

เสริมหน้าอก คืออะไร เลือกซิลิโคนยี่ห้อไหนดี ทรงไหนเหมาะกับใคร?
เสริมหน้าอก กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเทรนด์การดูแลตัวเองที่ทำให้คนเริ่มหันมาใส่ใจตัวเองมากขึ้น เพราะไม่ใช่แค่ผิวเท่านั้นที่ช่วยเสริมความมั่นใจ หน้าอกก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่ช่วยให้บุคลิกภาพของสาว ๆ ดูดีขึ้นได้ ด้วยการใส่ซิลิโคนเข้าไปบริเวณหน้าอกเพื่อช่วยเพิ่มขนาด แก้ทรง รวมถึงใช้เทคนิคพิเศษเพื่อยกกระชับหน้าอกได้อีกด้วย ในบทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจถึงศัลยกรรมหน้าอกคืออะไร ช่วยเรื่องอะไร ใช้เทคนิคพิเศษอะไรได้บ้าง สามารถแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ซิลิโคนยี่ห้อไหนดี ซิลิโคนทรงไหนเหมาะกับใครบ้าง สามารถติดตามอ่านได้ในบทความนี้

เสริมหน้าอก คืออะไร?
เสริมหน้าอก กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเทรนด์การดูแลตัวเองที่ทำให้คนเริ่มหันมาใส่ใจตัวเองมากขึ้น เพราะไม่ใช่แค่ผิวเท่านั้นที่ช่วยเสริมความมั่นใจ หน้าอกก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่ช่วยให้บุคลิกภาพของสาว ๆ ดูดีขึ้นได้ ด้วยการใส่ซิลิโคนเข้าไปบริเวณหน้าอกเพื่อช่วยเพิ่มขนาด แก้ทรง รวมถึงใช้เทคนิคพิเศษเพื่อยกกระชับหน้าอกได้อีกด้วย ในบทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจถึงศัลยกรรมหน้าอกคืออะไร ช่วยเรื่องอะไร ใช้เทคนิคพิเศษอะไรได้บ้าง สามารถแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ซิลิโคนยี่ห้อไหนดี ซิลิโคนทรงไหนเหมาะกับใครบ้าง สามารถติดตามอ่านได้ในบทความนี้
เสริมหน้าอก มีกี่ประเภท?
เสริมหน้าอก คือ การผ่าตัดใส่ถุงซิลิโคนหรือฉีดไขมันเข้าไปบริเวณหน้าอกเพื่อเพิ่มขนาด ปรับแก้รูปทรง หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับหน้าอก สามารถที่จะเลือกได้ตามความต้องการและเหมาะกับฐานหน้าอกเดิมของคนไข้แต่ละคนที่มีความแตกต่างกันออกไป เพิ่มความมั่นใจให้มากขึ้น
เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน (Breast Augmentation)
การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนเป็นเทคนิคยอดนิยมที่สามารถเลือกขนาดและปรับแก้ทรงหน้าอกได้ตามที่ต้องการ โดยแพทย์จะออกแบบการรักษาที่เหมาะกับฐานหน้าอกเดิมของคนไข้ประกอบกับความต้องการของคนไข้แต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ถาวร
ฉีดไขมันเพื่อเสริมหน้าอก (Fat Transfer Breast Augmentation)
ฉีดไขมันเสริมหน้าอก เทคนิคการเติมหน้าอกด้วยไขมันซึ่งไม่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือร่างกายต่อต้านเพราะเป็นไขมันของคนไข้เอง แต่วิธีการนี้มีข้อจำกัดในเรื่องของขนาดหน้าอกที่สามารถฉีดได้ นอกจากนั้นยังมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าวิธีอื่น ในคนที่ผอมมากมีไขมันน้อยหรือแทบจะไม่มีเลยอาจจะไม่สามารถดูดไขมันออกมาได้เพียงพอกับการฉีดหน้าอก นอกจากนั้นไขมันยังมีโอกาสที่จะสลายไปได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ทำให้ทรงหน้าอกอาจจะไม่เท่ากันหรือได้ทรงหน้าอกที่ไม่เป็นไปตามต้องการ
เสริมหน้าอกแบบไฮบริด (Hybrid Breast Augmentation)
เสริมหน้าอกไฮบริด เป็นวิธีการผสมผสานเอาทั้งแบบใส่ถุงซิลิโคนและฉีดไขมันเข้าไว้ด้วยกัน โดยวิธีการนี้จะช่วยเติมให้เนินหน้าอกอวบอิ่ม เต่งตึง ช่วยกลบขอบซิลิโคนให้มีความเนียนมากขึ้น เนื่องจากไขมันมีโอกาสสลายไปได้จึงทำให้รูปทรงหรือขนาดหน้าอกเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายในอนาคต
เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนเหมาะกับใคร?
เสริมหน้าอก เป็นศัลยกรรมที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจ เป็นการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางร่างกายที่ชัดเจน โดยมีความเหมาะสมกับคนที่มีปัญหาหรือความต้องการดังนี้
- เหมาะกับคนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เนื่องจากมีการเจริญเติบโตของหน้าอกเต็มที่แล้ว ร่างกายมีการพัฒนาครบถ้วนแล้ว ลดโอกาสการเกิดความเสี่ยงต่าง ๆ ให้น้อยลงได้
- เหมาะกับคนที่ต้องการเพิ่มขนาดหรือปรับทรงหน้าอกให้สวยตามต้องการ
- เหมาะกับคนที่หน้าอกมีขนาดเล็กหรือมีหน้าอกไข่ดาวและต้องการเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้น
- เหมาะกับคนที่มีหน้าอกหย่อนคล้อย หน้าอกไม่เป็นทรงสวย เพราะการผ่าตัดเสริมหน้าอกจะสามารถเลือกใช้เทคนิคการยกกระชับเข้ามาเสริมให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
- เหมาะกับคนที่หน้าอกเสียทรงจากการลดน้ำหนักมาก ๆ เพื่อปรับแก้เต้านมให้รับกับสรีระมากขึ้น
- เหมาะกับคนที่ขาดความมั่นใจ ใส่เสื้อผ้าไม่สวยตามต้องการ เช่น คนที่มีหน้าอกห่างมากเกินไป คนที่มีหน้าอกชิดมากเกินไปจนเหมือนเป็นก้อนเดียวกัน เป็นต้น

ศัลยกรรมหน้าอก มีเทคนิคอะไรบ้าง?
เสริมหน้าอก มีด้วยกันหลายเทคนิคซึ่งข้อดีและข้อเสียของแต่ละเทคนิคมีความแตกต่างกันออกไป สามารถที่จะส่งผลกระทบกับผลลัพธ์และผลข้างเคียงหลังทำที่ไม่เหมือนกัน โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน เลือกวิธีการรักษา และออกแบบการรักษาให้เหมาะกับความต้องการรวมถึงตอบโจทย์ปัญหาของคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป โดยมีเทคนิคหลัก ๆ ดังนี้
เทคนิคผ่าตัดที่รักแร้
เทคนิคนี้มีด้วยกัน 2 แบบ เลือกใช้ได้ตามความต้องการของคนไข้ โดยอยู่ภายใต้การดูแลจากแพทย์มากประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ได้แก่
- เปิดแผลใต้รักแร้ตามรอยพับ หลังจากแพทย์เปิดปากแผลแล้วจะใส่ซิลิโคนเข้าไป โดยวิธีนี้จะมีโอกาสทำให้เกิดพังผืดได้สูงและเจ็บมากกว่าวิธีอื่น
- ผ่าตัดส่องกล้องใต้รักแร้ ซ่อนแผลได้เรียบเนียน ลดอาการบาดเจ็บให้น้อยลง ลดโอกาสการเกิดพังผืดให้ลดลงได้อีกด้วย ทั้งยังสามารถฟื้นตัวได้ไว เหมาะกับหน้าอกที่ไม่ต้องปรับแก้โครงสร้างภายในมากนัก
เทคนิคผ่าตัดรอบปานนม
เทคนิคนี้ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาตามมาให้น้อยลง โดยแพทย์จะเปิดแผลบริเวณปานนมและใช้เทคนิคเฉพาะของแพทย์เพื่อให้สามารถเข้าถึงบริเวณเต้านมได้มากขึ้น ผลลัพธ์ออกมาดีมากขึ้น ซ่อนแผลไว้กับรอยปานนมให้เนียนไปกับผิว
เทคนิคผ่าตัดราวนม
เทคนิคนี้กำลังได้รับความนิยมเพราะเจ็บน้อย ลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดพังผืดให้น้อยลง แพทย์สามารถที่จะเข้าไปแก้ไขโครงสร้างได้ง่ายกว่า คนไข้ฟื้นตัวได้เร็ว เหมาะกับคนที่โครงสร้างหน้าอกมีปัญหามากต้องการการแก้ไขปรับทรงที่มากกว่าคนทั่วไป
เสริมหน้าอก มีเทคนิคการวางซิลิโคนอะไรบ้าง?
ศัลยกรรมหน้าอกมีเทคนิคการวางซิลิโคนหลัก ๆ อยู่ด้วยกัน 3 เทคนิค ซึ่งแต่ละเทคนิคมีความเหมาะกับปัญหา โครงสร้างหน้าอก และความต้องการของคนไข้ที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
- วางซิลิโคนเหนือกล้ามเนื้อ เทคนิคนี้จะช่วยให้จัดทรงได้ง่าย หน้าอกชิด เหมาะกับคนที่มีเนื้อหน้าอกเยอะหรือมีปัญหาหน้าอกห่าง หากเลือกขนาดหรือทรงซิลิโคนไม่เหมาะสมอาจจะทำให้เห็นขอบซิลิโคนได้ชัดเจน
- วางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อ เป็นเทคนิคที่เหมาะกับคนที่มีเนื้อหน้าอกน้อย เพราะซิลิโคนจะช่วยดันให้หน้าอกดูเต่งตึงมากขึ้น หน้าอกดูกระชับไม่หย่อนคล้อย ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ผิวหน้าอกไม่เป็นคลื่น ลดโอกาสการเกิดพังผืด ลดโอกาสหน้าอกแข็ง เป็นต้น แต่อาจจะรู้สึกเจ็บและใช้เวลาในการฟื้นตัวที่มากกว่า
- วางซิลิโคนแบบ Dual Plane คือการวางซิลิโคนไว้ในตำแหน่งที่ส่วนบนอยู่ใต้กล้ามเนื้อและซิลิโคนส่วนล่างอยู่เหนือกล้ามเนื้อ ทำให้ไม่เห็นขอบของซิลิโคน หน้าอกมีความคล้อยเล็กน้อย โค้งมนเป็นธรรมชาติ
เสริมหน้าอก ทรงกลม กับ ทรงหยดน้ำ ต่างกันอย่างไร?
เสริมหน้าอกนั้นมีการเลือกทรงซิลิโคนที่แตกต่างกันออกไป โดยมีทรงซิลิโคนหลัก ๆ ที่นิยมเลือกใช้อยู่ 2 ทรงด้วยกัน โดยมีความแตกต่างกันดังนี้
- ซิลิโคนทรงกลม ทรงนี้ช่วยเติมเต็มหน้าอกให้อวบอิ่ม เนินอกเต่งตึง เหมาะกับคนที่มีเนื้อบริเวณหน้าอกเยอะ ฐานหน้าอกเดิมมีความกว้าง คนที่ต้องการให้หน้าอกใหญ่มาก ๆ คนที่อยากให้เนินหน้าอกอวบอิ่ม เป็นต้น แต่หากใช้ขนาดที่ใหญ่มากอาจจะทำให้เห็นขอบซิลิโคนที่ชัดเจน ดูไม่เป็นธรรมชาติ
- ซิลิโคนทรงหยดน้ำ มีลักษณะของด้านบนที่แบนแต่ป่องบริเวณด้านล่าง ทำให้หน้าอกดูคล้อยลงเล็กน้อยเป็นธรรมชาติ เหมาะกับคนที่อยากได้ผลลัพธ์ไม่ใหญ่มากเกินไป มีความเนียนเป็นธรรมชาติ มีเนื้อหน้าอกน้อย
- ซิลิโคนกึ่งหยดน้ำ เป็นการรวมเอาข้อดีของทั้งทรงกลมและทรงหยดน้ำเข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนั้นเนื้อเจลมีความพิเศษสามารถคืนตัวได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
ซิลิโคนเสริมหน้าอก มีผิวสัมผัสกี่แบบ? แตกต่างกันอย่างไร?
ซิลิโคนที่ใช้ศัลยกรรมหน้าอก มีด้วยกันหลายผิวสัมผัสซึ่งมีความแตกต่างกันออกไปในเรื่องของผลลัพธ์และผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังทำ โดยมีด้วยกัน 3 แบบ ดังนี้
- ซิลิโคนผิวเรียบ ผิวสัมผัสมีความเรียบเนียน มีความบาง สัมผัสนิ่มเป็นธรรมชาติ สามารถจัดวางตำแหน่งได้ง่าย ลดอาการอักเสบให้น้อยลง พักฟื้นน้อย แต่อาจมีโอกาสเกิดพังผืดได้มากกว่า อาจจะต้องใช้เทคนิคการนวดเข้าร่วมด้วยเพื่อช่วยให้หน้าอกนิ่มไม่แข็งจากพังผืดหดรั้ง
- ซิลิโคนผิวทราย สามารถยึดเกาะกับเนื้อเยื่อโดยรอบได้ดี ลดโอกาสที่ซิลิโคนจะเคลื่อนไปในตำแหน่งอื่นให้น้อยลง ลดความเสี่ยงที่จะเกิดพังผืดให้น้อยลงได้
- ซิลิโคนผิวกำมะหยี่ เป็นชนิดที่มีการผสมระหว่างผิวเรียบและผิวทราย ไม่ต้องนวดบ่อย ลดการเกิดพังผืดได้ดีกว่า มีความนิ่มเป็นธรรมชาติ
เสริมหน้าอก ยี่ห้อไหนดี?
เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน มีด้วยกันหลายยี่ห้อซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและช่วยออกแบบการรักษาให้เหมาะกับแต่ละรายบุคคล ดังนี้
Motiva Silicone
ซิลิโคน Motiva เนื้อมีความนิ่ม ยืดหยุ่น ลดการเกิดพังผืด ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ใช้เทคโนโลยี BluSeal® ช่วยป้องกันปัญหาการรั่วซึมได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังมีรุ่นที่ฝังชิปเข้าไปช่วยให้ตรวจสอบข้อมูลได้อย่างละเอียดแม้จะใส่เข้าไปในร่างกายแล้ว มีด้วยกัน 2 รุ่น ดังนี้
- Motiva Silk Surface ผิวสัมผัสอ่อนนุ่ม มีความละเอียด ลดโอกาสการเกิดหน้าอกแข็งหรือพังผืดให้น้อยลง
- Motiva Ergonomix ออกแบบซิลิโคนให้เคลื่อนไหวใกล้เคียงกับธรรมชาติของหน้าอกมากที่สุด มีความยืดหยุ่น เนื้อนิ่ม เข้ากับร่างกายได้ดี นอกจากนั้นยังเป็นรุ่นที่ฝังชิปเอาไว้ทำให้สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้
Mentor Silicone
ซิลิโคน Montor มีคุณสมบัติที่เป็นธรรมชาติ สัมผัสนุ่ม มีด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่
- Mentor MemoryGel® เนื้อสัมผัสนุ่ม ยืดหยุ่น คล้ายกับหน้าอกจริง สามารถคืนตัวได้ไว ไม่เสียทรง เคลื่อนไหวไปตามสรีระของร่างกายได้ดี ผลลัพธ์มีความเป็นธรรมชาติ
- Mentor MemoryGel® Xtra รุ่นนี้มีปริมาณของเนื้อซิลิโคนที่มาก ทำให้หน้าอกดูเต็ม มีความนุ่ม คืนตัวได้เร็ว มีความยืดหยุ่นสูง ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
Euro Silicone
เป็นซิลิโคนนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส ไม่เป็นบล็อก มีความพุ่ง มีความยืดหยุ่นสูง เน้นผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ซิลิโคนหนา 3 ชั้น ลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหารั่วซึม มีด้วยกัน 4 รุ่น ดังนี้
- Low Profile รุ่นนี้ซิลิโคนจะเป็นทรงกลมผิวเรียบ มีความพุ่งเล็กน้อย คนที่เนื้อหน้าอกน้อยสามารถใช้รุ่นนี้ได้
- Medium Profile รุ่นนี้มีลักษณะเป็นทรงกลม ผิวเรียบ ระดับความพุ่งอยู่ที่ปานกลาง คนที่หน้าอกห่างหรือหน้าอกหย่อนคล้อยเหมาะกับซิลิโคนรุ่นนี้
- High Profile รุ่นนี้ผิวเรียบ ทรงกลม ระดับความพุ่งสูง คนที่หน้าอกแคบ ฐานหน้าอกไม่กว้างมาก อยกาได้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ไม่ออกมาเป็นบล็อก เหมาะกับการเลือกใช้รุ่นนี้
- Extra High Profile ซิลิโคนรุ่นนี้ผิวเรียบ ทรงกลม มีความพุ่งอยู่ในระดับพิเศษ คนที่มีเนินอกสูงมาก ๆ แต่ฐานหน้าอกแคบ เหมาะกับการเลือกใช้ซิลิโคนรุ่นนี้
เสริมหน้าอก กี่ CC ถึงจะดี เลือกอย่างไรให้สวย?
ศัลยกรรมหน้าอก กี่ cc ถึงจะดี? เป็นอีกหนึ่งคำถามยอดฮิต ซึ่งขนาดของซิลิโคนที่ดีนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสรีระ เนื้อและฐานหน้าอกเดิม ซึ่งเมื่อเสริมเข้าไปต้องมีความสมดุลกับร่างกายแต่ละคนมากที่สุด โดยมีขนาดซิลิโคนตั้งแต่ ขนาด 200 cc ไปจนถึง ขนาด 500 cc โดยแพทย์จะช่วยประเมินและเลือกใช้ให้เหมาะกับความต้องการและปัญหาของคนไข้แต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งแต่ละขนาดของซิลิโคนสามารถให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
เสริมหน้าอกขนาด 200 – 275 cc
ซิลิโคนขนาด 200 – 275 cc ช่วยให้หน้าอกดูไม่แบน มีความเป็นธรรมชาติ ไม่รู้สึกหนักมากเกินไปจนทำให้ปวดหลัง ซึ่งตอบโจทย์คนที่มีหน้าอกอยู่แล้วในระดังหนึ่งแต่ต้องการที่จะปรับขนาดหน้าอกให้ดูสวยขึ้นกว่าเดิม
เสริมหน้าอกขนาด 300 – 350 cc
ซิลิโคนขนาด 300 – 350 cc เป็นขนาดหน้าอกยิดนิยมที่ควรส่วนใหญ่เลือกทำเพราะช่วยให้หน้าอกได้ทรงใหญ่ขึ้นกำลังดี เพิ่มความเซ็กซี่มากขึ้น ปรับลุคให้ดูฮอตขึ้นและมั่นใจได้มากกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีเนื้อหน้าอกน้อยหรือคนที่มีเนื้อหน้าอกอยู่แล้วในระดับหนึ่ง ก็สามารถเลือกขนาดซิลิโคนประมาณนี้ได้เช่นกัน
เสริมหน้าอกขนาด 400 – 450 cc
ซิลิโคนขนาด 400 cc เป็นขนาดที่ใหญ่มากกว่าปกติ เหมาะกับคนที่อยากได้หน้าอกใหญ่มาก ๆ เซ็กซี่มากกว่าที่เคย หรือต้องการเปลี่ยนลุคให้เหมือนกับหน้าอกของตัวละครในอนิเมะ แต่อาจจะต้องระวังในเรื่องของสุขภาพและความสมดุลของร่างกายโดยรวมมากขึ้นกว่าปกติ
เสริมหน้าอกขนาด 500 cc
ซิลิโคนขนาด 500 cc ขนาดใหญ่พิเศษ เพิ่มขนาดจากหน้าอกเดิมไปได้มากกว่า 4 ไซส์ เหมาะกับคนที่ต้องการความเซ็กซี่แบบขั้นสุดหรือกลุ่มของนางแบบที่ต้องใช้ความเซ็กซี่ เย้ายวน ในการทำงาน แต่ขนาดของซิลิโคนที่ใหญ่มาก ๆ มักจะส่งผลกับสุขภาพร่างกายได้มากเช่นกัน อย่างเรื่องของความสมดุลร่างกาย การทรงตัว หรืออาการปวดหลัง เป็นต้น จึงต้องศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วนและถูกต้องก่อนตัดสินใจทำ
เทคนิคยกกระชับพิเศษ เฉพาะที่ Vincent Clinic

สำหรับใครที่มีปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย หน้าอกยาน ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย สามารถแก้ไขได้ด้วยเทคนิคพิเศษเฉพาะที่ Vincent Clinic คิดค้นขึ้นมาเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายและแก้ไขปัญหาได้อย่างครอบคลุม ด้วยการใช้ไหมละลายเย็บทั้งแผลด้านในและแผลด้านนอก ซ่อนปมไว้ ไม่ต้องตัดไหม ทำให้มีรอยแผลเท่าแมวข่วน ลดการเกิดอาการผิวเป็นผมหรือรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ได้
- เทคนิค Circular 1 หรือเทคนิคโดนัท เป็นเทคนิคที่สามารถเสริมหน้า แก้ไขทรงหน้าอก และยกกระชับหน้าอกได้ เพียงแค่เปิดแผลในตำแหน่งเดียวบริเวณรอบปานนม โดยแพทย์จะเย็บด้วยไหมละลายและใช้เทคนิคซ่อมปมไหมเอาไว้
- เทคนิค Scarless I หรือ Scarless T เป็นเทคนิคที่ใช้ในการเสริมหน้าอกและยกกระชับหน้าอกได้ โดยกรีดแผลเป็นรูปตัว T คว่ำ หรือที่รู้จักกันในชื่อว่าเทคนิค Lollipop ร่วมกับเทคนิคการเย็บแผลแบบพิเศษด้วยไหมละลายและเย็บซ่อนแผลเอาไว้ ทำให้ไม่เป็นรอยแผลตะขาบ ลดการเกิดแผลเป็นนูน ลดโอกาสการเกิดคีลอยด์ให้น้อยลง
เสริมหน้าอกด้วยเทคนิคกรวย
เสริมหน้าอกด้วยเทคนิคกรวย คือการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานและคุณภาพจาก FDA ซึ่งมีลักษณะที่เป็นถุงกรวยปลายเปิด มีความเรียบลื่น ทำให้แพทย์ใส่ซิลิโคนเข้าไปได้ง่ายขึ้น โดยมีข้อดีดังนี้
- ลดขนาดของรอยแผลผ่าตัดเสริมหน้าอกให้เล็กลงกว่าการผ่าตัดแบบปกติ
- ลดอาการบวมช้ำ ช่วยให้ฟื้นตัวได้ไว
- ลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อให้น้อยลง เนื่องจากแพทย์ไม่ต้องสัมผัสซิลิโคนแต่สามารถใส่เข้าไปผ่านกรวยได้เลย
- ช่วยลดโอกาสเกิดพังผืดเพราะบริเวณผิวซิลิโคนแทบไม่มีการปนเปื้อนสิ่งแผลปลอมหรือเชื้อโรคจากการสัมผัส
- ลดขั้นตอนให้น้อยลง ใช้เวลาน้อย แพทย์ดำนเนินการได้สะดวกมากขึ้น
หลังเสริมหน้าอก ใช้กาวปิดแผลดีไหม?
หลังเสริมหน้าอก หลายคนมีความกังวลเรื่องของแผลเป็นและความลำบากในช่วงพักฟื้น ทำให้เกิดการพัฒนากาวปิดแผลขึ้นมาเพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนไข้มากขึ้น ลดการใช้ไหมเย็บแผลให้น้อยลง โดยตัวกาวปิดแผลนี้มีคุณสมบัติที่ช่วยปิดและยึดผิวหนังให้ติดกัน ลดโอกาสเกิดรอยแผลเป็น แผลเรียบเนียนมากขึ้น เหมาะกับการใช้ในศัลยกรรมที่ต้องการให้แผลหายไว แผลสวยงาม โดยมีข้อดีดังนี้
- ลดรอยแผลเป็น แผลเรียบเนียน ไม่มีรอยเย็บ ลดความเสี่ยงการเกิดคีลอยด์
- ฟื้นตัวได้เร็ว กลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติเร็วขึ้น เพราะไม่มีการดึงรั้งจาดไหมเย็บแผล
- ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ เพราะตัวกาวปิดแผลได้แน่น ป้องกันสิ่งสกปรกเข้าสู่แผลได้ดี ไม่ต้องตัดไหม จึงไม่ต้องสัมผัสกับแผลมากนัก
- มีคุณสมบัติกันน้ำได้ สามารถอาบน้ำ ทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของแผลอับชื้น
- คนผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ เพราะตัวกาวช่วยลดอาการระคายเคืองรวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช่ไหมเย็บแผล
เสริมหน้าอก ราคาเท่าไหร่?
เสริมหน้าอก มีราคาที่ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับซิลิโคนที่เลือกใช้ ระดับปัญหาของแต่ละคนที่แตกต่างกัน โดยแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยและออกการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาซึ่งควบคู่ไปกับการตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้ที่ไม่เหมือนกันโดยปกติราคาการเสริมหน้าอกเริ่มต้นที่ 59,999 ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของโปรโมชั่นและบริการเสริม เช่น การดมยาสลบ, การทำแผล และ การติดตามผลซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงจะทำให้ได้รับรยาละเอียดที่ครบถ้วนถูกต้องมากที่สุด

วิธีเตรียมตัวก่อนและหลังเสริมหน้าอก
เพื่อให้การเสริมหน้าอกเป็นไปได้ด้วยดีไม่เกิดผลข้างเคียงตามมา การเตรียมตัวทั้งก่อนทำและหลังทำจึงเป็นส่วนที่มีความสำคัญเช่นกัน โดยสามารถปฏิบัติได้ตามรายละเอียด ดังนี้
เตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอก
- พักผ่อนและนอนหลับให้เพียงพอ
- งดอาหารและน้ำตามแพทย์สั่งอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนเข้ารับบริการ
- ควรแจ้งประวัติอาหารแพ้ โรคประจำตัว หรือยาที่รับประทานเป็นประจำให้แพทย์และคลินิกทราบก่อนเข้ารับบริการ
- หากใช้ยาในกลุ่ม แอสไพริน วิตามิน หรืออาหารเสริม ที่มีผลกับการแข็งตัวของเลือด ควรหยุดกิน 1 – 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการ
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการ
- แนะนำให้ใส่เสื้อผ้าที่มีความหลวม ใส่สบาย ถอดง่าย หรือที่เป็นกระดุม เพราะก่อนเข้าห้องผ่าตัดต้องถอดเปลี่ยนชุด
ดูแลตัวเองหลังเสริมหน้าอก
- ปฎิบัติตามคำแนะนำและทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบอย่างเคร่งครัด
- ในกรณีที่ไม่ใช้กาวปิดแพทย์ ไม่ควรให้แผลโดนน้ำหรือาจจะใช้พลาสเตอร์กันน้ำปิดไว้ ในช่วงแรก
- งดอาหารหมักดอง งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจเพิ่มโอกาสอักเสบ ติดเชื้อ แผลหายช้า
- หลีกเลี่ยงกิจกรรม การยกของหนัก รวมถึงการออกกำลังกายหนัก ๆ ในช่วง 1 เดือนแรกหลังการผ่าตัด
- ควรใส่ซัพพอร์ตบราตลอด 24 ชั่วโมงในช่วง 1 เดือนแรก
- สำหรับใครที่ต้องนวดหน้าอก ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- หากพบความผิดปกติควรรีบพบแพทย์โดยด่วน
เสริมหน้าอกพักฟื้นนานไหม?
หลังเสริมหน้าอก 2 – 3 วัน คนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงกิจกรรมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหา โดยจะเห็นผลลัพธ์ที่เริ่มดีขึ้นได้ประมาณช่วงเดือนที่ 3 หลังการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้ด้วยเช่นกัน โดยอาจเกิดอาการเหล่านี้ขึ้นได้ เช่น
- มีอาการบวม ระบม ในบริเวณที่ผ่าตัด
- อาจมีอาการคันบริเวณแผลผ่าตัดขึ้นได้
- อาจมีอาการชาบริเวณหัวนมหรือมีความรู้สึกช้ากวjาปกติ โดยจะหายไปได้เอง
- อาจรู้สึกแน่นหน้าอกได้บ้าง
- ในช่วง 3 เดือนแรกแผลจะค่อย ๆ จางลง และจะจางลงจนแทบมองไม่เห็นเลยในช่วง 1 – 2 ปี (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล)
สรุป
เสริมหน้าอก อีกหนึ่งศัลยกรรมที่ได้รับนิยมสูงเพราะสามารถช่วยปรับแก้สรีระร่างกายให้ดูโดดเด่นมากขึ้น โดยมีทรงหน้าอกให้เลือกทำได้หลากหลายตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงสามารถช่วยแก้ปัญหาโครงสร้างหน้าอกที่มีปัญหาให้ดีขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากใครที่อยากเสริมหน้าอกครั้งแรก อยากแก้หน้าอกที่เคยเสริมมา หรืออยากยกกระชับหน้าอกหย่อนยานให้กลับมาเต่งตึง สามารถทักเข้ามาปรึกษาทีมแพทย์มากประสบการณ์และเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของ Vincent Clinic ได้เลย