาวิธีการปลูกผมแบบอื่น
  • คนที่มีประวัติเป็นคีลอยด์หรือเป็นแผลเป็นนูนได้ง่าย ไม่เหมาะกับการทำเทคนิคนี้เพราะอาจเกิดปัญหาตามมา 
  • พักฟื้นค่อนข้างนาน ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์

ปลูกผมเทคนิค FUT ้หมาะกับใคร

ปลูกผม FUT เหมาะกับใคร?

สำหรับการปลูกผมแบบ FUT สามารถช่วยแก้ปัญหาหัวล้าน ผมบาง ได้อย่างเห็นผล จึงเป็นเทคนิคที่เหมาะกับคนที่มีความต้องการและมีปัญหาดังต่อไปนี้

  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาศีรษะล้านเป็นวงกว้างหรือต้องการปรับแนวผมด้านหน้าให้เพิ่มมากขึ้น
  • เหมาะกับคนที่ต้องการย้ายรากผมจำนวนมากในครั้งเดียว
  • เหมาะกับคนที่ต้องการแก้ปัญหาแบบถาวร
  • เหมาะกับคนที่ใช้วิธีอื่นแล้วไม่เห็นผลหรือเห็นผลน้อย
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาผมบาง ผมร่วง ซึ่งเกิดจากรากผมเสื่อมสภาพ
  • เหมาะกับคนที่สามารถไว้ผมยาวเพื่อปิดรอยแผลผ่าตัดบริเวณท้ายทอยได้

ความแตกต่างเทคนิคปลูกผม FUEและ FUT

เปรียบเทียบการปลูกผม FUT กับ ปลูกผม FUE 

สำหรับใครที่มีความสงสัยว่าปลูกผม FUT และ ปลูกผมแบบ FUE แตกต่างกันอย่างไร ในเนื้อหาต่อไปนี้เราจะมาสรุปความแตกต่างแบบเข้าใจง่าย ๆ ไว้ให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ดังนี้

เทคนิคปลูกผมแบบ FUT 

สำหรับเทคนิคการปลูกผมแบบ FUT เป็นเทคนิคการปลูกผมดั้งเดิมที่ใช้กันมานาน ด้วยการตัดแถบหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยออกมาประมาณ 10 – 15 ซม. ขึ้นอยู่กับระดับปัญหาและจำนวนกราฟผมที่ต้องใช้ ทำให้สามารถย้ายกราฟผมจำนวนมากได้ในครั้งเดียว แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในวงกว้างได้ดี แต่จะทิ้งรอยแผลเป็นยาวบริเวณท้ายทอย หากใครที่ไว้ผมสั้นมากเกินไปหรือโกนผมอาจทำให้เห็นรอยแผลเป็นชัดเจน ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนานประมมาณ 1 – 2 สัปดาห์ มีขั้นตอนในการดูแลแผลผ่าตัดเพิ่มมากขึ้น

การปลูกผมด้วยเทคนิค FUE

เทคนิคการ ปลูกผม FUE เป็นเทคนิคใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์คนที่ไม่ต้องการมีรอยแผลผ่าตัดขนาดใหญ่ ด้วยการใช้เครื่องมือพิเศษในการเจาะเก็บรากผมบริเวณท้ายทอยแบบกราฟต่อกราฟ ทำให้เกิดรอยแผลขนาดเล็กประมาณ 1 มม. เจ็บน้อยกว่า ไม่ต้องเย็บแผล ไม่ต้องพักฟื้น แต่ไม่สามารถย้ายรากผมจำนวนมากในครั้งเดียว อาจจะต้องใช้ระยะเวลาปลูกผมที่นานกว่า แต่ได้ความละเอียดและผลลัพธ์ที่คุ้มค่า สามารถไว้ผมทรงไหนก็ได้ตามความต้องการ แม้ตัดผมสั้นก็มองรอยแผลแทบไม่เห็น แต่วิธีการนี้อาจทำให้ผมบริเวณท้ายทอยแลดูบางลงได้บ้าง

 ตารางสรุปเปรียบเทียบการปลูกผม FUT กับ FUE

หัวข้อเปรียบเทียบ

FUT (Follicular Unit Transplantation)

FUE (Follicular Unit Extraction)

วิธีการเก็บรากผม ผ่าตัดตัดแถบหนังศีรษะจากท้ายทอยเพื่อแยกรากผมออกมา เจาะรากผมแบบกราฟต่อกราฟด้วยเครื่องมือขนาดเล็ก
รอยแผลหลังทำ มีรอยแผลยาวบริเวณท้ายทอย (ต้องเย็บแผล) มีรอยแผลจุดเล็ก ๆ ไม่ต้องเย็บแผล
จำนวนกราฟผมที่เก็บได้ เก็บได้ครั้งละมาก เหมาะกับเคสที่ต้องการปลูกผมจำนวนมาก เก็บได้จำกัดในแต่ละครั้ง (เหมาะกับปลูกไม่มากหรือค่อย ๆ ทำ)
ระยะเวลาพักฟื้น 1 – 2 สัปดาห์ (แผลหายช้ากว่า) 2 – 5 วัน (แผลเล็ก ฟื้นตัวไว)
ความเหมาะสมของผู้รับบริการ คนที่ศีรษะล้านเป็นบริเวณกว้าง ต้องการปลูกมากในครั้งเดียว คนที่ต้องการไม่มีรอยแผลใหญ่ หรือผมสั้น / โกนผม
ผลข้างเคียงเรื่องรอยแผลเป็น อาจเกิดแผลเป็นยาว หากผิวหนังตึง หรือเป็นคีลอยด์ได้ง่าย รอยแผลจุดเล็กจางลงได้ไว มองไม่เห็นเมื่อผมขึ้น
ทรงผมหลังทำ ต้องไว้ผมยาวเพื่อปิดรอยแผลที่ท้ายทอย ไว้ผมสั้นหรือโกนศีรษะได้ตามต้องการ
ความเจ็บและการดูแลแผล เจ็บมากกว่า ต้องดูแลแผลผ่าตัด เจ็บน้อยกว่า แผลเล็ก ดูแลง่าย
ระยะเวลาการทำ เร็วกว่าการเจาะเก็บแบบ FUE ใช้เวลานานกว่าเนื่องจากเจาะทีละกราฟ
ราคาโดยประมาณ มักมีราคาถูกกว่า FUE ต่อจำนวนกราฟ ราคาสูงกว่า (เพราะใช้เวลานานและเทคนิคละเอียด)

คำแนะนำ FUT เหมาะกับคนที่ต้องการย้ายกราฟผมจำนวนมากในครั้งเดียว และสามารถรับกับรอยแผลเป็นได้ ส่วน FUE เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ดูธรรมชาติ ไม่มีแผลเป็นยาว แม้ต้องปลูกผมน้อยกว่าต่อครั้ง

ขั้นตอนการปลูกผม FUT

สำหรับขั้นตอนในการปลูกผม FUT หลัก ๆ แล้วจะคล้ายกับการปลูกผมแบบอื่น แต่ต่างกันที่เทคนิคในการผ่าตัดที่แพทย์ใช้ โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • พบแพทย์เพื่อรับการประเมิน วางแผนการรักษา กำหนดจุดที่จะตัดเอารากผมออกมา กำหนดจุดที่จะนำรากผมไปปลูก และคำนวนจำนวนกราฟผมที่จะต้องใช้ โดยแพทย์จะออกแบบแนวผมตามความต้องการของคนไข้ควบคู่ไปกับความเหมาะสมของใบหน้าแต่ละคน
  • เมื่อคนไข้พร้อมแล้วจะมีการโกนผมให้สั้นลงและฉีดยาชาเฉพาะจุดในตำแหน่งที่ต้องการตัดเอาเซลล์รากผมออกมา
  • เมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะตัดเอาหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยในตำแหน่งที่มีรากผมแข็งแรงประมาณ 10 – 15 ซม. ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมินตามระดับปัญหาและจำนวนกราฟผมที่ต้องใช้ และเย็บแผลปิดไว้
  • หลังจากนั้นจะทำการคัดแยกเซลล์รากผมที่สมบูรณ์เพื่อนำไปปลูกในตำแหน่งที่กำหนดไว้ตั้งแต่ต้น
  • แพทย์จะทำการฉีดยาชาบริเวณด้านหน้าในตำแหน่งที่กำหนดไว้สำหรับปลูกผมและเจาะรูเพื่อนำรากผมลงไปปลูกทีละกราฟ หลังทำเสร็จคนไข้สามารถกลับบ้านได้เลย

ปลูกผม FUT ผลลัพธ์คงอยู่ถาวรไหม? 

เทคนิคปลูกผม FUT ให้ผลลัพธ์ที่ดีและคงอยู่ถาวร เนื่องจากรากผมบริเวณท้ายทอยที่ย้ายมาปลูกนั้น ไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมน DHT ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดผลร่วง ผมบาง หัวล้าน แต่ในช่วงแรกของการปลูกผมอาจเกิดอาการ Shock Loss ซึ่งจะมีผมบางส่วนหลุดร่วงไป แต่จะมีผมใหม่งอกขึ้นมาแทนที่ประมาณ 3 – 6 เดือน

การดูแลตัวเองหลังปลูกผม FUT

หลังปลูกผม FUT ควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังทำ และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ไว แผลหายเร็ว ไม่กระทบต่อผมที่ปลูกใหม่ โดยสามารถดูแลตัวเองหลังทำได้ดังนี้

  • ในช่วงแรกหลังทำ ห้ามแกะผ้าพันแผลออกจนกว่าจะครบ 24 ชั่วโมง
  • งดแกะ เกา ขยี้ สัมผัส หรือการเสียดสีบริเวณที่ปลูกผม เพราะอาจทำให้รากผมยังไม่เข้าที่เกิดการหลุดร่วงได้และยังมีโอกาสทำให้ติดเชื้อมากขึ้น สำหรับสะเก็ดแผลที่เกิดขึ้นควรปล่อยให้หลุดไปเอง
  • งดนอนคว่ำ แต่ควรนอนหงายหรือนอนตะแคงในช่วงแรกหลังทำ เพื่อป้องกันไม่ให้บริเวณที่ปลูกผมถูกกระทบกระเทือน ในกรณีที่นอนหงายควรหาหมอนรองคอเพื่อไม่ให้แผลท้ายทอยถูกกดทับ จนกว่าจะหายดี
  • หลังผ่านไปแล้วประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ สามารถเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เช่น มูส เจล เป็นต้น แต่ควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่ปลูกผมและแผลผ่าตัดบริเวณท้ายทอย
  • ในช่วงแรกควรยกศีรษะสูงเพื่อลดอาการบวม ความดันบริเวณแผลผ่าตัดน้อยลง ช่วยให้เจ็บน้อยลงได้
  • งดกิจกรรมที่ออกแรงเยอะ งดยกของหนัก หรือก้มหยิบของ ในช่วงแรก เพราะจะทำให้เกิดความดันเพิ่มขึ้นบริเวณแผล ทำให้เกิดอาการบวมหรือมีเลือดออกได้มากขึ้น อาจส่งผลทำให้กราฟผมหลุดได้
  • แนะนำให้สระผมทุกวัน วันละหนึ่งครั้งด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ เพื่อทำความสะอาดแผลในช่วง 1 เดือนแรกหลังทำ โดยทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งจะมีการสอนวิธีสระผมให้กับคนไข้เพื่อนำกลับไปปฏิบัติเองที่บ้าน
  • สามารถทำเลเซอร์สำหรับกระตุ้นรากผม ลดอาการอักเสบ ช่วยให้สมานแผลไว ที่คลินิกได้
  • งดออกกำลังกายหรือว่ายน้ำ ในช่วงแรกหลังทำ เพราะน้ำจากสระว่ายน้ำหรือเหงื่อสามารถเพิ่มโอกาสติดเชื้อให้มากขึ้นได้
  • งดกิจกรรมกลางแจ้งหรือการโดนแดดจัด หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านแนะนำให้สวมหมวกหรือผ้าคลุมที่ไม่รัดแน่นเกินไปเพื่อช่วยปกป้องกราฟผมที่ปลูกใหม่ได้

ดูแลแผลเป็นจากการปลูกผม FUT อย่างไรให้จางเร็ว?

เพื่อให้รอยแผลเป็นจากการปลูกผม FUT ลดขนาดเล็กลงหรือจางลงไปให้ได้มากที่สุด หลังผ่าตัดควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะทำให้แผลเกิดการอักเสบติดเชื้อหรือได้รับการกระทบกระเทือน โดยสามารถทายาลดรอยแผลเป็นร่วมด้วยได้ 

ปลูกผม FUT ราคาเท่าไร?

ราคาในการปลูกผม FUT จะมีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคที่ใช้ จำนวนกราฟผมที่ต้องปลูก ระดับปัญหาของคนไข้ ความต้องการของคนไข้ และประสบการณ์ของแพทย์ เป็นต้น โดยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 60,000 – 150,000 บาท

ปลูกผม FUT ยังได้รับความนิยมไหมในปัจจุบัน?

สำหรับความนิยมในเทคนิคปลูกผม FUT ยังคงมีการใช้งานในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถย้ายกราฟผมจำนวนมากในครั้งเดียว สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างมาก ๆ ได้เป็นอย่างดี เป็นอีกทางเลือกของคนที่มีปัญหาค่อนข้างรุนแรง พร้อมรับในเรื่องของรอยแผลเป็นที่จะเกิดขึ้นหลังทำได้ จึงยังเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ได้รับความนิยมเลือกใช้จากคนไข้และแพทย์ ตามความเหมาะสมในแต่ละรายบุคคล

คำถามเกี่ยวกับการปลูกผมเทคนิค FUT

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ ปลูกผม FUT

สำหรับคนที่มีความสงสัยเกี่ยวกับการปลูกผม FUT ในบทความนี้ได้รวบรวมเอาคำถามที่พบบ่อยเอาไว้ให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ 

Q: ปลูกผม FUT ต้องงดออกกำลังกายนานแค่ไหน?
A: สำหรับคนที่ปลูกผมมาแล้วอยากออกกำลังกายแนะนำให้รอผ่านไปประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ เพื่อให้แผลหายดีและรากผมเริ่มเข้าที่ ป้องกันผลข้างเคียงและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้

Q: ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนปลูกผม FUT?
A: แนะนำให้งดอาหารเสริม วิตามิน หรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดก่อนเข้ารับบริการประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานเป็นประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนปลูกผมทุกครั้ง 

Q: รากผมที่ปลูกจะขึ้นครบกี่เปอร์เซ็นต์?
A: หากทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคได้ถูกต้องเหมาะสม และการดูแลตัวเองหลังทำของคนไข้ อัตราความสำเร็จของรากผมที่งอกขึ้นใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 90 – 95 % และผลลัพธ์จะเข้าที่ชัดเจนในช่วง 6 – 12 เดือน

Q: ผมที่ปลูกแล้วสามารถตัดหรือทำสีได้หรือไม่?
A: ผมที่ปลูกไปแล้วสามารถตัด ดัด ทำสี ได้ตามต้องการ แต่แนะนำว่าควรรอประมาณ 2 – 3 เดือนขึ้นไป เพื่อให้รากผมเข้าที่สมบูรณ์ดี เพราะสารเคมีอาจทำให้หนังศีรษะและรากผมได้รับการกระทบกระเทือนได้ 

Q: FUT ทำได้เฉพาะผู้ชายหรือไม่?
A: สามารถทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ขึ้นอยู่กับระดับปัญหา ความเหมาะสม และความต้องการของคนไข้ โดยแพทย์จะช่วยประเมินและออกแบบการรักษาที่เหมาะกับคนไข้มากที่สุด

Q: FUT เหมาะกับคนที่ผมร่วงจากกรรมพันธุ์หรือไม่?
A: เทคนิคนี้เหมาะกับการแก้ปัญหาผมร่วงจากกรรมพันธุ์ เพราะรากผมบริเวณท้ายทอยที่ย้ายมาเป็นรากผมที่ไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมน DHT ที่ทำให้ผมร่วง ผมบาง จึงให้ผลลัพธ์ที่ดีและถาวร

Q: ผมที่ขึ้นจาก FUT ดูเป็นธรรมชาติหรือไม่?
A: ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับฝีมือของแพทย์ที่จะออกแบบแนวผมให้รับกับใบหน้าคนไข้ รวมไปถึงการจัดเรียงกราฟผมเพื่อให้ได้ทิศทางของแนวผมที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด

Q: FUT สามารถปลูกผมคิ้ว หนวด หรือเคราได้ไหม?
A: เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีขนาดเล็ก ใช้กราฟผมที่น้อยกว่าการปลูกผม แพทย์จึงมักจะเลือกใช้เทคนิค FUE มากกว่า เพราะมีความละเอียดและแม่นยำสูง ไม่ทิ้งรอยแผลผ่าตัดเอาไว้บริเวณท้ายทอย

Q: ทางเลือกอื่นนอกจากการปลูกผม FUT อย่างการฉีดสเต็มเซลล์ผมช่วยได้แค่ไหน?
A: แม้การปลูกผมจะเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ถาวร แต่ก็มีบางกรณีที่ยังไม่จำเป็นต้องถึงขั้นผ่าตัด เช่น คนที่มีปัญหาผมร่วงผมบางในระยะแรกเริ่ม ซึ่งสามารถใช้วิธี ฉีดสเต็มเซลล์ผม เพื่อชะลออาการและกระตุ้นให้เส้นผมแข็งแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงแผลหรือพักฟื้นน้อย แต่วิธีนี้ให้ผลในระดับการฟื้นฟู ไม่สามารถแทนการปลูกผมในเคสที่มีศีรษะล้านวงกว้างได้ทั้งหมด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินว่ารากผมยังฟื้นได้หรือไม่ก่อนตัดสินใจ

สรุป

เทคนิคปลูกผม FUT เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ต้องการแก้ปัญหาศีรษะล้าน ผมบาง ผมร่วง ได้อย่างเห็นผล สามารถย้ายกราฟผมได้มากในครั้งเดียว เหมาะกับคนที่เกิดปัญหาเป็นบริเวณกว้างต้องใช้กราฟผมค่อนข้างเยอะ ซึ่งเทคนิคจะต้องมีการตัดแถบหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยยาวประมาณ 10 – 15 ซม. ขึ้นอยู่กับระดับปัญหาและจำนวนกราฟผมที่ต้องใช้ จึงทำให้เกิดรอยแผลเป็นยาวเอาไว้ด้านหลังศีรษะ หากตัดผมสั้นมากหรือโกนผมจะเห็นรอยแผลชัดเจน สำหรับใครที่ต้องการปลูกผม ต้องการแก้ไขปัญหาศีรษะล้าน ผมบาง ผมร่วง แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อรับการประเมินและออกแบบการรักษาที่เหมาะกับแต่ละคนมากที่สุด

Scroll to Top
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit