vincent.jpg.png
vc_3.png
Vincent Clinic Bangkok Plastic Surgery
คลินิกศัลยกรรมความงาม ดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit
บทความ
ผู้ชายสามารถดึงหน้าได้ไหม หลังทำหน้าจะหวานหรือไม่แมนหรือเปล่า?
แชร์ :

ผู้ชายสามารถดึงหน้าได้ไหม หลังทำหน้าจะหวานหรือไม่แมนหรือเปล่า?

ผู้ชายสามารถดึงหน้าได้ไหม
อยากรู้เรื่องอะไร? คลิกที่หัวข้อได้เลย!

Key Takeaways

  • ผู้ชายดึงหน้าได้ ไม่ใช่เรื่องเฉพาะสำหรับผู้หญิงเท่านั้น ซึ่งการดึงหน้าไม่ได้ทำให้ใบหน้าดูหวานหรือไม่เป็นตัวเอง หากเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้า
  • เทคนิคการดึงหน้าของผู้ชายจะต้องพิจารณาตามลักษณะใบหน้า เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติและไม่ได้เปลี่ยนไปจนไม่มีความเป็นตัวเองหลงเหลืออยู่
  • เหมาะกับผู้ชายที่มีริ้วรอยหรือผิวหย่อนคล้อยค่อนข้างมาก สามารถใช้การดึงหน้าเพื่อยกกระชับใบหน้าและลดริ้วรอยได้ผลดี ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และมีมิติมากขึ้น
  • การดึงหน้าผู้ชายไม่จำเป็นต้องทำทุกคน ควรเลือกทำเมื่อเห็นความหย่อนคล้อยชัดเจน หรือลองรักษาด้วยการวิธีแบบไม่ผ่าตัดแล้วแต่ไม่ได้ผล 

ผู้ชายดึงหน้าได้ไหม? คำถามนี้เริ่มถูกพูดถึงมากขึ้นในยุคปัจจุบันที่ผู้ชายหันมาใส่ใจดูแลภาพลักษณ์กันมากขึ้น การดึงหน้าจึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้ชายอีกต่อไป เพราะสามารถช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย ความหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด และที่สำคัญคือช่วยทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ได้อย่างชัดเจน โดยเทคนิคการดึงหน้าสำหรับผู้ชายจะออกแบบให้เข้ากับโครงสร้างใบหน้าที่แตกต่างจากโครงหน้าผู้หญิง เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ฝืนรูปหน้า ใบหน้าไม่ดูหวานเกินไป ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้มากขึ้น Vincent Clinic Plastic Surgery จะพาไปทำความเข้าใจกับวิธีการนี้ว่าเหมาะกับใคร ใช้เทคนิคอะไรได้บ้าง มีผลข้างเคียงหลังทำหรือไม่ ดึงหน้าแบบไม่ผ่าตัดได้ไหม สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้จากเนื้อหาต่อไปนี้

ผู้ชายดึงหน้าได้จริงไหม?

การดึงหน้า ไม่ได้จำกัดเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายเองก็สามารถดึงหน้าได้เช่นกัน โดยมีเทคนิคที่ออกแบบมาเฉพาะให้เข้ากับโครงสร้างผิวและใบหน้าของเพศชายอย่างเหมาะสม

ความแตกต่างของใบหน้าผู้ชายกับผู้หญิง

ความแตกต่างของใบหน้าผู้ชายกับผู้หญิง มีจุดสังเกตได้อย่างชัดเจนทั้งในด้านโครงสร้างผิว ความหนาแน่นของกล้ามเนื้อ ชั้นไขมัน รวมไปถึงโครงสร้างใบหน้า โดยใบหน้าผู้ชายมักมีแนวกรามชัด หน้าผากกว้าง คิ้วหนา มวลกล้ามเนื้อหนาแน่น ในขณะที่ผู้หญิงจะมีใบหน้าที่เรียวเล็กกว่า กรอบหน้าละมุน โหนกแก้มเด่น โครงสร้างกระดูกหน้าค่อนข้างเล็กกว่า และคางแหลมชัดเจนมากกว่า ความแตกต่างเหล่านี้มีผลต่อการออกแบบการรักษาเพื่อให้ผลลัพธ์เหมาะสมกับแต่ละรายบุคคล ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ

ผู้ชายมักเริ่มดึงหน้าตอนไหน?

โดยทั่วไปผู้ชายจะเริ่มพิจารณาการดึงหน้าเมื่อเข้าสู่วัยประมาณ 40 – 50 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่สัญญาณความร่วงโรยแห่งวัยชัดเจน เช่น ร่องแก้มลึก กรอบหน้าไม่ชัด ผิวหย่อนคล้อย แก้มห้อย จากการลดลงของไขมัน คอลลาเจน และอิลาสตินใต้ผิวหนัง โดยเฉพาะผู้ที่มีไลฟ์สไตล์เผชิญแสงแดด ความเครียด หรือพักผ่อนน้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงของใบหน้าเร็วกว่าปกติ การดึงหน้าจึงกลายเป็นทางเลือกที่ช่วยฟื้นคืนความกระชับ เสริมความมั่นใจ และคงบุคลิกภาพที่ดูดีแบบผู้ชายไว้ได้อย่างเป็นธรรมชาติเทคนิคดึงหน้าที่เหมาะกับผู้ชาย

เทคนิคดึงหน้าที่เหมาะกับผู้ชาย

สำหรับเทคนิคดึงหน้าในผู้ชายมีด้วยกันหลายเทคนิค ซึ่งมักจะเป็นเทคนิคที่ใช้เหมือนกันกับของผู้หญิง โดยแพทย์จะประเมินความซับซ้อนของปัญหา วิเคราะห์โครงสร้างใบหน้า และความต้องการของคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป โดยแพทย์จะเข้าไปจัดเรียงชั้นผิวต่าง ๆ และดึงชั้น SMAS ขึ้นมาขึงไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อให้โครงหน้าได้รูปมากขึ้น ผิวเรียบตึง ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ โดยมีเทคนิคหลัก ๆ ที่ใช้ในการดึงหน้าดังนี้

เทคนิคการดึงหน้าเอนโดไทน์ (Endotine Lift)

เทคนิคดึงหน้าเอนโดไทน์ เป็นการใช้วัสดุทางการแพทย์รูปแบบคล้ายหมุดขนาดเล็ก ทำจากวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ในร่างกาย (absorbable implant) มีหน้าที่ช่วยยึดผิวหนังและเนื้อเยื่อให้กระชับเข้าที่อย่างมั่นคงหลังการดึงหน้า เทคนิคนี้นิยมใช้ในการดึงบริเวณกลางหน้า ขมับ หรือหน้าผาก เพราะสามารถยึดเนื้อเยื่อให้อยู่ในตำแหน่งใหม่ได้นาน ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ แผลเล็ก ฟื้นตัวไว และไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการยกกระชับหน้าแบบถาวรโดยลดความเสี่ยงจากการผ่าตัดแบบเดิม

เทคนิคการดึงหน้าแบบส่องกล้อง (Endoscopic Lift)

 เทคนิคดึงหน้าแบบส่องกล้อง เป็นการใช้เทคโนโลยีส่องกล้องร่วมกับการผ่าตัดยกกระชับ โดยแพทย์จะใช้กล้องขนาดเล็กและเครื่องมือเฉพาะทางสอดเข้าไปผ่านแผลขนาดเล็กบริเวณไรผมหรือหนังศีรษะหลังไรผมเพื่อซ่อนแผลไว้ เทคนิคนี้ช่วยลดการรบกวนเนื้อเยื่อรอบข้าง ทำให้แผลมีขนาดเล็ก ฟื้นตัวเร็ว และลดความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น 

ผู้ชายควรเลือก “ดึงหน้า” หรือ “ยกกระชับแบบไม่ผ่าตัด”?

สำหรับการดึงหน้าผู้ชายสามารถทำได้ทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ซึ่งแพทย์จะเลือกใช้ตามความเหมาะสมของปัญหาและความต้องการของคนไข้แต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

เปรียบเทียบข้อดี–ข้อจำกัดของแต่ละวิธีอย่างเข้าใจง่าย

เกณฑ์

ผ่าตัดดึงหน้า

ยกกระชับแบบไม่ผ่าตัด

ผลลัพธ์ ผลลัพธ์ชัดเจน  เห็นผลชัดเจนใน 2 – 3 เดือน 
ระยะเวลา 5–10 ปี 6 เดือน–1 ปี
ค่าใช้จ่าย สูง ปานกลาง
เวลาพักฟื้น 2 – 4 สัปดาห์ ไม่ต้องพักฟื้น
เหมาะกับ อายุ 40 – 50 ปีขึ้นไป อายุ 30 – 40 ปีขึ้นไป
ตัวอย่าง Endotine Lift, Endoscopic Lift เป็นต้น Ulthera SPT, Ultraformer MPT, Thermage FLX เป็นต้น

ผู้ชายควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนดึงหน้า?

การเตรียมตัวของผู้ชายก่อนดึงหน้าจะช่วยให้ระหว่างการผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีและลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนให้น้อยลง โดยสามารถปฏิบัติตัวเบื้องต้นได้ดังนี้

  • เข้ารับการปรึกษาและรับการประเมินโดยแพทย์ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
  • หากมีประวัติแพ้ยา มีโรคประจำตัว มียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง
  • งดวิตามิน อาหารเสริม หรือยาที่มีผลกับการแข็งตัวของเลือดประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
  • งดสูบบุหรี่หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อยประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
  • งดอาหารและน้ำก่อนเข้ารับบริการประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง
  • แนะนำให้เตรียมเวลาสำหรับการพักฟื้นหลังผ่าตัดอย่างน้อย 2 – 3 สัปดาห์

ผู้ชายดึงหน้าแล้วจะดูหวานหรือไม่เป็นตัวเองไหม?

สำหรับการดึงหน้าผู้ชายสามารถปรับได้ตามความเหมาะสมกับโครงหน้าและความต้องการของแต่ละคนที่แตกต่างกัน หากต้องการให้หน้าคมเข้ม กรอบหน้าชัด หน้าไม่หวาน สามารถแจ้งความต้องการเพื่อให้แพทย์ออกแบบโครงหน้าที่เหมาะสมได้ หรือถ้าหากผู้ชายคนไหนที่อยากได้หน้าที่มีความละมุนหวานขึ้นสไตล์ไอดอลเกาหลี ก็สามารถแจ้งแพทย์เพื่อออกแบบใบหน้าได้เช่นกัน ซึ่งแพทย์อาจจะพิจารณาใช้เทคนิคอื่น ๆ เพื่อเสริมให้ได้ผลลัพธ์ออกมาตามที่ต้องการ โดยยังรักษาเอกลักษณ์ที่ดีหรือความเป็นตัวตนของคนไข้เอาไว้ เพื่อให้ผลลัพธ์มีความเป็นธรรมชาติ

ผู้ชายแบบไหนยังไม่ควรรีบดึงหน้า?

ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่เหมาะกับการผ่าตัดดึงหน้า ควรพิจารณาจากหลายปัจจัยประกอบกัน เช่น ระดับความรุนแรงของปัญหา ความเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย สภาพผิวของแต่ละคนที่แตกต่างกัน เป็นต้น  เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย โดยสามารถพิจารณาได้ดังนี้

อายุยังน้อยหรือหย่อนคล้อยไม่มาก

ในกรณีของผู้ชายที่อายุยังไม่มากหรือยังไม่เห็นความหย่อนคล้อยที่ชัดเจนบนใบหน้า การดึงหน้าอาจไม่จำเป็นต้องรีบทำ เพราะผลลัพธ์อาจไม่ได้เหมาะสมกับสภาพผิวในช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งการดูแลผิวด้วยวิธีอื่น ๆ อาจได้ผลดีกว่า

ยังไม่เคยลองวิธีดึงหน้าแบบไม่ผ่าตัด

สำหรับผู้ชายที่ยังไม่เคยลองหัตถการดึงหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด เช่น HIFU, Ulthera SPT หรือ Ultraformer เป็นต้น หากปัญหาที่เกิดขึ้นยังไม่มากแนะนำให้ลองทำเครื่องยกกระชับเหล่านี้ดูก่อน เนื่องจากเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถยกกระชับและลดความหย่อนคล้อยได้โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด หากเห็นผลชัดเจนแล้ว ก็อาจไม่จำเป็นต้องทำการดึงหน้า

คาดหวังผลลัพธ์เกินจริง

บางคนที่อาจมีความคาดหวังในผลลัพธ์ที่เกินจริง เช่น อยากหน้าเรียวแบบสายเกาหลี หน้าต้องเล็กลงมาก ๆ หน้าต้องดูเด็กลงไปจากเดิม 30 ปี หรือผลลัพธ์ที่ไม่สอดคล้องกับโครงหน้าเดิม เป็นต้น เพราะผลลัพธ์หลังการดึงหน้าจะขึ้นอยู่กับโครงหน้าเดิมและปัจจัยส่วนตัวของคนไข้ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละคน

กลัวการผ่าตัด หรือยังไม่มีเวลาพักฟื้นมากพอ

การดึงหน้าเป็นการผ่าตัดที่ทำให้เกิดรอยแผลขึ้นได้แต่แพทย์จะซ้อนเอาไว้ตามไรผม หนังศีรษะหลังไรผม บริเวณกรอบหน้า หรือบริเวณหลังหู เป็นต้น ทั้งยังต้องการระยะเวลาในการพักฟื้นหลังการผ่าตัดประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ ซึ่งบางคนอาจยังไม่พร้อมสำหรับการพักฟื้นหรือกลัวการผ่าตัด สามารถแจ้งแพทย์ถึงเงื่อนไขส่วนตัวเพื่อเลือกวิธีการอื่นที่เหมาะสมโดยไม่ต้องผ่าตัด

ทางเลือกอื่นนอกจากการผ่าตัดดึงหน้าสำหรับผู้ชาย

ทางเลือกอื่นนอกจากการผ่าตัดดึงหน้าสำหรับผู้ชาย

หากคุณผู้ชายยังไม่พร้อมดึงหน้า แต่ต้องการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย อยากยกกระชับใบหน้า ต้องการกรอบหน้าชัดขึ้น ปรับรูปหน้าเรียว แลดูเด็กลง สามารถเลือกใช้วิธีการแบบไม่ผ่าตัดด้วยเครื่องยกกระชับซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ดีและปลอดภัย เหมาะกับผู้ชายเพิ่มเริ่มมีปัญหาผิวความหย่อนคล้อยหรือยังไม่พร้อมจะผ่าตัด โดยวิธีเหล่านี้ช่วยกระชับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องพักฟื้น กลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยมีวิธีดึงหน้าแบบไม่ผ่าตัดที่ได้รับความนิยมดังนี้

HIFU / Ulthera เหมาะกับคนที่เริ่มมีความหย่อนคล้อย

HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) และ Ulthera เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก ช่วยยกกระชับ ปรับหน้าเรียว และแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ปล่อยพลังงานลงลึกได้ถึงชั้น SMAS ชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า เหมาะสำหรับผู้ชายที่เริ่มมีริ้วรอยหรือผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

Thermage ช่วยกระชับผิวพร้อมลดไขมัน

Thermage ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ (Radiofrequency) ปล่อยพลังงานความร้อนลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมัน เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ พร้อมกับช่วยสลายไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น แก้มและเหนียง จึงช่วยลดความหย่อนคล้อย ใบหน้าเรียวกระชับได้รูป ผิวเต่งตึงเรียบเนียนโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะกับผู้ชายที่มีไขมันสะสมบริเวณใบหน้า ผิวเริ่มหย่อนแต่ยังไม่ถึงขั้นต้องผ่าตัด Thermage ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ใบหน้าดูเฟิร์มขึ้นแต่ยังคงความเป็นตัวเองได้ดี เหมาะสำหรับคนที่ต้องการยกกระชับพร้อมลดไขมันในคราวเดียว

ร้อยไหม ยกกรอบหน้าชัด

สำหรับเทคนิคการร้อยไหม เป็นการใช้ไหมสำหรับยกกระชับร้อยเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อช่วยดึงชั้นผิวยกขึ้น ปรับรูปหน้าเรียว ผิวเรียบตึงมากขึ้น ใบหน้ามีมิติ ยกกระชับได้โดยไม่ต้องผ่าตัด หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่อาการบวมหรืออาการปวดตึงจะค่อย ๆ ดีขึ้นในช่วง 1 – 2 สัปดาห์ ซึ่งไหมที่ใช้เป็นไหมละลายสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 4 – 6 เดือน 

ข้อควรระวังและผลข้างเคียงหลังดึงหน้าผู้ชาย

การดึงหน้าผู้ชายเป็นการผ่าตัดที่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือตำแหน่งของชั้นผิวให้ยกขึ้นไปอยู่ในจุดที่เหมาะสม จึงอาจมีอาการหรือผลข้างเคียงบางอย่างที่เกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยประกอบกัน เช่น สภาพผิว ความซับซ้อนของปัญหาที่แก้ไข เทคนิคที่ใช้ ประสบการณ์ของแพทย์ การดูแลตัวเองหลังทำของคนไข้ เป็นต้น

  • อาการบวมช้ำ หลังการดึงหน้ามักจะพบอาการบวมช้ำบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป อาการบวมอาจทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วนในระหว่างการฟื้นตัว แต่จะค่อย ๆ ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
  • รู้สึกปวดตึง ในช่วงแรกหลังการดึงหน้าอาจรู้สึกตึงบริเวณผิวหน้า เนื่องจากมีการดึงชั้นผิวด้านในขึ้นไปเย็บไว้ในตำแหน่งใหม่ เนื้อเยื่อได้รับบาดเจ็บจากแผลผ่าตัด ผิวถูกขึงให้ตึงและยังไม่เข้าที่ จึงทำให้รู้สึกปวดตึงบริเวณผิวหน้าได้ ซึ่งอาการนี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นหลังจากผ่านไปประมาณ 2–4 สัปดาห์
  • การเสื่อมสภาพของผิวหนัง ผลลัพธ์จากการดึงหน้าอาจเสื่อมสภาพได้ตามเวลา โดยเฉพาะหากไม่ได้ดูแลรักษาผิวหน้าหลังการผ่าตัดอย่างเหมาะสม ปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ สภาพผิว และการดูแลตัวเองหลังการดึงหน้า มีผลต่อระยะเวลาที่ผลลัพธ์จะคงอยู่
  • อักเสบติดเชื้อ แม้ว่าอาการนี้พบได้ไม่บ่อย แต่ยังคงเป็นความเสี่ยงที่ต้องระวัง หากมีการดูแลแผลไม่ดี ปล่อยให้แผลโดนน้ำ หรือมีการสัมผัสแผลบ่อย ๆ จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่จะอักเสบติดเชื้อมากขึ้น หากพบอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์ทันที
  • รอยแผลเป็น ในบางกรณีของคนที่มีประวัติเป็นคีลอยด์ เคยมีรอยแผลเป็นนูน รวมไปถึงดูแลแผลหลังผ่าตัดได้ไม่ดีพอ อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นที่ชัดเจนได้ สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีการรักษาในภายหลัง แต่โดยปกติรอยแผลหลังผ่าตัดจะค่อยจางหายไปจนแทบมองไม่เห็นหากดูแลตามแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด นอกจากนั้นรอยแผลจะถูกซ่อนเอาไว้ตามไรผม ขอบหน้า หลังหู หรือหนังศีรษะหลังไรผม เป็นต้น ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับผู้ชายสามารถดึงหน้าได้ไหม (FAQ) 

เพื่อให้คุณผู้ชายสามารถตัดสินใจได้ง่ายและไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการผ่าตัดดึงหน้ามากขึ้น ในบทความนี้ได้รวบรวมเอาคำถามที่พบได้บ่อยมาไว้ให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

Q: ดึงหน้าสำหรับผู้ชายจำเป็นต้องโกนผมหรือไม่?
A: สำหรับการดึงหน้าไม่จำเป็นต้องโกนผม เนื่องจากแพทย์จะเปิดแผลตามแนวไรผม ด้านหน้าหู หรือหลังหู เป็นต้น แต่ในบางตำแหน่งแพทย์อาจพิจารณาเล็มผมออกเล็กน้อยเพื่อความสะดวกในการผ่าตัด

Q: ผู้ชายสามารถดึงหน้าแล้วกลับไปทำงานได้ภายในกี่วัน?
A: โดยปกติแล้วหลังผ่าตัดดึงหน้าจะต้องพักฟื้นประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูเต็มที่ แผลหายดี ในกรณีของคนที่เนื้องานไม่ต้องใช้แรงมาก ไม่ต้องพบปะผู้คนเยอะ ไม่ต้องออกแรงมากนัก สามารถกลับไปเริ่มทำงานได้เร็วขึ้นประมาณ 1 – 2 สัปดาห์

Q: หลังดึงหน้าจะออกกำลังกายได้เมื่อไหร่?
A: สำหรับผู้ชายที่ดึงหน้าไปแล้วอยากกลับไปออกกำลังกาย แนะนำให้พักฟื้นประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนแผลผ่าตัด ป้องกันการอักเสบติดเชื้อ ลดอาการบวมช้ำให้น้อยลง

Q: ผู้ชายที่มีหนวดเคราเยอะจะมีปัญหากับแผลดึงหน้าหรือไม่?
A: การดึงหน้าผู้ชายไม่มีปัญหากับเรื่องของหนวดเครา แต่ถ้าคนไข้แจ้งความประสงค์ว่าอยากเก็บเคราเอาไว้ แพทย์จะได้สามารถวางแผนกำหนดตำแหน่งในการผ่าตัด ซึ่งบางตำแหน่งอาจอยู่ใกล้กับเครา เพื่อที่แพทย์จะเลี่ยงไปเปิดแผลในตำแหน่งอื่นแทน หรือถ้าจำเป็นจริง ๆ แพทย์อาจทำการเล็มออกเล็กน้อย

Q: ดึงหน้าแล้วจะทำให้หน้าเรียวลงหรือดูเปลี่ยนไปไหม?
A: การดึงหน้าสามารถช่วยปรับรูปหน้าเรียวได้ ช่วยให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ ด้วยการดึงชั้น SMAS ให้ผิวหน้ายกกระชับ ช่วยให้กรอบหน้าดูคมชัด หน้าไม่หวานเกินไป ยังคงความแมนไว้อยู่
เจาะลึก : หน้าวีเชฟ คืออะไร ส่งผลดีกับใบหน้าอย่างไร ใช้วิธีการใดได้บ้าง?

Q: ผู้ชายสามารถดึงหน้าได้กี่ครั้งในชีวิต?
A: การดึงหน้าผู้ชายสามารถทำได้มากกว่า 1 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพผิว การดูแลตัวเองหลังทำ อายุที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น โดยปกติผลลัพธ์จะอยู่ที่ประมาณ 5 – 10 ปีขึ้นไป แนะนำให้เข้ามาพบแพทย์เพื่อรับการประเมินอย่างละเอียด

สรุป

การดึงหน้าในผู้ชายเป็นทางเลือกที่สามารถทำได้จริง โดยไม่ทำให้หน้าดูหวานหรือไม่เป็นตัวเอง แต่สิ่งสำคัญคือการเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับโครงหน้าของแต่ละบุคคล สามารถทำได้หลายเทคนิคเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดี มีความเป็นธรรมชาติ ตรงกับระดับความรุนแรงของปัญหา สภาพผิว และความต้องการของคนไข้ สำหรับใครอายุเริ่มเยอะ ใบหน้าหย่อนคล้อย อยากยกกระชับปรับรูปหน้า ลดอายุให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อรับการประเมินอย่างละเอียดและวางแผนการรักษาที่เหมาะกับรายบุคคล

Scroll to Top
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit