จมูกชมพู่ คืออะไร ส่งผลเสียกับใบหน้าอย่างไร มีวิธีแก้ไขอะไรบ้าง?

จมูกชมพู่ อีกหนึ่งทรงจมูกที่ส่งผลทำให้ใบหน้าโดยรวมดูใหญ่ หน้ากลม ไม่มีมิติ หน้าไม่สมส่วน หันมุมไหนก็ไม่มั่นใจ เวลาถ่ายรูปก็ต้องคอยหลบ คอยเบี่ยงซ่อนให้จมูกดูเล็กลง ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยหลายวิธี ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมินปัญหาและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม สำหรับใครที่อยากทราบว่าจมูกทรงนี้มีลักษณะอย่างไร มีสาเหตุมาจากอะไร แก้ไขได้ด้วยวิธีไหนบ้าง สามารถปรับทรงจมูกเป็นแบบไหนได้บ้าง สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้จากเนื้อหาต่อไปนี้จาก Vincent Clinic Plastic Surgery

 Key Takeaways

• จมูกชมพู่ คือลักษณะจมูกที่ฐานกว้าง เนื้อเยอะ ปลายจมูกใหญ่คล้ายผลชมพู่ ทำให้ใบหน้าดูบาน ขาดมิติ และดูแก่กว่าวัย
• จมูกที่มีลักษณะคล้ายชมพู่ เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม, ไขมันหรือเนื้อเยื่อหนา, ปีกจมูกกว้าง, หรือพังผืดจากการศัลยกรรมเดิม
• เทคนิคการแก้จมูกชมพู่ แบ่งเป็นทั้งแบบผ่าตัด เช่น เสริมจมูกโอเพ่น, ตัดปีกจมูก และไม่ผ่าตัด เช่น ฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดปีก
• แพทย์จะเลือกใช้เทคนิคการแก้จมูกชมพู่ตามระดับปัญหาโครงสร้างของแต่ละคน เพื่อให้จมูกเรียวเล็กขึ้น รับกับใบหน้า และได้ผลลัพธ์ที่ดูละมุนเป็นธรรมชาติ
• ทรงจมูกที่เหมาะกับการปรับแก้จมูกชมพู่ ได้แก่ ทรงหยดน้ำ, สโลปปลายพุ่ง, ทรงเกาหลี, ทรงธรรมชาติ, ทรงสายฝอ และทรงบาร์บี้
• ราคาการแก้จมูกชมพู่ ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณ 15,000-100,000 บาท
• ผู้ที่เคยเสริมจมูกแล้วก็ยังสามารถแก้ไขจมูกชมพู่ได้ โดยต้องให้แพทย์ประเมินอย่างละเอียดก่อน

จมูกชมพู่ คืออะไร? 

จมูกชมพู่ คือคำที่ใช้เรียกทรงจมูกที่มีลักษณะปลายกลมใหญ่ ฐานจมูกกว้าง และเนื้อจมูกดูหนากว่าปกติ โดยเฉพาะบริเวณปลายและปีกจมูกที่ขยายออกคล้ายรูปทรงของผลชมพู่ ลักษณะเด่นคือจมูกดูใหญ่ครอบคลุมพื้นที่กลางใบหน้ามากกว่าส่วนอื่น ส่งผลให้หน้าดูบาน ขาดมิติ ดูไม่มีเสน่ห์ในมุมด้านข้างหรือเวลาถ่ายรูป ซึ่งหลายคนอาจรู้สึกไม่มั่นใจ โดยเฉพาะเมื่อมองในมุมเอียงหรือมุมต่ำที่ปลายจมูกยิ่งดูเด่นชัดมากขึ้น

ปัญหานี้ทำให้ใบหน้าดูขาดสมดุล เช่น หน้าผากดูแคบ คางดูสั้น และหน้าดูกลมมากขึ้น แม้จะมีองค์ประกอบใบหน้าอื่นที่สวยอยู่แล้วก็ตาม จมูกชมพู่จึงเป็นหนึ่งในลักษณะจมูกที่หลายคนอยากแก้ไขเพื่อเสริมความมั่นใจและปรับให้ใบหน้าดูละมุนมีมิติมากยิ่งขึ้น

จมูกชมพู่ เกิดจากอะไร?

สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาจมูกชมพู่ขึ้นนั้น มีด้วยกันหลายปัจจัยซึ่งแตกต่างกันออกไปในแต่ละรายบุคคล โดยมีรายละเอียดของสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นดังนี้

• พันธุกรรม อาจเกิดกับคนในครอบครัวมีลักษณะจมูกคล้ายกัน เช่น ปีกกว้าง ปลายหนา ฐานจมูกแบน มักถ่ายทอดกันได้ทางพันธุกรรมตั้งแต่กำเนิด
• เนื้อเยื่อไขมันใต้ผิวหนามาก ดูได้จากบริเวณปลายจมูกของบางคนจะมีไขมันสะสมจำนวนมาก ทำให้ปลายจมูกดูบวม หนา และใหญ่ โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวหน้ามันหรือผิวหน
• กระดูกอ่อนปลายจมูกหนาและกางออก เนื่องจากโครงสร้างกระดูกอ่อนด้านปลายจมูกอาจมีความหนามากและมีการขยายตัวออกด้านข้าง ทำให้จมูกดูบาน แม้ไม่ได้มีเนื้อเยื่อไขมันมากก็ตาม
• ปีกจมูกกว้าง ในคนที่มีปีกจมูกที่ยื่นกว้างออกจากแนวฐานจมูก ทำให้จมูกดูแบนและบานออกด้านข้าง ส่งผลให้รูปทรงโดยรวมดูใหญ่ไม่สมส่วน
• พังผืดจากการศัลยกรรมเดิม ซึ่งเกิดขึ้นได้จากคนที่เคยเสริมจมูกมาแล้ว แต่อาจเกิดพังผืดหนาหรือการยึดติดผิดปกติภายใน ส่งผลให้ปลายจมูกแข็ง ตึง และดูใหญ่ผิดธรรมชาติได้

จมูกชมพู่ส่งผลกับบุคลิกภาพอย่างไร?

แม้ว่าจมูกชมพู่จะเป็นเพียงลักษณะทางกายภาพของใบหน้า แต่กลับส่งผลต่อ ภาพลักษณ์โดยรวม ได้อย่างชัดเจน เพราะจมูกเป็นจุดศูนย์กลางที่ดึงความสนใจบนใบหน้า เมื่อปลายจมูกดูใหญ่ หนา หรือบานออกเกินไป จะทำให้สมดุลของใบหน้าถูกรบกวน ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ดูไม่ละมุนเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อ การรับรู้ของผู้อื่น ที่มีต่อบุคลิกของเจ้าของใบหน้าด้วย

ในหลายกรณี คนที่มีจมูกชมพู่มักจะดูเป็นคนหน้าแข็ง ดูดุ หรือดูขรึมมากกว่าความเป็นจริง บางคนอาจถูกมองว่าดูมีอายุ หรือขาดความสดใสแม้จะไม่ได้แต่งหน้าเลยก็ตาม นอกจากนี้ยังส่งผลให้เจ้าของใบหน้ารู้สึกไม่มั่นใจเมื่อต้องเข้าสังคม หรือถ่ายรูป ต้องคอยเบี่ยงหน้า หามุมปิดจมูก ซึ่งกระทบต่อบุคลิกภาพโดยรวมได้ในระยะยาว

ดังนั้น การแก้ไขทรงจมูกชมพู่ให้ได้สัดส่วนกับใบหน้า ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความสวยงาม แต่ยังช่วยให้เจ้าของใบหน้ามีบุคลิกที่ดูมั่นใจ เป็นมิตร และเปิดเผยมากขึ้น

ทำไมจมูกชมพู่ถึงทำให้หน้าดูแก่?

หลายคนอาจไม่รู้ว่า รูปทรงจมูก มีผลอย่างมากต่อความรู้สึกว่าใบหน้า ดูเด็ก หรือ ดูแก่ และจมูกชมพู่ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุโดยไม่รู้ตัว

เนื่องจากจมูกที่มีลักษณะใหญ่ หนา ปลายมน และกว้างจะทำให้แสงเงาบนใบหน้าดูเรียบแบน ขาดมิติ ซึ่งเป็นลักษณะที่พบได้ในใบหน้าของผู้สูงอายุ หรือในคนที่มีโครงสร้างผิวหนา หน้ากว้าง เมื่อแสงตกกระทบแล้วไม่มีเงาชัดเจนบริเวณสันหรือปลายจมูก ก็จะทำให้หน้าดู ไม่กระจ่างใส และ ไม่ยกกระชับ

อีกทั้งเมื่อจมูกขยายออกมากกว่าส่วนอื่น เช่น หน้าผากหรือคาง จะส่งผลให้ใบหน้าขาดสมดุลในแนวตั้ง ทำให้หน้าดูสั้นและดูป้านขึ้น ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สัมพันธ์กับความรู้สึกว่า แก่กว่าวัย

การปรับทรงจมูกให้มีความเรียวสมส่วน ยกปลายเล็กน้อย หรือมีสโลปชัดเจน จะช่วยให้ใบหน้าดูยาวขึ้น มีมิติ และดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งอธิบายได้ว่าทำไมหลายคนที่แก้จมูกชมพู่แล้วถึงดูละมุนขึ้นและหน้าเด็กลงโดยไม่ต้องแต่งหน้าเพิ่มเติม

เทคนิคแก้จมูกชมพู่มีอะไรบ้าง?

เทคนิคในการแก้ไขปัญหาจมูกชมพู่ สามารถทำได้ด้วยหลายวิธี โดยแพทย์จะปรับใช้ให้เหมาะกับปัญหาและใบหน้าของคนไข้แต่ละคน โดยมีเทคนิคที่นิยมใช้มีดังนี้

• การเสริมจมูก 

สำหรับการเสริมจมูก เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะเสริมจมูกแบบโอเพ่น เนื่องจากสามารถแก้ไขปัญหาและปรับโครงสร้างจมูกที่ค่อนข้างซับซ้อนได้เป็นอย่างดี แพทย์มองเห็นโครงสร้างได้ชัดเจน แก้ปัญหาได้แม่นยำและตรงจุด ผลลัพธ์คงอยู่ถาวร

• ตัดปีกจมูกและตัดฐานจมูก 

การตัดปีกจมูก เป็นการใช้เทคนิคในการผ่าตัดบริเวณปีกจมูกให้เล็กลง ปรับรูปจมูกให้แคบลง ตัดให้เนื้อปีกจมูกบางลง คงอยู่ได้ถาวร เหมาะกับผู้ที่มีปีกจมูกบาน ฐานจมูกกว้าง ทำให้หน้าดูกว้างและไม่สมส่วน เทคนิคนี้สามารถทำร่วมกับการเสริมจมูกหรือทำเดี่ยว ๆ ก็ได้

• โปรแกรมโบท็อกซ์ปีกจมูก 

เป็นการฉีดโบทูลินัมท็อกซินเพื่อระงับการทำงานของกล้ามเนื้อที่ดึงรั้งปีกจมูกชั่วคราว เวลาที่ยิ้มหรือมีการขยับของกล้ามเนื้อจะไม่ทำให้ปีกจมูกถูกดึงยืดออก จมูกจึงดูเล็กลง แต่ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และพฤติกรรมของคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกัน

แต่ละเทคนิคมีข้อจำกัดและจุดเด่นแตกต่างกัน แพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าโครงสร้างจมูกของคนไข้เหมาะกับการผ่าตัด ปรับฐาน หรือแค่ฉีดโบท็อกซ์ เพื่อลดขนาดชั่วคราว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่รับกับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ และคงอยู่ได้ตามความต้องการของแต่ละคน

จมูกทรงไหนเหมาะกับการปรับแก้จมูกชมพู่?

