vincent.jpg.png
vc_3.png
Vincent Clinic Bangkok Plastic Surgery
คลินิกศัลยกรรมความงาม ดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit
บทความ
หลังทำปากกระจับ ดูแลอย่างไร พักฟื้นนานแค่ไหน ห้ามทำอะไรบ้าง?
แชร์ :

หลังทำปากกระจับ ดูแลอย่างไร พักฟื้นนานแค่ไหน ห้ามทำอะไรบ้าง?

หลังทำปากกระชับดูแลอย่างไร
อยากรู้เรื่องอะไร? คลิกที่หัวข้อได้เลย!

Key Takeaways

  • ช่วง 14 วันแรกหลังทำปากกระจับ คือ ช่วงพักฟื้นสำคัญ ควรดูแลแผลผ่าตัดอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการขยับปากมาก และทำความสะอาดแผลอย่างอ่อนโยน เพื่อลดการติดเชื้อและป้องกันปากผิดรูป

  • ควรเลือกกินอาหารอ่อน อุณหภูมิห้องหรือเย็น และอุดมด้วยวิตามินซี–ซิงค์ เช่น โจ๊ก น้ำผลไม้เย็น และผักผลไม้สด เพื่อช่วยลดบวม เร่งการสมานแผล และป้องกันการระคายเคืองบริเวณแผลผ่าตัดปากกระจับ

  • ห้ามแกะสะเก็ด ห้ามจับแผล และห้ามสูบบุหรี่เด็ดขาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ รอยแผลเป็น และปัญหาพังผืดที่อาจทำให้ปากกระจับเสียรูปทรงในระยะยาว

  • อาการบวมแดงหรือตึงในช่วงแรกเป็นเรื่องปกติ แต่อาการปวดมากผิดปกติ มีหนอง หรือแผลผิดรูป ควรรีบพบแพทย์ทันที

  • ควรนวดปากอย่างสม่ำเสมอหลังตัดไหมเพื่อป้องกันพังผืดและก้อนไตแข็ง คงรูปปากกระจับสวย

  • งดใช้ลิปสติกหรือลิปบาล์มจนกว่าแผลจะหายสนิท โดยสามารถเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงปากได้เมื่อแผลแห้งและสะเก็ดหลุดหมดแล้ว (ประมาณ 2–3 สัปดาห์)

หลังจากทำปากกระจับ ต้องดูแลอย่างไร? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย เพราะแม้จะเป็นการผ่าตัดเล็ก แต่การดูแลที่ถูกวิธีจะช่วยลดโอกาสเกิดแผลติดเชื้อ อักเสบ หรือรูปทรงปากผิดรูป ในบทความนี้ Vincent Clinic Plastic Surgery ได้เตรียมเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีการดูแลหลังตัดปากกระจับว่าควรทำอย่างไรในแต่ละช่วงเวลาของการพักฟื้น มีอาการอะไรที่อาจเกิดขึ้นบ้าง พักฟื้นนานไหม ควรหลีกเลี่ยงอะไรบ้างสามารถติตดามอ่านเพิ่มเติมได้จากข้อมูลต่อไปนี้ค่ะ

ทำไมการดูแลหลังทำปากกระจับจึงสำคัญ?

การดูแลหลังทำปากกระจับมีความสำคัญอย่างมาก เพราะช่วยให้แผลหายเร็ว ลดโอกาสเกิดแผลเป็นหรือการอักเสบ และช่วยคงรูปทรงปากให้สวยเป๊ะตามที่ต้องการ หากละเลย หรือดูแลไม่ถูกวิธี อาจทำให้แผลติดเชื้อ ปากบวมผิดปกติ หรือรูปปากไม่สมส่วนได้ ดังนั้นการดูแลหลังทำปากกระจับอย่างถูกต้อง เช่น การหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด หมั่นประคบเย็น และหลีกเลี่ยงการขยับปากมากเกินไป เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกระทบต่อผลลัพธ์ รูปทรง ความสวย และความปลอดภัยในระยะยาว ซึ่งใครที่กำลังวางแผนทำปากกระจับควรให้ความสำคัญในขั้นตอนการดูแลหลังทำ โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ข้อแนะนำหลังทำปากกระจับ

แนวทางการดูแลหลังทำในช่วง 14 วันแรก

หลังทำ ศัลยกรรมปากกระจับ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ในช่วง 14 วันแรกถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นระยะที่แผลยังอยู่ในกระบวนการสมานตัว หากดูแลไม่ถูกวิธีอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือทำให้รูปปากผิดรูปได้จึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยสามารถดูแลตัวเองได้ดังนี้

วิธีดูแลหลังทำปากกระชับในช่วง 3 วันแรก

  • ประคบเย็นในช่วง 3 วันแรกหลังทำ ช่วยลดอาการบวมให้ยุบเร็วขึ้น

  • งดการเคี้ยวอาหารแข็ง เหนียว หรือการเคี้ยวแรง ๆ เพื่อลดการกระทบกระเทือนบริเวณแผล

  • งดขยับปากหรือการพูดที่มากเกินไป อาจทำให้แผลผ่าตัดปริแตกหรือสมานตัวช้าได้

วิธีดูแลหลังทำปากกระชับในช่วง 7 วันแรก

  • ทำความสะอาดแผลอย่างเบามือ ด้วยสำลีพันก้านชุบน้ำเกลือเช็ดแผล

  • ทายาฆ่าเชื้อ และรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบตามกำหนด

  • งดแต่งหน้าโดยเฉพาะรอบริมฝีปาก เพราะเครื่องสำอางอาจทำให้แผลติดเชื้อหรือระคายเคืองได้

วิธีดูแลหลังทำปากกระชับในช่วง 2 สัปดาห์

  • สามารถกลับมาขยับปากหรือยิ้มได้เบาๆ เมื่อแผลเริ่มหายดี อาการตึงจะลดลง แต่ยังไม่ควรยิ้มหรือขยับปากมากเกินไป

  • ห้ามแกะหรือลอกสะเก็ด ควรปล่อยให้หลุดเองตามธรรมชาติ เพื่อไม่ให้เกิดรอยแผลเป็น

  • หลีกเลี่ยงอาหารร้อนจัดหรือมีรสจัดจ้าน อาจทำให้แผลระคายเคืองหรืออักเสบ รอจนกว่าแผลจะหายสนิท

หลังทำปากกระจับ กินอะไรได้บ้าง และ ห้ามกินอะไรบ้าง?

หลังทำปากกระจับสามารถกินได้หลายอย่าง แต่ก็มีอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน เพราะในช่วงแรกแผลผ่าตัดยังไม่หายสนิทไวต่อการระคายเคือง และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย การกินอาหารที่เหมาะสมจะช่วยให้แผลหายไวขึ้น ลดอาการบวม ไม่กระทบกับรูปทรงของปาก รวมไปถึงลดโอกาสการติดเชื้อให้น้อยลงได้อีกด้วย โดยมีอาหารที่สามารถกินได้และควรหลีกเลี่ยง ดังนี้

อาหารที่ควรกินหลังทำปากกระจับ

  • อาหารอ่อน เคี้ยวง่าย ไม่บาดแผลที่ปาก เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ซุป เป็นต้น เพราะปากไม่ต้องออกแรงเยอะ ช่วยลดการขยับของปาก ป้องกันการกระทบกระเทือนแผลผ่าตัด

  • อาหาร และน้ำที่มีอุณหภูมิห้อง หรือเย็น เช่น น้ำเปล่า น้ำผลไม้ไม่ใส่น้ำตาล น้ำเย็น  ซึ่งจะลดการกระตุ้นอาการบวม ลดการอักเสบ

  • อาหารที่มีวิตามินซีและซิงค์ เช่น ส้ม ฝรั่ง บรอกโคลี หรืออาหารเสริมที่แพทย์แนะนำ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันและช่วยให้แผลสมานตัวได้เร็วขึ้น

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังทำปากกระจับ

  • อาหารหมักดอง เพราะมักมีโซเดียมเยอะ รวมถึงอาจมีเชื้อโรค เสี่ยงต่อการกระตุ้นให้แผลอักเสบ ติดเชื้อหลังจากกินได้

  • อาหารทะเล อาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือคันแผลซึ่งอาจกระทบต่อการฟื้นตัว และยังมีโอกาสทำให้แผลติดเชื้อ

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทำให้เลือดไหลเวียนได้มากกว่าปกติ และกระตุ้นการอักเสบ ทำให้แผลบวม หายช้า ฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่

  • อาหารรสจัด เพราะจะกระตุ้นการอักเสบ ทำให้แผลบวมแดงหายช้ากว่าปกติ และอาจทำให้รู้สึกแสบแผลบริเวณปากได้

หลังทำศัลยกรรมปากกระจับ ห้ามทำอะไรบ้าง?

นอกจากการดูแลแผลและรับประทานอาหารอย่างเหมาะสมแล้ว ยังมีพฤติกรรมหลายอย่างที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงพักฟื้นหลังทำศัลยกรรมปากกระจับ เพราะกระทบต่อกระบวนการสมานแผลและการฟื้นตัวของร่างกาย ทำให้แผลหายช้า รูปทรงปากผิดเพี้ยน หรือเกิดแผลเป็นถาวรได้  โดยมีข้อห้ามดังนี้

  • ห้ามจับแผลบ่อยๆ หรือแกะสะเก็ดแผล เพราะมืออาจมีเชื้อโรคที่ทำให้แผลติดเชื้อได้ และการแกะสะเก็ดอาจทำให้เกิดแผลเป็นหรือรอยดำถาวร

  • ห้ามยิ้มหรือหัวเราะแรงเกินไป เพราะการขยับปากมาก ๆ ในช่วงแรกอาจทำให้แผลที่ยังไม่สมานกันดีแยก หรือปากผิดรูปได้

  • ห้ามออกกำลังกายหนักหรือทำกิจกรรมที่ใช้แรงเยอะ เช่น ยกเวท คาร์ดิโอหนัก ๆ เพราะอาจกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้แผลบวมและหายช้าลง

  • งดนอนคว่ำหรือนอนตะแคง ควรนอนหงายหนุนหมอนสูงในช่วง 3–5 วันแรก เพื่อป้องกันการเสียรูปทรงของปาก ป้องกันการกดทับแผลผ่าตัด ลดอาการบวมช้ำให้น้อยลง

  • ห้ามให้แผลโดนน้ำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ เนื่องจากในน้ำอาจมีเชื้อโรค และทำให้แผลไม่แห้งจนติดเชื้อได้

  • ห้ามสูบบุหรี่ เพราะทำให้หลอดเลือดหดตัว ส่งผลให้แผลหายช้า และเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงกว่าปกติ ควรงดบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์

แผลหลังทำปากกระจับจะเป็นอย่างไร? พักฟื้นนานไหม?

หลังทำปากกระจับมาแล้วในช่วง 3 – 5 วันแรก แผลจะมีอาการบวมแดง อาจรู้สึกตึงหรือเจ็บเล็กน้อย ควรประคบเย็น พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการขยับปากมากเกินไป และเมื่อครบ 7 – 10 วัน แผลจะเริ่มตกสะเก็ดไม่ควรแกะ หรือเกา รวมถึงควรรักษาความสะอาดและทายาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยแผลผ่าตัดปากกระจับจะค่อยๆ จางลง และเข้ารูปหลังจากทำประมาณ 1 – 2 เดือน

ผลข้างเคียงที่อาจะเกิดขึ้นหลังทำปากกระจับ

ผลข้างเคียงหลังทำปากกระจับที่อาจเกิดขึ้นได้มีอะไรบ้าง?

แม้การศัลยกรรมปากกระจับจะมีความปลอดภัยสูงหากทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน โดยเฉพาะในกรณีที่ดูแลตัวเองไม่ถูกวิธีหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างพักฟื้น รวมไปถึงทำกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์มากพอ โดยมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ดังนี้

อาการที่พบได้บ่อยหลังศัลยกรรมปากกระจับ

  • ปากบวม เป็นอาการที่พบบ่อยในช่วง 3 – 5 วันแรกหลังทำ เกิดขึ้นได้เป็นปกติจากการที่เนื้อเยื่อได้รับบาดเจ็บจากการผ่าตัด

  • รู้สึกตึงหรือชาเล็กน้อยบริเวณริมฝีปาก สามารถเกิดขึ้นได้ชั่วคราวในช่วงวันแรกหลังผ่าตัด ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปเองเมื่อแผลเริ่มสมานตัว

  • แผลมีสีชมพูหรือแดงในช่วงแรก เป็นสัญญาณของการฟื้นฟูตามธรรมชาติ ถือว่าเป็นภาวะปกติ หากไม่มีอาการปวดบวมหรือมีหนองร่วมด้วย

อาการที่ควรระวังหลังศัลยกรรมปากกระจับ

  • แผลอักเสบหรือมีหนอง หากแผลมีลักษณะบวมแดง แสบร้อน เจ็บ หรือมีหนอง แสดงว่าอาจเกิดการติดเชื้อ ควรรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด

  • รู้สึกปวดมากผิดปกติ อาการเจ็บเล็กน้อยหลังทำปากกระจับถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากรู้สึกปวดรุนแรงจนรบกวนการใช้ชีวิต หรือปวดต่อเนื่องหลายวันควรพบแพทย์

  • ปากเสียทรง เช่น รูปปากไม่เท่ากัน แผลเบี้ยว หรือมีรอยนูนผิดปกติ อาจเกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อหรือแผลสมานไม่ดี ควรรีบแพทย์เพื่อรับการประเมินและหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสม

ทำไมต้องนวดปากหลังทำศัลยกรรมปากกระจับ?

การนวดปากหลังทำปากกระจับเป็นขั้นตอนที่จำเป็นอย่างมากหลังการตัดไหม เพราะช่วยป้องกันการเกิดก้อนไตแข็งบริเวณริมฝีปาก ป้องกันการดึงรั้งจากผังผืดที่อาจทำให้ปากผิดรูปทรง การนวดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เนื้อเยื่อบริเวณแผลคลายตัว เข้ารูปสวย และคงรูปทรงปากกระจับให้อยู่ได้นาน โดยแนะนำให้นวดปากวันละ 3 ครั้ง ในช่วง เช้า กลางวัน และเย็น 10–20 นาทีต่อครั้ง โดยมีขั้นตอนการนวดปากดังนี้

  • ใช้นิ้วหัวแม่มือวางไว้ด้านล่างของขอบปากบน และ นิ้วชี้วางอยู่ด้านบน

  • เริ่มนวดเป็นวงกลม ขยับนิ้วทั้งสองวนเข้าหากันอย่างเบามือ จากด้านนอกเข้าสู่ตรงกลางที่เป็นกระจับ เอียงนิ้วให้เข้ารูปทรงปาก นวดเบา ๆ ต่อเนื่องประมาณ 10–20 นาที

เมื่อไหร่ควรกลับไปพบแพทย์หลังทำปากกระจับ?

หลังทำปากกระจับการติดตามผลกับแพทย์เป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะแม้แผลภายนอกจะดูเหมือนปกติ โดยแพทย์จะนัดพบอีกครั้งหลังจาก 7 – 14 วันเพื่อตัดไหม และตรวจประเมินว่าแผลสมานตัวดี ไม่มีภาวะแทรกซ้อน รูปทรงของปากเข้าที่ตามที่วางแผนไว้ แต่ถ้าหากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดรุนแรงติดต่อกันหลายวัน ปากบวมเยอะเกินไปร่วมกับการมีไข้  เกิดหนองบริเวณแผลผ่าตัด ปากเบี้ยว หรือแผลดูผิดรูปทรงก่อนจะถึงวันที่แพทย์นัดไม่จำเป็นต้องรอสามารถมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที

หลังทำปากกระจับ สามารถใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปากได้เมื่อไหร่?

หลังทำปากกระจับควรงดใช้ลิปบาล์ม ลิปสติก หรือผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปากทุกชนิดในช่วงแรก เพื่อป้องกันไม่ให้สารเคมีหรือส่วนผสมในผลิตภัณฑ์กระตุ้นให้แผลระคายเคือง หรือติดเชื้อได้ สามารถเริ่มใช้ลิปบาล์มหรือผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปากได้หลังจากเมื่อแผลแห้งสนิทและสะเก็ดหลุดหมดแล้ว ซึ่งมักอยู่ในช่วงประมาณ 2–3 สัปดาห์หลังทำ แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่มีน้ำหอม หรือสารกันเสีย และควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เพื่อความปลอดภัยค่ะ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับหลังทำปากกระจับ

หลังทำปากกระจับ หลายคนมักมีคำถามตามมาเกี่ยวกับการดูแลตัวเอง การใช้ชีวิตประจำวัน และอาการต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงพักฟื้น บทความนี้ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อย พร้อมคำตอบที่จะช่วยไขข้อสงสัย ดังนี้

Q: หลังทำปากกระจับ พูดได้ปกติไหม?
A: ในช่วง 1–3 วันแรกควรพูดให้น้อยที่สุด รวมไปถึงงดการอ้าปากกว้าง เพื่อลดแรงตึงบริเวณแผลผ่าตัด หลังจากนั้นสามารถพูดได้ตามปกติ แต่ควรเลี่ยงการเคลื่อนไหวปากมากเกินไป เช่น หัวเราะแรง ๆ ยิ้มเยอะ ๆ หรือเคี้ยวอาหารแรง ๆ

Q: ทำไมหลังทำปากกระจับถึงรู้สึกตึงหรือชา?
A: อาการตึงหรือชาหลังทำเป็นเรื่องปกติ เกิดจากการที่เส้นประสาทถูกกระทบกระเทือนจากการผ่าตัด อาการนี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1–3 เดือน หากยังมีอาการชาชัดเจนเกิน 3 เดือนควรปรึกษาแพทย์

Q: อาการปากบวมหลังทำปากกระจับกี่วันถึงจะยุบ?
A: โดยทั่วไปปากจะบวมชัดในช่วง 3–5 วันแรก และเริ่มยุบลงภายใน 7–14 วัน ขึ้นอยู่กับร่างกายและการดูแลหลังทำของแต่ละคน

Q: หลังทำปากกระจับแผลจะหลุดไหม? ต้องตัดไหมหรือไม่?
A: หลังทำในช่วง 1 สัปดาห์แรก แผลจะค่อย ๆ แห้งและตกสะเก็ดเอง สำหรับกรณีเย็บด้วยไหมละลาย ไม่จำเป็นต้องตัดไหม แต่หากใช้ไหมไม่ละลาย แพทย์จะนัดตัดไหมภายใน 5–7 วันตามปกติ

Q: หลังทำปากกระจับสามารถแต่งหน้า ทาลิปสติกได้เมื่อไหร่?
A: ควรรอให้แผลหายสนิท ไม่มีสะเก็ด และไม่รู้สึกเจ็บก่อนจึงเริ่มทาลิปได้ ซึ่งมักใช้เวลาประมาณ 2–3 สัปดาห์หลังทำ รวมถึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม และควรทดสอบอาการระคายเคืองก่อนใช้งานจริง

Q: สามารถออกกำลังกายหรือว่ายน้ำได้เมื่อไหร่?
A: ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกหรือโดนน้ำโดยตรง เช่น ว่ายน้ำ ซาวน่า หรือออกกำลังกายหนัก ๆ อย่างน้อย 1–2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

Q: แผลปากกระจับมีโอกาสเป็นรอยนูนหรือคีลอยด์ไหม?
A: บริเวณริมฝีปากเป็นเนื้อเยื่อที่ไม่เกิดคีลอยด์หรือแผลนูน แต่อาจเกิดอาการพังผืดหรือหดรั้งของเนื้อเยื่อที่ได้รับบาดเจ็บได้ ซึ่งเกิดขึ้นได้จากเทคนิคการผ่าตัดของแพทย์ และการดูแลตัวเองหลังทำของคนไข้ จึงต้องศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วนถูกต้องก่อนผ่าตัดและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

สรุป

การดูแลหลังศัลยกรรมปากกระจับอย่างถูกวิธีเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้แผลหายเร็ว ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน ป้องกันปากผิดรูปทรง และทำให้ผลลัพธ์ออกมาสวยเป็นธรรมชาติ จึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการดูแลแผลผ่าตัด การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง การนวดปากอย่างสม่ำเสมอ และเข้าพบแพทย์ตามนัดหมาย สำหรับใครที่อยากตกแต่งรูปทรงปากให้สวยรับกับใบหน้ามากขึ้น แนะนำให้เข้ามาปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อให้ทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ช่วยประเมินปัญหา วิเคราะห์โครงหน้า วางแผนการผ่าตัด ออกแบบรูปทรงปากที่เหมาะสม เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการ และแก้ปัญหาของคนไข้ที่แตกต่างกันออกไปได้อย่างครอบคลุม

Scroll to Top
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit