Key Takeaways
- Short Scar Facelift คือ เทคนิคดึงหน้าที่ใช้แผลผ่าตัดขนาดเล็กบริเวณด้านหน้าหู ไม่ยาวถึงหลังใบหู เหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยระดับปานกลางโดยเฉพาะบริเวณแก้มและกรอบหน้า
- Short Scar Facelift เหมาะกับผู้ที่มีอายุประมาณ 35–55 ปี ที่ผิวยังมีความยืดหยุ่นดี ไม่จำเป็นต้องยกกระชับถึงลำคอ
- ข้อดีของ Short Scar Facelift คือ ลดความเสี่ยงต่อเส้นประสาท ไม่มีรอยแผลหลังหู ไม่เปลี่ยนแนวไรผม และลดโอกาสเกิดติ่งหูผิดรูป
- แตกต่างจาก Full Facelift ตรงที่ Short Scar เหมาะกับการยกเฉพาะจุด ขณะที่ Full Facelift ยกกระชับได้ทั้งใบหน้าและลำคอ เหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยมากหรืออายุมากกว่า
- หากเลือกทำโดยศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์และคลินิกที่ได้มาตรฐาน จะช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและปลอดภัยในระยะยาว
เทคนิคดึงหน้า Short Scar Facelift ทางเลือกของคนที่ใบหน้ามีปัญหาความหย่อนคล้อย ด้วยการผ่าตัดแบบแผลเล็ก ทำให้หน้ากลับมากระชับ เต่งตึง แลดูอ่อนเยาว์ ซึ่งหลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่าเทคนิคนี้คืออะไร ใครที่เหมาะกับการทำเทคนิคนี้ มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นไหม แตกต่างจากเทคนิคดึงหน้าอื่นๆ อย่างไร พักฟื้นหลังทำนานไหม หลังทำจะมีแผลเป็นหรือไม่ ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้จากเนื้อหาต่อไปนี้ที่ Vincent Clinic Plastic Surgery ได้รวบรวมมาให้ค่ะ
เทคนิค Short Scar Facelift คืออะไร?
Short Scar Facelift คือการ ผ่าตัดดึงหน้า เพื่อยกกระชับเฉพาะส่วนโดยมีแผลผ่าตัดขนาดเล็ก เพื่อจัดเรียงชั้นเนื้อเยื่อให้เรียบเนียนเต่งตึง ดึงชั้น SMAS ให้หน้ายกกระชับขึ้น ซึ่งเป็นชั้นผิวที่ทำให้เกิดปัญหาใบหน้าที่แก่กว่าวัย ผิวเหี่ยวย่น โดยแผลผ่าตัดจะมีขนาดเล็กกว่าการดึงหน้าแบบ Full Facelift ทำให้พักฟื้นน้อย ลดอาการบวมช้ำ เจ็บน้อยกว่า
เทคนิค Short Scar Facelift เหมาะกับใคร?
เทคนิคการดึงหน้า Short Scar Facelift สามารถช่วยยกกระชับเฉพาะจุดได้ดี แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้อย่างเห็นผล จึงเป็นศัลยกรรมดึงหน้าที่เหมาะกับคนกลุ่มต่อไปนี้
- คนที่มีอายุตั้งแต่ 35 – 55 ปี เพราะเป็นวัยที่เริ่มเผชิญกับปัญหาผิวเสื่อมตามธรรมชาติ คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวลดลง ทำให้ผิวเริ่มหย่อนคล้อยและเห็นริ้วรอยได้ชัดเจน
- คนที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยชัดขึ้น แต่ผิวยังไม่หย่อนคล้อยมาก หย่อนคล้อยปานกลาง ต้องการชะลอปัญหาผิว
- คนที่มีความหย่อนคล้อยบริเวณช่วงแก้ม กรอบหน้า ขากรรไกร ทำให้ใบหน้าดูใหญ่ หน้าอ้วน กรอบหน้าไม่ชัดจากผิวไม่กระชับหย่อนคล้อย
- คนที่ผิวหนังยังมีความยืดหยุ่นดีอยู่ ถึงแม้ผิวจะหย่อนคล้อย แต่ผิวยังมีคอลลาเจน ยังมีความกระชับอยู่ ไม่ได้หย่อนคล้อยระดับหนัก
- คนที่ต้องการให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ อยากลดอายุให้ใบหน้าดูเด็กลง ปรับให้ใบหน้าดูสดใสมากขึ้น
- คนที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนหลังทำ ไม่ต้องคอยกลับมาทำบ่อยๆ และให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่าการดึงหน้าแบบไม่ผ่าตัด
Short Scar Facelift ไม่เหมาะกับใคร?
ถึงแม้ Short Scar Facelift จะช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยและยกกระชับเฉพาะจุดได้ดี แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ที่สามารถทำการยกกระชับได้ ระดับความหย่อนคล้อยที่สามารถแก้ไขได้ จึงไม่เหมาะกับคนกลุ่มต่อไปนี้
- คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยค่อนข้างมาก Short Scar Facelift จะเหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ถ้าผิวที่หย่อนคล้อยมากอาจต้องดึงหน้าแบบ SMAS Facelift
- คนที่มีปัญหาหย่อนคล้อยทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ Short Scar Facelift เป็นการยกกระชับเฉพาะจุด เช่น บริเวณแก้ม กรอบหน้า และขากรรไกร แต่ไม่ได้ครอบคลุมทั้งใบหน้าและลำคอ
- คนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพราะผิวหนังมักสูญเสียความยืดหยุ่นไปมาก และชั้นกล้ามเนื้อก็หย่อนคล้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
- คนที่คาดหวังผลลัพธ์มากเกินความเป็นจริง ถึงแม้ Short Scar Facelift จะให้ผลลัพธ์ชัดเจนกว่าการยกกระชับแบบไม่ผ่าตัด แต่ไม่สามารถย้อนวัย ไม่สามารถแก้ปัญหาหย่อนคล้อยระดับรุนแรงได้
ข้อดีของการดึงหน้าด้วยเทคนิค Short Scar Facelift
สำหรับเทคนิคดึงหน้า Short Scar Facelift สามารถเข้าไปช่วยดึงชั้นผิวให้ตึงกระชับด้วยการเปิดแผลขนาดเล็ก จึงเป็นการผ่าตัดดึงหน้าที่มีข้อดีหลายอย่าง ดังนี้
- แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก จึงฟื้นตัวได้เร็วกว่าแบบดึงหน้าเต็มรูป ไม่ต้องพักฟื้นนาน
- ไม่มีแผลเป็นหลังใบหู ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นให้เห็นชัด ทำให้มั่นใจเวลาเกล้าผม
- ช่วยยกกระชับผิวหน้าส่วนกลางให้ดูอ่อนเยาว์ แก้ปัญหาแก้มตก และริ้วรอยช่วงแก้มได้ดี
- ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของเส้นประสาทบนใบหน้า เพราะใช้การเปิดแผลสั้น และผ่าตัดในชั้นไม่ลึก
- ไม่ทำให้เกิดปัญหาติ่งหูผิดรูปจากการเย็บแผลผ่าตัด ด้วยตำแหน่งและวิธีการเย็บที่ออกแบบเฉพาะ ช่วยให้ติ่งหูยังคงรูปทรงตามธรรมชาติ
- แนวไรผมไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงจนทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ การกรีดแผลจะไม่ล้ำเข้ามาในแนวไรผมมากเกินไป จึงไม่ทำให้แนวผมเปลี่ยน
Short Scar Facelift ต่างจาก Full Facelift อย่างไร?
เนื่องจากการผ่าตัดดึงหน้าแบบ Short Scar Facelift เป็นการดึงหน้าเฉพาะจุดและมีแผลเล็ก จึงมีความแตกต่างจาก Full Facelift อย่างเห็นได้ชัดเจน โดยมีรายละเอียดของความต่างกันดังนี้
จุดเปรียบเทียบ | Short Scar Facelift | Full Facelift |
แผลผ่าตัด | แผลขนาดเล็ก ซ่อนแผลไว้ตามแนวขอบใบหูด้านหน้า | แผลขนาดใหญ่มีแนวยาวตั้งแต่หนังศีรษะ แนวไรผม ด้านหน้าและด้านหลังใบหู |
บริเวณที่ยกกระชับ | ใบหน้าส่วนกลาง เช่น แก้ม กรอบหน้า เป็นต้น | ทำได้ทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ |
ระยะเวลาพักฟื้น | ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ | ประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ |
เหมาะกับใคร |
|
|
*ตารางนี้เป็นเพียงการเปรียบเทียบเบื้องต้นเท่านั้น
ขั้นตอนการผ่าตัดดึงหน้า Short Scar Facelift
ในส่วนของขั้นตอนในการทำ Short Scar Facelift มีกระบวนการที่ซับซ้อนไม่มากเท่ากับการดึงหน้าแบบทั่วทั้งใบหน้า โดยมีรายละเอียดของการทำดังนี้
- วางแผนการรักษาและออกแบบโครงสร้างหน้า โดยแพทย์จะประเมินจากระดับปัญหาและความต้องการของคนไข้ที่แตกต่างกัน
- แพทย์กำหนดจุดที่จะทำการผ่าตัดแล้วจึงให้ วิสัญญีแพทย์ ทำการดมยาสลบ เมื่อยาออกฤทธิ์จึงเริ่มทำการผ่าตัดเพื่อเข้าไปจัดเรียงชั้นผิวและยกกระชับใบหน้าในตำแหน่งที่กำหนดไว้
- หลังจากดึงหน้าเสร็จสิ้นแล้ว แพทย์จะเย็บซ่อนแผลไว้ตามขอบใบหูด้านหน้าและไรผม
- หลังจากยาสลบหมดฤทธิ์ จะคอยดูอาการคนไข้ก่อนสักระยะ เมื่อไม่มีอาการข้างเคียงสามารถกลับบ้านได้เลย
ก่อนผ่าตัด Short Scar Facelift ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างผ่าตัด Short Scar Facelift ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ารับบริการตามที่แพทย์แนะนำ ดังนี้
- หากมีประวัติแพ้ยา มียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ หรือมีโรคประจำตัว ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนผ่าตัด เพื่อป้องกันอาการเสี่ยงระหว่างผ่าตัด
- งดวิตามิน ยา หรืออาหารเสริม ที่ส่งผลกระทบต่อการแข็งตัวของเลือด ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้เลือดออกง่าย ช้ำมาก
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัดประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ เนื่องจากส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดและการสมานแผล
- ควรเตรียมเวลาสำหรับการพักฟื้นไว้ล่วงหน้า หลังผ่าตัดอาจต้องใช้เวลาพักฟื้นหลายวันถึงสัปดาห์ ควรจัดตารางให้ดี
หลังทำ Short Scar Facelift ต้องดูแลอย่างไร? พักฟื้นนานไหม?
หลังทำ Short Scar Facelift อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนที่แตกต่างกัน ควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนี้
- สวมผ้ารัดหน้าเพื่อให้ใบหน้าเข้าที่ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ สามารถคลายออกได้บางเวลาหากรู้สึกแน่นเกินไปประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง แล้วจึงกลับมารัดใหม่อีกครั้ง ตามคำแนะนำของแพทย์
- ทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ควรล้างแผลและเปลี่ยนผ้าปิดแผลให้สะอาดอยู่เสมอ
- แนะนำให้ประคบเย็นในช่วง 2 – 3 วันแรกหลังผ่าตัด เพื่อลดอาการบวมช้ำให้น้อยลง ยุบบวมไวขึ้น
- งดออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ออกแรงเยอะ ๆ ประมาณ 2 สัปดาห์ การเคลื่อนไหวร่างกายแรง ๆ อาจเพิ่มแรงดันเลือด ทำให้บวม ช้ำ หรือแผลหายช้าลง
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนที่ดีช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น และช่วยให้แผลสมานได้ไว
- ห้ามให้แผลโดนน้ำประมาณ 5 – 7 วัน ควรเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำบริเวณแผลโดยตรง หรือการสระผมที่อาจทำให้น้ำไหลลงแผล เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบและพบแพทย์ตามนัดหมายตามกำหนด เพื่อควบคุมการติดเชื้อ ลดอาการอักเสบ และติดตามผลการฟื้นตัว หากมีอาการผิดปกติแพทย์จะได้แก้ไขได้ทัน
หลังทำ Short Scar Facelift มีผลข้างเคียงไหม?
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำ Short Scar Facelift ที่พบได้เป็นปกติคืออาการบวมช้ำที่จะหายไปได้เองในช่วง 1 สัปดาห์หลังทำ หรืออาจมีอาการปวดตึงบริเวณแผลผ่าตัดได้เช่นกันซึ่งจะค่อยๆ หายไปได้เองขึ้นอยู่กับความเร็วในการฟื้นฟูร่างกายของแต่ละคน รวมถึงการดูแลตัวเองหลังทำของคนไข้ นอกจากนั้นหากผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงหลังทำ
ราคา Short Scar Facelift เท่าไหร่?
สำหรับราคาในการทำ Short Scar Facelift ในแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหา เทคนิคที่ใช้ ตำแหน่งที่ทำ ความต้องการของคนไข้ และประสบการณ์ของแพทย์ โดยราคาทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 – 130,000 บาท แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์โดยตรงเพื่อรับการประเมินและได้รับข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน
เลือกทำ Short Scar Facelift ที่ไหนดี?
เพื่อป้องกันไม่ให้หลังทำ Short Scar Facelift เกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ขึ้น ควรศึกษารายละเอียดให้รอบคอบและพิจารณาในหลายด้านประกอบกันดังนี้
- คลินิกมีความน่าเชื่อถือ เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีเลขใบอนุญาตติดไว้ให้เห็นชัดเจนสามารถตรวจสอบได้
- ห้องผ่าตัดได้มาตรฐาน สะอาด แบ่งสัดส่วนพื้นที่ชัดเจน มีระบบปลอดเชื้อ เครื่องติดตามสัญญาณชีพ และอุปกรณ์ฉุกเฉินครบถ้วน เพื่อลดความเสี่ยงระหว่างผ่าตัด
- แพทย์มีประสบการณ์ สามารถให้คำปรึกษาได้ละเอียดครบถ้วนถูกต้อง เข้าใจเทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด เป็นแพทย์จริงสามารถตรวจสอบกับแพทยสภาได้
- มีรีวิวจากคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์จริงหลังทำที่ชัดเจนมากขึ้น ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
- มีการดูแลติดตามหลังทำ เพื่อคอยดูแลติดตามอาการต่าง ๆ หลังทำ รวมถึงให้คำแนะนำและคอยช่วยเหลือหากเกิดอาการผิดปกติ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Short Scar Facelift
เพื่อช่วยให้เข้าใจถึงเทคนิค Short Scar Facelift มากขึ้นและตอบข้อสงสัยเพิ่มเติม ในเนื้อหาต่อไปนี้จึงได้รวบรวมเอาคำถามที่พบได้บ่อยมาไว้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ดังนี้
Q: อายุเท่าไหร่ถึงเหมาะกับการทำ Short Scar Facelift?
A: อายุที่เหมาะกับการดึงหน้า ด้วยเทคนิค Short Scar Facelift อยู่ที่ประมาณ 35 – 55 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่ความหย่อนคล้อยปรากฏชัดเจนแต่ความรุนแรงยังอยู่ในระดับปานกลาง ยังไม่รุนแรงมาก
Q: สามารถทำ Short Scar Facelift ซ้ำได้หรือไม่?
A: สามารถทำซ้ำได้หากอายุเพิ่มขึ้นและผิวกลับมาหย่อนคล้อย โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและออกแบบการรักษาที่เหมาะสมเฉพาะรายบุคคล
Q: เทคนิค Short Scar Facelift ช่วยยกคิ้วหรือหนังตาตกได้ไหม?
A: สำหรับเทคนิคนี้จะเป็นการยกกระชับใบหน้าส่วนกลาง ได้แก่ แก้ม กรอบหน้า เป็นต้น จึงไม่ได้ส่งผลไปถึงบริเวณคิ้ว หนังตา หรือหางตา หากบริเวณใบหน้าส่วนบนมีปัญหาความหย่อนคล้อย แพทย์อาจจะประเมินเลือกใช้เทคนิค ยกคิ้ว อื่น ๆ เพื่อช่วยเสริมให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีมากยิ่งขึ้น
Q: การทำ Short Scar Facelift จะเห็นรอยแผลชัดเจนหรือไม่?
A: โดยแผลผ่าตัดจะมีขนาดเล็กมากซึ่งถูกเย็บไปตามแนวขอบหูด้านหน้าและไรผม จึงทำให้เนียนไปกับผิวทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดเจน หากดูแลหลังทำตามแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้รอยแผลจางลงจนแทบมองไม่เห็น
Q: ทำ Short Scar Facelift พร้อมกับหัตถการอื่นได้ไหม?
A: สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นๆ ได้ โดยแพทย์จะประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละคนมากที่สุด เช่น ฉีดไขมันใบหน้า เครื่องยกกระชับ เป็นต้น
Q: หลังทำจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เมื่อไร?
A: โดยปกติหลังทำสามารถกลับบ้านได้เลย โดยในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังทำ ควรเลี่ยงกิจกรรมที่ออกแรงเยอะหรือการออกกำลังกาย เพื่อป้องกันกระทบกระเทือนแผลผ่าตัด
Q: ทำไมบางคนเลือก Short Scar Facelift แทนการดึงหน้าแบบเต็มรูปแบบ?
A: เนื่องจากเป็นการดึงหน้าเฉพาะจุดที่ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยในระดับปานกลางได้ดี ลดอาการบวมช้ำ เจ็บน้อย พักฟื้นไม่นาน แต่ในกรณีของคนที่ใบหน้ามีความหย่อนคล้อยมาก ๆ อาจเลือกเทคนิคดึงหน้าในระดับลึก อย่างเช่น Deep Plane Facelift
สรุป
Short Scar Facelift เป็นเทคนิคการดึงหน้าที่มีแผลผ่าตัดขนาดเล็กบริเวณหน้าใบหูโดยไม่ยาวไปถึงหลังใบหู เน้นยกกระชับเฉพาะส่วนกลางถึงล่างของใบหน้า เช่น กรอบหน้า แก้ม เหมาะกับคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยไม่มากอยู่ในระดับกลาง ช่วงอายุ 35 – 55 ปี สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย อยากให้ใบหน้าดูเด็กลง ผิวกระชับเต่งตึง หรือต้องการปรับรูปหน้าให้ได้รูปมากขึ้น แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินและออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับรายบุคคลมากที่สุด