Key Takeaway
- ดึงเหนียง ดึงกรอบหน้า เป็นหนึ่งในเทคนิคของการดึงหน้าเฉพาะส่วนบริเวณหน้าส่วนล่าง Lower Face ช่วยปรับรูปหน้าเรียวสวย กรอบหน้าชัด หน้าเรียวได้รูป แลดูอ่อนเยาว์
- สามารถทำร่วมกับการดูดไขมันเหนียงเพื่อช่วยเสริมให้ผลลัพธ์ออกมาดีมากยิ่งขึ้น
- ศัลยกรรมดึงเหนียงและกรอบหน้าผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 5 – 10 ปี ขึ้นอยู่กับอายุที่เพิ่มขึ้น การดูแลตัวเอง และปัจจัยส่วนตัวของคนไข้ ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการไม่ผ่าตัด
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยค่อนข้างมากบริเวณเหนียงและกราม ต้องการผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้นาน
- ดึงเหนียง ดึงกรอบหน้า สามารถทำได้ทั้งการผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของปัญหา สภาพผิว และความต้องการของคนไข้ที่แตกต่างกัน ซึ่งแพทย์จะประเมินและเลือกวิธีที่เหมาะสม
สำหรับคนที่อยากดึงเหนียง ดึงกรอบหน้า เพื่อให้หน้าเรียวสวย กรอบหน้าชัด ปรับใบหน้าให้ได้รูปมากขึ้น สามารถเลือกทำได้หลายวิธีด้วยกันทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ซึ่งมีความเหมาะสมแตกต่างกันออกไปในแต่ละรายบุคคล เพราะแต่ละคนมีปัจจัยที่ไม่เหมือนกัน เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น สภาพผิว พฤติกรรมการใช้ชีวิต การดูแลตัวเอง เป็นต้น ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบกับความยืดหยุ่นและสุขภาพผิวได้อย่างชัดเจน หากใครที่มีความสงสัยหรือกำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาเหนียงและกรอบหน้า ในเนื้อหาต่อไปนี้จะพาไปทำความเข้าใจกับสาเหตุที่ทำให้เกิดเหนียงและกรอบหน้าไม่ชัด วิธีแก้ไขมีอะไรบ้าง มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้จากข้อมูลต่อไปนี้
ดึงเหนียง ดึงกรอบหน้า คืออะไร ต่างจากดึงหน้าทั่วไปไหม?
ดึงเหนียงหรือดึงกรอบหน้า คือ การผ่าตัดดึงหน้าส่วนล่างบริเวณช่วงกรอบหน้า กราม เหนียง ให้กระชับเรียบตึง บางรายอาจจะต้องผ่าตัดดึงคอร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับระดับปัญหา ความต้องการ และดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา ซึ่งแตกต่างจากการทำ Full Face Lift ที่จะเป็นการผ่าตัดดึงผิวทั่วทั้งใบหน้า
ปัญหาเหนียงและกรอบหน้าไม่ชัด เกิดจากอะไรบ้าง?
สาเหตุที่ต้องทำให้ต้องมาดึงเหนียง ดึงกรอบหน้าให้ชัด สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินเพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้แต่ละคนมากที่สุด โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาเหนียงและกรอบหน้าไม่ชัด มีดังนี้
- มีไขมันสะสมใต้ผิวหนังมากเกินไป โดยเฉพาะบริเวณใต้คางหรือกรอบหน้า จนทำให้โครงหน้าไม่ชัด
- มลภาวะและพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ผิวโดนรังสี UV ทำร้ายเป็นประจำโดยไม่ป้องกันหรือหลีกเลี่ยง ไม่บำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนน้อย สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์บ่อย ๆ เป็นต้น สามารถทำให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อย ผิวเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรจะเป็นได้
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น อีกสาเหตุสำคัญที่ไม่สามารถควบคุมได้ซึ่งส่งผลทำให้ผิวสูญเสียคอลลาเจนและไขมัน จนทำให้ผิวหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง
- กรรมพันธุ์ อีกหนึ่งตัวกำหนดโครงสร้าง ลักษณะ หรือสภาพผิว ซึ่งสามารถถ่ายทอดให้กับลูกหลานได้ เช่น พ่อแม่มีลักษณะหน้ากลมหรืออ้วนง่ายสามารถส่งต่อให้กับลูกได้ เป็นต้น
วิธีดึงเหนียง ดึงกรอบหน้ามีกี่แบบ?
ในส่วนของวิธีการดึงเหนียง ดึงกรอบหน้าให้ชัดขึ้นนั้นสามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ กลุ่มที่ต้องใช้วิธีการผ่าตัด และ กลุ่มที่ใช้วิธีแบบไม่ผ่าตัด ซึ่งแต่ละวิธีมีความเหมาะสมกับปัญหาและตำแหน่งในการรักษที่แตกต่างกันออกไป ทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและเลือกวิธีการรักษาให้ตอบโจทย์ความต้องการ รวมไปถึงแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดมากที่สุด ในกรณีของคนที่มีไขมันส่วนเกินค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะในบริเวณคางหรือกรอบหน้า แพทย์อาจจะพิจารณาให้ดูดไขมันร่วมด้วย เพื่อที่จะช่วยแก้ปัญหาคางสองชั้นและทำให้กรอบหน้ามีความชัดมากยิ่งขึ้น
เทคนิคศัลยกรรมดึงเหนียง–กรอบหน้ามีกี่แบบ?
สำหรับเทคนิคในการดึงเหนียงและกรอบหน้าให้ชัดนั้นมีด้วยกันหลายเทคนิค ซึ่งแพทย์อาจจะพิจารณาทำในหลายตำแหน่งเพื่อให้ผลลัพธ์โดยรวมออกมาดี ซึ่งจะมีทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด โดยมีรายละเอียดดังนี้
ดึงเหนียงแบบผ่าตัด
การผ่าตัดเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหย่อนคล้อยมาก ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนและอยู่ได้นาน
- ผ่าตัดดึงคอ (Neck Lift) ในการผ่าตัดดึงผิวในตำแหน่งนี้จะช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ลดรอยยับ ลดรอยเหี่ยวย่น ทำให้ผิวคอเรียบตึง เก็บเนียงและกรอบหน้าใต้กรามให้ตึงกระชับมากขึ้น แลดูอ่อนเยาว์ หากมีไขมันสะสมบริเวณเหนียงมาก ๆ แพทย์อาจจะใช้เทคนิคการดูดไขมันเหนียงร่วมด้วยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
- Mini Face Lift เป็นเทคนิคในการยกกระชับเฉพาะจุด เช่น บริเวณแก้ม บริเวณขมับ บริเวณคิ้ว บริเวณคาง หรือบริเวณกราม เป็นต้น หากนำมาใช้กับบริเวณหน้าส่วนล่าง โดยเฉพาะเน้นไปที่ช่วงกรามและกรอบหน้า จะสามารถช่วยยกกระชับ ปรับหน้าเรียวสวย กรอบหน้าชัด ได้อย่างเห็นผล
ในกรณีของคนที่มีปัญหาค่อนข้างเยอะหรือแพทย์ประเมินแล้วว่าดึงหน้าเฉพาะจุดอาจจะไม่เห็นเท่าที่ควร แพทย์อาจออกแบบการรักษาให้คนไข้ทำ Full Face lift ร่วมด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมความต้องการของคนไข้และแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมากที่สุด
ดึงเหนียงแบบไม่ผ่าตัด
นอกจากนี้ยังมีวิธีการช่วยให้กรอบหน้าชัดขึ้น ไขมันลดลง โดยแก้ปัญหาเหนียงและกรอบหน้าแบบไม่ผ่าตัด
สำหรับใครที่อยากดึงเหนียง ดึงกรอบหน้าให้ชัดขึ้น แต่ยังไม่พร้อมที่จะผ่าตัดหรือมีปัญหาไม่มาก สามารถเลือกทำวิธีการเพื่อแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
- โปรแกรม Ulthera SPT วิธีการนี้เหมาะกับคนที่มีปัญหาค่อนข้างน้อยไปจนถึงระดับกลาง ด้วยการใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ปล่อยลงสู่ชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า ทำให้เนื้อเยื่อเกิดการหดตัว ผิวจึงกระชับมากขึ้น ทั้งยังกระตุ้นคอลลาเจนได้อีกด้วย สามารถคงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับร่างกายและการดูแลตัวเองหลังทำของคนไข้
- โปรแกรม Thermage FLX อีกหนึ่งทางเลือกของคนที่มีไขมันเยอะ ต้องการกำจัดไขมันและกระชับผิวให้เต่งตึงเรียบเนียนขึ้น ด้วยการใช้คลื่นวิทยุเข้าไปสลายไขมันให้ลดลง จึงสามารถช่วยให้กรอบหน้าชัดขึ้น เหนียงหายไป แก้ปัญหาคางสองชั้นได้ ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนไข้
- โปรแกรมร้อยไหม วิธีการนี้จะเป็นการใช้ไหมละลายที่ถูกผลิตมาเพื่อยกกระชับร้อยเข้าไปใต้ชั้นผิว โดยให้เงี่ยงที่อยู่โดยรอบเส้นไหมทำการเกี่ยวชั้นผิวดึงขึ้นมาในตำแหน่งที่ต้องการ สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหลังทำ แต่เส้นไหมจะคงอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือนก็จะสลายทำให้ใบหน้าอาจจะไม่ตึงกระชับเท่ากับตอนที่ยังมีเส้นไหมดึงรั้งเอาไว้ แต่ก็จะยังคงความกระชับไว้ได้ในระดับหนึ่งไปเพราะยังมีเส้นใยคอลลาเจนที่ถูกกระตุ้นเอาไว้ก่อนหน้านี้
- โปรแกรม Meso Fat ฉีดสลายไขมันเฉพาะจุด ที่สามารถช่วยทำให้เซลล์ไขมันเกิดการแตกตัวและถูกขับออกมาจากร่างกาย ซึ่งต้องรอให้ตัวยาออกฤทธิ์ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์จึงจะเริ่มเห็นผล โดยวิธีนี้ไม่เหมาะกับคนที่ไขมันค่อนข้างมากเพราะต้องฉีดหลายครั้ง ประมาณ 4 ครั้งขึ้นไป จึงเหมาะกับคนที่ไขมันค่อนข้างน้อยที่ไม่จำเป็นต้องดูดไขมัน
ดึงเหนียง / กรอบหน้าให้ชัดขึ้น ช่วยเรื่องอะไร?
เนื่องจากการดึงเหนียง ดึงกรอบหน้าให้ชัดขึ้น เป็นการแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยเฉพาะจุดบริเวณใบหน้าส่วนล่าง จึงให้ผลลัพธ์ที่ดีดังนี้
- ใบหน้าเรียวกระชับ หน้าวีเชฟ
- เหนียงหาย กรอบหน้าชัดขึ้น
- ผิวเรียบตึงกระชับ ไม่หย่อนคล้อย
- ปรับรูปหน้าได้สัดส่วน โครงหน้าเข้ารูปมากขึ้น
ศัลยกรรมดึงเหนียงและกรอบหน้า เหมาะกับใคร?
สำหรับการดึงเหนียงและกรอบหน้าให้ชัดขึ้นนั้น เป็นเทคนิคที่สามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องของความหย่อนคล้อย ผิวไม่ตึงกระชับได้อย่างเห็นผล ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ ให้ผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้นานประมาณ 5 – 10 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำและปัจจัยส่วนตัวของคนไข้แต่ละคน จึงเป็นศัลยกรรมที่เหมาะกับกลุ่มคนต่อไปนี้
- เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน สามารถคงอยู่ได้หลายปี
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับบริเวณเหนียงและกรอบหน้า
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยค่อนข้างเยอะ
- เหมาะกับคนที่ยกกระชับเหนียงและกรอบหน้าด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผลหรือเห็นผลน้อย
- เหมาะกับคนที่มีอายุตั้งแต่ช่วง 40 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาผิวบริเวณเหนียงและกรอบหน้าหย่อนคล้อยค่อนข้างมาก
ศัลยกรรมดึงเหนียง ไม่เหมาะกับใคร?
ถึงแม้การผ่าตัดดึงเหนียง ดึงกรอบหน้า จะช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้อย่างเห็นผลและคงอยู่ได้นานหลายปี แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่ไม่เหมาะกับการทำศัลยกรรมในส่วนนี้อยู่ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
- ไม่เหมาะกับคนที่มีประวัติเป็นคีลอยด์หรือเป็นแผลนูนได้ง่าย
- ไม่เหมาะกับคนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ โรคหัวใจ โรคที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด โรคภูมิแพ้ตัวเอง เป็นต้น
- ไม่เหมาะกับคนที่มีไขมันส่วนเกินใต้ชั้นผิวบริเวณเหนียงหรือกรอบหน้าที่มากเกินไป อาจจะต้องดูดไขมันก่อน
- ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยทั่วใบหน้า เพราะวิธีการนี้เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะจุด ไม่สามารถแก้ปัญหาส่วนอื่นของใบหน้าได้
ผลลัพธ์หลังดึงเหนียงอยู่ได้นานแค่ไหน?
ผลลัพธ์หลังดึงเหนียงสามารถอยู่ได้นานประมาณ 5 – 10 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำ สภาพผิว พฤติกรรมการใช้ชีวิต อายุที่เพิ่มมากขึ้น ปัจจัยส่วนตัวอื่น ๆ ของคนไข้ และเทคนิคที่แพทย์ใช้ในการผ่าตัด เป็นต้น ในระหว่างที่ผลลัพธ์ยังคงดีอยู่สามารถทำหัตถการยกกระชับผิวรูปแบบอื่นร่วมด้วยได้ จะช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของผิวและคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้น
เตรียมตัวก่อนผ่าตัดดึงเหนียงหรือกรอบหน้า
เพื่อลดโอกาสเกิดปัญหาขึ้นระหว่างผ่าตัดดึงเหนียงและกรอบหน้า แนะนำให้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ารับบริการ โดยสามารถทำได้ตามรายละเอียดต่อไปนี้
- หากมีประวัติแพ้ยา มีโรคประจำตัว มียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบทุกครั้งก่อนรับบริการ
- งดรับประทานวิตามิน อาหารเสริม หรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนผ่าตัดประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
- งดอาหาร งดน้ำ ประมาณ 6 – 8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- แนะนำให้เตรียมเวลาสำหรับการพักฟื้นหลังผ่าตัดประมาณ 2 – 3 สัปดาห์
วิธีดูแลตัวเองหลังผ่าตัดดึงเหนียง–กรอบหน้า
หลังจากผ่าตัดดึงเหนียงและดึงกรอบหน้าให้ชัดขึ้น ควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยให้แผลหายไว ฟื้นตัวได้เร็ว แล้วไม่เกิดผลข้างเคียงตามมา โดยสามารถปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดได้ดังนี้
- หลังผ่าตัดอาจเกิดอาการบวมได้ในช่วง 3 วันแรก แนะนำให้ประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการบวม
- ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายโดยเฉพาะที่ช่วยเร่งการฟื้นฟูหรือลดอาการบวมช้ำ เช่น ฟักทอง ใบบัวบก น้ำมะพร้าว เป็นต้น
- ในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังทำ ควรหลีกเลี่ยงการจ้องหน้าจอมือถือหรือหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ เพราะจะทำให้เกิดอาการตึงของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า บริเวณเหนียง และบริเวณกรอบหน้าได้
- ในช่วง 1 – 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด ควรใส่ผ้ารัดหน้าเพื่อช่วยให้ผลลัพธ์เข้าที่ไวมากขึ้น
- แนะนำให้นอนหงายและยกศีรษะขึ้นสูง เพื่อลดอาการบวมและป้องกันการกดทับ ในช่วงแรกที่แผลยังไม่หายดีและผลลัพธ์ยังไม่เข้าที่
- งดยกของหนัก งดออกกำลังกาย งดก้มหน้านาน ๆ และงดทำกิจกรรมที่ออกแรงเยอะ ๆ เพราะจะส่งผลทำให้แผลผ่าตัดได้รับการกระทบกระเทือน ในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังทำ
- 1 – 2 สัปดาห์ ห้ามให้แผลโดนน้ำ ควรทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
- งดอาหารหมักดอง อาหารทะเล อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะจะเพิ่มโอกาสให้แผลอักเสบติดเชื้อได้มากขึ้น
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบ และเข้าพบแพทย์ตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ
FAQ – คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับการศัลยกรรมดึงเหนียง
ในส่วนของคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการผ่าตัดดึงเหนียง ดึงกรอบหน้า ได้ถูกรวบรวมเอาไว้ในบทความนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในข้อมูลสำหรับการตัดสินใจ ดังนี้
Q: ดึงเหนียงต้องอายุเท่าไหร่ถึงทำได้?
A: สำหรับการผ่าตัดดึงเหนียง โดยทั่วไปจะแนะนำให้เริ่มทำตอนอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไปเพราะจะพบปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ค่อนข้างเยอะ แต่สำหรับใครที่อายุต่ำกว่านี้แต่เริ่มมีปัญหาความหย่อนคล้อย แนะนำให้เข้ามาพบแพทย์เพื่อรับการประเมิน ซึ่งแพทย์จะเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะกับแต่ละคนมากที่สุด จึงไม่ใช่ทุกเคสที่เหมาะกับการผ่าตัดดึงผิวบริเวณเหนียงหรือดึงบริเวณกรอบหน้า
Q: ดึงเหนียงกับดูดไขมันเหนียงต่างกันอย่างไร?
A: สำหรับสองอย่างนี้มีความแตกต่างอย่างชัดเจน โดยการดึงเหนียงเป็นการผ่าตัดเพื่อเข้าไปดึงชั้นผิวภายในขึ้นมาเย็บไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อทำให้ผิวบริเวณเหนียงและกรอบหน้ามีความกระชับ เต่งตึง เรียบเนียนขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน ในส่วนของการดูดไขมันเหนียงคือการใช้เครื่องมือทางการแพทย์เข้าไปทำให้เซลล์ไขมันบริเวณเหนียงแตกตัวเล็กลงและดูดออกมา แต่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิว ซึ่งทั้งสองวิธีนี้สามารถทำร่วมกันได้เพื่อเสริมผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้น
Q: ถ้าเลือกไม่ผ่าตัด เช่น Ulthera หรือ ร้อยไหม จะได้ผลเท่ากับการผ่าตัดไหม?
A: ถึงแม้การทำ Ulthera และ การร้อยไหมจะช่วยเรื่องของการยกกระชับได้ แต่ให้ผลลัพธ์ไม่เท่ากับการผ่าตัดและคงอยู่ได้ไม่นาน เนื่องจากการผ่าตัดสามารถเข้าไปจัดเรียงชั้นผิวได้โดยตรง พร้อมทั้งดึงชั้นผิวขึ้นมาเย็บไว้ในตำแหน่งที่ต้องการได้อีกด้วย จึงให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและคงอยู่ได้นานมากกว่า
Q: หลังดึงเหนียงต้องพักฟื้นนานไหม?
A: สำหรับการพักฟื้นหลังผ่าตัดดึงเนียง จะอยู่ที่ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับร่างกายและการดูแลตัวเองของคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป
Q: ดึงเหนียงแล้วจะกลับมาเป็นอีกไหม?
A: หลังดึงเหนียงมีโอกาสที่จะกลับมาเกิดความหย่อนคล้อยได้อีก ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำ สภาพผิว อายุที่เพิ่มมากขึ้น และปัจจัยส่วนตัวอื่น ๆ ของคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกัน แต่โดยปกติผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 5 – 10 ปี
Q: ดึงเหนียงเจ็บไหม? ต้องดมยาสลบหรือไม่?
A: สำหรับการดึงเหนียง ดึงกรอบหน้า เป็นหนึ่งในการผ่าตัดดึงหน้าเฉพาะส่วนซึ่งแพทย์จะใช้ยาสลบเข้าช่วยให้คนไข้ไม่เจ็บ และผ่อนคลายมากขึ้น จึงไม่ต้องกังวล
สรุป
สำหรับการดึงเหนียง ดึงกรอบหน้าให้ชัดขึ้น เป็นอีกทางเลือกของคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยค่อนข้างหนัก ต้องการผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้นานหลายปี แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ผิวยกกระชับ ปรับหน้าเรียวสวย กรอบหน้าชัด แลดูอ่อนเยาว์ เห็นผลลัพธ์ชัดเจน นอกจากนั้นยังสามารถทำร่วมกับเทคนิคอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น เช่น การดูดไขมันกรอบหน้า ดูดไขมันเหนียง เป็นต้น สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้าหย่อนคล้อย มีปัญหาเหนียง กรอบหน้าไม่ชัด อยากให้หน้าอ่อนเยาว์มากขึ้น แนะนำให้เข้ามาปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อให้ทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ช่วยประเมินปัญหา วิเคราะห์โครงหน้า เลือกวิธีการรักษา และออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดี ปลอดภัย เหมาะกับคนไข้แต่ละคนมากที่สุด