vincent.jpg.png
vc_3.png
Vincent Clinic Bangkok Plastic Surgery
คลินิกศัลยกรรมความงาม ดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit
บทความ
ดึงหน้าสำหรับอายุ 40+ 50+ 60+ ต่างกันอย่างไร ใช้เทคนิคอะไรบ้าง?
แชร์ :

ดึงหน้าสำหรับอายุ 40+ 50+ 60+ ต่างกันอย่างไร ใช้เทคนิคอะไรบ้าง?

ดึงหน้า สำหรับอายุ 40+ 50+ 60+
อยากรู้เรื่องอะไร? คลิกที่หัวข้อได้เลย!

Key Takeaways

  • การดึงหน้าเป็นวิธีแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้อย่างเห็นผล ช่วยให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์
  • เทคนิคที่เหมาะสมจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละช่วงวัย เช่น Mini Facelift สำหรับวัย 40+, Full Facelift สำหรับวัย 50+, และ Deep Plane Facelift สำหรับวัย 60+
  • สามารถเสริมผลลัพธ์การดึงหน้าด้วยเทคนิคอื่น เช่น เติมไขมัน ฉีดฟิลเลอร์ ตัดหนังตา หรือยกคิ้ว เพื่อผลลัพธ์ใบหน้าที่อ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
  • ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์ เลือกเทคนิคที่เหมาะกับโครงสร้างใบหน้า แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีและปลอดภัย

ดึงหน้าสำหรับอายุ 40+ 50+ 60+ เป็นการศัลยกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้าในแต่ละช่วงวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ในหลายตำแหน่งบนใบหน้า สามารถช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมากระชับเต่งตึง แลดูอ่อนเยาว์ได้มากขึ้น สำหรับคนที่ยังสงสัยว่าเทคนิคนี้คืออะไร แต่ละช่วงวัยมีปัญหาอะไรบ้าง และควรแก้ไขอย่างไร การดึงหน้าเหมาะกับใคร เทคนิคในการดึงหน้ามีอะไรบ้าง หลังทำควรดูแลอย่างไร Vincent Clinic Plastic Surgery แนะนำให้ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้จากเนื้อหาต่อไปนี้

ดึงหน้าคืออะไร? ทำไมช่วงอายุ 40+ ขึ้นไปถึงเริ่มนิยม?

ดึงหน้า (Face Lift) คือ ศัลยกรรมที่ช่วยยกกระชับผิวหน้า ปรับโครงสร้างใบหน้า แก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย ร่องลึก และความเหี่ยวย่นที่เกิดขึ้นตามวัย โดยแพทย์จะทำการยกผิวหนังและชั้นกล้ามเนื้อใบหน้าให้ตึงขึ้น เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียน และได้สัดส่วนที่สมดุลมากขึ้น สามารถเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนหลังทำ โดยได้รับความนิยมในกลุ่มคนวัย 40 ปีขึ้นไป เพราะผิวเริ่มเสื่อมสภาพมากขึ้น คอลลาเจน และอีลาสตินลดลง จึงเกิดปัญหาที่ชัดเจน มีความรุนแรงที่มากกว่าคนอายุน้อย การดึงหน้าจึงสามารถช่วยแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อายุ 40+ ควรดึงหน้าหรือยัง? เทคนิคที่เหมาะสมคืออะไร?

สำหรับการดึงหน้าอายุ 40 ปีขึ้นไป เป็นช่วงวัยที่มีความเหมาะสมเพราะร่างกายจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจน และอีลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวหย่อนคล้อย แก้มห้อย ร่องแก้มลึก เหนียงเริ่มชัด คิ้วตก และใบหน้าโดยรวมดูแก่กว่าวัย ไม่สดใสเหมือนเดิม โดยเทคนิคที่ได้รับความนิยมและเหมาะสมจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาความหย่อนคล้อย สภาพผิว และความต้องการของคนไข้ที่แตกต่างกัน ซึ่งแพทย์จะประเมินเพื่อเลือกใช้ให้เหมาะกับรายบุคคล ดังนี้

  • Mini Facelift ในกรณีของคนที่มีปัญหาความหย่อนเล็กน้อยหรือปานกลาง สามารถเลือกดึงหน้าเฉพาะบางส่วน เช่น ดึงขมับ ดึงแก้ม หรือดึงเหนียง เป็นต้น
  • Full Facelift ในกรณีของคนที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก อาจเหมาะกับการดึงหน้าแบบเต็มรูปแบบ ที่ดึงทั้งใบหน้าและลำคอ เพื่อยกกระชับทั้งหมด
  • นวัตกรรมยกกระชับ คนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยไม่เยอะหรือยังไม่พร้อมจะผ่าตัด สามารถเลือกใช้เครื่องยกกระชับ เช่น Ulthera SPT, Ultraformer III หรือ Thermage FLX เป็นต้น
  • สามารถทำร่วมกับเทคนิคอื่น เช่น เติมไขมันที่หน้า ตัดหนังตา ฉีดฟิลเลอร์ เพื่อปรับสมดุลของใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น

อายุ 50+ ผิวเริ่มเปลี่ยนมากขึ้น ดึงหน้าวิธีไหนดีที่สุด?

ในส่วนของการดึงหน้าของคนวัย 50 ปีขึ้นไป อาจจะต้องเน้นไปที่การดึงหน้าแบบ Full Facelift เพราะผิวมีความหย่อนคล้อยหนัก ร่องแก้มลึก ร่องมุมปากชัด แก้มตอบ คิ้วตก หนังตาหย่อน เหนียงเห็นชัด และผิวโดยรวมขาดความกระชับ การดูแลด้วยหัตถการแบบไม่ผ่าตัดหรือ Mini facelift อาจจะไม่เพียงพอ จึงต้องใช้เทคนิคที่ดึงได้ลึกถึงชั้น SMAS ได้แก่

  • ดึงหน้า Full Facelift ซึ่งจะช่วยยกกระชับทั้งใบหน้าและลำคอได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแพทย์จะทำการเลาะชั้นผิวและดึงชั้น SMAS ให้ตึงเพื่อเย็บไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่การดึงผิวชั้นนอกเพียงเท่านั้น ทำให้ได้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นานหลายปี และสามารถปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ได้อย่างเห็นผล
  • สามารถทำร่วมกับเทคนิคอื่น เช่น ตัดหนังตา ฉีดสารเติมเต็ม เพื่อช่วยทำให้ใบหน้ามีความอวบอิ่ม เต่งตึง แลดูอ่อนเยาว์มากขึ้น

อายุ 60+ ยังดึงหน้าได้อยู่ไหม? สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกทำ

การดูแลตัวเองด้วยการดึงหน้าของคนวัย 60 ปีขึ้นไป สามารถช่วยให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ลงได้ หากร่างกายยังแข็งแรงและไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง เพราะในวัยนี้ปัญหาความหย่อนคล้อยมักรุนแรงกว่าช่วงวัยอื่น ทั้งผิวหย่อนลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ ร่องลึกทั่วใบหน้า ผิวบาง และขาดความกระชับทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ การดึงหน้าด้วยเทคนิคที่ลึกและครอบคลุมมากขึ้นจึงเป็นคำตอบที่ช่วยยกใบหน้าให้ดูสดใสขึ้นอีกครั้ง แต่ต้องอาศัยการประเมินอย่างละเอียดและเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับวัย โดยมีเทคนิคที่เหมาะสมกับคนวัยเลข 6 ได้แก่

  • Deep Plane Facelift เป็นการดึงหน้าที่ลงลึกกว่าวิธีดึงหน้าแบบปกติ โดยเลาะชั้นผิวลึกลงไปถึงชั้นกล้ามเนื้อ SMAS และชั้นเส้นเอ็นที่ทำหน้าที่ยึดกระดูกกับเนื้อเยื่อไว้ด้วยกัน แพทย์จึงสามารถยกกระชับโครงสร้างใบหน้าได้ลึกกว่า ปรับรูปหน้าและยกกระชับได้อย่างเห็นผล ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ตึงจนแข็ง และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนวัย 60+ ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก เช่น แก้มห้อย เหนียงชัด ร่องลึกทั่วใบหน้า หรือผิวหนังใต้คางหย่อนมาก เทคนิคนี้ช่วยฟื้นโครงหน้าดั้งเดิม คืนมิติใบหน้า และช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ลงได้อย่างชัดเจน
  • สามารถทำร่วมกับเทคนิคอื่น เช่น ดึงลำคอ ฉีดไขมันหน้า ฉีดฟิลเลอร์ หรือตัดหนังตา

ดึงหน้าแต่ละเทคนิคเหมาะกับช่วงอายุไหน

ดึงหน้าแต่ละเทคนิค เหมาะกับช่วงอายุไหน?

การดึงหน้าในแต่ละช่วงวัย 40+ 50+ หรือ 60+ มีความแตกต่างกันออกไปเนื่องจากใบหน้าจะเปลี่ยนแปลงไปในระดับที่ไม่เท่ากัน ทั้งความหย่อนคล้อย ความลึกของร่องแก้ม โครงสร้างผิว และปริมาณไขมันใต้ผิว การเลือกเทคนิคดึงหน้าจึงควรพิจารณาให้เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละช่วงอายุ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติและตอบโจทย์มากที่สุด โดยเปรียบเทียบให้เห็นภาพที่ชัดเจนได้ดังนี้

เทคนิค ขั้นตอน ช่วงอายุ เหมาะกับ ผลลัพธ์
ดึงหน้า Mini Facelift ดึงหน้าเฉพาะบางส่วน เช่น แก้มล่าง กรอบหน้า เป็นต้น  แผลเล็ก ฟื้นตัวไว 35 – 45 ปี ผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย ต้องการยกกระชับแบบธรรมชาติ คงอยู่ได้ประมาณ 3 – 5 ปี
ดึงหน้า Full Facelift ดึงทั้งใบหน้าและลำคอ แก้ไขชั้นผิวลึกถึงชั้น SMAS 45 – 55 ปี ผิวหย่อนคล้อยระดับกลางถึงมาก เหนียงชัด ร่องลึก คงอยู่ได้ประมาณ 7 – 10 ปี
ดึงหน้า Deep Plane Facelift ดึงหน้าลึกลงไปถึงชั้น SMAS และเส้นเอ็นที่อยู่ลึกกว่า SMAS ซึ่งยึดกระดูกกับเนื้อเยื่อด้านบนเอาไว้ สามารถจัดเรียงชั้นผิวและยกกระชับโครงสร้างใบหน้าได้ทั้งหมด 55 ปีขึ้นไป ผิวหย่อนคล้อยมาก โครงหน้าเปลี่ยนชัด ต้องการผลลัพธ์ยาวนานและเป็นธรรมชาติ คงอยู่ได้ประมาณ 10 – 15 ปี

**ตารางนี้เป็นการเปรียบเทียบเบื้องต้น ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล

เทคนิคที่ช่วยเสริมผลลัพธ์การดึงหน้าในแต่ละช่วงวัยให้ดีขึ้น

การดึงหน้าในแต่ละช่วงวัยแม้จะช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างเห็นผลชัดเจนและมีประสิทธิภาพ แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากปัจจัยอื่นได้ เช่น ผิวหมองคล้ำ หน้าตอบ ผิวไม่อิ่มฟูขาดวอลลุ่ม ริ้วรอยร่องลึกแบบถาวร หรือต้องการคงผลลัพธ์ความยกกระชับให้อยู่นานขึ้น เป็นต้น สามารถที่จะเลือกใช้เทคนิคเสริมอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหา ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครอบคลุม

  • ฉีดเติมไขมัน (Fat Grafting) ช่วยแก้ปัญหาใบหน้าซูบตอบ เช่น แก้มตอบ ขมับลึก หรือใต้ตาเว้า เพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้าดูอิ่มฟูอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่มีไขมันใต้ผิวลดลงตามวัย และต้องการใบหน้าที่อ่อนเยาว์ละมุนสวย
  • ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ใช้เติมร่องลึกเฉพาะจุดที่การดึงหน้าไม่สามารถแก้ได้โดยตรง เช่น ร่องแก้ม ร่องมุมปาก หรือใต้ตา ช่วยเติมเต็มให้ใบหน้าดูเรียบเนียน และลดความแข็งของโครงหน้าให้ดูนุ่มนวลขึ้น ทั้งยังสามารถช่วยเติมวอลลุ่มได้อีกด้วย เช่น ริมฝีปาก แก้มตอบ ใต้ตา เป็นต้น
  • ตัดหนังตา เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังตาตกลงมาปิดทับตาดำมากเกินไป หรือเปลือกตาหย่อนคล้อย  ทำให้ดวงตาดูอ่อนล้า แม้ดึงหน้าแล้วแต่ดวงตายังดูเหนื่อย หัตถการนี้จะช่วยให้ใบหน้าดูสดใส ตาโตขึ้น
  • ยกคิ้ว สำหรับผู้ดึงหน้าแล้วแต่คิ้วยังตก การยกคิ้วจะช่วยเปิดดวงตาและปรับมิติของใบหน้าให้ดูสดใสขึ้น
  • ดึงคอ (Neck Lift) เมื่ออายุมากขึ้นผิวบริเวณคอมักหย่อนคล้อยตามใบหน้า การดึงคอร่วมกับการดึงหน้าจะช่วยให้แนวกรอบหน้าชัด คอไม่เหี่ยวย่น เป็นธรรมชาติ สมดุลกับใบหน้าที่ยกกระชับ
  • เลเซอร์ฟื้นฟูผิว แม้จะดึงหน้าแล้วยกกระชับได้ แต่ผิวอาจยังดูไม่เรียบเนียน มีจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ รูขุมขนกว้าง การทำเลเซอร์จะช่วยจัดการริ้วรอยเล็ก ๆ ปรับสีผิวให้กระจ่างใสสม่ำเสมอ กระชับรูขุมขน และให้ผิวดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
  • Ulthera เทคโนโลยียกกระชับใบหน้าด้วยคลื่นเสียง (Focused Ultrasound) ที่ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการดึงหน้าแบบผ่าตัด เหมาะสำหรับเสริมผลลัพธ์หลังดึงหน้าให้ตึงนานขึ้น หรือใช้ดูแลผิวรอบกรอบหน้า คอ หรือแนวขมับให้เฟิร์มมากขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดเพิ่ม
  • Thermage เทคโนโลยีที่ใช้คลื่นวิทยุ RF (Radio Frequency) ปล่อยลงสู่ชั้นผิวเพื่อเข้าไปสลายไขมัน ช่วยให้ผิวกระชับ กระตุ้นคอลลาเจน ผิวเรียบเนียน ใบหน้าเรียวสวย

ก่อนดึงหน้าในแต่ละช่วงวัยควรเตรียมตัวอย่างไร?

ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุเท่าไร ก่อนการดึงหน้าควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ารับบริการ เพื่อช่วยให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดี โดยสามารถเตรียมตัวก่อนรับบริการได้ดังนี้

  • ปรึกษากับแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อรับการประเมินปัญหา วิเคราะห์โครงสร้างใบหน้า และออกแบบการรักษาที่เหมาะกับรายบุคคล
  • ตรวจสุขภาพร่างกายอย่างละเอียด โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุมาก หรือมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ เพื่อความปลอดภัยในระหว่างการผ่าตัด
  • งดยา วิตามิน และอาหารเสริมบางชนิด โดยเฉพาะยาที่ส่งผลกับการแข็งตัวของเลือด ก่อนผ่าตัดประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
  • งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพราะส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดและการฟื้นตัวของร่างกาย ทำให้แผลหายช้า
  • พักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันผ่าตัด เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดี และพร้อมรับการผ่าตัด
  • จัดเตรียมเวลาสำหรับพักฟื้น หลังผ่าตัดดึงหน้าเสร็จต้องพักฟื้น และดูแลแผลให้สะอาดจึงควรเตรียมวัน และสภาพแวดล้อมสำหรับการพักฟื้นหลังผ่าตัด
  • งดแต่งหน้า ทาครีม หรือใส่เครื่องประดับในวันผ่าตัด เพื่อความสะอาดและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

หลังดึงหน้าควรดูแลอย่างไรให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน?

หลังการดึงหน้า ควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้แผลหายไว ใบหน้าเข้าที่ไวขึ้น ไม่เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงตามมา โดยสามารถดูแลตัวเองหลังทำได้ดังนี้

  • ประคบเย็นเบาๆ รอบใบหน้า ในช่วง 3 วันแรกสามารถประคบเย็นได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงตำแหน่งแผล เพื่อลดอาการบวมให้ยุบเร็วขึ้น
  • ควรนอนหงายและหนุนหมอนสูง เพื่อช่วยลดอาการบวมและป้องกันการกดทับบริเวณใบหน้า
  • หลีกเลี่ยงการกระแทกหรือสัมผัสแรงๆ เพื่อลดอาการอักเสบ ติดเชื้อ ควรเลี่ยงการสัมผัสบริเวณใบหน้า และแผลผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • งดออกกำลังกายหนัก ยกของหนัก หากทำกิจกรรมที่ออกแรงเยอะๆ อาจเกิดอาการอักเสบได้ ควรงดไปก่อนอย่างน้อย 2 – 4 สัปดาห์ 
  • ห้ามให้แผลโดนน้ำ ในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรก และควรทำความสะอาดแผลด้วยวิธีที่แพทย์แนะนำเท่านั้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • ใส่ผ้ารัดหน้าตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ใบหน้าเข้ารูป กระชับ และลดการบวม ควรใส่ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ 
  • หลีกเลี่ยงการใช้สายตาหรือการจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน เช่น จ้องมือถือหรือคอมพิวเตอร์ เพราะอาจทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าตึงมากเกินไป
  • รับประทานอาหารที่ช่วยฟื้นฟูผิวและช่วยสมานแผล เช่น อาหารที่มีวิตามินซี วิตามินอี และโปรตีนสูง เพื่อช่วยเร่งการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
  • งดอาหารแสลง เช่น อาหารหมักดอง อาหารทะเล อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาจกระตุ้นให้แผลอักเสบหรือเกิดการติดเชื้อ
  • รับประทานยาให้ครบ และเข้าพบแพทย์ตามนัดหมาย เพื่อประเมินอาการ ตัดไหม และติดตามผลการรักษาอย่างสม่ำเสมอ

ราคาดึงหน้าในแต่ละช่วงวัย

ราคาการดึงหน้าจะแตกต่างกันตามช่วงอายุ เทคนิคที่ใช้ ระดับความหย่อนคล้อยของผิวที่แตกต่างกัน และประสบการณ์ของแพทย์ โดยผู้ที่อายุน้อยผิวมีปัญหาไม่เยอะสามารถเลือกใช้เทคนิคที่ไม่ซับซ้อนมาก ดึงหน้าเฉพาะจุด ดึงผิวชั้นตื้นได้ โดยราคาทั่วไปจะเริ่มที่ประมาณ 25,000 – 400,000 บาท เรียงตามความซับซ้อนของปัญหาและเทคนิคที่เลือกใช้ แนะนำให้เข้าปรึกษากับแพทย์โดยตรง เพื่อรับการประเมินที่ตรงจุดและวางแผนการรักษาเฉพาะรายบุคคล

ดึงหน้าตอนอายุเท่าไหร่ดีสุด

ดึงหน้าอายุเท่าไรดีที่สุด? ถ้ารอช้าจะเป็นอย่างไร

สำหรับช่วงอายุที่เหมาะสมกับการดึงหน้านั้นจะอยู่ที่ประมาณ 35 ปีขึ้นไป เนื่องจากปัญหาความหย่อนคล้อยและริ้วรอยจะเริ่มเห็นชัดมากขึ้น นอกจากนั้นยังขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของปัญหาแต่ละคนที่แตกต่างกันด้วย หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รีบทำการรักษาหรือดูแล ปัญหาจะลุกลามหนักขึ้นจนแก้ไขได้ยากหรือต้องใช้เทคนิคการผ่าตัดที่ซับซ้อนมากขึ้นกว่าตอนแรก สำหรับในบางคนที่อายุ 35 ปี แต่ความหย่อนคล้อยไม่มีหรือเกิดขึ้นน้อยมาก อาจเลือกยกกระชับหน้าแบบไม่ผ่าตัดแทนได้เช่นกัน 

สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : ดึงหน้าตอนอายุเท่าไหร่ดีที่สุด มีข้อควรรู้ก่อนทำอย่างไรบ้าง?

ทำไมบางคนดึงหน้าแล้วไม่เห็นผล?

แม้ว่าการดึงหน้าจะเป็นการผ่าตัดยกกระชับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด แต่ในบางกรณีผลลัพธ์กลับไม่ชัดเจนอย่างที่คาดหวัง ซึ่งสาเหตุหลักมักเกิดจากการเลือกเทคนิคที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวหรือปัญหาที่แท้จริง เช่น ใช้เทคนิคดึงผิวชั้นตื้นในกรณีของคนที่มีปัญหาชั้นกล้ามเนื้อหย่อนคล้อย ทำให้ไม่สามารถยกกระชับได้ลึกถึงชั้นโครงสร้าง นอกจากนี้แพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์มากพอ อาจประเมินปัญหาได้ไม่แม่นยำ ผ่าตัดยกกระชับและจัดเรียงชั้นผิวคลาดเคลื่อนไปจากตำแหน่งที่เหมาะสมได้เช่นกัน

เลือกดึงหน้าในแต่ละช่วงอายุที่ไหนดี?

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีหลังดึงหน้าไม่ว่าจะช่วงอายุใดก็ตาม แนะนำให้ศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วนถูกต้องจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ หรือหาข้อมูลเปรียบเทียบจากหลาย ๆ ที่ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีหลังทำ ปลอดภัย และไม่เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงตามมา โดยสามารถพิจารณาจากหัวข้อต่อไปนี้

  • คลินิกน่าเชื่อถือ เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีเลขใบอนุญาตติดไว้ให้เห็นอย่างชัดเจนที่หน้าคลินิก
  • มีห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดเชื้อ จัดสรรพื้นที่เป็นสัดส่วน
  • ศัลยแพทย์มีประสบการณ์ สามารถออกแบบใบหน้า เลือกเทคนิคในการผ่าตัด และวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
  • สามารถขอดูรีวิวได้ โดยรีวิวจากคนไข้จริงจะช่วยให้เห็นภาพผลลัพธ์หลังทำที่ชัดเจนมากขึ้น ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
  • มีบริการ After Care ที่คอยติดตามอาการ แนะนำวิธีการดูแลหลังผ่าตัด คอยช่วยเหลือหากมีอาการผิดปกติ

ปัญหาที่อาจพบหลังดึงหน้าในแต่ละวัย

แม้การดึงหน้าจะช่วยให้ใบหน้ากลับมาตึงกระชับ แลดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้อย่างชัดเจน แต่หลังทำอาจพบปัญหาหลายอย่างที่ควรระวังไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะคนที่มีอายุเยอะอาการบางอย่างอาจจะหายช้ากว่าคนที่อายุน้อย เพราะกระบวนการฟื้นฟูร่างกายทำได้ไม่เต็มที่ ผิวหนังผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินได้น้อยลง แผลหายช้า หรือเกิดรอยแผลเป็นได้ง่ายกว่า จึงต้องวางแผนกับแพทย์อย่างรอบคอบและดูแลตัวเองหลังทำอย่างเคร่งครัด โดยมีผลข้างเคียงหรืออาการบางอย่างที่สามารถพบได้ดังนี้

  • อาการบวมช้ำ ฟื้นตัวช้า หลังดึงหน้าเป็นเรื่องปกติที่ใบหน้าจะบวม ช้ำ หรือมีรอยแดง โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวบางหรืออายุเยอะ ซึ่งการประคบเย็นและหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักจะช่วยให้อาการหายไปได้เร็วขึ้น 
  • แผลหายช้า หรือมีรอยแผลเป็น หากดูแลแผลไม่ถูกวิธี หรือเลือกเทคนิคที่ใช้แผลใหญ่ อาจทำให้แผลหายช้าและเกิดรอยแผลเป็นได้ โดยเฉพาะในคนที่มีผิวแพ้ง่ายหรือเป็นคีลอยด์ง่าย 
  • ผลลัพธ์ไม่สมดุลทั่วใบหน้า การดึงหน้าเฉพาะจุด เช่น ดึงเฉพาะกรอบหน้าโดยไม่ยกแก้ม อาจทำให้ใบหน้าไม่สมดุล หรือดึงด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไปจนเห็นความแตกต่างชัดเจน
  • ผิวตึงแต่หน้ายังดูโทรม สามารถเกิดขึ้นได้จากการที่ใบหน้าสูญเสียวอลลุ่ม มีการยุบตัวของเนื้อเยื่อ ชั้นไขมัน หรือชั้นกระดูก 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ ดึงหน้าสำหรับอายุ 40+ 50+ 60+

เพื่อช่วยให้เข้าใจเกี่ยวกับการดึงหน้าสำหรับอายุ 40+ 50+ 60+ มากขึ้น ในเนื้อหาต่อไปนี้ได้รวบรวมเอาคำถามที่พบบ่อยมาไว้ให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ดังนี้

Q: ถ้าอายุ 40+ แต่ยังไม่อยากผ่าตัด สามารถทำอะไรได้ไหม?
A: สำหรับคนวัย 40+ ที่ยังไม่ต้องการผ่าตัดและปัญหาความหย่อนคล้อยยังไม่มากเกินไป สามารถเลือกใช้เครื่องยกกระชับ เช่น Ulthera, Ultraformer III หรือ Thermage FLX เป็นต้น ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมินเลือกใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการและปัญหาที่ต้องแก้ไขในแต่ละรายบุคคล

Q: การดึงหน้าในวัย 60+ มีความเสี่ยงมากกว่าวัยอื่นหรือไม่?
A: สำหรับคนวัย 60+ อาจมีความเสี่ยงเรื่องการฟื้นตัวที่ช้ากว่า บวมช้ำนานกว่าวัยอื่น แผลหายช้า เพราะสภาพผิวมีความเสื่อมสภาพค่อนข้างมาก คอลลาเจนและอีลาสตินลดลง แต่ในกรณีของคนที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรงจนผ่าตัดไม่ได้ ก็สามารถผ่าตัดดึงหน้าได้อย่างปลอดภัย

Q: ทำไมบางคนอายุ 60+ ดึงหน้าแล้วดูไม่ธรรมชาติ?
A: สำหรับผลลัพธ์หลังดึงหน้าที่ไม่เป็นธรรมชาติของคนวัย 60+ อาจเกิดขึ้นจากการใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะกับโครงสร้างใบหน้าที่เปลี่ยนไป มีการยกชั้นผิวที่มากเกินไปจนทำให้หน้าดูแข็ง จึงควรเลือกศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์มากเพียงพอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดี เป็นธรรมชาติ

Q: ถ้าทำดึงหน้าไปแล้วในวัย 40+ เมื่อถึงวัย 60+ ต้องทำใหม่อีกหรือไม่?
A: ในกรณีของคนที่เคยดึงหน้ามาแล้วตอนช่วงอายุ 40 ปี หากคนไข้ดูแลตัวเองดี ผิวเกิดการเสื่อมสภาพตามกาลเวลาไปบ้างเล็กน้อย อาจจะไม่จำเป็นต้องดึงหน้าใหม่อีกครั้งเมื่ออายุ 60 ปี หรืออาจจะใช้เทคนิคดึงหน้าแบบเฉพาะจุดได้ แต่ในกรณีของคนที่ไม่ค่อยได้ดูแลหรือมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามากระทบจนทำให้ผิวเกิดการเสื่อมสภาพค่อนข้างมาก อาจต้องเลือกใช้เทคนิคการดึงหน้าในชั้นลึกแบบเต็มรูปแบบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เหมาะสมกับปัญหา

Q: การดึงหน้าเหมาะกับคนที่ผิวบางหรือไม่?
A: สำหรับคนที่ผิวบางสามารถทำได้ โดยแพทย์จะประเมินและเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะกับปัญหา สภาพผิว โครงหน้า และความต้องการของคนไข้ที่แตกต่างกัน

สรุป

การดึงหน้าในช่วงอายุ 40+, 50+ และ 60+ เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูใบหน้าให้กระชับ อ่อนเยาว์ และมีมิติที่ชัดเจนขึ้น โดยในแต่ละช่วงวัยจะมีระดับปัญหาความหย่อนคล้อยต่างกัน จึงต้องเลือกเทคนิคที่เหมาะกับโครงสร้างผิวและปัญหาของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็น Mini Facelift สำหรับผิวหย่อนเล็กน้อย, Full Facelift สำหรับผิวที่หย่อนคล้อยมาก หรือ Deep Plane Facelift สำหรับโครงสร้างใบหน้าที่เปลี่ยนแปลงหนักในวัย 60+ สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องของผิวหย่อนคล้อย ต้องการยกกระชับ ปรับรูปหน้า อยากแลดูอ่อนเยาว์มากขึ้น แนะนำให้เข้ามาปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อรับการประเมินโดยทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล

Scroll to Top
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit