Key Takeaways
- กรามใหญ่เกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งกล้ามเนื้อหนา พฤติกรรมการเคี้ยว ไขมันสะสมบริเวณกรอบหน้า หรือโครงสร้างกระดูก เป็นต้น
- วิธีลดกรามมีทั้งแบบไม่ผ่าตัดและผ่าตัด เช่น โบท็อก Ulthera Thermage และศัลยกรรมกราม
- การเลือกวิธีรักษาควรผ่านการประเมินโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ออกมาดี ไม่เกิดผลข้างเคียงตามมา
- การผ่าตัดกรามให้ผลถาวร เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาจากโครงสร้างกระดูก ต้องการปรับรูปหน้าอย่างชัดเจน
- การเตรียมตัวก่อนทำ และดูแลหลังทำอย่างเหมาะสม จะช่วยลดผลข้างเคียง เสริมให้ผลลัพธ์เข้าที่ไวขึ้น ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น
ลักษณะกรามใหญ่ไม่ได้ส่งผลเพียงแค่เรื่องของโครงหน้าที่ไม่ได้สัดส่วนเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความมั่นใจ และบุคลิกภาพโดยรวมของใบหน้าได้อีกด้วย ซึ่งมักจะทำให้หน้าดูแข็ง หน้าเหลี่ยม ไม่มีวีเชพ หน้าไม่เรียวสวยตามต้องการ ยิ่งในผู้หญิงจะทำให้หน้าดูแมนมากเกินไป ไม่มีความละมุน ซึ่งลักษณะกรามแบบนี้เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย สำหรับใครที่ยังมีความสงสัยว่ากรามที่มีขนาดใหญ่นี้เกิดจากอะไร ส่งผลกระทบกับใบหน้าอย่างไรบ้าง มีวิธีแก้ไขอย่างไร แก้ปัญหากรามที่มีขนาดใหญ่เหมาะกับใครบ้าง Vincent Clinic Plastic Surgery แนะนำให้อ่านเพิ่มเติมจากข้อมูลต่อไปนี้ได้เลย
กรามใหญ่ คืออะไร? ลักษณะเป็นอย่างไร?
กรามใหญ่ คือ ลักษณะของใบหน้าส่วนล่างบริเวณกรามหรือแนวกรอบหน้าด้านล่างที่ดูกว้าง มีความหนา หรือมีเหลี่ยมชัดเจนมากกว่าปกติ ส่งผลให้รูปหน้าดูไม่เรียว ขาดความสมดุล ใบหน้าจะดูแข็ง หน้าบาน หน้าเหลี่ยม ไม่ละมุนหวาน ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย
กรามใหญ่ เกิดจากอะไร?
สาเหตุของกรามใหญ่อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ ซึ่งแต่ละสาเหตุส่งผลให้กรอบหน้าดูไม่เรียวหรือมีลักษณะเหลี่ยมกว่าปกติ โดยสามารถแบ่งสาเหตุหลัก ๆ ได้ดังนี้
- พันธุกรรม พันธุกรรมถือเป็นสาเหตุสำคัญที่สุด หากในครอบครัวมีลักษณะโครงกระดูกขากรรไกรใหญ่ โอกาสที่รุ่นลูกหรือหลานจะมีกรามใหญ่ก็สูงขึ้น โดยเฉพาะในคนเอเชีย
- การเจริญเติบโตของกระดูก ในบางรายกระดูกขากรรไกรอาจมีการเจริญเติบโตมากกว่าปกติ ส่งผลให้กรามดูกว้างและแข็งแรง โครงหน้าจึงดูเหลี่ยมชัด
- กล้ามเนื้อกรามขยายตัว กล้ามเนื้อบริเวณกราม (Masseter muscle) สามารถใหญ่ขึ้นได้จากการใช้งานหนัก เช่น เคี้ยวอาหารที่เหนียวหรือแข็งเป็นประจำ การกัดฟัน หรือขบฟันแน่นโดยไม่รู้ตัว
- ต่อมน้ำลายขยาย ต่อมน้ำลายบริเวณข้างแก้มและหน้ากกหู (Parotid gland) หากมีการโตผิดปกติหรืออักเสบเรื้อรัง จะทำให้ใบหน้าดูบวมช่วงกรามทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นกรามใหญ่
- ไขมันสะสมบนใบหน้า หากมีการสะสมของไขมันบริเวณแก้มหรือกรามเพิ่มเติม จะยิ่งทำให้ใบหน้าดูใหญ่มากขึ้น ลักษณะนี้มักพบในผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
วิธีลดกรามใหญ่มีอะไรบ้าง?
ปัญหากรามใหญ่สามารถแก้ไขได้หลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุและลักษณะของกรามในแต่ละบุคคล ทั้งวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและวิธีศัลยกรรม ซึ่งแต่ละเทคนิคมีข้อดีแตกต่างกันไป ดังนี้
ฉีดโบท็อกลดกราม
วิธีฉีดโบท็อกกรามนี้จะใช้การฉีดโบทูลินัม ท็อกซินเข้าไปในตำแหน่งกล้ามเนื้อเพื่อหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม เมื่อกล้ามเนื้อกรามไม่ได้ใช้จะลดขนาดเล็กลง ทำให้หน้าเรียวเล็กลง หน้าวีเชฟ เหมาะกับคนที่กล้ามเนื้อกรามมีขนาดใหญ่ หลังฉีดจะค่อยๆ เห็นผลภายใน 2 – 7 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์ และ คงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 4 – 6 เดือน
ลดกรามด้วย Ulthera SPT
วิธีลดกรามด้วยเครื่อง Ulthera SPT จะเป็นการส่งพลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ลงสู่ชั้นผิวลึกถึงชั้น SMAS เพื่อช่วยยกกระชับ ปรับรูปหน้า เก็บกรอบหน้าชัด เหมาะกับคนที่กรามใหญ่จากไขมันสะสม ร่วมกับมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ สามารถเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนของผลลัพธ์ที่ประมาณ 2 – 3 เดือน และผลลัพธ์คงอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี
ลดกรามด้วย Thermage FLX
Thermage FLX เป็นเทคนิคลดกรามด้วยคลื่นวิทยุ RF (Radio Frequency) เข้าไปสลายไขมันส่วนเกินที่สะสมบริเวณกรอบหน้า หรือกราม จะช่วยแก้ปัญหากรามใหญ่จากไขมันสะสมสมจน ปรับให้หน้าเรียว ผิวกระชับมากขึ้น สามารถเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนได้ในช่วงประมาณ 1 – 3 เดือน และคงอยู่ได้นานประมาณ 12 – 18 เดือน
ศัลยกรรมกราม
ศัลยกรรมเพื่อลดขนาดกราม เป็นวิธีการปรับรูปหน้าที่เหมาะกับผู้ที่มีกระดูกขากรรไกรใหญ่ หรือกว้างมาตั้งแต่กำเนิด โดยมีวิธีศัลยกรรมลดกรามใหญ่ดังนี้
- ผ่าตัดกราม เป็นการเปิดแผลเพื่อเข้าถึงกระดูก และตัดแต่งกระดูกกราม เพื่อลดขนาดกรามให้น้อยลง ซึ่งตำแหน่งแผลมีทั้งการเปิดจากด้านในช่องปาก และแผลภายนอก โดยหลังทำขนาดกรามจะดูเล็กลง ใบหน้าเรียวไม่ใหญ่เหมือนก่อนทำ
- เหลากราม เป็นการปรับรูปหน้าด้วยการใช้เครื่องมือกรอแต่งผิวกระดูกออกบางส่วน เหมาะกับผู้ที่มีกรามเหลี่ยมหรือกว้างไม่มากนัก แต่ยังต้องการให้ใบหน้าดูโค้งมนและอ่อนหวานขึ้น การเหลากรามมักทำผ่านแผลเล็กๆ ภายในช่องปาก ทำให้ไม่มีรอยแผลเป็นด้านนอก
เปรียบเทียบวิธีทำให้หน้าเรียว ลดกรามแต่ละวิธีต่างกันอย่างไร?
เนื่องจากวิธีลดกรามใหญ่ มีด้วยกันหลายวิธี แต่ละวีธีมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป จึงเหมาะกับปัญหาที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งรายละเอียดของความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนมีดังนี้
วิธีลดกราม | กลไกการทำงาน | เหมาะกับใคร | ระยะเห็นผลและการคงอยู่ | ความเจ็บ/การพักฟื้น |
---|---|---|---|---|
ฉีดโบท็อกลดกราม | ฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซินเพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อกราม | คนที่กรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ | เริ่มเห็นผลประมาณ 1 – 2 เดือน และคงอยู่ได้นานประมาณ 4 – 6 เดือน | เจ็บเล็กน้อย ไม่ต้องพักฟื้น |
Ulthera SPT | ใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ลงลึกถึงชั้น SMAS เพื่อยกกระชับผิว | คนที่มีหน้าหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด กรามใหญ่จากผิวที่ย้วยหรือหย่อน | เริ่มเห็นผลใน 2 – 3 สัปดาห์ และเห็นชัดใน 2 – 3 เดือน สามารถคงอยู่ได้ประมาณ 1 ปี | เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น |
Thermage FLX | ใช้คลื่นวิทยุ RF สลายไขมันและกระตุ้นคอลลาเจน | คนที่มีไขมันสะสมบริเวณกราม ทำให้หน้าดูกว้าง | เริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในช่วง 1 – 3 เดือน คงอยู่ได้นานประมาณ 12 – 18 เดือน | รู้สึกอุ่น ๆ หรือเจ็บเล็กน้อย ขณะทำ ไม่ต้องพักฟื้น |
ศัลยกรรมกราม | เป็นการศัลยกรรมตกแต่งกระดูกกราม เพื่อลดขนาดให้เล็กลง หน้าเรียวได้รูปมากขึ้น | คนที่มีโครงสร้างกระดูกกรามใหญ่ ต้องการผลลัพธ์ถาวร | เห็นผลหลังทำและผลลัพธ์จะชัดเจนหลังอาการบวมหายไป คงอยู่ได้ถาวร | เจ็บจากแผลผ่าตัดและกระดูกที่ถูกตัดออกไป และต้องมีระยะเวลาในการพักฟื้น |
**ตารางนี้เป็นการเปรียบเทียบเบื้องต้นเท่านั้น ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล
ผ่าตัดกรามใหญ่ เหมาะกับใคร? ใครไม่ควรทำ?
การผ่าตัดลดกรามใหญ่เป็นวิธีลดขนาดกรามที่ได้ผลลัพธ์ถาวร เห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นหลังทำ ช่วยปรับหน้าเรียวเข้ารูปมากขึ้น ลดความเหลี่ยม หน้าบาน ให้น้อยลง ซึ่งวิธีการทำศัลยกรรมเพ่อลดขนากของกรามให้เล็กลงนั้นมีทั้งคนที่เหมาะและคนที่ไม่ควรทำ ดังนี้
การผ่าตัดลดกรามใหญ่เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีกรามใหญ่จากโครงสร้างกระดูกส่วนล่างของใบหน้าหรือบริเวณกรามมีขนาดใหญ่
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ถาวร ไม่ต้องกลับมาทำซ้ำหลายๆ ครั้ง
- ผู้ที่มีเวลาสำหรับการพักฟื้นหลังผ่าตัด สามารถดูแลหลังจากผ่าตัดได้เป็นอย่างดี
ใครไม่เหมาะกับการผ่าตัดลดกรามใหญ่
- ผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อหนาหรือไขมันสะสมเยอะเกินไป เพราะการผ่าตัดลดกรามแก้ปัญหานี้ไม่ได้
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรงในระดับที่ควบคุมไม่ได้ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือโรคความดันโลหิตสูง
- ผู้ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เพราะอาจเกิดความเสี่ยงได้ควร ให้ผ่านไปก่อน
- ผู้ที่ไม่มีเวลาในการพักฟื้นหลังทำ เพราะต้องคอยดูแลแผลหลังทำ หากดูแลไม่ดีอาจติดเชื้อได้
ลดกรามใหญ่ อันตรายไหม? มีผลข้างเคียงหรือไม่?
ลดกรามใหญ่ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนหากอยู่ภายใต้การดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคที่เหมาะสม อุปกรณ์หรือเครื่องมือที่ใช้เป็นของแท้ได้มาตรฐาน ย่อมเป็นอันตราย ทั้งยังได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีอีกด้วย ในส่วนของผลข้างเคียงวิธีลดกรามใหญ่แบบไม่ต้องผ่าตัดอาจจะมีอาการแดงหรือปวดตึงได้บ้าง ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ ในส่วนของการผ่าตัดกรามอาจมีอาการบวมแดงหรือปวดบริเวณที่ผ่าตัด ซึ่งจะหายไปได้เองตามระยะเวลาในการฟื้นฟูร่างกายของแต่ละคน
ลดกรามต้องทำกับใคร? เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย?
ไม่ว่าจะเลือกวิธีลดกรามใหญ่แบบไหน ควรศึกษาข้อมูลและรายละเอียดให้ครบถ้วนถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในอนาคต โดยสามารถพิจารณาได้จากหัวข้อต่อไปนี้
- แพทย์ต้องมีประสบการณ์ มีความเข้าใจในเทคนิคที่ใช้ มีการวิเคราะห์โครงหน้าและสามารถวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
- คลินิกต้องมีความน่าเชื่อถือ เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีการติดเลขใบอนุญาตให้เห็นอย่างชัดเจน
- ใช้ตัวยาและเครื่องมือที่เป็นของแท้ ที่ผ่านการรับรองจาก อย. มีบริษัทนำเข้าที่ถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้
- มีรีวิวจากผู้ใช้จริง เพื่อให้เห็นผลลัพธ์หลังทำที่ชัดเจน รวมถึงฝีมือของแพทย์ที่ทำการรักษาว่าตรงตามที่ต้องการหรือไม่
- มีการติดตามผลหลังทำ ให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการรักษา
ลดกรามใหญ่ต้องทำกี่ครั้ง ผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม?
สำหรับการลดกรามใหญ่ในแต่ละวิธีมีความแตกต่างกันทั้งกระบวนการรักษา จำนวนครั้งที่ทำ และระยะเวลาที่ผลลัพธ์คงอยู่ ขึ้นอยู่กับวิธีที่เลือกและลักษณะปัญหาของแต่ละบุคคล โดยบางวิธีให้ผลถาวร ขณะที่บางวิธีอาจต้องทำซ้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อคงผลลัพธ์ให้คงอยู่ได้นานมากขึ้น โดยสามารถสรุปได้ดังนี้
- ฉีดโบท็อกลดกราม เห็นผลภายใน 1 – 2 เดือน ต้องทำซ้ำทุก 4 – 6 เดือน เพื่อให้กล้ามเนื้อกรามที่เ็ล็กลงอยู่ได้ลง
- ลดกรามด้วย Ulthera SPT เห็นผลเต็มที่ใน 2 – 3 เดือน คงอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี แล้วจึงควรทำซ้ำปีละครั้งเพื่อรักษาผลลัพธ์
- ลดกรามด้วย Thermage FLX ผลลัพธ์เห็นชัดเจนใน 1 – 3 เดือน อยู่ได้นานประมาณ 12 – 18 เดือน และสามารถทำซ้ำได้ปีละครั้งหรือตามคำแนะนำแพทย์
- ผ่าตัดกราม เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ถาวร ไม่จำเป็นต้องทำซ้ำ แต่ต้องใช้เวลาพักฟื้นและมีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่า
ขั้นตอนก่อน–หลังลดกรามใหญ่
สำหรับการลดกรามใหญ่ ไม่ว่าจะก่อนหรือกลัวทำย่อมต้องมีวิธีการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมกับแต่ละวิธีที่แตกต่างกัน เพื่อลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตให้น้อยลง โดยมีวิธีการปฏิบัติตัวดังนี้
เตรียมตัวก่อนลดกรามใหญ่
- ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาโครงสร้างกระดูกกรามและเลือกวิธีที่เหมาะสม
- แจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว ยาที่รับประทานเป็นประจำ หรือประวัติแพ้ยา ให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- สำหรับคนที่ใช้วิธีการผ่าตัด ควรงดวิตามิน ยา หรืออาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา เป็นต้น
- งดแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ก่อนทำ 3 – 5 วัน เพื่อให้ระบบเลือดไหลเวียนดี ลดความเสี่ยงของการช้ำบวม โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่เลือกผ่าตัด อาจจะทำให้แผลหายช้า ร่างกายฟื้นตัวได้ไม่ดี
- พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อม
การปฏิบัติตัวหลังลดกรามใหญ่
- หากฉีดโบท็อกลดกราม ควรงดนอนราบ 4 ชั่วโมงแรก งดจับหรือกดบริเวณที่ฉีด ภายใน 24 ชั่วโมง
- หากทำ Ulthera หรือ Thermage อาจรู้สึกตึงๆ ได้บ้าง แต่ไม่ต้องพักฟื้น
- หากผ่าตัดกราม ควรปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น ประคบเย็นในช่วง 2 – 3 วันแรกหลังทำเพื่อช่วยให้อาการบวมยุบไวขึ้น ทำความสะอาดแผลผ่าตัดอย่างสม่ำเสมอ หรือรับประทานอาหารอ่อนในช่วงแรก เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก หรือเสี่ยงต่อการกระแทกบริเวณกราม
- ดื่มน้ำมาก ๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
ระยะเวลาพักฟื้นและข้อควรระวัง
- ฉีดโบท็อก Ulthera และ Thermage ไม่ต้องพักฟื้น กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที แต่อาจมีรอยบวมแดงเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปได้เองในระยะเวลาไม่นาน
- ผ่าตัดกราม ต้องพักฟื้นประมาณ 1–2 สัปดาห์ และจะค่อย ๆ ดีขึ้น ตามระยะเวลาการฟื้นตัวของแต่ละคน
- ควรเข้าพบแพทย์ตามนัดหมาย เพื่อประเมินผลการรักษาว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด การนวดแรง ๆ หรือการกดทับบริเวณกรามในช่วงแรกหลังทำ
ลดกรามใหญ่ราคาเท่าไร
ราคาของการลดกรามใหญ่นั้นแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ ปัญหาที่ต้องแก้ไข ความต้องการของคนไข้ และประสบการณ์ของแพทย์ เป็นต้น สำหรับราคาในแต่ละวิธีมีด้วยกันดังนี้
- โบท็อกลดกราม ราคาประมาณ 4,900 – 15,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนยูนิตและยี่ห้อที่เลือกใช้
- Ulthera SPT ราคาประมาณ 20,000 – 70,000 บาท จะขึ้นอยู่กับจำนวนไลน์ที่ใช้และตำแหน่งที่ทำ
- Thermage FLX ราคาประมาณ 30,000 – 90,000 บาท ราคาจะขึ้นอยู่กับจำนวนช็อตที่ใช้
- ศัลยกรรมกราม ราคาประมาณ 80,000 – 150,000 บาท ขึ้นอยู่กับระดับปัญหา เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด ความต้องการของคนไข้ และประสบการณ์ของแพทย์
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกรามใหญ่ (FAQ)
หลายคนที่มีปัญหากรามใหญ่และกำลังมองหาวิธีแก้ปัญหา มักมีคำถามเกี่ยวกับสาเหตุ ลักษณะ วิธีรักษา ไปจนถึงผลลัพธ์และความปลอดภัยของแต่ละเทคนิค เพื่อให้เข้าใจและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ในเนื้อหาต่อไปนี้ได้รวบรวมเอาคำถามที่พบบ่อยพร้อมกับคำตอบที่เหมาะสมเอาไว้ดังนี้
Q: ฉีดโบท็อกลดกราม เจ็บไหม? ต้องพักฟื้นหรือเปล่า?
A: สำหรับการฉีดโบท็อกลดกรามอาจจะรู้สึกเจ็บได้บ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับความไวในการรับความรู้สึกของแต่ละคน โดยระหว่างทำจะมีการประคบเย็นเพื่อให้รู้สึกชาและใช้เข็มที่มีขนาดเล็ก เพื่อช่วยให้คนไข้เจ็บน้อยและผ่อนคลายระหว่างทำ หลังทำสามารถกลับบ้านได้เลย โดยไม่ต้องพักฟื้น
Q: เครื่องกระชับกรามต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล?
A: โดยส่วนใหญ่หลังทำเครื่องยกกระชับ เช่น Ulthera หรือ Thermage จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ประมาณ 2–4 สัปดาห์หลังทำ และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนใน 1 – 3 เดือน สามารถคงอยู่ได้ประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิว การดูแลตัวเองหลังทำ และอายุของคนไข้ที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น
Q: ลดกรามด้วยหัตถการแบบไม่ผ่าตัด อยู่ได้นานแค่ไหน?
A: ระยะเวลาที่ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นั้นขึ้นกับวิธีที่เลือกใช้ เช่น โบท็อกอยู่ได้ประมาณ 4–6 เดือน, เครื่องกระชับผิวและสลายไขมันอยู่ได้ประมาณ 1 ปี
Q: คนที่กรามใหญ่จากกระดูก ทำหัตถการแบบไม่ผ่าตัดได้ไหม?
A: ในกรณีของคนที่มีปัญหากรามใหญ่จากโครงสร้างกระดูกกราม อาจเห็นผลน้อยหรือไม่เห็นผลเลย เพราะวิธีแก้ปัญหาแบบไม่ผ่าตัดไม่ได้เข้าไปจัดการที่โครงสร้างกระดูกซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาที่แท้จริง
Q: สามารถลดกรามเองที่บ้านได้ไหม เช่น การนวดหน้า หรือทาครีม?
A: วิธีเหล่านี้อาจจะสามารถช่วยดูแลผิวหน้าแบบเบื้องต้นได้ แต่ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นใต้ชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะสามารถสลายไขมัน ลดกล้ามเนื้อให้เล็กลง หรือจัดการโครงสร้างกระดูกกรามได้ แนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละคนมากที่สุด
สรุป
กรามใหญ่เป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้รูปหน้าโดยรวมดูแข็ง ไม่ละมุน และขาดความสมดุล โดยเฉพาะในผู้หญิงอาจทำให้ใบหน้าดูแมนและไม่มั่นใจในตัวเอง สาเหตุของกรามใหญ่มีได้ทั้งจากโครงสร้างกระดูก กล้ามเนื้อไขมันที่สะสมมากเกินไป การเลือกวิธีลดกรามให้เหมาะกับต้นเหตุของปัญหาจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากใครที่ต้องการผลลัพธ์หน้าเรียวถาวรไม่ทำบ่อยๆ เห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงหลังทำ วิธีผ่าตัดกรามจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม หากใครที่มีปัญหาใบหน้าไม่ได้รูปทรง หน้าบาน กรามใหญ่ อยากแก้ไขครั้งเดียวแล้วอยู่ได้ถาวร แนะนำให้เข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อรับการประเมินและวางแผนการรักษาเฉพาะรายบุคคล