สำหรับการปรับทรงจมูกชมพู่ให้รับกับใบหน้าด้วยการเสริมจมูกนั้นให้ผลลัพธ์ที่ถาวรและมีด้วยกันหลายทรงให้เลือก ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้วิเคราะห์และออกแบบให้เหมาะกับคนไข้แต่ละคนมากที่สุด จมูกทรงเดียวกันถึงแม้จะดูสวยงามแต่ก็ไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน โดยมีทรงจมูกที่เหมาะสม ดังนี้

• จมูกทรงสโลปปลายพุ่ง จมูกทรงนี้เป็นการเน้นสันจมูกที่มีความสโลป ยกปลายจมูกให้พุ่ง ช่วยทำให้จมูกดูยาวขึ้น ปรับปลายจมูกเรียวเล็กลง
• จมูกทรงหยดน้ำ ทรงหยดน้ำเป็นลักษณะปลายจมูกที่มีความมนและโค้งนูนเล็กน้อยคล้ายหยดน้ำ ซึ่งช่วยให้ปลายจมูกดูเรียวและยาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
• จมูกทรงบาร์บี้ จมูกลักษณะนี้มีความสโลป สันกว้าง ไม่โด่งเกินไป ให้ลุคหน้าที่หวานละมุนเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ 
• จมูกทรงธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งทรงที่ได้รับความนิยม เนื่องจากทรงจมูกไม่โด่งเกินไป เน้นปรับจากฐานเดิมที่มีอยู่ โดยที่ไม่ใช้เทคนิคที่ฝืนโครงสร้างเดิมของจมูกคนไข้ จึงให้ผลลัพธ์ที่ออกมามีความเป็นธรรมชาติ
• ทรงจมูกเกาหลี จุดเด่นของทรงนี้คือความละมุนและความพอดี เหมาะกับคนที่ต้องการลุคดูอ่อนโยน หวานแบบเกาหลี โดยไม่ดูแหลมหรือคมจนเกินไป
• ทรงจมูกสายฝอ แบบปลายเชิด เป็นทรงที่เหมาะกับใบหน้าของคนเอเชีย ทำได้ทั้งคนที่มีเนื้อจมูกเยอะหรือมีจมูกทรงชมพู่ โดยสามารถใช้เทคนิคเสริมในการปรับแต่งปลายจมูกให้โด่งสวยได้

ดูเรื่องทรงจมูกทั้งหมด : ทรงจมูก ที่ได้รับความนิยมมีกี่แบบ เลือกทรงไหนให้เหมาะกับใบหน้า?

ก่อนผ่าตัดแก้จมูกชมพู่ควรเตรียมตัวอย่างไร?

เพื่อให้การผ่าตัดแก้ไขจมูกชมพู่ไม่เกิดปัญหาขึ้น ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ารับบริการ โดยสามารถปฏิบัติตัวเบื้องต้นได้ดังนี้

• ศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วนถูกต้อง ทั้งเรื่องของคลินิก แพทย์ผู้รักษา เทคนิคที่ใช้ ทรงจมูกที่ต้องการทำ เป็นต้น
• หากมีประวัติการแพ้ยา มีโรคประจำตัว มียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ หรือเคยทำศัลยกรรมจมูกมาก่อน ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบทุกครั้งก่อนเข้ารับบริการ
• งดวิตามิน อาหารเสริมหรือยาที่มีผลกระทบกับการแข็งตัวของเลือด

วิธีดูแลตัวเองหลังผ่าตัดแก้จมูกชมพู่ให้เข้ารูปเร็ว

เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาหลังจากผ่าตัดแก้จมูกชมพู่ไปแล้ว แนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้จมูกเข้าที่เร็วขึ้น แผลหายไว ไม่เกิดผลข้างเคียงตามมา โดยสามารถดูแลตัวเองหลังผ่าตัดได้ดังนี้

• ในช่วง 3 วันแรก แนะนำให้ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมให้ยุบไวขึ้น เลือดหยุดซึมออกจากแผลไวขึ้น
• ควรนอนหงายและยกศีรษะขึ้นสูงในช่วง 2 – 3 สัปดาห์แรกหลังทำ เพื่อช่วยลดอาการบวม ป้องกันเลือดคั่ง
• งดนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ เพื่อไม่ให้จมูกได้รับการกระทบกระเทือน
• งดแคะ เกา จับ ขยี้ หรือสัมผัสแรง ๆ บริเวณจมูก เพราะอาจทำให้เกิดอาการอักเสบติดเชื้อ ทั้งยังมีโอกาสทำให้แผลผ่าตัดปริได้อีกด้วย
• ทำความสะอาดแผลผ่าตัดด้วยสำลีพันก้านชุบน้ำเกลือ เช็ดเบา ๆ เพื่อเช็ดคราบเลือด
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ในช่วง 1 เดือนหลังทำ เพื่อให้แผลสมานไว ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
• หากพบอาการผิดปกติควรพบแพทย์ทันที

เปรียบเทียบการแก้จมูกชมพู่กับการเสริมจมูกทั่วไปต่างกันอย่างไร?

ความแตกต่างระหว่างการผ่าตัดแก้ไขจมูกชมพู่และการเสริมจมูก มีความต่างกันที่เทคนิคในการแก้ปัญหา ระดับความรุนแรงที่ต้องแก้ไข ความซับซ้อนในการปรับแก้โครงสร้าง เทคนิคเสริมอื่น ๆ ที่เลือกใช้ และความต้องการของคนไข้ เป็นต้น ซึ่งแพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะกับคนไข้แต่ละรายบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีและปลอดภัย ตรงตามความต้องการของคนไข้มากที่สุด 

ราคาของการศัลยกรรมจมูกชมพู่อยู่ที่เท่าไหร่?

ราคาในการผ่าตัดแก้ไขจมูกชมพู่ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหา โครงสร้างจมูกที่ต้องแก้ไข เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด วัสดุเสริมอื่น ๆ ความต้องการของคนไข้ และประสบการณ์ของแพทย์ เป็นต้น ในกรณีของคนที่ตัดปีกจมูกเพียงอย่างเดียวราคาจะอยู่ที่ประมาณ 15,000 -30,000 บาท ในส่วนของคนที่เสริมจมูกไปพร้อมกับตัดปีกจมูกจะอยู่ที่ประมาณ 25,000-100,000 บาท

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการแก้จมูกชมพู่

ในหัวข้อนี้ได้รวบรวมเอาส่วนหนึ่งของคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแก้จมูกชมพู่ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ช่วยตอบข้อสงสัยต่าง ๆ ให้กระจ่างมากขึ้น 

Q : จมูกชมพู่คือปัญหาที่ต้องผ่าตัดเท่านั้นหรือไม่?
A : ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเสมอไป วิธีการรักษาขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงและลักษณะโครงสร้างของแต่ละคน หากปัญหาไม่ได้ซับซ้อนมาก อาจเลือกวิธีไม่ผ่าตัด เช่น การฉีดโบท็อกซ์ลดปีกจมูก แต่ถ้าโครงสร้างใหญ่ ฐานกว้าง หรือปลายจมูกหนา การผ่าตัดจะช่วยแก้ไขได้ตรงจุดและอยู่ได้นานกว่า

Q : ถ้าเคยเสริมจมูกมาแล้วแต่ยังดูเหมือนจมูกชมพู่ สามารถแก้ได้ไหม?
A : สามารถแก้ไขได้ แม้จะเคยเสริมจมูกมาแล้ว หากยังมีลักษณะบานหรือปลายใหญ่ แพทย์จะต้องประเมินอย่างละเอียดว่ามีพังผืดหรือโครงสร้างที่ต้องปรับหรือไม่ โดยอาจใช้เทคนิคโอเพ่นเพื่อให้เห็นรายละเอียดภายในจมูกได้ชัดเจนและแก้ไขได้อย่างแม่นยำ

Q : จมูกชมพู่จำเป็นต้องตัดปีกจมูกด้วยหรือเปล่า?
A : ขึ้นอยู่กับลักษณะปีกจมูก หากฐานจมูกกว้างหรือปีกบานจนทำให้รูปจมูกไม่สมส่วน การตัดปีกจมูกสามารถช่วยให้จมูกดูเล็กลงและเข้ารูปมากขึ้นได้ แต่ในบางรายที่ปีกไม่บานมาก แพทย์อาจเลือกวิธีอื่นแทน

Q : ปลายจมูกหนามาก จะสามารถปรับให้ดูเรียวเล็กลงได้หรือไม่?
A : ทำได้ โดยแพทย์จะใช้เทคนิคเฉพาะในการปรับแต่งเนื้อปลายจมูกให้เรียวลง พร้อมเสริมโครงสร้างให้ดูยาวและมีมิติขึ้น ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตความปลอดภัย ไม่ฝืนเนื้อจมูกจนเกินไป

Q : ผู้ชายสามารถแก้จมูกชมพู่ได้ไหม? แล้วจะดูหวานเกินไปหรือเปล่า?
A : ได้แน่นอน โดยแพทย์จะออกแบบทรงจมูกให้เหมาะกับโครงหน้าผู้ชาย เช่น ทรงสันตรง ปลายมน หรือทรงธรรมชาติที่ไม่หวานเกินไป เพื่อเสริมบุคลิกและความมั่นใจโดยไม่ดูเป็นผู้หญิง

Q : ต้องใช้เทคนิคโอเพ่นเสมอหรือเปล่าเวลาแก้จมูกชมพู่?
A : ไม่จำเป็นเสมอไป เทคนิคโอเพ่นจะเหมาะในกรณีที่ต้องแก้ไขโครงสร้างภายในอย่างละเอียด เช่น ฐานกว้าง, พังผืดหนา หรือจมูกเคยศัลยกรรมหลายครั้ง หากปัญหาไม่ซับซ้อนอาจใช้เทคนิคแบบปิดได้เช่นกัน

Q : ต้องพักฟื้นนานแค่ไหนหลังแก้จมูกชมพู่?
A : โดยปกติแล้วจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ภายใน 5–7 วัน อาการบวมลดลงใน 2–3 สัปดาห์ และผลลัพธ์จะเข้ารูปเต็มที่ประมาณ 3 เดือน การพักฟื้นจะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับเทคนิคและการดูแลตัวเองหลังทำ

Q : แก้จมูกชมพู่แล้วจะกลับมาเป็นอีกไหม?
A : ถ้าแก้ด้วยการผ่าตัด ผลลัพธ์จะอยู่ได้ถาวร ไม่กลับมาบานอีก ยกเว้นกรณีที่ดูแลไม่ดีหรือเกิดพังผืดใหม่ ส่วนการฉีดโบท็อกซ์นั้นผลลัพธ์จะอยู่เพียง 3–4 เดือน และต้องฉีดซ้ำเพื่อคงรูป

สรุป

จมูกชมพู่ ทำให้ใบหน้าไม่สมส่วน ขาดมิติ หน้าไม่ละมุน ดูแก่กว่าวัย ทั้งยังอาจทำให้ใบหน้าดูบานได้อีกด้วย ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยหลายวิธีทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด สำหรับคนที่ต้องการได้ผลลัพธ์คงอยู่ถาวรสามารถเลือกใช้เทคนิคการผ่าตัดเพื่อแก้ปัญหาได้ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินระดับปัญหาและเลือกเทคนิคในการผ่าตัดที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่รับกับใบหน้าของคนไข้มากที่สุด สามารถตอบโจทย์ความต้องการและแก้ไขปัญหาได้อย่างครอบคลุม หากใครที่ต้องการปรับแก้จมูกชมพู่ให้ได้ทรงตามที่ต้องการและเหมาะกับโครงหน้ามากขึ้น ช่วยให้ใบหน้าได้สัดส่วนมีมิติ ละมุนสวย แลดูอ่อนเยาว์ สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อให้ทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ช่วยประเมินความรุนแรงของปัญหาและออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล