Key Takeaways
- ผู้ชายดึงหน้าได้ ไม่ใช่เรื่องเฉพาะสำหรับผู้หญิงเท่านั้น ซึ่งการดึงหน้าไม่ได้ทำให้ใบหน้าดูหวานหรือไม่เป็นตัวเอง หากเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้า
- เทคนิคการดึงหน้าของผู้ชายจะต้องพิจารณาตามลักษณะใบหน้า เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติและไม่ได้เปลี่ยนไปจนไม่มีความเป็นตัวเองหลงเหลืออยู่
- เหมาะกับผู้ชายที่มีริ้วรอยหรือผิวหย่อนคล้อยค่อนข้างมาก สามารถใช้การดึงหน้าเพื่อยกกระชับใบหน้าและลดริ้วรอยได้ผลดี ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และมีมิติมากขึ้น
- การดึงหน้าผู้ชายไม่จำเป็นต้องทำทุกคน ควรเลือกทำเมื่อเห็นความหย่อนคล้อยชัดเจน หรือลองรักษาด้วยการวิธีแบบไม่ผ่าตัดแล้วแต่ไม่ได้ผล
ผู้ชายดึงหน้าได้ไหม? คำถามนี้เริ่มถูกพูดถึงมากขึ้นในยุคปัจจุบันที่ผู้ชายหันมาใส่ใจดูแลภาพลักษณ์กันมากขึ้น การดึงหน้าจึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้ชายอีกต่อไป เพราะสามารถช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย ความหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด และที่สำคัญคือช่วยทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ได้อย่างชัดเจน โดยเทคนิคการดึงหน้าสำหรับผู้ชายจะออกแบบให้เข้ากับโครงสร้างใบหน้าที่แตกต่างจากโครงหน้าผู้หญิง เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ฝืนรูปหน้า ใบหน้าไม่ดูหวานเกินไป ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้มากขึ้น Vincent Clinic Plastic Surgery จะพาไปทำความเข้าใจกับวิธีการนี้ว่าเหมาะกับใคร ใช้เทคนิคอะไรได้บ้าง มีผลข้างเคียงหลังทำหรือไม่ ดึงหน้าแบบไม่ผ่าตัดได้ไหม สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้จากเนื้อหาต่อไปนี้
ผู้ชายดึงหน้าได้จริงไหม?
การดึงหน้า ไม่ได้จำกัดเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายเองก็สามารถดึงหน้าได้เช่นกัน โดยมีเทคนิคที่ออกแบบมาเฉพาะให้เข้ากับโครงสร้างผิวและใบหน้าของเพศชายอย่างเหมาะสม
ความแตกต่างของใบหน้าผู้ชายกับผู้หญิง
ความแตกต่างของใบหน้าผู้ชายกับผู้หญิง มีจุดสังเกตได้อย่างชัดเจนทั้งในด้านโครงสร้างผิว ความหนาแน่นของกล้ามเนื้อ ชั้นไขมัน รวมไปถึงโครงสร้างใบหน้า โดยใบหน้าผู้ชายมักมีแนวกรามชัด หน้าผากกว้าง คิ้วหนา มวลกล้ามเนื้อหนาแน่น ในขณะที่ผู้หญิงจะมีใบหน้าที่เรียวเล็กกว่า กรอบหน้าละมุน โหนกแก้มเด่น โครงสร้างกระดูกหน้าค่อนข้างเล็กกว่า และคางแหลมชัดเจนมากกว่า ความแตกต่างเหล่านี้มีผลต่อการออกแบบการรักษาเพื่อให้ผลลัพธ์เหมาะสมกับแต่ละรายบุคคล ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
ผู้ชายมักเริ่มดึงหน้าตอนไหน?
โดยทั่วไปผู้ชายจะเริ่มพิจารณาการดึงหน้าเมื่อเข้าสู่วัยประมาณ 40 – 50 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่สัญญาณความร่วงโรยแห่งวัยชัดเจน เช่น ร่องแก้มลึก กรอบหน้าไม่ชัด ผิวหย่อนคล้อย แก้มห้อย จากการลดลงของไขมัน คอลลาเจน และอิลาสตินใต้ผิวหนัง โดยเฉพาะผู้ที่มีไลฟ์สไตล์เผชิญแสงแดด ความเครียด หรือพักผ่อนน้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงของใบหน้าเร็วกว่าปกติ การดึงหน้าจึงกลายเป็นทางเลือกที่ช่วยฟื้นคืนความกระชับ เสริมความมั่นใจ และคงบุคลิกภาพที่ดูดีแบบผู้ชายไว้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
เทคนิคดึงหน้าที่เหมาะกับผู้ชาย
สำหรับเทคนิคดึงหน้าในผู้ชายมีด้วยกันหลายเทคนิค ซึ่งมักจะเป็นเทคนิคที่ใช้เหมือนกันกับของผู้หญิง โดยแพทย์จะประเมินความซับซ้อนของปัญหา วิเคราะห์โครงสร้างใบหน้า และความต้องการของคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป โดยแพทย์จะเข้าไปจัดเรียงชั้นผิวต่าง ๆ และดึงชั้น SMAS ขึ้นมาขึงไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อให้โครงหน้าได้รูปมากขึ้น ผิวเรียบตึง ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ โดยมีเทคนิคหลัก ๆ ที่ใช้ในการดึงหน้าดังนี้
เทคนิคการดึงหน้าเอนโดไทน์ (Endotine Lift)
เทคนิคดึงหน้าเอนโดไทน์ เป็นการใช้วัสดุทางการแพทย์รูปแบบคล้ายหมุดขนาดเล็ก ทำจากวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ในร่างกาย (absorbable implant) มีหน้าที่ช่วยยึดผิวหนังและเนื้อเยื่อให้กระชับเข้าที่อย่างมั่นคงหลังการดึงหน้า เทคนิคนี้นิยมใช้ในการดึงบริเวณกลางหน้า ขมับ หรือหน้าผาก เพราะสามารถยึดเนื้อเยื่อให้อยู่ในตำแหน่งใหม่ได้นาน ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ แผลเล็ก ฟื้นตัวไว และไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการยกกระชับหน้าแบบถาวรโดยลดความเสี่ยงจากการผ่าตัดแบบเดิม
เทคนิคการดึงหน้าแบบส่องกล้อง (Endoscopic Lift)
เทคนิคดึงหน้าแบบส่องกล้อง เป็นการใช้เทคโนโลยีส่องกล้องร่วมกับการผ่าตัดยกกระชับ โดยแพทย์จะใช้กล้องขนาดเล็กและเครื่องมือเฉพาะทางสอดเข้าไปผ่านแผลขนาดเล็กบริเวณไรผมหรือหนังศีรษะหลังไรผมเพื่อซ่อนแผลไว้ เทคนิคนี้ช่วยลดการรบกวนเนื้อเยื่อรอบข้าง ทำให้แผลมีขนาดเล็ก ฟื้นตัวเร็ว และลดความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น
ผู้ชายควรเลือก “ดึงหน้า” หรือ “ยกกระชับแบบไม่ผ่าตัด”?
สำหรับการดึงหน้าผู้ชายสามารถทำได้ทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ซึ่งแพทย์จะเลือกใช้ตามความเหมาะสมของปัญหาและความต้องการของคนไข้แต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
เปรียบเทียบข้อดี–ข้อจำกัดของแต่ละวิธีอย่างเข้าใจง่าย
เกณฑ์ |
ผ่าตัดดึงหน้า |
ยกกระชับแบบไม่ผ่าตัด |
ผลลัพธ์ | ผลลัพธ์ชัดเจน | เห็นผลชัดเจนใน 2 – 3 เดือน |
ระยะเวลา | 5–10 ปี | 6 เดือน–1 ปี |
ค่าใช้จ่าย | สูง | ปานกลาง |
เวลาพักฟื้น | 2 – 4 สัปดาห์ | ไม่ต้องพักฟื้น |
เหมาะกับ | อายุ 40 – 50 ปีขึ้นไป | อายุ 30 – 40 ปีขึ้นไป |
ตัวอย่าง | Endotine Lift, Endoscopic Lift เป็นต้น | Ulthera SPT, Ultraformer MPT, Thermage FLX เป็นต้น |
ผู้ชายควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนดึงหน้า?
การเตรียมตัวของผู้ชายก่อนดึงหน้าจะช่วยให้ระหว่างการผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีและลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนให้น้อยลง โดยสามารถปฏิบัติตัวเบื้องต้นได้ดังนี้
- เข้ารับการปรึกษาและรับการประเมินโดยแพทย์ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
- หากมีประวัติแพ้ยา มีโรคประจำตัว มียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง
- งดวิตามิน อาหารเสริม หรือยาที่มีผลกับการแข็งตัวของเลือดประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อยประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- งดอาหารและน้ำก่อนเข้ารับบริการประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง
- แนะนำให้เตรียมเวลาสำหรับการพักฟื้นหลังผ่าตัดอย่างน้อย 2 – 3 สัปดาห์
ผู้ชายดึงหน้าแล้วจะดูหวานหรือไม่เป็นตัวเองไหม?
สำหรับการดึงหน้าผู้ชายสามารถปรับได้ตามความเหมาะสมกับโครงหน้าและความต้องการของแต่ละคนที่แตกต่างกัน หากต้องการให้หน้าคมเข้ม กรอบหน้าชัด หน้าไม่หวาน สามารถแจ้งความต้องการเพื่อให้แพทย์ออกแบบโครงหน้าที่เหมาะสมได้ หรือถ้าหากผู้ชายคนไหนที่อยากได้หน้าที่มีความละมุนหวานขึ้นสไตล์ไอดอลเกาหลี ก็สามารถแจ้งแพทย์เพื่อออกแบบใบหน้าได้เช่นกัน ซึ่งแพทย์อาจจะพิจารณาใช้เทคนิคอื่น ๆ เพื่อเสริมให้ได้ผลลัพธ์ออกมาตามที่ต้องการ โดยยังรักษาเอกลักษณ์ที่ดีหรือความเป็นตัวตนของคนไข้เอาไว้ เพื่อให้ผลลัพธ์มีความเป็นธรรมชาติ
ผู้ชายแบบไหนยังไม่ควรรีบดึงหน้า?
ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่เหมาะกับการผ่าตัดดึงหน้า ควรพิจารณาจากหลายปัจจัยประกอบกัน เช่น ระดับความรุนแรงของปัญหา ความเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย สภาพผิวของแต่ละคนที่แตกต่างกัน เป็นต้น เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย โดยสามารถพิจารณาได้ดังนี้
อายุยังน้อยหรือหย่อนคล้อยไม่มาก
ในกรณีของผู้ชายที่อายุยังไม่มากหรือยังไม่เห็นความหย่อนคล้อยที่ชัดเจนบนใบหน้า การดึงหน้าอาจไม่จำเป็นต้องรีบทำ เพราะผลลัพธ์อาจไม่ได้เหมาะสมกับสภาพผิวในช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งการดูแลผิวด้วยวิธีอื่น ๆ อาจได้ผลดีกว่า
ยังไม่เคยลองวิธีดึงหน้าแบบไม่ผ่าตัด
สำหรับผู้ชายที่ยังไม่เคยลองหัตถการดึงหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด เช่น HIFU, Ulthera SPT หรือ Ultraformer เป็นต้น หากปัญหาที่เกิดขึ้นยังไม่มากแนะนำให้ลองทำเครื่องยกกระชับเหล่านี้ดูก่อน เนื่องจากเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถยกกระชับและลดความหย่อนคล้อยได้โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด หากเห็นผลชัดเจนแล้ว ก็อาจไม่จำเป็นต้องทำการดึงหน้า
คาดหวังผลลัพธ์เกินจริง
บางคนที่อาจมีความคาดหวังในผลลัพธ์ที่เกินจริง เช่น อยากหน้าเรียวแบบสายเกาหลี หน้าต้องเล็กลงมาก ๆ หน้าต้องดูเด็กลงไปจากเดิม 30 ปี หรือผลลัพธ์ที่ไม่สอดคล้องกับโครงหน้าเดิม เป็นต้น เพราะผลลัพธ์หลังการดึงหน้าจะขึ้นอยู่กับโครงหน้าเดิมและปัจจัยส่วนตัวของคนไข้ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละคน
กลัวการผ่าตัด หรือยังไม่มีเวลาพักฟื้นมากพอ
การดึงหน้าเป็นการผ่าตัดที่ทำให้เกิดรอยแผลขึ้นได้แต่แพทย์จะซ้อนเอาไว้ตามไรผม หนังศีรษะหลังไรผม บริเวณกรอบหน้า หรือบริเวณหลังหู เป็นต้น ทั้งยังต้องการระยะเวลาในการพักฟื้นหลังการผ่าตัดประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ ซึ่งบางคนอาจยังไม่พร้อมสำหรับการพักฟื้นหรือกลัวการผ่าตัด สามารถแจ้งแพทย์ถึงเงื่อนไขส่วนตัวเพื่อเลือกวิธีการอื่นที่เหมาะสมโดยไม่ต้องผ่าตัด
ทางเลือกอื่นนอกจากการผ่าตัดดึงหน้าสำหรับผู้ชาย
หากคุณผู้ชายยังไม่พร้อมดึงหน้า แต่ต้องการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย อยากยกกระชับใบหน้า ต้องการกรอบหน้าชัดขึ้น ปรับรูปหน้าเรียว แลดูเด็กลง สามารถเลือกใช้วิธีการแบบไม่ผ่าตัดด้วยเครื่องยกกระชับซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ดีและปลอดภัย เหมาะกับผู้ชายเพิ่มเริ่มมีปัญหาผิวความหย่อนคล้อยหรือยังไม่พร้อมจะผ่าตัด โดยวิธีเหล่านี้ช่วยกระชับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องพักฟื้น กลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยมีวิธีดึงหน้าแบบไม่ผ่าตัดที่ได้รับความนิยมดังนี้
HIFU / Ulthera เหมาะกับคนที่เริ่มมีความหย่อนคล้อย
HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) และ Ulthera เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก ช่วยยกกระชับ ปรับหน้าเรียว และแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ปล่อยพลังงานลงลึกได้ถึงชั้น SMAS ชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า เหมาะสำหรับผู้ชายที่เริ่มมีริ้วรอยหรือผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
Thermage ช่วยกระชับผิวพร้อมลดไขมัน
Thermage ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ (Radiofrequency) ปล่อยพลังงานความร้อนลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมัน เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ พร้อมกับช่วยสลายไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น แก้มและเหนียง จึงช่วยลดความหย่อนคล้อย ใบหน้าเรียวกระชับได้รูป ผิวเต่งตึงเรียบเนียนโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะกับผู้ชายที่มีไขมันสะสมบริเวณใบหน้า ผิวเริ่มหย่อนแต่ยังไม่ถึงขั้นต้องผ่าตัด Thermage ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ใบหน้าดูเฟิร์มขึ้นแต่ยังคงความเป็นตัวเองได้ดี เหมาะสำหรับคนที่ต้องการยกกระชับพร้อมลดไขมันในคราวเดียว
ร้อยไหม ยกกรอบหน้าชัด
สำหรับเทคนิคการร้อยไหม เป็นการใช้ไหมสำหรับยกกระชับร้อยเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อช่วยดึงชั้นผิวยกขึ้น ปรับรูปหน้าเรียว ผิวเรียบตึงมากขึ้น ใบหน้ามีมิติ ยกกระชับได้โดยไม่ต้องผ่าตัด หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่อาการบวมหรืออาการปวดตึงจะค่อย ๆ ดีขึ้นในช่วง 1 – 2 สัปดาห์ ซึ่งไหมที่ใช้เป็นไหมละลายสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 4 – 6 เดือน
ข้อควรระวังและผลข้างเคียงหลังดึงหน้าผู้ชาย
การดึงหน้าผู้ชายเป็นการผ่าตัดที่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือตำแหน่งของชั้นผิวให้ยกขึ้นไปอยู่ในจุดที่เหมาะสม จึงอาจมีอาการหรือผลข้างเคียงบางอย่างที่เกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยประกอบกัน เช่น สภาพผิว ความซับซ้อนของปัญหาที่แก้ไข เทคนิคที่ใช้ ประสบการณ์ของแพทย์ การดูแลตัวเองหลังทำของคนไข้ เป็นต้น
- อาการบวมช้ำ หลังการดึงหน้ามักจะพบอาการบวมช้ำบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป อาการบวมอาจทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วนในระหว่างการฟื้นตัว แต่จะค่อย ๆ ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
- รู้สึกปวดตึง ในช่วงแรกหลังการดึงหน้าอาจรู้สึกตึงบริเวณผิวหน้า เนื่องจากมีการดึงชั้นผิวด้านในขึ้นไปเย็บไว้ในตำแหน่งใหม่ เนื้อเยื่อได้รับบาดเจ็บจากแผลผ่าตัด ผิวถูกขึงให้ตึงและยังไม่เข้าที่ จึงทำให้รู้สึกปวดตึงบริเวณผิวหน้าได้ ซึ่งอาการนี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นหลังจากผ่านไปประมาณ 2–4 สัปดาห์
- การเสื่อมสภาพของผิวหนัง ผลลัพธ์จากการดึงหน้าอาจเสื่อมสภาพได้ตามเวลา โดยเฉพาะหากไม่ได้ดูแลรักษาผิวหน้าหลังการผ่าตัดอย่างเหมาะสม ปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ สภาพผิว และการดูแลตัวเองหลังการดึงหน้า มีผลต่อระยะเวลาที่ผลลัพธ์จะคงอยู่
- อักเสบติดเชื้อ แม้ว่าอาการนี้พบได้ไม่บ่อย แต่ยังคงเป็นความเสี่ยงที่ต้องระวัง หากมีการดูแลแผลไม่ดี ปล่อยให้แผลโดนน้ำ หรือมีการสัมผัสแผลบ่อย ๆ จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่จะอักเสบติดเชื้อมากขึ้น หากพบอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์ทันที
- รอยแผลเป็น ในบางกรณีของคนที่มีประวัติเป็นคีลอยด์ เคยมีรอยแผลเป็นนูน รวมไปถึงดูแลแผลหลังผ่าตัดได้ไม่ดีพอ อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นที่ชัดเจนได้ สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีการรักษาในภายหลัง แต่โดยปกติรอยแผลหลังผ่าตัดจะค่อยจางหายไปจนแทบมองไม่เห็นหากดูแลตามแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด นอกจากนั้นรอยแผลจะถูกซ่อนเอาไว้ตามไรผม ขอบหน้า หลังหู หรือหนังศีรษะหลังไรผม เป็นต้น ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับผู้ชายสามารถดึงหน้าได้ไหม (FAQ)
เพื่อให้คุณผู้ชายสามารถตัดสินใจได้ง่ายและไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการผ่าตัดดึงหน้ามากขึ้น ในบทความนี้ได้รวบรวมเอาคำถามที่พบได้บ่อยมาไว้ให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
Q: ดึงหน้าสำหรับผู้ชายจำเป็นต้องโกนผมหรือไม่?
A: สำหรับการดึงหน้าไม่จำเป็นต้องโกนผม เนื่องจากแพทย์จะเปิดแผลตามแนวไรผม ด้านหน้าหู หรือหลังหู เป็นต้น แต่ในบางตำแหน่งแพทย์อาจพิจารณาเล็มผมออกเล็กน้อยเพื่อความสะดวกในการผ่าตัด
Q: ผู้ชายสามารถดึงหน้าแล้วกลับไปทำงานได้ภายในกี่วัน?
A: โดยปกติแล้วหลังผ่าตัดดึงหน้าจะต้องพักฟื้นประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูเต็มที่ แผลหายดี ในกรณีของคนที่เนื้องานไม่ต้องใช้แรงมาก ไม่ต้องพบปะผู้คนเยอะ ไม่ต้องออกแรงมากนัก สามารถกลับไปเริ่มทำงานได้เร็วขึ้นประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
Q: หลังดึงหน้าจะออกกำลังกายได้เมื่อไหร่?
A: สำหรับผู้ชายที่ดึงหน้าไปแล้วอยากกลับไปออกกำลังกาย แนะนำให้พักฟื้นประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนแผลผ่าตัด ป้องกันการอักเสบติดเชื้อ ลดอาการบวมช้ำให้น้อยลง
Q: ผู้ชายที่มีหนวดเคราเยอะจะมีปัญหากับแผลดึงหน้าหรือไม่?
A: การดึงหน้าผู้ชายไม่มีปัญหากับเรื่องของหนวดเครา แต่ถ้าคนไข้แจ้งความประสงค์ว่าอยากเก็บเคราเอาไว้ แพทย์จะได้สามารถวางแผนกำหนดตำแหน่งในการผ่าตัด ซึ่งบางตำแหน่งอาจอยู่ใกล้กับเครา เพื่อที่แพทย์จะเลี่ยงไปเปิดแผลในตำแหน่งอื่นแทน หรือถ้าจำเป็นจริง ๆ แพทย์อาจทำการเล็มออกเล็กน้อย
Q: ดึงหน้าแล้วจะทำให้หน้าเรียวลงหรือดูเปลี่ยนไปไหม?
A: การดึงหน้าสามารถช่วยปรับรูปหน้าเรียวได้ ช่วยให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ ด้วยการดึงชั้น SMAS ให้ผิวหน้ายกกระชับ ช่วยให้กรอบหน้าดูคมชัด หน้าไม่หวานเกินไป ยังคงความแมนไว้อยู่
เจาะลึก : หน้าวีเชฟ คืออะไร ส่งผลดีกับใบหน้าอย่างไร ใช้วิธีการใดได้บ้าง?
Q: ผู้ชายสามารถดึงหน้าได้กี่ครั้งในชีวิต?
A: การดึงหน้าผู้ชายสามารถทำได้มากกว่า 1 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพผิว การดูแลตัวเองหลังทำ อายุที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น โดยปกติผลลัพธ์จะอยู่ที่ประมาณ 5 – 10 ปีขึ้นไป แนะนำให้เข้ามาพบแพทย์เพื่อรับการประเมินอย่างละเอียด
สรุป
การดึงหน้าในผู้ชายเป็นทางเลือกที่สามารถทำได้จริง โดยไม่ทำให้หน้าดูหวานหรือไม่เป็นตัวเอง แต่สิ่งสำคัญคือการเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับโครงหน้าของแต่ละบุคคล สามารถทำได้หลายเทคนิคเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดี มีความเป็นธรรมชาติ ตรงกับระดับความรุนแรงของปัญหา สภาพผิว และความต้องการของคนไข้ สำหรับใครอายุเริ่มเยอะ ใบหน้าหย่อนคล้อย อยากยกกระชับปรับรูปหน้า ลดอายุให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อรับการประเมินอย่างละเอียดและวางแผนการรักษาที่เหมาะกับรายบุคคล