ดูดไขมันหัวเข่าเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่หลายคนอาจยังไม่คุ้นเคย ซึ่งสามารถช่วยปรับให้ขาดูเรียวได้สัดส่วนมากขึ้น เพราะไขมันที่สะสมบริเวณนี้เป็นจุดที่ลดได้ยากแม้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การดูดไขมันเฉพาะจุดจึงสามารถช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด เพิ่มความมั่นใจเวลาสวมใส่เสื้อผ้ารัดรูปหรือเสื้อผ้าที่ต้องโชว์เรียวขาสวย ในเนื้อหาต่อไปนี้จะพาไปทำความรู้จักกับการกำจัดไขมันบริเวณหัวเข่าให้มากขึ้นว่าคืออะไร ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง เหมาะกับใคร มีข้อควรรู้อะไรบ้างก่อนตัดสินใจทำ แตกต่างจากการดูดไขมันต้นขาอย่างไรบ้าง Vincent Clinic Plastic Surgery แนะนำให้ติดดามอ่านเพิ่มเติมได้จากรายละเอียดต่อไปนี้ได้เลย
Key Takeaways
- ดูดไขมันหัวเข่า คืออะไร กำจัดไขมันเฉพาะจุดรอบหัวเข่า (ด้านข้าง/หลังเข่า/เหนือเข่า) เพื่อให้ขาดูเรียวและผิวเนียนขึ้น
- ดูดไขมันหัวเข่าช่วยให้ขาเล็กลงได้ เมื่อสาเหตุคือ ไขมันสะสม ไม่ใช่โครงกระดูกหรือกล้ามเนื้อใหญ่
- ดูดไขมันหัวเข่า เหมาะกับใคร คนที่มีไขมันรอบหัวเข่าแม้รูปร่างโดยรวมไม่ใหญ่ ออกกำลังกาย คุมอาหารแล้วไขมันจุดนี้ยังไม่ลด
- ดูดไขมันหัวเข่าไม่เหมาะกับใคร หัวเข่าใหญ่จากโครงกระดูก/กล้ามเนื้อ ผู้ตั้งครรภ์/ให้นมบุตร ผู้มีโรคประจำตัวควบคุมยาก ผิวยืดหยุ่นต่ำมาก หรือมีไขมันน้อยเกินไป
- ดูดไขมันหัวเข่าการพักฟื้น บวม–ช้ำ–ตึงช่วงแรก มักดีขึ้นใน 1 – 2 สัปดาห์ ใส่ชุดกระชับ ตลอด 24 ชม. ประมาณ 1 เดือน
- ดูดไขมันหัวเข่าจะเห็นสัดส่วนเล็กลงชัดเจน ทำครั้งเดียว ไขมันที่ดูดออกไม่กลับมาเดิม แต่หากน้ำหนักขึ้นอาจสะสมใหม่ได้ คงผลลัพธ์ได้นานเมื่อคุมอาหารและออกกำลังกาย
- ดูดไขมันหัวเข่าเพิ่มความชัดเจนของทรงขา มักได้ผลดียิ่งขึ้นเมื่อทำร่วมกับต้นขา สะโพก น่อง เพื่อความสมส่วนทั้งช่วงขา
- ดูดไขมันหัวเข่าไม่ใช่วิธีลดน้ำหนักทั้งตัว แต่เป็นการ “เก็บทรงเฉพาะจุด” ให้เรียวและบาลานซ์ขึ้น
- หลังดูดไขมันหัวเข่ากลับไปออกกำลังเบาๆ ได้ราว 1 – 2 สัปดาห์ เต็มรูปแบบประมาณ 1 เดือน
- ดูดไขมันหัวเข่าราคาประมาณ 25,000 – 45,000 บาท ขึ้นกับเทคนิค ปริมาณไขมัน พื้นที่ และประสบการณ์แพทย์
ดูดไขมันหัวเข่า คืออะไร
ดูดไขมันหัวเข่า (Knee Liposuction) คือ การกำจัดไขมันเฉพาะจุดบริเวณหัวเข่าด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ สอดเข้าไปใต้ชั้นผิวบริเวณหัวเข่าเพื่อเข้าไปทำให้ไขมันแตกตัวเล็กลงเหมาะกับการดูดออกมา โดยเป็นการดูดไขมัน บริเวณรอบๆ หัวเข่า ทั้งด้านข้างหัวเข่า หลังหัวเข่า และเหนือหัวเข่า ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีไขมันส่วนเกินเข้าไปสะสม และลดได้ยาก แม้จะออกกำลังกายอย่างหนัก หรือควบคุมอาหารแต่ไขมันก็ไม่ลดลง ทำให้บริเวณหัวเข่าดูปูดโปนหรือโตคล้ายหัวปลาทอง ผิวไม่เรียบเนียน ทำให้ขาดูตันไม่สมส่วน ไม่มั่นใจเวลาที่ใส่กางเกงรัดรูปหรือเสื้อผ้าที่ต้องโชว์เรียวขา
ดูดไขมันหัวเข่า เหมาะกับใคร?
สำหรับการดูดไขมันหัวเข่า เป็นอีกทางเลือกเสริมที่สามารถทำร่วมกับการดูดไขมันต้นขา เพื่อช่วยปรับให้ขาดูเรียวสวยได้สัดส่วนมากขึ้น จึงเป็นวิธีกำจัดไขมันเฉพาะจุดที่เหมาะกับคนกลุ่มต่อไปนี้
- คนที่มีไขมันสะสมบริเวณรอบหัวเข่า ทำให้ขาดูตัน ขาไม่เรียว
- คนที่มีรูปร่างผอมแต่หัวเข่ายังดูใหญ่จากไขมันสะสม
- คนที่ออกกำลังกายและควบคุมอาหารแล้ว แต่ไขมันที่หัวเข่าไม่ลดลง
- คนที่ต้องการเสริมบุคลิกภาพ โชว์เรียวขาได้อย่างมั่นใจ
- คนที่มีหัวเข่าใหญ่จากปัญหาไขมันส่วนเกินสะสมไม่ใช่จากโครงสร้างกระดูก
ดูดไขมันหัวเข่า ไม่เหมาะกับใคร?
แม้ว่าการดูดไขมันหัวเข่าจะช่วยให้ขาดูเรียวสวยขึ้นได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับหัตถการนี้ เพราะผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดหัวเข่าใหญ่เป็นหลัก หากเกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่ไขมัน การดูดไขมันอาจไม่ช่วยให้เห็นความเปลี่ยนแปลงเท่าที่ควร จึงไม่เหมาะกับคนกลุ่มต่อไปนี้
- ผู้ที่มีหัวเข่าใหญ่จากโครงสร้างกระดูก เช่น กระดูกนูน หรือข้อเข่าโปน เพราะเข่าไม่ได้ใหญ่จากไขมัน
- ผู้ที่คาดหวังเกินจริงว่าดูดไขมันหัวเข่าแล้วขาเรียวขึ้นทันที เนื่องจากการดูดเข่าทำให้ขาเรียวขึ้นจริง แต่ถ้าอยากให้ขาเรียวทั้งหมดต้อง ดูดไขมันขา ด้วย
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เพราะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างดูดไขมัน
- ผู้ที่ตั้งครรภ์ หรือกำลังอยู่ในช่วงให้นมบุตร เพราะอาจเกิดอาการอันตรายระหว่างดูดไขมันได้ ควรเว้นไปก่อน
- ผู้ที่มีภาวะผิดปกติของผิวหนัง ผิวบาง หรือยืดหยุ่นน้อย หรือมีความหย่อนคล้อยมากๆ อาจเสี่ยงผิวไม่เรียบหลังทำ
- ผู้ที่มีไขมันน้อยเกินไป เพราะถ้ามีไขมันไม่เพียงพอจะไม่สามารถดูดไขมันออกมาได้ อาจต้องลดไขมันหัวเข่าด้วยวิธีอื่น
ก่อนดูดไขมันหัวเข่าควรรู้อะไรบ้าง?
ก่อนตัดสินใจดูดไขมันหัวเข่า ควรทำความเข้าใจและศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วนถูกต้องก่อนตัดสินใจทำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดี มีความปลอดภัย ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงตามมา โดยมีสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำดังนี้
- อาจเกิดอาการบวมช้ำบริเวณที่ดูดไขมัน เป็นอาการปกติหลังทำ ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 1 – 2 สัปดาห์ แต่บางรายอาจบวมมากกว่าปกติหรือมีอาการช้ำเป็นเวลานาน
- ผิวไม่เรียบเนียนหรือเป็นคลื่น หากผิวมีความยืดหยุ่นต่ำหรือแพทย์มีประสบการณ์ไม่มากพอ อาจทำให้ผิวบริเวณหัวเข่าดูไม่เรียบเนียนหลังทำ
- เสี่ยงติดเชื้อหากดูแลแผลไม่ถูกวิธี หรือสภาพแวดล้อมไม่สะอาด
- รู้สึกชาหรือเสียวแปลบในผิวหนัง เกิดจากเส้นประสาทเล็ก ๆ รอบบริเวณหัวเข่าถูกกระทบกระเทือน ซึ่งส่วนใหญ่จะหายได้เองในระยะเวลาไม่นาน
- ไม่เห็นผลเท่าที่คาดหวัง หากหัวเข่าใหญ่จากโครงสร้างกระดูก ไม่ใช่ไขมัน การดูดไขมันอาจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้ชัดเจน
ก่อนดูดไขมันหัวเข่าต้องเตรียมตัวอย่างไร?
การเตรียมตัวก่อนดูดไขมันหัวเข่าเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้การทำหัตถการเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ไวขึ้น โดยสามารถเตรียมตัวก่อนทำได้ดังนี้
- ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินร่างกายโดยละเอียด แจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว ยาที่ใช้อยู่ รวมถึงความคาดหวัง เพื่อให้แพทย์วางแผนหัตถการได้เหมาะสม
- งดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ก่อนทำ เพื่อให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานดี และลดความเสี่ยงของการติดเชื้อหรือแผลหายช้า
- งดยา อาหารเสริม หรือวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดก่อนเข้ารับบริการประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ เช่น แอสไพริน วิตามินอี โสม เป็นต้น
- พักผ่อนให้เพียงพอ นอนอย่างน้อยวันละ 7 – 8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงพร้อมสำหรับการดูดไขมัน
- เตรียมเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย เลือกเสื้อผ้าแบบหลวม ไม่รัดเข่า เพื่อไม่ให้ระคายเคืองหลังจากที่ดูดไขมันหัวเข่า
- วางแผนสำหรับการพักฟื้น เพราะในช่วงแรกอาจจะไม่สามารถกลับไปทำงานหรือใช้ชีวิตปกติได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
ขั้นตอนการดูดไขมันหัวเข่า
ดูดไขมันหัวเข่าเป็นวิธีการกำจัดไขมันที่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีตามต้องการและปลอดภัย โดยมีขั้นตอนในการกำจัดไขมันบริเวณหัวเข่า ดังนี้
- รับการประเมินกับแพทย์ เพื่อตรวจดูไขมันบริเวณหัวเข่า ประเมินรูปร่างโดยรวม และดูว่าสามารถดูดไขมันออกได้มากน้อยแค่ไหน
- วางแผนการดูดไขมันร่วมกับแพทย์ พูดคุยถึงความต้องการของคนไข้ พร้อมกำหนดตำแหน่งที่จะดูดไขมัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สวย มีความเป็นธรรมชาติ ตรงตามความต้องการและเหมาะกับสรีระของคนไข้มากที่สุด
- ในวันที่ทำการดูดไขมันจะมีการพบแพทย์อีกครั้งเพื่อทบทวนแผนการรักษาอีกครั้ง ว่ามีส่วนไหนต้องการปรับเปลี่ยนหรือไม่ หลังจากนั้นจะมีการวาดตำแหน่งที่จะดูดไขมันตามที่ได้กำหนดไว้ตั้งแต่ต้น
- เมื่อพร้อมแล้วจะมีการดมยาสลบโดย วิสัญญีแพทย์ เพื่อไม่ให้คนไข้รู้สึกเจ็บในระหว่างทำ
- เมื่อยาสลบออกฤทธิ์แพทย์จะทำความสะอาดผิวในตำแหน่งที่จะดูดไขมัน หลังจากนั้นจึงเปิดแผลขนาดเล็กเพื่อสอดหัวดูดไขมันเข้าไป ทำให้ไขมันแตกตัวเล็กลงและดูดออกมา
- หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการดูดไขมันแพทย์จะเย็บปิดแผล และรอจนกว่ายาสลบจะหมดฤทธิ์ เมื่อคนไข้ฟื้นก็สามารถกลับบ้านได้เลย
วิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมันหัวเข่า
หลังจากดูดไขมันหัวเข่าเรียบร้อยแล้ว การดูแลตัวเองในช่วงพักฟื้นถือเป็นหัวใจสำคัญที่ส่งผลต่อผลลัพธ์โดยตรง เพราะแม้จะดูดไขมันออกไปแล้ว แต่หากไม่ดูแลอย่างถูกวิธี ก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหรือความเสี่ยงอื่น ๆ ตามมา ทั้งยังอาจทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ช้าตามไปด้วย จึงแนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนี้
- ใส่ชุดกระชับสัดส่วนอย่างต่อเนื่อง โดยปกติต้องใส่ตลอด 24 ชั่วโมงในช่วง 1 เดือนแรกหลังทำ เพื่อช่วยให้ผิวกระชับ ลดบวม และป้องกันผิวไม่เรียบ
- งดออกกำลังกายหนัก หรือกิจกรรมหนักๆ ในช่วงสัปดาห์แรก ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้หัวเข่าเกิดแรงกดหรือใช้งานหนักเกินไป
- ควรเดินหรือขยับร่างกายบ่อยๆ อย่านอนเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันลิ่มเลือดอุดตันในเส้นเลือด
- นอนยกขาสูงเล็กน้อยเพื่อช่วยลดอาการบวมและทำให้ของเหลวในร่างกายไหลเวียนดีขึ้น
- หมั่นทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์ ระวังไม่ให้แผลโดนน้ำในช่วงแรก และหลีกเลี่ยงการแกะหรือเกา
- งดแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังทำ เพื่อให้แผลหายไว และลดความเสี่ยงการเกิดแผลเป็น
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบ และเข้าพบแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้ง
- หากมีความผิดปกติ เช่น มีอาการบวมรุนแรง แผลติดเชื้อควรพบแพทย์ทันที เพื่อทำการแก้ไข
การดูดไขมันหัวเข่าช่วยอะไร?
การดูดไขมันหัวเข่าสามารถปรับสัดส่วนช่วงขาให้ดูเรียวยาว สมส่วน และเสริมบุคลิกภาพโดยรวมให้ดูดีขึ้นอย่างชัดเจน เหมาะกับคนที่ต้องการลุคขาเรียวใส่กระโปรงหรือกางเกงขาสั้นได้อย่างมั่นใจ โดยการดูดไขมันบริเวณหัวเข่าช่วยได้หลายเรื่องดังนี้
- ช่วยปรับรูปทรงขาให้ดูเรียวเล็ก เมื่อไขมันรอบหัวเข่าถูกกำจัดออก ทำให้ขาไม่ตัน ผิวเรียบเนียนมากขึ้น
- แก้ปัญหาหัวเข่าใหญ่จากไขมันสะสมโดยตรง เป็นวิธีที่ตอบโจทย์คนที่ออกกำลังกายแล้วแต่ไขมันหัวเข่าไม่ลด
- หัวเข่ามีแผลขนาดเล็ก แผลจะถูกซ่อนไว้ในตำแหน่งที่สังเกตได้ยาก หากดูแลแผลตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะทำให้แผลจางลงจนแทบมองไม่เห็น
- ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัว ใส่กระโปรง ขาสั้น ชุดว่ายน้ำ หรือกางเกงรัดรูปได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
- ลดไขมันในการทำครั้งเดียว เห็นผลชัดเจน โดยหลังทำจะสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนที่เล็กลงได้ หากดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง เช่น ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร เป็นต้น จะช่วยให้ผลลัพธ์ขาเรียวสวยคงอยู่ได้นานขึ้น
ทำไมบางคนดูดไขมันหัวเข่าแล้วขายังใหญ่?
หลายคนคาดหวังว่าหลังดูดไขมันหัวเข่าแล้วจะได้เรียวขาที่เล็กลงทันที แต่ในบางกรณีกลับพบว่า บริเวณหัวเข่ายังดูใหญ่หรือไม่เปลี่ยนแปลงอย่างที่หวัง ซึ่งอาจทำให้เกิดความกังวลใจหรือเข้าใจผิดเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ได้ ซึ่งสาเหตุอาจไม่ได้มาจากความผิดพลาดในการดูดไขมัน แต่เกิดจากปัจจัยอื่น ดังนี้
- สาเหตุจากโครงสร้างกระดูก หรือกล้ามเนื้อ เดิมของคนไข้มีขนาดใหญ่และมีปริมาณมากกว่าไขมัน การดูดไขมันจึงทำให้สัดส่วนบริเวณหัวเข่าและขาดูเล็กลงได้เพียงเล็กน้อย
- มีไขมันกระจายหลายจุดไม่ได้อยู่แค่รอบหัวเข่า แต่อยู่บริเวณต้นขา น่อง หลังหัวเข่า หรือข้อพับ เป็นต้น หากดูดไขมันแค่ตำแหน่งเดียว อาจทำให้ไม่สมส่วนและหัวเข่ายังดูใหญ่อยู่ได้เช่นกัน
- อาการบวมหลังทำ ซึ่งอาจทำให้ขาและหัวเข่าดูใหญ่ในช่วงแรก ต้องรอให้ร่างกายฟื้นตัวเต็มที่ เมื่ออาการบวมหายไปจะเห็นผลลัพธ์ของขาที่เขียวขึ้น หัวเข่าที่เล็กลง
- ไม่ได้ใส่ชุดกระชับอย่างต่อเนื่องหรือใส่ไม่ถูกวิธี อาจทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่เต็มที่ และผิวไม่กระชับเรียบเนียน
- ไม่ได้ควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย เมื่อไขมันกลับมาอาจกลับไปสะสมบริเวณหัวเข่าเหมือนเดิม ทำให้หัวเข่าดูใหญ่
ดูดไขมันหัวเข่าควรทำร่วมกับจุดไหนอีกบ้าง?
การดูดไขมันหัวเข่าเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอ หากต้องการให้เรียวขาดูสมส่วน สวยได้รูปอย่างเป็นธรรมชาติ หลายกรณีแพทย์จะแนะนำให้ดูดไขมันบริเวณอื่นร่วมด้วย เพื่อให้รูปร่างโดยรวมสมดุลมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมผลลัพธ์ให้สวยเด่นชัด ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความไม่สมส่วนของสัดส่วนช่วงล่างอีกด้วย โดยมีจุดที่สามารถกำจัดไขมันร่วมกันได้ ดังนี้
- ดูดไขมันต้นขาด้านใน เป็นจุดที่ไขมันมักสะสมเยอะ ทำให้ขาดูชิดหรือเบียด การดูดร่วมกับหัวเข่าช่วยให้เรียวขาดูเรียวยาวขึ้น ต้นขาไม่ดูตัน
- ดูดไขมันต้นขาด้านนอก หรือที่เรียกว่าปีกสะโพกหากมีไขมันสะสมด้านข้างจะทำให้ขาดูบาน ดูไม่สมส่วน การดูดจุดนี้ร่วมกันจะช่วยปรับรูปขาให้เรียวและเป็นทรงมากขึ้น ไม่ทำให้รูปร่างดูหนาเทอะทะ
- ดูดไขมันสะโพก หากสะโพกมีไขมันส่วนเกินมาก อาจทำให้เรียวขาช่วงล่างดูแน่น ขาตัน เนื้อดูเผละ หากทำร่วมกับการดูดไขมันหัวเข่าจะทำให้ได้สรีระช่วงล่างบริเวณขาสมส่วนมากขึ้น
- ดูดไขมันน่อง จะช่วยทำให้ช่วงขาจากบริเวณหัวเข่าที่เชื่อมลงมามีความสมส่วน ดูเรียวเล็ก ขาสวยมากขึ้น
- ดูดไขมันหน้าท้อง และเอว การดูดไขมันบริเวณลำตัวอย่างหน้าท้องและเอว จะช่วยให้ลำตัวเพรียวบางลง แก้ปัญหาตัวตันและตัวหนาให้น้อยลง สมส่วนกับบริเวณช่วงล่างที่มีความเรียวเล็ก เห็นส่วนเว้า ส่วนโค้ง ที่ชัดเจนมากขึ้น
ดูดไขมันหัวเข่า อันตรายไหม? มีผลข้างเคียงหรือไม่?
สำหรับการดูดไขมันหัวเข่า หากอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีและมีความปลอดภัย ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงร้ายแรงให้น้อยลง สามารถแก้ปัญหาได้อย่างแม่นยำ ตรงจุด ตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้ได้อย่างครอบคลุม
ดูดไขมันหัวเข่า กับ ดูดไขมันต้นขา ต่างกันอย่างไร?
หลายคนอาจสงสัยว่าระหว่างการดูดไขมันหัวเข่าและต้นขา มีความแตกต่างกันอย่างไร เพราะทั้งสองจุดต่างก็เกี่ยวข้องกับรูปร่างช่วงขาโดยตรง แต่ในความจริงแล้ว ทั้งตำแหน่ง เทคนิค และเป้าหมายของการดูดไขมันในแต่ละจุดนั้นมีรายละเอียดที่ต่างกันอย่างชัดเจน การเลือกทำในจุดที่เหมาะสมกับปัญหาจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยมีรายละเอียดของความแตกต่างกัน ดังนี้
- ดูดไขมันต้นขา เป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมบริเวณต้นขาด้านใน ด้านนอก หรือด้านหลัง เหมาะกับผู้ที่มีไขมันปริมาณมากจนทำให้ขาดูใหญ่ ขาเบียด หรือใส่เสื้อผ้าแล้วรู้สึกอึดอัด ช่วยลดขนาดขาได้อย่างชัดเจน ทำให้รูปร่างโดยรวมดูเพรียวขึ้น
- ดูดไขมันหัวเข่า เป็นการกำจัดไขมันบริเวณโดยรอบหัวเข่าเหมาะกับผู้ที่รูปร่างโดยรวมไม่ใหญ่มาก แต่มีไขมันสะสมเฉพาะจุดบริเวณรอบหัวเข่า เช่น ดูดไขมันเหนือหัวเข่า ดูดไขมันด้านข้างหัวเข่า หรือดูดไขมันหลังหัวเข่า หรือมีลักษณะเหมือนหัวปลาทอง ซึ่งเป็นจุดที่ลดได้ยาก ช่วยทำให้ขาเรียวเล็ก มีความสมส่วนมากขึ้น สามารถทำร่วมกับการดูดไขมันบริเวณต้นขา หรือดูดไขมันเฉพาะจุดในตำแหน่งอื่นได้
ดูดไขมันหัวเข่า ราคาเท่าไหร่?
ราคาการดูดไขมันหัวเข่าโดยทั่วไปจะเริ่มต้นที่ประมาณ 25,000 – 45,000 บาท ทั้งนี้ราคาจะแตกต่างกันไปตามเทคนิคที่ใช้ ตำแหน่งที่ทำ ปริมาณไขมันที่ต้องเอาออก ระดับปัญหาของคนไข้ และประสบการณ์ของแพทย์แนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อรับการประเมินและวางแผนการรักษาเฉพาะรายบุคคล
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการดูดไขมันหัวเข่า
สำหรับใครที่กำลังสนใจการดูดไขมันหัวเข่า แต่ยังมีข้อสงสัยหรือกังวลใจเกี่ยวกับขั้นตอน ความปลอดภัย ผลลัพธ์ หรือการพักฟื้น การศึกษาคำถามที่พบบ่อยจะช่วยให้เข้าใจหัตถการนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้นว่าการดูดไขมันหัวเข่าตอบโจทย์รูปร่างและความต้องการของตนเองหรือไม่ ด้านล่างนี้คือคำถามที่มักถูกถามบ่อยพร้อมกับคำตอบ ดังนี้
Q: ดูดไขมันหัวเข่าเหมาะกับคนที่มีน้ำหนักเกินหรือไม่?
A: สำหรับการกำจัดไขมันบริเวณหัวเข่าเหมาะกับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินสะสมบริเวณหัวเข่าเยอะ ๆ ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นคนผอมหรือมีน้ำหนักเกิน หากมีไขมันที่มากพอกับการกำจัดก็สามารถทำได้ แต่ไม่ได้เป็นวิธีที่ใช้ในการลดน้ำหนัก
Q: หลังดูดไขมันหัวเข่า เดินได้ปกติเลยหรือไม่?
A: สามารถเดินได้ตามปกติทันทีหลังทำ แต่อาจรู้สึกตึงหรือบวมเล็กน้อยในช่วง 1 – 3 วันแรก แนะนำให้หลีกเลี่ยงการออกแรงหนักและต้องใส่ชุดกระชับอย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์แนะนำ
Q: ดูดไขมันหัวเข่าควรทำร่วมกับจุดอื่นหรือไม่?
A: หากต้องการให้ขาดูเรียวยิ่งขึ้น อยากได้สรีระที่มีความสมดุลได้สัดส่วนที่สวยงามมากขึ้น สามารถทำร่วมกับการดูดไขมันในตำแหน่งอื่น ๆ เช่น ดูดไขมันต้นขา ดูดไขมันสะโพก ดูดไขมันน่อง เป็นต้น ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ให้เหมาะกับคนไข้แต่ละคน
Q: ดูดไขมันหัวเข่าทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยได้ไหม?
A: โดยทั่วไปไม่ทำให้หย่อนคล้อย หากคนไข้ยังมีผิวที่ยืดหยุ่นดี แต่ในบางกรณีที่ผิวหนังบางหรืออายุมาก อาจต้องพิจารณาทำหัตถการยกกระชับผิวร่วมด้วย
Q: สามารถกลับไปออกกำลังกายได้เมื่อไหร่?
A: โดยทั่วไปสามารถเริ่มออกกำลังกายเบา ๆ ได้หลังจากผ่านไปประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ และออกกำลังเต็มรูปแบบได้ประมาณ 1 เดือนหลังดูดไขมัน ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของคนไข้และการประเมินของแพทย์
Q: ผลลัพธ์ของการดูดไขมันหัวเข่าอยู่ได้นานแค่ไหน?
A: หากควบคุมน้ำหนักได้ดี ออกกำลังกายเป็นประจำ ควบคุมอาหาร ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานหลายปี เพราะไขมันที่ถูกดูดออกไปจะไม่กลับมาใหม่ แต่หากน้ำหนักขึ้นอาจเกิดไขมันสะสมเพิ่มเติมได้
สรุป
ดูดไขมันหัวเข่าสามารถช่วยกำจัดไขมันเฉพาะจุดรอบหัวเข่าซึ่งมักเป็นจุดที่ลดได้ยาก แม้จะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายแล้วก็ตาม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปขาให้เรียวสวย สมส่วนมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่หัวเข่าดูใหญ่จากไขมันสะสมไม่ใช่โครงสร้างกระดูก ช่วยให้อวดเรียวขาสวยได้อย่างมั่นใจเวลาใส่กางเกงรัดรูป กางเกงขาสั้น หรือกระโปรงสั้น นอกจากนั้นยังสามารถทำร่วมกับบริเวณอื่น เช่น ต้นขา สะโพก หรือน่อง ได้อีกด้วย เพื่อให้ได้เรียวขาที่สวยสมส่วน รูปร่างที่สมดุล สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องไขมันสะสมตามร่างกายเยอะ อยากดูแลรูปร่างและลดสัดส่วนอย่างเห็นผลชัดเจน รวดเร็ว โดยไม่ต้องออกกำลังกาย แนะนำให้เข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อรับการประเมินปัญหา วิเคราะห์สรีระ และออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล