วิธีดูแลหลังเสริมหน้าอก ต้องพักฟื้นนานแค่ไหน? ควรดูแลตัวเองยังไง?

วิธีดูแลหลังเสริมหน้าอกเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนมักมองข้าม ทั้งที่จริงแล้วการดูแลตัวเองในช่วงพักฟื้นมีผลอย่างมากต่อทรงหน้าอก ความนิ่ม ความเข้าที่ และการลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ หลังผ่าตัด แต่หลายคนอาจสงสัยว่าต้องพักฟื้นนานแค่ไหน? หรือหลังเสริมหน้าอก ควรทําอย่างไรให้แผลหายเร็ว Vincent Clinic Plastic Surgery จะพาคุณมารู้จักวิธีดูแลหลังเสริมหน้าอกแบบถูกต้อง พร้อมระยะเวลาการพักฟื้นที่ควรทราบเพื่อเป็นข้อมูลให้คุณได้เตรียมตัวหลังผ่าตัด

Key Takeaways

• หลังเสริมหน้าอกร่างกายจะฟื้นตัวในช่วง 5 – 7 วันแรก และหน้าอกเข้ารูปภายใน 1 – 2 เดือน ส่วนความเข้าที่สมบูรณ์ประมาณ 1 ปี หากสังเกตว่าบวมมาก เจ็บผิดปกติ หรือทรงหน้าอกผิดรูป ควรรีบพบแพทย์ทันที
• หลังเสริมหน้าอกในช่วงแรกอาจเจ็บตึง บวม และช้ำเล็กน้อย ซึ่งมักดีขึ้นตามเวลา แต่หากมีอาการเจ็บรุนแรง บวมแดงร้อน มีไข้ หรือหน้าอกเบี้ยวผิดรูป ถือเป็นสัญญาณอันตรายต้องรีบพบแพทย์
• หลังเสริมหน้าอกควรหลีกเลี่ยงการออกแรงหนัก ยกแขนสูง นอนคว่ำ ให้แผลโดนน้ำก่อนกำหนด รวมถึงงดอาหารแสลง แอลกอฮอล์ และบุหรี่ เพื่อป้องกันแผลอักเสบและซิลิโคนเคลื่อน
• วิธีดูแลหลังเสริมหน้าอกควรทานยาตามแพทย์สั่ง นอนศีรษะสูง ประคบเย็น ใส่ซัพพอร์ตบรา เลี่ยงกิจกรรมหนัก เลือกอาหารย่อยง่าย และนวดหน้าอกตามคำแนะนำเพื่อช่วยให้แผลหายดีและหน้าอกนิ่มเป็นธรรมชาติ
• วิธีดูแลหลังเสริมหน้าอก เลือกทานอาหารโปรตีนสูง ผักผลไม้ที่มีวิตามินซี ผักใบเขียว อาหารอ่อน และดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยลดบวมและฟื้นฟูแผลให้หายเร็วขึ้น

หลังเสริมหน้าอกต้องพักฟื้นกี่วัน

เมื่อ เสริมหน้าอก จำเป็นที่จะต้องพักฟื้น ซึ่งตลอดระยะเวลาหลังเสริมหน้าอกร่างกายจะค่อย ๆ ฟื้นฟูเนื้อเยื่อ และปรับตัวกับซิลิโคนโดยใช้เวลาประมาณ 5 – 7 วัน แต่ช่วงเวลาพักฟื้นจริงอาจขึ้นอยู่กับสรีระ และการดูแลของแต่ละคน ซึ่งอาการ และการฟื้นตัวในแต่ละช่วงหลังทำหน้าอกมีดังนี้

• หลังเสริมหน้าอก 1 – 3 ชั่วโมง ยาสลบและยาชายังคงออกฤทธิ์ ทำให้รู้สึกมึนงงหรืออ่อนแรง แพทย์จะประเมินอาการก่อนอนุญาตให้กลับบ้าน และต้องใส่ซัพพอร์ตบรา หลังเสริมหน้าอก หรือผ้าก๊อซประคองหน้าอก อาจมีอาการปวดแผลเล็กน้อยในช่วงนี้
• หลังเสริมหน้าอก 3 – 5 วัน ร่างกายเริ่มปรับตัวกับซิลิโคน อาจรู้สึกเจ็บแผลบริเวณรักแร้หรือใต้ราวนม มีอาการบวม ตึง หรือรอยช้ำ การขยับแขนยังจำกัด อาจมีเลือดซึมเล็กน้อยจากแผล ควรทานยาตามที่แพทย์สั่ง หากมีเลือดออกมากหรือปวดรุนแรงให้รีบพบแพทย์
• หลังเสริมหน้าอก 7 – 14 วัน อาการเจ็บและบวมจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังควรหลีกเลี่ยงการยกแขนสูง นอนตะแคง หรือทำกิจกรรมหนัก ผู้ที่ทำงานใช้แรงควรหยุดพักเพิ่มเพื่อป้องกันแผลกระทบกระเทือน
• หลังเสริมหน้าอก 1 เดือน หน้าอกเริ่มเข้ารูป นิ่มขึ้น และอาการบวมตึงลดลงจนใช้ชีวิตประจำวันได้ค่อนข้างปกติ สามารถเริ่มออกกำลังกายเบา ๆ ได้ แต่หากเจ็บ บวม หรือทรงหน้าอกผิดรูป ควรรีบปรึกษาศัลยแพทย์
• หลังเสริมหน้าอก 1 ปี หน้าอกเข้าที่สมบูรณ์ ไม่มีความเจ็บหรือระคายเคือง แต่ยังควรสังเกตความผิดปกติ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ ซิลิโคนหน้าอก แบบเจล ควรตรวจหน้าอกเป็นระยะเพื่อความปลอดภัยในระยะยาว

หลังเสริมหน้าอกมีอาการอะไรบ้าง

หลังเสริมหน้าอกร่างกายจะค่อย ๆ ปรับตัวกับซิลิโคนตามระยะเวลา และระหว่างที่หน้าอกกำลังเข้าที่ก็อาจมีอาการต่าง ๆ เกิดขึ้นได้ เนื่องจากเป็นการใส่สิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย อาการเหล่านี้สามารถแบ่งออกเป็นอาการปกติและอาการที่ควรระวัง ดังนี้

• อาการปกติ ช่วงแรกหลังทำหน้าอกมักรู้สึกเจ็บตึงบริเวณหน้าอก หรือรักแร้ มีอาการบวม ช้ำ หรือรู้สึกหนักหน้าอกเล็กน้อย การขยับแขนอาจทำได้ไม่สะดวก ซึ่งล้วนเป็นอาการที่เกิดขึ้นทั่วไป และจะค่อย ๆ ลดลงเมื่อเนื้อเยื่อเริ่มฟื้นตัว
• อาการผิดปกติ หากมีอาการเจ็บมากขึ้นเรื่อย ๆ มีเลือดออกผิดปกติ บวมแดง และรู้สึกร้อนบริเวณหน้าอกร่วมกับมีไข้สูง ถ้าหลังเสริมหน้าอกบวมไม่เท่ากัน หรือมีรูปทรงผิดไปจากเดิม เช่น ดูเบี้ยว แข็งเป็นก้อน มีอาการปวดลึกผิดปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนได้ 

ข้อห้ามหลังเสริมหน้าอก ห้ามทำอะไรบ้าง

หลังเสริมหน้าอกเป็นช่วงพักฟื้นที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะพฤติกรรมบางอย่างอาจทำให้แผลหายช้า ซิลิโคนขยับหรือผิดรูปได้ ข้อห้ามหลังเสริมหน้าอกมีดังนี้

• ห้ามออกกำลังกายหรือใช้แรงแขนมาก หากหลังเสริมหน้าอกออกกำลังกายอาจทำให้แผลอักเสบ หรือซิลิโคนเคลื่อนได้ จึงควรงดไปก่อนในช่วง 2 – 4 สัปดาห์แรก
• ห้ามนอนคว่ำ หรือนอนตะแคง ควรนอนหมอนสูงในท่านอนหงายอย่างน้อยในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรก เพื่อช่วยลดบวม และป้องกันการกดทับหน้าอก
• ห้ามให้แผลโดนน้ำก่อนกำหนด ช่วง 2 – 3 วันแรกให้อาบน้ำเฉพาะช่วงล่าง หลังวันที่ 4 จึงสามารถอาบน้ำได้โดยต้องปิดพลาสเตอร์กันน้ำ
• ห้ามแกะพลาสเตอร์ปิดแผลก่อนเวลา ควรแกะได้เมื่อแผลแห้ง หรือวันที่ 4 ตามคำแนะนำแพทย์เท่านั้น
• ห้ามหยุดยาที่แพทย์สั่งเอง ต้องทานจนครบเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และช่วยให้แผลหายเร็ว
• ห้ามกินอาหารแสลง เช่น อาหารหมักดอง อาหารทะเล อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารรสจัด หรือของดอง เพราะเพิ่มความเสี่ยงแผลอักเสบ
• ห้ามสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ หลังเสริมหน้าอกงดแอลกอฮอล์ และงดบุหรี่ เพราะทำให้แผลหายช้า และเพิ่มโอกาสติดเชื้อ

วิธีดูแลหลังเสริมหน้าอกทำอย่างไร

หลังเสริมหน้าอก ดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดี และซิลิโคนเข้าที่ได้เร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย วิธีดูแลหลังทำหน้าอกมีดังนี้

• รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบถ้วน และมาตรวจตามนัดทุกครั้ง เพื่อให้แพทย์ประเมินการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
• นอนศีรษะสูงและนอนหงาย ช่วยลดบวมและป้องกันการกดทับหน้าอกในช่วงแรก
• ประคบเย็นทันทีหลังผ่าตัด ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงแรก และประคบสลับทุก 1–2 ชั่วโมงเป็นเวลา 7–10 วัน เพื่อช่วยลดบวมและปวด
• รับประทานอาหารอ่อนหรือย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม เพื่อไม่ให้ร่างกายทำงานหนักเกินไปในช่วงพักฟื้น
• เลือกสวมเสื้อผ้าที่หลวมและสบายตัว เช่น เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อที่ไม่ต้องยกแขนสูง เพราะช่วงแรกจะยังระบมและยกแขนไม่ถนัด
• ใส่เสื้อชั้นในหรือซัพพอร์ตบราตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงเดือนแรก เพื่อช่วยพยุงทรงและประคองซิลิโคนให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
• นวดหน้าอก เพื่อป้องกันการเกิดพังผืดรัดตัวรอบซิลิโคน แต่ควรนวดอย่างระมัดระวังและใช้ท่านวดที่ถูกต้องตามเทคนิคที่แพทย์แนะนำเพื่อไม่ให้กระทบกับแผล

อาหารที่ควรกินหลังเสริมหน้าอก

หลังผ่าตัดควรเลือกทานอาหารที่ช่วยลดการอักเสบ ฟื้นฟูแผล และเร่งการสมานตัวของเนื้อเยื่อ เพื่อให้ฟื้นตัวไวและลดโอกาสบวมเจ็บ อาหารที่ควรกินหลังเสริมหน้าอกมีดังนี้

• อาหารโปรตีนสูง เช่น ปลา ไก่ ไข่ เต้าหู้ ถั่วต่าง ๆ ช่วยซ่อมแซมแผลและเนื้อเยื่อ
• ผัก–ผลไม้ที่มีวิตามินซี เช่น ส้ม ฝรั่ง บรอกโคลี ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและเร่งการหายของแผล
• ผักใบเขียว ช่วยลดการอักเสบและให้วิตามินที่จำเป็นต่อการฟื้นตัว
• ผลไม้ไฟเบอร์สูง เช่น แอปเปิล แก้วมังกร ป้องกันท้องผูกหลังผ่าตัด
• อาหารอ่อน ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม ซุป ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานไม่หนักเกินไป
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยลดบวมและขับของเสียออกจากร่างกาย
  

คำถามที่พบบ่อย หลังเสริมหน้าอก (FAQ)

Q: หลังเสริมหน้าอกต้องใส่ซัพพอร์ตบรานานแค่ไหน
A: ควรใส่ ซัพพอร์ตบรา ประมาณ 1 – 3 เดือน ในช่วงเดือนแรกควรใส่ตลอด 24 ชั่วโมง จากนั้นเดือนที่ 2 – 3 สามารถลดเป็นใส่เฉพาะกลางวันหรือกลางคืนได้ แล้วค่อยเปลี่ยนเป็น บราปกติแบบไม่มีโครง เมื่อหน้าอกเริ่มเข้าที่

Q: หลังเสริมหน้าอกสามารถนอนตะแคงได้ไหม
A: ท่านอนหลังเสริมหน้าอก เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ควรนอนตะแคงในช่วง 4 – 6 สัปดาห์แรก เพราะอาจทำให้ซิลิโคนเคลื่อนหรือเสียทรงได้ 

Q: ต้องนวดหน้าอกหลังจากเสริมหน้าอกมาไหม
A: จำเป็นต้องนวดเพื่อช่วยลด พังผืดเกาะซิลิโคน ทำให้หน้าอกนิ่ม และป้องกันการแข็งตึง ควรเริ่มนวดเมื่อแผลหายดีประมาณ 7 – 14 วัน และนวดอย่างถูกวิธีโดยนวดสม่ำเสมออย่างน้อย 6 เดือนแรกหลังทำหน้าอก

Q: สามารถกินปลาร้า แซลม่อนดองหลังทำหน้าอกได้ไหม
A: หลังเสริมหน้าอกห้ามกินอาหารดอง อาหารหมัก หรืออาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น ปลาร้า หรือแซลม่อนดอง อย่างน้อย 1 เดือนหลังผ่าตัด เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อและทำให้แผลหายช้าลง

Q: สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เมื่อไรหลังจากทำหน้าอก
A: ควรงดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 6 สัปดาห์หลังผ่าตัด เพื่อหลีกเลี่ยงแรงกดทับหรือการเคลื่อนไหวที่อาจกระทบต่อแผลและซิลิโคน

สรุป

หลังเสริมหน้าอก ร่างกายจะค่อย ๆ ฟื้นตัวภายใน 5 – 7 วันแรก และหน้าอกจะเริ่มเข้ารูปชัดเจนในช่วง 1 – 2 เดือน ระหว่างนั้นอาจมีอาการเจ็บตึง บวม หรือช้ำเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นปกติ แต่ถ้ามีอาการเจ็บมากขึ้น บวมแดงร้อน มีไข้ หรือทรงหน้าอกผิดรูป การดูแลอย่างถูกวิธีจะช่วยให้หน้าอกเข้าที่เร็ว ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน และฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น หากอยากเสริมหน้าอกแต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร หรือกังวลเรื่องการดูแลหลังผ่าตัด สามารถปรึกษา Vincent Clinic Plastic Surgery ได้เลย เราพร้อมให้คำแนะนำอย่างครบถ้วนทั้งก่อนและหลังทำ เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย