vincent.jpg.png
vc_3.png
Vincent Clinic Bangkok Plastic Surgery
คลินิกศัลยกรรมความงาม ดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit
บทความ
ฉีดฟิลเลอร์คางกับเสริมซิลิโคนคาง ต่างกันอย่างไร อันไหนดีกว่ากัน?
แชร์ :

ฉีดฟิลเลอร์คางกับเสริมซิลิโคนคาง ต่างกันอย่างไร อันไหนดีกว่ากัน?

เสริมคาง VS ฉีดฟิลเลอร์คาง
อยากรู้เรื่องอะไร? คลิกที่หัวข้อได้เลย!

ฉีดฟิลเลอร์คาง กับ เสริมซิลิโคนคาง ทางเลือกของคนที่ต้องการแก้ปัญหารูปทรงคางให้ได้สัดส่วนและปรับรูปหน้าให้เข้าที่มากขึ้น ทั้งสองวิธีได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบันซึ่งมีความแตกต่างกันออกไปในหลาย ๆ ด้าน จนทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นว่าการฉีดคางกับการเสริมคางต่างกันอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง หลังทำควรดูแลตัวเองอย่างไร ราคาเท่าไหร่ แนะนำให้ติดตามอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากบทความนี้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

ฉีดฟิลเลอร์คางกับเสริมซิลิโคนคาง ต่างกันอย่างไร?

สำหรับการ ฉีดฟิลเลอร์คางกับเสริมซิลิโคนคาง ถึงแม้จะเป็นวิธีที่ใช้ในการปรับแก้รูปทรงคางและช่วยให้ใบหน้าโดยรวมดูดีขึ้นได้ แต่ก็มีความแตกต่างกันในหลาย ๆ ด้าน ทั้งเรื่องของกระบวนการ เทคนิคที่ใช้ วัสดุที่ใส่เข้าไปในคาง รวมถึงผลลัพธ์ที่ได้อีกด้วย โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ฉีดฟิลเลอร์คาง หัตถการนี้เป็นใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ฉีดเข้าไปบริเวณคางช่วยปรับรูปทรงให้รับกับใบหน้าและได้สัดส่วนมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ผลลัพธ์ไม่คงอยู่ถาวรสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติไม่เกิดการตกค้าง จึงอาจจะต้องฉีดเติมอยู่เรื่อย ๆ เพื่อคงผลลัพธ์ให้คงอยู่ไปตลอด นอกจากนั้นทรงคางที่ได้อาจจะไม่สามารถทำให้ยาวได้มากนัก ไม่สามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างที่ซับซ้อนได้ อาจทำให้รูปทรงคางไม่ได้สัดส่วนหรือไม่สมดุลกับใบหน้า
  • เสริมซิลิโคนคาง วิธีการนี้เป็นการทำศัลยกรรมคางด้วยการใส่ซิลิโคนที่มีให้เลือกหลากหลายรูปทรงและความยาวให้เลือกทำ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและเหมาะกับใบหน้าของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป ทั้งยังสามารถใช้เทคนิคในการผ่าตัดเพื่อปรับแก้โครงสร้างของกระดูกให้เข้าที่มากขึ้น เลือกวางซิลิโคนในตำแหน่งที่ต้องการแก้ปัญหาได้อย่างแม่นยำ ผลลัพธ์คงอยู่ถาวร

ฉีดฟิลเลอร์คางกับเสริมซิลิโคนคาง ต่างกันอย่างไร

ฉีดคางกับเสริมคางอันไหนดีกว่ากัน?

สำหรับการฉีดคางกับเสริมคางอันไหนดีกว่า เป็นเรื่องที่หลายคนยังคงสงสัย แนะนำให้ศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วนถูกต้องเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการและแก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งทั้งสองวิธีมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้

ข้อดีของการฉีดคาง

  • สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหลังฉีด (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
  • ไม่มีแผลเพราะไม่ใช่การผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น กลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่เกิดการตกค้าง
  • หากต้องการแก้ไขสามารถฉีดสลายได้
  • สามารถเติมได้เรื่อย ๆ เพื่อช่วยคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้ตลอด

ข้อเสียของการฉีดคาง

  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร สามารถคงอยู่ได้ประมาณ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ 
  • อาจจะต้องฉีดซ้ำบ่อย ๆ เพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้ตลอด
  • ไม่สามารถเสริมคางให้ยาวมาก ๆ ได้
  • ไม่สามารถปรับแก้โครงสร้างกระดูกในกรณีของคนที่มีปัญหาค่อนข้างซับซ้อนหรือต้องแก้ไขเยอะ
  • มีโอกาสที่คางจะผิดรูปทรงได้หากมีการกระทบกระเทือนในช่วงแรกที่ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่

ข้อดีของการเสริมซิลิโคนคาง

  • ซิลิโคนคงรูปและผลลัพธ์คงอยู่ได้ถาวร
  • สามารถเหลาทรงและปรับขนาดให้รับกับใบหน้าของแต่ละคนที่แตกต่างกันได้เป็นอย่างดี
  • แพทย์สามารถใช้เทคนิคการผ่าตัดในการปรับโครงสร้างกระดูกให้เข้าที่ได้
  • เลือกวางซิลิโคนในตำแหน่งที่เหมาะสมช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
  • ซิลิโคนมีรูปทรง ขนาด และประเภทให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของปัญหา ใบหน้า และความต้องการของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป
  • สามารถเสริมคางให้ยาวมากกว่าการฉีดสารเติมเต็ม ทำให้รูปทรงมีความชัดเจนมากขึ้น
  • สำหรับคนที่เลือกใช้ซิลิโคนขายาวแพทย์สามารถใช้เทคนิคเย็บล็อกซิลิโคนให้แนบสนิทไปกับแนวกระดูกกราม ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ป้องกันปัญหาคางเบี้ยวหรือเคลื่อนไปในตำแหน่งอื่น 

ข้อเสียของการเสริมซิลิโคนคาง

  • เป็นการผ่าตัดที่มีความซับซ้อนจึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์มากประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
  • หากใช้เทคนิคเสริมคางแผลนอกอาจทิ้งรอยแผลผ่าตัดขนาดเล็กไว้ใต้คางจึงต้องดูแลแผลให้ดีเพื่อให้รอยแผลจางลงจนแทบมองไม่เห็น สำหรับคนที่เลือกใช้เทคนิคแผลในปากจะไม่มีรอยแผลภายนอกให้เห็น
  • อาจต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นประมาณ 5 – 7 วัน และมีการตัดไหม ขึ้นอยู่กับเทคนิคในการผ่าตัดที่ใช้รวมถึงร่างกายของแต่ละคนที่ต่างกัน 
  • ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 – 3 เดือนกว่าที่คางจะเข้าที่

เสริมคางแล้วฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม?

คนที่เสริมคางแล้วอยากฉีดฟิลเลอร์เพิ่ม มีทั้งกรณีที่ทำได้และทำไม่ได้ หากต้องการฉีดเพื่อปรับความเรียบเนียนของบริเวณด้านข้างคางยาวไปถึงแนวกรามหรือฉีดเติมในบางส่วนก็สามารถฉีดได้ แต่หากต้องการฉีดบริเวณซิลิโคนคางโดยตรงอาจจะไม่แนะนำให้ฉีดเนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อหรือผลข้างเคียงร้ายแรงอื่น ๆ ตามมาในอนาคตได้ จึงต้องให้แพทย์ประเมินและออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล

ฉีดฟิลเลอร์คางกับเสริมซิลิโคนคาง ราคาเท่าไหร่?

ราคาฉีดฉีดฟิลเลอร์คางกับเสริมซิลิโคนคาง มีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ ยี่ห้อสารเติมเต็มประเภทซิลิโคน ระดับความยากง่ายของการแก้ปัญหาหรือปรับโครงสร้าง ความต้องการของคนไข้ และประสบการณ์ของแพทย์ โดยราคาฉีดคางอยู่ที่ประมาณ 8,000 – 20,000 บาท สำหรับการผ่าตัดเสริมคางจะอยู่ที่ประมาณ 15,000 – 30,000 บาท

การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์คางกับเสริมซิลิโคนคาง ต่างกันไหม?

การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์คางกับเสริมซิลิโคนคาง ต่างกันไหม?

หลังฉีดฟิลเลอร์คางกับเสริมซิลิโคนคาง ควรดูแลตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อบรรเทาอาการหลังทำและป้องกันผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ตามมา โดยมีรายละเอียดของการดูแลตัวเองเบื้องต้น ดังนี้

ดูแลหลังฉีดคาง

  • ควรนอนหมอนสูง หนุนหมอนยกศีรษะขึ้น เพื่อลดอาการบวมให้น้อยลง
  • งดนอนคว่ำหรือนอนตะแคง เพื่อไม่ให้บริเวณคางถูกกดทับจนเกิดการผิดรูปหรือเคลื่อนตำแหน่ง
  • ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในแต่ละวัน ช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานและเซ็ตตัวไวขึ้น
  • หากมีอาการปวดสามารถทานยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่งได้
  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำหรือล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นในช่วงแรก เพื่อป้องกันอาการบวมแดงและขัดขวางกระบวนการทำงานของฟิลเลอร์ให้ลดลง

ดูแลหลังเสริมซิลิโคนคาง

  • ในช่วง 3 วันแรกหลังทำอาจมีอาการบวม สามารถใช้การประคบเย็นเพื่อช่วยบรรเทาอาการได้ โดยควรประคบโดยรอบ ไม่ประคบลงบริเวณคางโดยตรงหรือโดนแผลผ่าตัด
  • 2 สัปดาห์แรกหลังทำ ควรนอนหงาย เพื่อลดอาการบวมช้ำให้หายไวขึ้น
  • ไม่ควรนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ เพื่อป้องกันการกดทับจนเกิดปัญหาคางเบี้ยว เอียง หรือซิลิโคนเคลื่อนไปในตำแหน่งอื่น 
  • งดรับประทานอาหารเหนียว แข็ง หรือเคี้ยวยาก เน้นไปที่อาหารอ่อน ๆ ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังทำ รวมไปถึงการขยับปากบ่อย ๆ เพื่อลดการกระทบกระเทือนบริเวณแผลและซิลิโนคางให้น้อยลง
  • สำหรับคนที่ทำเทคนิคแผลภายในปาก ควรบ้วนปากทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
  • 1 เดือนหลังทำ งดออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ออกแรงมาก ๆ เพื่อลดการกระทบกระเทือนบริเวณคาง
  • ควรใช้แปรงสีฟันที่มีขนาดเล็ก แปรงด้วยความเบามือ ในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังทำ เพื่อไม่ให้เกิดการอ้าปากกว้างหรือเกิดการขยับช่องปากมากเกินไปจนกระทบไปถึงบริเวณคาง
  • รับประทานยาให้ครบกำหนดและปฏิบัติตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

สรุป

ฉีดฟิลเลอร์คางกับเสริมซิลิโคนคาง เป็นวิธีการปรับแก้รูปทรงคางให้ได้สัดส่วนและรับกับใบหน้ามากขึ้น โดยมีความแตกต่างกันทั้งเรื่องของกระบวนการรักษา เทคนิคที่ใช้ วัสดุที่ใส่เข้าไปบริเวณคาง ข้อจำกัดบางอย่าง และผลลัพธ์ที่ได้ สำหรับใครที่อยากได้ผลลัพธ์แบบรวดเร็ว ไม่อยากผ่าตัด ไม่ต้องแก้ไขปัญหาบริเวณคางมากนัก สามารถเลือกฉีดคางได้ แต่สำหรับคนที่คางมีปัญหาค่อนข้างเยอะ ต้องการเสริมคางให้ยาวรับกับใบหน้า สามารถเลือกการผ่าตัดเสริมคางได้ ใครที่มีความต้องการแก้ปัญหาบริเวณคางให้ดีขึ้น ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน แนะนำให้เข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ของ Vincent Clinic เพื่อให้แปพทย์ช่วยประเมินและออกแบบการรักษาแบบเฉพาะรายบุคคล

Scroll to Top
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit