อีกหนึ่งวิธีดูแลรูปร่างและสัดส่วนที่ได้ผลดี คือการดูดไขมันลำตัว ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก จัดการไขมันดื้อบริเวณหน้าท้องต้นเหตุของห่วงยางหรือไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง ที่มองไม่เห็นกล้ามเนื้อ โดยไขมันในบริเวณนี้จะเป็นไขมันที่ลดได้ยากแม้ออกกำลังกายก็อาจจะไม่หายไป ในส่วนของคนที่กำลังมองหาวิธีลดไขมันบริเวณลำตัวอย่างได้ผลหรือมีความสงสัยเกี่ยวกับการดูดไขมันบริเวณลำตัวว่าคืออะไร สามารถทำส่วนไหนของลำตัวได้บ้าง เหมาะกับใคร มีผลข้างเคียงไหม มีเทคนิคในการดูดไขมันอะไรบ้าง สามารถติดตามอ่านจากเนื้อหาต่อไปนี้ได้เลย
Key Takeaway
- ดูดไขมันลำตัว เป็นการดูดไขมันเฉพาะส่วนบริเวณหน้าท้อง เอว ปีกหลัง เป็นต้น
- หลังทำสามารถเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนที่เล็กลง
- เหมาะกับคนที่ต้องการดูแลรูปร่างและสัดส่วนให้เข้าที่มากขึ้น หรือคนที่ออกกำลังกายแล้วไขมันก็ไม่ลดลงหรือไขมันลดน้อย
- มีเทคนิคในการดูดไขมันลำตัวที่หลากหลาย เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม แผลมีขนาดเล็ก เลือดออกน้อย
ดูดไขมันลำตัว คืออะไร?
ดูดไขมันลำตัว คือ วิธีการกำจัดไขมันเฉพาะจุดบริเวณช่วงกลางลำตัว ได้แก่ บริเวณหน้าท้อง บริเวณเอว และบริเวณหลัง เพื่อปรับลดสัดส่วนให้เล็กลง มองเห็นกล้ามเนื้อชัดมากขึ้น ด้วยการใช้เครื่องมือทางการแพทย์สอดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง ปล่อยคลื่นพลังงานเข้าไปทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวเล็กลงง่ายต่อการดูดออกมา แต่วิธีการนี้ไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่เป็นการช่วยกำจัดไขมันดื้อซึ่งลดยากให้สลายไป ดูแลรูปร่างให้ได้สัดส่วนมากขึ้น
ดูดไขมันลำตัวทำตำแหน่งไหนได้บ้าง?
ดูดไขมันลำตัวสามารถทำได้หลายตำแหน่งไม่ได้กำหนดอยู่แค่เพียงช่วงหน้าท้องเท่านั้น ซึ่งแต่ละส่วนก็จะให้ผลลัพธ์ของรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไปแตกต่างกัน ช่วงลำตัวมักจะมีไขมันดื้อที่ลดได้ยากแม้จะออกกำลังกายเยอะแค่ไหนก็ยังหายไปไม่หมด การกำจัดไขมันเฉพาะส่วนจึงเป็นวิธีการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยบริเวณลำตัวมีตำแหน่งที่สามารถดูดไขมันได้ดังนี้
บริเวณหน้าท้อง
หน้าท้องเป็นบริเวณที่ไขมันมักสะสมได้ง่าย โดยเฉพาะในผู้ที่มีพฤติกรรมการนั่งทำงานนาน เคลื่อนไหวน้อย หรือหลังจากการตั้งครรภ์ แม้จะพยายามควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไขมันหน้าท้องก็ยังลดยากและอาจทำให้รูปร่างโดยรวมดูไม่กระชับ การดูดไขมันบริเวณหน้าท้องจึงเป็นทางเลือกที่ช่วยจัดการไขมันสะสมเฉพาะจุดได้อย่างตรงจุด เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ช่วยให้หน้าท้องแบนราบ กล้ามเนื้อชัดขึ้น และรูปร่างดูเพรียวสมส่วนมากยิ่งขึ้น
ซึ่งการดูดไขมันบริเวณหน้าท้อง สามารถออกแบบได้หลายจุดตามลักษณะปัญหาและเป้าหมายของแต่ละคน เช่น
- ดูดไขมันหน้าท้อง ช่วยลดปัญหาความหย่อนคล้อย พุงห้อย ลงพุง หรือหน้าท้องล่างป่อง ช่วยให้สัดส่วนช่วงกลางลำตัวเล็กลง ทำให้หน้าท้องแบนราบ กล้ามเนื้อชัดขึ้น รูปร่างดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ดูดไขมันซิกแพค เทคนิคนี้เน้นการสร้างแนวกล้ามเนื้อหน้าท้องให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยออกแบบแนวไขมันให้คล้ายกับซิกแพคธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมแต่ต้องการความคมชัดของลอนกล้ามหน้าท้องแบบฟิตหุ่น
- ดูดไขมัน Sexy Line (ร่อง 11) เน้นการดูดไขมันเฉพาะแนวด้านข้างของกล้ามเนื้อหน้าท้องเพื่อให้เกิดร่อง 11 ซึ่งเป็นร่องกล้ามเนื้อที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้หญิง ช่วยเพิ่มความเซ็กซี่และดูสุขภาพดี
บริเวณเอว
การดูดไขมันบริเวณเอว สามารถช่วยกำจัดไขมันด้านข้างลำตัวที่มักทำให้รูปร่างดูหนา ให้เข้ารูปมากขึ้น สร้างเอวคอดและทรงเอวเอสที่สวยได้สัดส่วน ช่วยให้รูปร่างโดยรวมดูเล็กลง โดยเฉพาะในผู้ที่แม้จะออกกำลังกายแล้วแต่ไขมันบริเวณนี้ก็ยังลดยาก หลังทำจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของเอวที่คอดชัดขึ้น สัดส่วนดูกลมกลืนลงตัวมากยิ่งขึ้น
เทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือการ ดูดไขมันเอวเอส ซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างส่วนโค้งเว้าของเอวให้รับกับสะโพกและช่วงลำตัวด้านบนอย่างสมดุล เป็นทรงเอวเอสที่หลายคนต้องการ ไม่ว่าจะใส่เสื้อผ้ารัดรูปหรือชุดว่ายน้ำก็ช่วยเสริมความมั่นใจได้มากขึ้น โดยเทคนิคนี้จะเน้นการดูดไขมันเฉพาะส่วน พร้อมออกแบบสัดส่วนเฉพาะบุคคลให้เหมาะกับรูปร่างแต่ละคน
บริเวณปีกหลัง
ไขมันสะสมบริเวณปีกหลังมักเป็นจุดที่ลดยาก และส่งผลต่อความมั่นใจ โดยเฉพาะเวลาใส่เสื้อแขนกุด เสื้อเกาะอก เสื้อรัดรูป หรือเสื้อที่โชว์แผ่นหลัง ซึ่งอาจทำให้ลำตัวดูหนา ไม่เพรียว เนื้อบริเวณด้านหลังช่วงบนอาจปลิ้นออกมา ทำให้รูปร่างดูเทอะทะ ไม่สมส่วน ดูดไขมันปีกหลัง จึงช่วยให้แผ่นหลังดูเรียบเนียนขึ้น เสริมความมั่นใจในการแต่งตัวได้มากขึ้น
บริเวณสะโพก
บริเวณสะโพกด้านข้าง หรือบริเวณที่อยู่ต่อเนื่องจากด้านหลังของเอวลงมาช่วงข้างสะโพก เป็นจุดที่ไขมันมักสะสมได้ง่ายและลดยาก โดยเฉพาะในผู้หญิง ซึ่งอาจทำให้รูปร่างดูเทอะทะ ไม่สมส่วน เส้นโค้งของลำตัวดูไม่ชัด และมักเกิดปัญหาเนื้อปลิ้นเวลาสวมใส่กางเกงเอวสูงหรือกระโปรงรัดรูป
การดูดไขมันบริเวณสะโพกด้านข้างจึงช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่บริเวณนี้ให้สัดส่วนช่วงเอวและสะโพกไหลลื่นต่อกันมากขึ้น ช่วยเน้นเอวคอดและสะโพกชัด สร้างลุคทรงนาฬิกาทราย (S-Curve) ที่ดูสวยงามและสมดุลจากมุมด้านข้างและด้านหลัง ใส่เสื้อผ้าก็มั่นใจมากขึ้น ร่างกายดูกระชับโดยไม่ต้องลดน้ำหนักแบบหักโหม
ดูดไขมันลำตัว เหมาะกับใคร?
สำหรับการดูดไขมันลำตัวเป็นวิธีการกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมใต้ชั้นผิวให้หายไป สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนที่ลดลงได้หลังทำ (ขึ้นอยู่กับรายบุคคล) จึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาหรือมีความต้องการ ดังนี้
- เหมาะกับคนที่ออกกำลังกายแล้วแต่ไขมันก็ยังไม่หายไป
- เหมาะกับคนที่ลดไขมันด้วยวิธีการอื่น ๆ แล้วไม่เห็นผล หรือเห็นผลน้อย
- เหมาะกับคนที่ลดน้ำหนักไปแล้วแต่รูปร่างยังไม่สมส่วน เพราะยังมีไขมันส่วนเกินเหลืออยู่
- เหมาะกับคนที่ต้องการดูแลรูปร่างให้สมส่วนมากขึ้น
- เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุดอย่างเห็นผล
- เหมาะกับคนที่มีเวลาออกกำลังกายน้อยแต่อยากลดไขมันบริเวณลำตัว
ดูดไขมันลำตัว vs ดูดไขมันรอบตัว 360° ต่างกันอย่างไร?
การดูดไขมันลำตัว กับ การดูดไขมันรอบตัว 360° มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของกระบวนการ ตำแหน่ง ระยะเวลาการพักฟื้น เป็นต้น โดยมีรายละเอียดของความแตกต่าง ดังนี้
- ดูดไขมันลำตัว เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะจุด โดยจะทำประมาณ 1 – 3 ตำแหน่ง เช่น หน้าท้อง เอว หรือหลัง เป็นต้น ใช้ระยะเวลาทำน้อย พักฟื้นไม่นาน (ขึ้นอยู่กับร่างกายของคนไข้แต่ละคน)
- ดูดไขมันรอบตัว 360° เป็นการดูดไขมันบริเวณช่วงลำตัวทั้งหมดในครั้งเดียว เช่น หน้าท้อง รอบเอว เอวด้านข้าง หรือปีกหลัง เป็นต้น ใช้ระยะเวลาในการทำค่อนข้างนาน พักฟื้นนาน (ขึ้นอยู่กับร่างกายของคนไข้แต่ละคน)
เทคนิคที่ใช้ในการดูดไขมันลำตัว
สำหรับการ ดูดไขมัน บริเวณลำตัวมีด้วยกันหลายเทคนิค ซึ่งแต่ละเทคนิคมีกระบวนการ เทคโนโลยีที่ใช้ หรือผลลัพธ์ที่ได้ แตกต่างกันออกไป โดยแต่ละเทคนิคมีรายละเอียดดังนี้
- Vaser Smooth 2.2 เทคนิคนี้เป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียงความถี่สูงอัลตร้าซาวด์เกิดเป็นความร้อน เพื่อทำให้เซลล์ไขมันเกิดการแตกตัวเล็กลง ง่ายต่อการดูดออกมา โดยที่ไม่ทำให้เนื้อเยื่ออื่น ๆ ข้างเคียงเกิดการเสียหาย ระหว่างขั้นตอนการดูดไขมันอาจมีเลือดปนออกมาได้บ้างเล็กน้อย กำจัดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่างกายฟื้นตัวได้ไว พักฟื้นน้อย
- Body Tite เทคนิคนี้จะเป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ RF เข้าไปทำให้เกิดความร้อนจนเซลล์ไขมันเกิดการแตกตัวเล็กลง นอกจากนั้นยังสามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจน กระชับผิวให้เต่งตึง
- Body Jet การดูดไขมันด้วยเทคนิคนี้จะเป็นการปล่อยพลังงานน้ำเข้าไปใต้ชั้นผิวเพื่อแยกเซลล์ไขมันออกจากเนื้อเยื่อผิวหนัง โดยไขมันที่ได้จากวิธีการนี้สามารถนำไปใช้เติมในตำแหน่งอื่น ๆ เช่น เติมไขมันหน้าอก เติมไขมันหน้า เป็นต้น เพราะไขมันไม่ถูกความร้อนทำลาย
- PAL (Power Assisted Liposuction) วิธีการนี้เป็นเทคนิคดูดไขมันด้วยระบบการสั่นที่ปลายท่อดูดด้วยระบบมอเตอร์และใช้แรงดูดแบบสุญญากาศ ด้วยแรงสั่นสะเทือนนี้จะช่วยให้ไขมันแตกตัวได้ดี เก็บไขมันได้ละเอียด สามารถดูดไขมันในบริเวณที่ทำได้ยาก ดูดไขมันออกมาได้ปริมาณค่อนข้างเยอะ เก็บไขมันในตำแหน่งเล็ก ๆ หรือตำแหน่งที่มีพังผืดเยอะได้ดี
ดูดไขมันลำตัวเจ็บไหม? ต้องดมยาสลบหรือไม่?
การดูดไขมันลำตัว หากมีการดูดหลายตำแหน่งพร้อมกันแพทย์จะพิจารณาใช้การดมยาสลบเพื่อให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บและผ่อนคลายมากขึ้น แต่ถ้าเป็นกรณีของคนไข้ที่ทำในตำแหน่งเดียวที่มีขนาดพื้นที่เล็ก แพทย์อาจจะพิจารณาใช้ยาชาเฉพาะจุดโดยไม่ต้องดมยาสลบก็ได้เช่นกัน
ขั้นตอนการดูดไขมันลำตัว
ขั้นตอนในการดูดไขมันลำตัวมีด้วยกันหลายประการที่คนไข้ควรทราบไว้ เพื่อที่จะได้เตรียมตัวได้อย่างเหมาะสม ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นระหว่างทำ โดยมีรายละเอียดดังนี้
- พบแพทย์เพื่อรับการประเมินระดับปัญหาและออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคลให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้มากที่สุด ตรวจสุขภาพเพื่อดูความพร้อมของร่างกาย
- ประเมินสัดส่วน สภาพผิว ปริมาณไขมัน และกำหนดตำแหน่งในการดูดไขมันที่เหมาะสม
- ดมยาสลบ/ฉีดยาชาเฉพาะจุด เมื่อยาออกฤทธ์แพทย์จึงเริ่มการดูดไขมันตามเทคนิคที่วางแผนไว้
- หลังทำเมื่อพักดูอาการแล้วไม่มีความผิดปกติหรือฤทธิ์ยาสลบหมดแล้ว คนไข้สามารถกลับบ้านได้
หลังดูดไขมันลำตัว ต้องดูแลอย่างไร?
เพื่อให้หลังดูดไขมันลำตัวไปแล้ว ร่างกายสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น แผลหายไว ผลลัพธ์เข้าที่เร็ว ไม่เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมา แนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยสามารถดูแลตัวเองหลังทำได้ดังนี้
- ใส่ชุดกระชับตลอด 24 ชั่วโมงในช่วง 1 เดือนแรก และสามารถลดลงเป็นการสวมใส่ 12 ชั่วโมงต่อวัน ในเดือนที่ 2 และ 3 หลังทำ
- ควรรับประทานยาให้ครบตามแพทย์สั่งและทำความสะอาดแผลวันละครั้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- แนะนำให้ลุกเดินหรือมีการขยับร่างกายบ่อย ๆ เพื่อให้ร่างกายสามารถชับของเสียออกมาจากแผลได้ดีขึ้น ลดโอกาสการเกิดก้อนเลือดอุดตันได้อีกด้วย
- 1 เดือนแรกหลังทำ ควรงดออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมหนัก ๆ
- ควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อวัน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ
- งดอาหารเสริม วิตามิน หรือยา ที่ส่งผลกระทบต่อการแข็งตัวของเลือด ในช่วงแรกที่ผลลัพธ์ยังไม่เข้าที่และแผลยังไม่หายดี
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ งดอาหารรสจัด อาหารหมักดอง เพื่อลดโอกาสอักเสบติดเชื้อให้น้อยลง ร่างกายฟื้นตัวได้ไว แผลหายเร็ว
พักฟื้นนานไหม? กี่วันถึงกลับไปใช้ชีวิตปกติได้?
หลังดูดไขมันลำตัว อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามการฟื้นฟูของร่างกายคนไข้แต่ละคนที่ไม่เท่ากัน สามารถกลับใช้ชีวิตประจำวันได้ในช่วง 1 สัปดาห์แรก และจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ในอีกประมาณ 3 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและปัจจัยด้านร่างกายของคนไข้แต่ละคน
ดูดไขมันลำตัวอยู่ได้นานไหม? ไขมันกลับมาอีกไหม?
สำหรับผลลัพธ์หลังดูดไขมันลำตัวสามารถอยู่ได้นาน หากคนไข้มีการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารจะทำให้สัดส่วนคงอยู่ได้นานขึ้น หากมีการเพิ่มขึ้นของน้ำหนัก ไม่มีการจัดการอาหารที่รับประทานอย่างเหมาะสม จะทำให้ไขมันใหม่กลับมาสะสมในตำแหน่งที่เคยดูดไขมันออกไปได้
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับดูดไขมันลำตัว
เพื่อช่วยไขข้อสงสัยเพิ่มเติมเรื่องการดูดไขมันลำตัว จากคำถามที่พบได้บ่อยซึ่งได้รวบรวมเอาไว้ในบทความนี้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
Q: ถ้ามีไขมันหลายจุดในลำตัว ต้องดูดพร้อมกันหรือแยกทำได้ไหม?
A: หากใครที่ต้องการดูดไขมันพร้อมกันหลายจุดสามารถทำได้ ซึ่งการดูดไขมันหลาย ๆ จุดจะทำให้ร่างกายต้องแบกรับภาระค่อนข้างหนัก ทั้งเรื่องของการสูญเสียไขมันในปริมาณมาก การสูญเสียน้ำ เป็นต้น จึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อประเมินปัญหา ความเสี่ยง และความปลอดภัยที่ร่างกายจะรับไหว
Q: ดูดไขมันลำตัวครั้งเดียวอยู่เลยไหม หรือต้องทำซ้ำ?
A: สำหรับจำนวนครั้งในการดูดไขมันลำตัวนั้น ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมิน หากคนไข้มีไขมันปริมาณมาก อาจจะทำครั้งเดียวไม่ได้ เพราะจะส่งผลกระทบกับร่างกายทำให้สูญเสียน้ำ สูญเสียไขมัน ในปริมาณที่มากและเร็วเกินไป จึงต้องแบ่งทำมากกว่า 1 ครั้ง หากคนไข้มีไขมันไม่มากก็สามารถทำจบในครั้งเดียวได้เลย
Q: หลังดูดไขมันลำตัว น้ำหนักตัวจะลดลงไหม?
A: เรื่องของน้ำหนักหลังดูดไขมันอาจลดลงได้บ้างเล็กน้อย แต่จะเห็นชัดเจนในเรื่องของสัดส่วนที่มีขนาดเล็กลง บริเวณลำตัวกระชับขึ้น
Q: หลังทำจะต้องลางานไหม หรือสามารถกลับไปทำงานได้เลย?
A: หลังทำแนะนำให้พักฟื้นประมาณ 3 – 5 วัน จึงจะกลับไปทำงานเบา ๆ ได้ อย่าเพิ่งออกแรงเยอะหรือทำกิจกรรมหนัก ๆ
Q: มีโอกาสที่ผิวจะย้วยหรือหย่อนหลังดูดไขมันไหม?
A: โดยทั่วไปหากสภาพผิวมีความยืดหยุ่นดี ร่างกายก็จะค่อย ๆ ฟื้นฟูผิวให้กลับมากระชับได้เอง แต่ในบางรายที่ผิวบางมากหรือไขมันที่ดูดออกไปมีปริมาณมาก อาจทำให้ผิวเกิดหารหย่อนคล้อยได้ สามารถทำเครื่องยกกระชับผิวควบคู่ไปกับการดูดไขมันได้
Q: ผู้ชายสามารถดูดไขมันลำตัวได้ไหม?
A:การดูดไขมันลำตัว สามารถทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยในผู้ชายสามารถที่จะโปรแกรมเสริมอย่างดูดไขมัน Six pack ได้ เน้นกล้ามเนื้อให้ชัดขึ้น ช่วยเพิ่มเสน่ห์น่าดึงดูด
Q: ช่วงวัยไหนที่เหมาะกับการดูดไขมันลำตัว?
A: โดยปกติแพทย์จะพิจารณาในเรื่องของสุขภาพเป็นหลัก หากยังแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ร่างกายยังฟื้นตัวได้ดี ก็สามารถทำได้ โดยอายุที่เหมาะกับการดูดไขมันลำตัวจะอยู่ที่ประมาณ 20 – 50 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนตัวของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน
สรุป
ดูดไขมันลำตัว เหมาะกับคนที่ต้องการดูแลรูปร่าง กระชับสัดส่วน โดยไม่ต้องออกกำลังกาย หรือในกรณีของคนที่ออกกำลังกายแล้วแต่ไขมันดื้อลดยาก สามารถเลือกใช้วิธีการนี้ช่วยแก้ปัญหาได้ ช่วยให้เห็นกล้ามเนื้อที่ชัดเจน หน้าท้องแบนราบ เอวคอด ลำตัวแลดูบางลง ผิวกระชับ ไม่หย่อนคล้อย เห็นความเปลี่ยนแปลงของรูปร่างที่เล็กลงหลังทำ สำหรับใครที่ต้องการดูแลรูปร่างและสัดส่วน มีปัญหาไขมันส่วนเกินสะสมจนรู้สึกอึดอัด ไม่มั่นใจ สามารถเข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อรับการประเมินปัญหา เลือกวิธีที่เหมาะสม และออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล