จมูกติดเชื้อเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังศัลยกรรมจมูก หากละเลยการดูแลหรือเลือกทำกับสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน ปัญหานี้อาจรุนแรงถึงขั้นต้องถอดซิลิโคนหรือผ่าตัดแก้ไขใหม่ Vincent Clinic Plastic Surgery จะพามาทำความเข้าใจว่า จมูกติดเชื้อเกิดจากอะไร อันตรายแค่ไหน และรักษาได้อย่างไร เพื่อให้คุณสามารถป้องกันและดูแลตัวเองได้อย่างถูกวิธีหลังเสริมจมูก
Key Takeaways
- จมูกติดเชื้อเกิดจากเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่แผลระหว่างหรือหลังผ่าตัด ทำให้เกิดการอักเสบ บวม แดง เจ็บ หรือมีหนองไหลออกจากแผล หากปล่อยไว้อาจรุนแรงถึงขั้นเนื้อจมูกยุบหรือซิลิโคนทะลุได้
- สาเหตุของจมูกติดเชื้อมักมาจาก ความไม่สะอาดของห้องผ่าตัด อุปกรณ์ หรือการดูแลหลังทำไม่ถูกวิธี รวมถึงการทำกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ หรือใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน
- อาการจมูกติดเชื้อที่ควรระวัง คือ จมูกบวมแดงไม่ยุบ ปวดมาก ผิวเปลี่ยนสี หรือมีของเหลวซึมจากแผล ควรรีบพบแพทย์ทันที
- แนวทางการรักษาจมูกติดเชื้อ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการติดเชื้อ ได้แก่ การใช้ยาปฏิชีวนะ ล้างแผลฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง หรือผ่าตัดนำซิลิโคนออกในกรณีรุนแรง เพื่อป้องกันการลุกลามของเชื้อ
- การป้องกันจมูกติดเชื้อที่ดีที่สุด คือการเลือกทำศัลยกรรมกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดเชื้อ ใช้วัสดุที่ผ่าน อย. และดูแลแผลตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด
- ที่ Vincent Clinic เสริมจมูกโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ ใช้อุปกรณ์และซิลิโคนเกรดทางการแพทย์ ภายในห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ มาตรฐานระดับสากลมั่นใจปลอดภัย ลดความเสี่ยงจมูกติดเชื้อ
จมูกติดเชื้อเกิดจากอะไร
จมูกติดเชื้อ คือ ภาวะที่เชื้อแบคทีเรียที่เข้าสู่บาดแผลระหว่าง หรือหลังผ่าตัด ศัลยกรรมจมูก สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งในเรื่องของความสะอาด หรือเทคนิคการผ่าตัด ดังนี้
- เครื่องมือหรือห้องผ่าตัดไม่สะอาด หากอุปกรณ์ หรือห้องผ่าตัดไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง เชื้อแบคทีเรียอาจเข้าสู่บาดแผลระหว่างผ่าตัดได้ทันที
- การดูแลหลังผ่าตัดไม่ถูกวิธี การจับหรือสัมผัสจมูกโดยไม่ล้างมือ การล้างแผลไม่สะอาด หรือใช้ยาไม่ครบตามแพทย์สั่ง อาจทำให้เชื้อเข้าสู่แผลและเกิดการอักเสบติดเชื้อได้
- ทำกิจกรรมบางอย่างหลังผ่าตัด เช่น การออกกำลังกายหนัก นอนตะแคง หรือโดนน้ำเร็วเกินไป ทำให้แผลช้ำ บวม และเปิดช่องให้เชื้อโรคเข้าสู่เนื้อเยื่อได้ง่ายยิ่งขึ้น
- เทคนิคการผ่าตัดไม่เหมาะสม หากแพทย์ใช้เทคนิคไม่ถูกต้อง ผ่าตัดรุนแรงเกินไป หรือกรีดแผลไม่เหมาะกับสภาพจมูกของคนไข้ อาจทำให้แผลหายช้าและเสี่ยงติดเชื้อได้
- วัสดุเสริมจมูกไม่ได้มาตรฐาน การใช้ซิลิโคน หรือวัสดุปลอมที่ไม่มีการรับรอง อย. หรือมีสิ่งปนเปื้อน จะเพิ่มโอกาสติดเชื้อ และอักเสบหลังผ่าตัด
- ประสบการณ์ของแพทย์ไม่เพียงพอ หากแพทย์ขาดความชำนาญในการประเมินรูปหน้า โครงจมูก หรือการเย็บแผล อาจทำให้เนื้อเยื่อถูกกดทับ เกิดการไหลเวียนเลือดไม่ดี และนำไปสู่การติดเชื้อได้
- ร่างกายผู้ป่วยอ่อนแอหรือภูมิคุ้มกันต่ำ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ มีโอกาสติดเชื้อได้มากกว่าปกติ

จมูกติดเชื้อเป็นอย่างไร มีอาการอะไรบ้าง
จมูกติดเชื้อเป็นอาการที่เกิดเมื่อมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนหลังการเสริมจมูก ทำให้จมูกเกิดอาการบวม แดง เจ็บ และอาจมีหนองหรือน้ำเหลืองไหลออกมาได้ หากปล่อยทิ้งไว้นานโดยไม่รักษา อาการอาจรุนแรงจนทำให้เนื้อจมูกยุบหรือซิลิโคนทะลุออกมาได้
วิธีสังเกตว่าจมูกติดเชื้อไหมหลังเสริมจมูก
ภาวะจมูกติดเชื้อหลังเสริมจมูก สามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยไปจนถึงขั้นรุนแรง โดยสามารถสังเกตได้จากอาการต่อไปนี้ค่ะ
- จมูกบวมแดงผิดปกติ มีอาการบวม แดง และไม่ยุบลงแม้ผ่านไปหลายวันหลังผ่าตัด
- รู้สึกปวดบริเวณจมูก มีอาการเจ็บหรือปวดเมื่อสัมผัสจมูก โดยเฉพาะบริเวณปลายหรือสันจมูก
- มีหนองหรือน้ำเหลืองไหลออกจากแผล พบของเหลว หนอง หรือเลือดซึมออกมาจากบริเวณแผล ซึ่งบ่งบอกถึงการติดเชื้อในชั้นผิวหรือเนื้อเยื่อใต้ผิว
- ผิวหนังเปลี่ยนสี ปลายจมูกอาจมีสีแดงจัด มันวาว หรือเริ่มคล้ำเป็นสีม่วง ซึ่งเป็นสัญญาณของการอักเสบรุนแรง
- จมูกทะลุหรือซิลิโคนโผล่ ในกรณีติดเชื้อรุนแรง อาจเกิดภาวะเนื้อจมูกยุบ หรือ ซิลิโคนจมูก ทะลุออกมา ซึ่งต้องรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อรักษา และป้องกันความเสียหายถาวร
ปัญหาจมูกติดเชื้อรักษาอย่างไร
เมื่อเกิดภาวะจมูกติดเชื้อหลังเสริมจมูก สิ่งสำคัญที่สุดคือการ รีบพบแพทย์ทันที เพื่อวินิจฉัยและประเมินระดับความรุนแรงของอาการ เพราะหากปล่อยไว้นาน เชื้อแบคทีเรียอาจลุกลามจนเกิดการอักเสบรุนแรง หรือถึงขั้นทำให้เนื้อจมูกยุบได้ โดยการรักษาจมูกติดเชื้อจะมีวิธีหลักๆ ดังนี้
- ใช้ยาปฏิชีวนะ แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะชนิดเฉพาะเพื่อควบคุมและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในบริเวณที่ติดเชื้อ ยาจะช่วยลดอาการบวม แดง และป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อรอบข้าง ซึ่งมักใช้ควบคู่กับการล้างแผลอย่างต่อเนื่อง
- ล้างแผล และดูแลความสะอาดของแผล เป็นขั้นตอนสำคัญในการลดเชื้อแบคทีเรียในบริเวณจมูก แพทย์จะทำความสะอาดแผลอย่างระมัดระวัง และแนะนำให้คนไข้ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือฆ่าเชื้อวันละหลายครั้ง เพื่อช่วยให้แผลแห้ง ลดการอักเสบ และเร่งให้เนื้อเยื่อฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- ผ่าตัดแก้ไขในกรณีติดเชื้อรุนแรง หากมีภาวะซิลิโคนทะลุ หรือเนื้อจมูกยุบ จากการติดเชื้อขั้นรุนแรง แพทย์จะทำการผ่าตัดนำซิลิโคนออกเพื่อหยุดการลุกลามของเชื้อ โดยเทคนิคการผ่าตัดที่ใช้จะทำอย่างระมัดระวัง ไม่ต้องพักฟื้นนานเหมือนการผ่าตัดใหญ่ทั่วไป และสามารถฟื้นตัวได้เร็วภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การรักษาที่ถูกต้อง และรวดเร็วจะช่วยป้องกันการเกิดพังผืด หรือความเสียหายของเนื้อจมูกในระยะยาว และทำให้สามารถกลับมา แก้จมูก หรือเสริมใหม่ได้อย่างปลอดภัยในอนาคต

วิธีป้องกันไม่ให้จมูกติดเชื้อ
การป้องกันภาวะ จมูกติดเชื้อหลังเสริมจมูก สามารถทำได้ง่ายหากดูแลอย่างถูกวิธีตั้งแต่ก่อนและหลังผ่าตัด โดยควรใส่ใจในทุกขั้นตอนเพื่อป้องกันการปนเปื้อนและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อดังนี้
- เลือกคลินิกและแพทย์ที่ได้มาตรฐาน ควรทำศัลยกรรมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในคลินิกที่สะอาด ปลอดเชื้อ และใช้วัสดุที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย. เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
- ดูแลความสะอาดหลังผ่าตัดอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการจับหรือแตะจมูกโดยไม่ล้างมือ หมั่นทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือตามคำแนะนำของแพทย์ และหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด
- งดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น การว่ายน้ำ ซาวน่า หรือออกกำลังกายหนัก เพราะเหงื่อและความชื้นอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่แผลได้ง่าย
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อ ควรกินตามเวลาและไม่หยุดยาเองแม้อาการจะดีขึ้นแล้ว
- สังเกตอาการผิดปกติหลังทำ หากพบว่าจมูกบวมแดง เจ็บมากขึ้น หรือมีหนองซึม ควรรีบกลับไปพบแพทย์ทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาการเล็กน้อยอาจลุกลามจนกลายเป็นการติดเชื้อรุนแรงได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับจมูกติดเชื้อ (FAQ)
Q : จมูกติดเชื้อต้องพักกี่เดือน ถึงจะเสริมจมูกใหม่ได้
A : หลังจากรักษาจมูกติดเชื้อ จนแผลหายสนิทและไม่มีการอักเสบแล้ว แพทย์จะแนะนำให้เว้นระยะประมาณ 3 – 6 เดือน ก่อนเสริมจมูกใหม่ เพื่อให้เนื้อเยื่อฟื้นตัวเต็มที่ ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อซ้ำ และช่วยให้ผลลัพธ์หลังเสริมครั้งใหม่ออกมาสวยปลอดภัย
Q : จมูกติดเชื้อหลังเสริมต้องถอดซิลิโคนจมูกไหม
A : ในกรณีที่จมูกติดเชื้อไม่รุนแรงมากนัก แพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะ และล้างแผลเพื่อควบคุมเชื้อโดยไม่ต้องถอดซิลิโคน ออกแต่ถ้าการติดเชื้อรุนแรงอาจมีอาการบวมแดงมาก มีหนอง หรือเนื้อจมูกเริ่มยุบ แพทย์จะต้องผ่าตัดนำซิลิโคนออกเพื่อหยุดการลุกลามของเชื้อก่อน
Q : จมูกเชื้อต้องกินยาอะไรบ้าง
A : หากเกิดภาวะจมูกติดเชื้อ แพทย์จะสั่งให้รับประทานยาปฏิชีวนะ เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและควบคุมการอักเสบ ร่วมกับยาแก้อักเสบหรือยาแก้ปวด เพื่อลดอาการบวมและเจ็บบริเวณจมูก ทั้งนี้ไม่ควรซื้อยามาทานเอง ควรให้แพทย์เป็นผู้จ่ายยาและกำหนดระยะเวลาในการใช้ เพื่อความปลอดภัยและให้การรักษาได้ผลดี
Q : จมูกติดเชื้อจะจมูกทะลุไหม
A : หากจมูกติดเชื้อรุนแรง และไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้เนื้อจมูกอักเสบจนเนื้อเยื่อบางลงและซิลิโคนทะลุออกมาได้ แต่หากรีบพบแพทย์ตั้งแต่เริ่มมีอาการ เช่น บวม แดง หรือเจ็บมากผิดปกติ ก็สามารถรักษาได้ก่อนถึงขั้นทะลุ
Q : จมูกติดเชื้อหลังผ่าตัดทันทีเกิดจากอะไร
A : การจมูกติดเชื้อหลังผ่าตัดทันทีมักเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนระหว่างการผ่าตัด เช่น เครื่องมือหรือแผลผ่าตัดไม่สะอาด รวมถึงการใช้วัสดุเสริมที่ไม่ได้มาตรฐาน แพทย์ขาดความชำนาญในการผ่าตัด ทำให้เชื้อเข้าสู่แผลได้ง่ายและเกิดการอักเสบในช่วงหลังผ่าตัด
สรุป
จมูกติดเชื้อเป็นภาวะแทรกซ้อนหลังการเสริมจมูกที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่บาดแผลระหว่างหรือหลังผ่าตัด มักเกิดจากความไม่สะอาดในการผ่าตัด การดูแลแผลไม่ถูกวิธี หรือแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ทำให้จมูกมีอาการบวม แดง เจ็บ และอาจมีหนองไหลออกมา หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจรุนแรงถึงขั้นเนื้อจมูกยุบหรือซิลิโคนทะลุได้ หากอยากเสริมจมูกแต่กลัวติดเชื้อ สามารถเข้ามาปรึกษาที่ Vincent Clinic Plastic Surgery เพราะเราทำการเสริมจมูกโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้อุปกรณ์และซิลิโคนเกรดทางการแพทย์ ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างปลอดภัย พร้อมห้องผ่าตัดที่สะอาด ปลอดเชื้อ ได้มาตรฐานระดับสากล