การดูดไขมันแบบ Vaser เทคโนโลยีที่ช่วยปรับรูปร่างให้กระชับ สมส่วน และเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากมีหุ่นสวยอย่างมั่นใจมากขึ้น Vincent Clinic Plastic Surgery จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Vaser ว่าดีหรือไม่ หรือใช้ดูดไขมันตรงส่วนไหนได้บ้าง และปลอดภัยไหมเพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นก่อนทำการดูดไขมันค่ะ
Key Takeaways
- ดูดไขมันแบบ Vaser เทคโนโลยีดูดไขมันรุ่นใหม่จากสหรัฐอเมริกา ผ่านการรับรองจาก US FDA และ อย. ไทย ใช้คลื่นอัลตราซาวด์สลายไขมันให้แตกตัวเป็นของเหลวก่อนดูดออก
- ดูดไขมันแบบ Vaser มีรุ่นล่าสุด Vaser Smooth 2.2 ที่ช่วยกำจัดไขมันและเซลลูไลท์ได้ละเอียดขึ้น พร้อมทำให้ผิวกระชับเรียบเนียนมากกว่าการดูดไขมันทั่วไป
- ดูดไขมันแบบ Vaser สามารถทำได้ในหลายตำแหน่ง เช่น เหนียง ต้นแขน หน้าท้อง ต้นขา สะโพก เอว S-curve Sexy line และ Sixpack
- ดูดไขมันแบบ Vaser เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด คุณแม่หลังคลอด คนที่ออกกำลังกายควบคุมอาหารแล้วแต่สัดส่วนไม่ลด รวมถึงผู้ที่อยากปรับหุ่นให้กระชับสมส่วน
- ข้อดีของการดูดไขมันแบบ Vaser บวมช้ำน้อย ฟื้นตัวไว และช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวไม่หย่อนคล้อยหลังทำ
- ราคากลางของการดูดไขมันแบบ Vaser อยู่ที่ประมาณ 15,000 – 40,000 บาท ราคาที่แตกต่างขึ้นอยู่กับขนาดและปริมาณไขมัน
- การเลือกสถานที่ดูดไขมันแบบ Vaser ควรเลือกที่ประสบการณ์ของแพทย์ การใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน ความปลอดภัยของสถานพยาบาล และการดูแลหลังทำ
ดูดไขมันแบบ Vaser คืออะไร
Vaser คือ เทคโนโลยี ดูดไขมัน รุ่นใหม่จากสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการรับรองจาก US FDA และ อย. ประเทศไทย หลักการทำงานของเครื่อง Vaser คือการใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์เพื่อสร้างความร้อน เข้าไปสลายเซลล์ไขมันให้แตกตัวกลายเป็นของเหลว ทำให้สามารถดูดออกมาได้อย่างนุ่มนวล โดยไม่กระทบกระเทือนต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง เช่น เส้นเลือดและเส้นประสาท จึงช่วยลดอาการฟกช้ำและบวมหลังทำ ทำให้แผลหายเร็วและร่างกายฟื้นตัวได้ไวขึ้น
ซึ่งมี Vaser Smooth 2.2 ถือเป็นรุ่นล่าสุดที่ถูกพัฒนาขึ้น โดยมาพร้อมหัวดูดที่ออกแบบให้ Smooth ยิ่งกว่าเดิม เพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันและเซลลูไลท์ ทำให้ผิวที่เคยไม่เรียบเนียน กลับดูกระชับและเรียบตึงมากขึ้น อีกทั้งยังใช้เวลาทำไม่นาน เหมาะกับคนที่ต้องการปรับสัดส่วนเฉพาะจุดให้เห็นผลชัดเจน
Vaser ดูดไขมันบริเวณไหนได้บ้าง
เครื่องดูดไขมัน Vaser สามารถทำได้หลายบริเวณ ขึ้นอยู่กับว่ามีไขมันส่วนเกินจุดไหนบ้าง โดยจุดที่นิยมดูดไขมันบ่อยๆ มีดังนี้
- ดูดไขมันเหนียง ช่วยลดไขมันส่วนเกินใต้คางให้กรอบหน้าชัดขึ้น แก้ปัญหาหน้ากลม เหนียงย้อย หรือคางสองชั้น เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมแม้น้ำหนักตัวไม่มาก
- ดูดไขมันหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก เก็บไขมันบริเวณแก้มและกรอบหน้า ทำให้ใบหน้าดูยกกระชับและมีมิติ เหมาะกับผู้ที่มีแก้มเยอะหรือหน้ากลมจากไขมัน
- ดูดไขมันนมน้อย กำจัดก้อนไขมันบริเวณข้างอก ช่วงรักแร้ หรือนมน้อยให้เรียบเนียน ลดปัญหาเนื้อนูนเวลาใส่เสื้อรัดรูป เหมาะกับผู้หญิงและผู้ชายที่มีไขมันข้างเต้านมสะสม
- ดูดไขมันต้นแขน ช่วยลดขนาดต้นแขนที่ใหญ่จากไขมันส่วนเกิน ทำให้แขนเรียวขึ้น ยกกระชับและได้ทรงสวย เหมาะกับผู้ที่ออกกำลังกายแล้วแขนยังไม่ลด
- ดูดไขมันปีกหลัง จัดการไขมันสะสมบริเวณแผ่นหลังและส่วนข้างลำตัวให้เรียบเนียน ลดรอยพับหลังเสื้อใน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปีกหลังนูนหรือไขมันสะสมบริเวณกลางหลัง
- ดูดไขมันหน้าท้อง สลายไขมันหน้าท้องบน ท้องล่างให้แบนราบขึ้น สร้างเอวชัด รูปร่างกระชับ เหมาะกับผู้ที่มีพุงยื่นหรือไขมันดื้อแม้คุมอาหารและออกกำลังแล้ว
- ดูดไขมันเอวเอส ช่วยเก็บไขมันรอบเอว ปรับสัดส่วนให้มีทรงโค้งเว้า ดูเอวเอสชัด เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มส่วนเว้าของลำตัวให้สมส่วนขึ้น
- ดูดไขมันขา ลดไขมันสะสมบริเวณต้นขาด้านใน ด้านนอก ทำให้ขาดูเรียวยาวขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีต้นขาใหญ่หรือขาเสียดสีกันจากไขมันส่วนเกิน
- ดูดไขมันน่อง ช่วยลดความหนาของน่องที่เกิดจากไขมันสะสม ทำให้ขาเรียวเล็กและได้สัดส่วน เหมาะกับผู้ที่น่องใหญ่แม้ไม่ได้มีกล้ามเนื้อเยอะ
- ดูดไขมันรอบหัวเข่า ช่วยเก็บไขมันรอบหัวเข่าให้เรียบเนียน ขาแลดูยาวและได้ทรง เหมาะกับผู้ที่มีหัวเข่าดูตันหรือมีไขมันสะสมด้านในหัวเข่า
- ดูดไขมันร่อง 11 ตกแต่งแนวกล้ามเนื้อกลางหน้าท้องให้เด่นชัด สร้างร่อง 11 แบบธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่มีไขมันหน้าท้องบางส่วนและต้องการลุคฟิตแอนด์เฟิร์ม
- ดูดไขมัน Sixpack เน้นกล้ามท้องให้เป็นแพคชัดเจนมากขึ้นด้วยเทคนิคการคอนทัวร์ เหมาะสำหรับผู้ชายหรือผู้หญิงที่ต้องการรูปร่างลีน กระชับ และมีกล้ามท้องชัด
- ดูดไขมันสะโพก ช่วยลดปริมาตรไขมันส่วนเกินบริเวณสะโพก ปรับเส้นโค้งให้สมดุลกับเอวและต้นขา เหมาะกับผู้ที่มีสะโพกใหญ่จากไขมันสะสมไม่ใช่กระดูก
ดูดไขมันแบบ Vaser เหมาะกับใคร
เครื่องดูดไขมัน Vaser สามารถดูดไขมันในบริเวณต่างๆ ได้ ซึ่งคนที่เหมาะกับการดูดไขมันด้วยเครื่อง Vaser มีดังนี้
- คนตัวไม่อ้วน แต่มีพุงหรือไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น มีพุงหมาน้อย หรือไขมันเล็กๆ ที่หน้าท้อง
- คุณแม่หลังคลอดที่มีปัญหาเนื้อเผละหรือหน้าท้องหย่อน หลังคลอดร่างกายมักมีการสะสมไขมันและผิวหนังหย่อนคล้อย
- คนที่มีไขมันสะสมจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือสะโพก ซึ่งการควบคุมอาหาร และออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวอาจเห็นผลช้า
- คนที่อยากลดขนาดสัดส่วนของร่างกาย เช่น ต้นขาใหญ่ แขนล้น หรือสะโพกไม่กระชับ
- คนที่กังวลเรื่องรูปร่างและบุคลิกภาพ ไขมันสะสมบางจุดอาจทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ เช่น เหนียงที่ทำให้หน้าดูกลม หรือพุงที่ทำให้ใส่ชุดรัดรูปไม่สวย
- คนที่ออกกำลังกายและคุมอาหารแล้ว แต่สัดส่วนไม่ลดลง บางคนแม้จะพยายามอย่างเต็มที่ แต่ยังมีไขมันที่ลดได้ยาก เช่น รอบเอว ต้นแขน
- ผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันออกไปอย่างชัดเจน สำหรับคนที่ไม่อยากเสียเวลาไปกับการลดไขมันนานๆ และต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ไวขึ้น

Vaser Liposuction ต่างจากดูดไขมันธรรมดาอย่างไร
Vaser Liposuction แตกต่างจากการดูดไขมันธรรมดา ตั้งแต่เทคโนโลยีไปจนถึงผลลัพธ์ ดังนี้
- การดูดไขมันด้วย VASER Smooth 2.2 ไม่ได้เป็นเพียงการสลายไขมันส่วนเกิน แต่ถือเป็นศาสตร์และศิลป์ในการปรับรูปร่างให้ได้สัดส่วนที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ โดยอาศัยเทคโนโลยีรุ่นใหม่ล่าสุดที่พัฒนามาเพื่อความแม่นยำและปลอดภัยสูง
- ฟื้นตัวไว บวมช้ำน้อย ด้วยเทคโนโลยีที่ลดการบอบช้ำของเนื้อเยื่อ ผู้เข้ารับการดูดไขมันมักฟื้นตัวเร็วขึ้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ภายในไม่กี่วัน ลดระยะเวลาพักฟื้นและเพิ่มความสะดวกสบายในการดูแลตัวเองหลังทำ
- ผิวกระชับ ไม่หย่อนคล้อยหลังดูดไขมัน VASER Smooth 2.2 แตกต่างจากการดูดไขมันทั่วไปตรงที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว จึงช่วยให้ผิวที่ผ่านการดูดไขมันดูกระชับ เรียบเนียน ไม่หย่อนคล้อย อีกทั้งยังช่วยให้รูปร่างที่ได้มีความสมส่วนและดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
วิธีเตรียมตัวก่อนดูดไขมันด้วย Vaser
การดูดไขมันด้วย VASER เป็นหัตถการที่ต้องใช้ความพร้อมของร่างกายและการดูแลตนเองก่อนเข้ารับการรักษา เพื่อให้การทำเป็นไปอย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดควรดูแลร่างกายตัวเองดังนี้
- แจ้งประวัติสุขภาพกับแพทย์อย่างละเอียด ควรบอกแพทย์ถึงโรคประจำตัวที่มีอยู่ เพื่อให้แพทย์ประเมินความเหมาะสม
- งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด งดยาทุกชนิดที่อาจทำให้เลือดแข็งตัวยาก รวมถึงอาหารเสริมและวิตามินบางชนิด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำและเลือดออกง่ายระหว่างการทำหัตถการ
- เลี่ยงการทำในช่วงที่มีประจำเดือน สำหรับผู้หญิงควรหลีกเลี่ยงการดูดไขมันในช่วงที่มีประจำเดือน เพราะร่างกายอาจอ่อนเพลีย เลือดออกง่าย และเจ็บปวดมากกว่าปกติ
- งดสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ส่งผลเสียต่อการไหลเวียนของเลือดและการสมานแผล ควรงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์
- งดอาหาร และน้ำก่อนทำอย่างน้อย 6 ชั่วโมง เนื่องจากการดูดไขมันด้วย VASER มักต้องใช้การดมยาสลบ หรือยานอนหลับ อาหารและน้ำที่ค้างอยู่ในกระเพาะอาจทำให้เกิดอันตรายระหว่างการผ่าตัดได้
ขั้นตอนการดูดไขมันด้วย Vaser
การดูดไขมันด้วยเทคโนโลยี VASER ถือเป็นหัตถการที่ทันสมัยและอ่อนโยนกว่าวิธีดั้งเดิม โดยมีขั้นตอนสำคัญดังนี้
- เตรียมพื้นที่และฉีดน้ำเกลือผสมยาชา ก่อนเริ่มทำ แพทย์จะฉีดน้ำเกลือชนิดพิเศษผสมยาชาลงไปในบริเวณที่ต้องการสลายไขมัน ช่วยให้ผู้เข้ารับการรักษาไม่รู้สึกเจ็บ ถือเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการทำเวเซอร์
- ใส่หัวเครื่อง VASER เข้าไปยังชั้นไขมัน แพทย์จะใช้หัวเครื่องที่มีขนาดเล็กเพียง 2 – 3 มิลลิเมตร ใส่เข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อสัมผัสกับก้อนไขมันที่ต้องการสลายโดยตรง และไม่กระทบต่อเนื้อเยื่ออื่น
- ปล่อยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์เพื่อสลายไขมัน หัวเครื่อง VASER จะปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงลงไปในชั้นไขมัน ส่งผลให้เซลล์ไขมันแตกตัวและค่อยๆ เปลี่ยนสภาพเป็นไขมันเหลว กระบวนการนี้อ่อนโยนต่อร่างกาย เพราะมีผลน้อยต่อเส้นเลือดและเส้นประสาท ทำให้ความเสี่ยงต่อการบอบช้ำลดลงมากเมื่อเทียบกับการดูดไขมันแบบเดิม
- ดูดไขมันเหลวออกจากร่างกาย เมื่อไขมันถูกทำให้แตกตัวจนเป็นของเหลวแล้ว แพทย์จะใช้หัวดูดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะกับเครื่อง VASER ดูดไขมันออกมาอย่างนุ่มนวล ขั้นตอนนี้ช่วยกำจัดเฉพาะไขมันส่วนเกินโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบๆ จึงทำให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติและปลอดภัย
- ช่วงพักฟื้นและการกระชับผิว หลังการดูดไขมัน ร่างกายจะค่อยๆ ฟื้นตัว และผิวหนังบริเวณที่ทำจะหดตัวกลับสู่สภาพเดิมตามธรรมชาติ ส่งผลให้ผิวดูเรียบเนียน ไม่ย่นหรือเป็นคลื่น อีกทั้งอาการบวมและช้ำยังน้อยกว่าวิธีดั้งเดิม ทำให้ฟื้นตัวเร็ว และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายในเวลาไม่นาน
วิธีดูแลหลังดูดไขมันด้วย Vaser
หลังการดูดไขมันด้วย Vaser การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีมีส่วนสำคัญต่อการฟื้นตัวและผลลัพธ์ที่สวยงาม โดยควรปฏิบัติดังนี้
- ใส่ชุดกระชับหลังดูดไขมัน ควรใส่ตลอดเวลาในช่วง 4 – 6 สัปดาห์แรก เพื่อลดอาการบวม ป้องกันการเกิดพังผืด และช่วยให้ผิวกระชับแนบไปกับสัดส่วนใหม่
- ดูแลแผลและความสะอาด รักษาความสะอาดของแผลเล็ก ๆ จากการสอดเข็มดูดไขมัน และเปลี่ยนผ้าก๊อซตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อลดโอกาสติดเชื้อ
- งดออกกำลังกายหนักช่วงแรก ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงมาก ๆ ในช่วง 2 – 4 สัปดาห์แรก แต่สามารถเดินเบาๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดได้
- ดื่มน้ำมากๆ และทานอาหารที่มีประโยชน์ เลือกอาหารที่ช่วยฟื้นฟูร่างกาย เช่น โปรตีนจากปลา ไก่ ไข่ ผักผลไม้ และหลีกเลี่ยงอาหารเค็มจัด เพราะอาจทำให้บวมมากขึ้น
- งดแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เพราะส่งผลต่อการสมานแผลและการฟื้นฟู ทำให้ร่างกายฟื้นตัวช้าลง
- ติดตามผลกับแพทย์ตามนัด เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของแผล อาการบวม และความเข้าที่ของสัดส่วน รวมถึงการนวดหลังดูดไขมันหากแพทย์แนะนำ

Vaser Liposuction ราคาเท่าไหร่
โดยทั่วไปแล้ว Vaser Liposuction ราคาประมาณ 15,000 – 40,000 บาท ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ทำ ปริมาณไขมัน และประสบการณ์ของแพทย์ ทั้งนี้ราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่น และคลินิกที่เลือกทำได้
ดูดไขมันด้วยเครื่อง Vaser ที่ไหนดี
การเลือกว่าจะดูดไขมันด้วย Vaser ควรตรวจสอบหลายอย่างก่อนตัดสินใจทำกับที่ใดที่หนึ่งเนื่องจากหากตรวจสอบไม่ดีอาจเจอแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์หรือเจอเครื่องที่ไม่ได้มาตรฐาน ในเบื้องต้นสามารถพิจรณาสถานที่ในการเลือกดูดไขมันด้วย Vaser ดังนี้
- แพทย์ผู้ทำหัตถการ ควรมีประสบการณ์ด้าน Body Contouring โดยตรง เพราะการดูดไขมันไม่ใช่แค่การเอาไขมันออก แต่ต้องออกแบบสัดส่วนให้สมดุลและสวยงาม
- เครื่องมือและเทคโนโลยี ต้องเป็น Vaser รุ่นใหม่ ที่ได้รับมาตรฐานและผ่านการรับรอง ช่วยให้การสลายไขมันแม่นยำ ปลอดภัย และลดการบอบช้ำของเนื้อเยื่อ
- ความปลอดภัยของสถานพยาบาล ควรเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ และอุปกรณ์พร้อมสำหรับกรณีฉุกเฉิน
- การดูแลหลังทำ สำคัญไม่แพ้ขั้นตอนการดูดไขมัน เพราะช่วยให้ฟื้นตัวเร็ว ลดบวม และทำให้รูปร่างเข้าที่ได้สวยยิ่งขึ้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับดูดไขมัน Vaser
Q: ดูดไขมันด้วย Vaser ต้องใส่ชุดกระชับนานแค่ไหน
A: หลังดูดไขมันด้วย VASER ควรใส่ชุดกระชับตลอดเวลาในช่วง 1 เดือนแรก จากนั้นใส่ต่อเนื่องอย่างน้อย 4 – 6 สัปดาห์ เพื่อช่วยลดบวม ฟกช้ำ และทำให้สัดส่วนเข้าที่ได้เร็วและสวยขึ้น
Q: หลังดูดไขมันด้วย Vaser ผิวจะหย่อนคล้อยไหม
A : หลังดูดไขมันด้วย VASER ผิวโดยทั่วไปจะไม่หย่อน เพราะคลื่นอัลตราซาวด์ช่วยกระชับผิว แต่ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังทำ
Q: Vaser Liposuction เจ็บไหม
A : การดูดไขมันด้วย VASER Liposuction ระหว่างทำจะไม่เจ็บเพราะมีการใช้ยาชาหรือดมยาสลบ หลังทำอาจรู้สึกตึงหรือระบมเล็กน้อย แต่โดยรวมเจ็บน้อยกว่าการดูดไขมันแบบดั้งเดิมและสามารถฟื้นตัวได้เร็ว
Q: ต้องวางยาสลบไหมหากดูดไขมันด้วย Vaser
A: การดูดไขมันด้วย VASER ส่วนใหญ่ใช้ยาชาเฉพาะที่หรือยานอนหลับ แต่ถ้าดูดหลายจุดหรือปริมาณมาก แพทย์อาจเลือกวางยาสลบ
Q: ดูดไขมันด้วยเครื่อง Vaser ให้ผลลัพธ์ถาวรไหม
A: การดูดไขมันด้วย VASER ให้ผลลัพธ์ถาวรในบริเวณที่ดูดออกไป ไขมันเก่าจะไม่กลับมา แต่หากไม่ควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย ไขมันใหม่ก็ยังสะสมเพิ่มได้
สรุป
การดูดไขมันแบบ Vaser เป็นเทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่ช่วยสลายไขมันเฉพาะจุดอย่างอ่อนโยน โดยใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ทำให้ไขมันแตกตัวเป็นของเหลวแล้วดูดออกมา จึงบวมช้ำน้อย ฟื้นตัวไว และยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวกระชับเรียบเนียนกว่าการดูดไขมันทั่วไป เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด ลดไม่ลงด้วยการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร รวมถึงผู้ที่อยากปรับสัดส่วนให้ดูสมส่วน
อยากดูดไขมันแต่ยังไม่มั่นใจ หรือกังวลเรื่องความปลอดภัย มาปรึกษาทีมแพทย์ได้ที่ Vincent Clinic Plastic Surgery เราพร้อมให้คำแนะนำ อธิบายขั้นตอน และประเมินความเหมาะสมอย่างละเอียด เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยไปพร้อมกับหุ่นดี