vincent.jpg.png
vc_3.png
Vincent Clinic Bangkok Plastic Surgery
คลินิกศัลยกรรมความงาม ดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit
ดูดไขมันเอวเอส
ดูดไขมันเอวเอส

ดูดไขมันเอวเอส สร้างความมั่นใจ เปลี่ยนหุ่นสวยในฝันให้กลายเป็นจริง

ดูดไขมันหน้าท้อง อีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ต้องการแก้ปัญหาไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง บางคนอาจจะออกกำลังกายแล้วแต่ไขมันก็ยังไม่ยอมลด ซึ่งไขมันที่อยู่ในตำแหน่งนี้เป็นจุดที่สลายได้ยาก จึงต้องหาวิธีการเสริมอื่น ๆ เข้ามาช่วย สำหรับใครที่มีความสงสัยว่าวิธีการนี้คืออะไร ช่วยแก้ปัญหาไขมันสะสมได้อย่างไร มีผลข้างเคียงไหม อันตรายหรือเปล่า เหมาะกับใครบ้าง สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเนื้อหาต่อไปนี้จาก Vincent Clinic Plastic Surgery

อยากรู้เรื่องอะไร? คลิกที่หัวข้อได้เลย!
abdominal-liposuction

ดูดไขมันหน้าท้อง คืออะไร?

ดูดไขมันหน้าท้อง คือ การใช้เครื่องมือทางการแพทย์ในการช่วยจัดการไขมันสะสมที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังบริเวณหน้าท้องให้หายไป ด้วยการปล่อยคลื่นพลังงานเข้าไปทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ และดูดออกมาจากร่างกาย โดยวิธีการ ดูดไขมัน ไม่ใช่วิธีการหลักเพื่อลดน้ำหนักแต่เป็นการดูแลรูปร่างลดไขมันเฉพาะจุด ซึ่งสามารถส่งผลทำให้น้ำหนักลดลงได้ประมาณ 1-5 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับไขมันที่ถูกดูดออกไป หากต้องการลดน้ำหนักอาจจะต้องใช้วิธีการอื่นเข้าช่วย

ขั้นตอนการดูดไขมันหน้าท้อง ทำอย่างไร?

การดูดไขมันหน้าท้องเป็นหัตถการที่เน้นการกำจัดไขมันสะสมเฉพาะบริเวณหน้าท้องส่วนบน ล่าง และรอบเอว โดยใช้เทคโนโลยีช่วยสลายไขมันก่อนดูดออกผ่านแผลเล็ก ๆ ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยความแม่นยำสูงและควบคุมโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเห็นผลชัดเจน มีขั้นตอนดังนี้

1. ประเมินรูปร่างและออกแบบจุดที่จะดูดไขมันหน้าท้อง

แพทย์จะตรวจวิเคราะห์บริเวณหน้าท้องโดยละเอียด ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้องส่วนบน ล่าง หรือด้านข้าง เพื่อวางแผนตำแหน่งที่ไขมันสะสม พร้อมประเมินความหนา ความลึก และคุณสมบัติของไขมัน เพื่อเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะกับแต่ละบุคคล

2. เตรียมร่างกายและทำความสะอาดบริเวณหน้าท้อง

ก่อนเริ่มทำจะมีการทำความสะอาดผิวบริเวณหน้าท้องอย่างทั่วถึง แล้วมาร์คตำแหน่งไขมันที่ต้องดูดออก รวมถึงจุดที่จะแทรกเครื่องมือผ่านผิวหนัง ซึ่งจะอยู่บริเวณแนวขอบกางเกงหรือจุดที่ซ่อนแผลได้ง่าย

3. ระงับความรู้สึก ฉีดยาชาเฉพาะจุด หรือดมยาสลบ (ขึ้นอยู่กับเคส)

การดูดไขมันหน้าท้องสามารถทำโดยใช้ยาชาเฉพาะที่ในกรณีที่ปริมาณไขมันไม่มาก หรือเปิดรูไม่กว้าง แต่หากดูดหลายตำแหน่ง ดูดปริมาณมาก หรือผู้ป่วยกังวลเรื่องความเจ็บ แพทย์อาจพิจารณาการให้ยานอนหลับหรือวางยาสลบร่วมด้วย ทั้งนี้การเลือกวิธีระงับความรู้สึกจะขึ้นอยู่กับการประเมินอย่างรอบด้านของแพทย์และความเหมาะสมของผู้เข้ารับบริการ

4. สอดเครื่องมือและเริ่มดูดไขมันบริเวณหน้าท้อง

แพทย์จะใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เช่น คลื่นอัลตร้าซาวด์ (Vaser), คลื่น RF หรือ PAL เพื่อสลายไขมันในชั้นใต้ผิวบริเวณหน้าท้องให้เป็นของเหลวก่อน แล้วจึงดูดออกผ่านท่อดูดขนาดเล็ก (Cannula) อย่างแม่นยำ ไม่กระทบเส้นประสาทหรือเนื้อเยื่อข้างเคียง

5. เสริมเทคโนโลยีกระชับผิวหน้าท้อง (ถ้าจำเป็น)

ในบางกรณี โดยเฉพาะผู้ที่มีไขมันเยอะหรือผิวหย่อนคล้อย แพทย์อาจใช้เทคโนโลยี RF หรือ J-Plasma ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวหน้าท้องกระชับขึ้นหลังดูดไขมัน

6. พักฟื้นระยะสั้นและใส่ชุดกระชับหน้าท้อง

หลังดูดไขมันเสร็จ แพทย์จะปิดแผลเล็ก ๆ ที่หน้าท้องด้วยผ้าก๊อซ แล้วแนะนำให้ใส่ชุดกระชับหน้าท้องทันทีตลอด 24 ชั่วโมงในช่วง 1 เดือนแรก เพื่อให้ผิวแนบเรียบ ลดบวม และช่วยให้ผลลัพธ์คงที่ในระยะยาว

สุดท้ายนี้ การเข้าใจขั้นตอนของการดูดไขมันหน้าท้องอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณเตรียมตัวทั้งร่างกายและจิตใจได้ดีขึ้น เพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจ และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้การเลือกวิธีระงับความรู้สึกจะขึ้นอยู่กับการประเมินอย่างรอบด้านของแพทย์และความเหมาะสมของผู้เข้ารับบริการ หากจำเป็นต้องใช้ยาสลบหรือยานอนหลับ จะมี วิสัญญีแพทย์ ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดขั้นตอนเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม

ดูดไขมันหน้าท้อง มีด้วยกันกี่แบบ?

สำหรับดูดไขมันหน้าท้อง มีเทคโนโลยีหลากหลายที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ปัญหาและความต้องการของคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป โดยมีเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมเลือกใช้ ดังนี้

Vaser Smooth 2.2

เป็นเครื่องที่ใช้เทคโนโลยีคลื่นอัลตร้าซาวด์ (Ultrasonic Assisted Liposuction : UAL) เข้าไปทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวเล็กลงสามารถดูดไขมันออกมาได้ง่าย โดยมีของเหลวเป็นตัวกลางช่วยให้คลื่นอัลตร้าซาวด์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ทำร้ายเนื้อเยื่อข้างเคียง หลังจากนั้นจึงดูดไขมันออกมาซึ่งอาจมีเลือดปนออกมาได้บ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและเทคนิคที่ใช้ ทั้งยังช่วยลดอาการช้ำให้น้อยลง ฟื้นตัวได้ไวขึ้น นอกจากนั้นยังสามารถปรับโหมดพลังงานให้เหมาะกับการดูดไขมันเพื่อนำไปใช้ฉีดเติมเต็มต่อได้

Body Tite

เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นวิทยุ RF (Radio Frequency) ปล่อยเข้าสู่ชั้นผิวทำให้เกิดเป็นความร้อนเข้าไปทำให้ไขมันเกิดการแตกตัว นอกจากนั้นคลื่นวิทยุยังช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจน ผิวกระชับเต่งตึงหลังทำ

Body Jet

เป็นการใช้เทคโนโลยีพลังงานน้ำปล่อยเข้าไปแยกเซลล์ไขมันออกจากเนื้อเยื่อของผิวหนัง โดยไขมันที่ได้สามารถนำไปใช้ฉีดเติมในส่วนอื่นของร่างกายตามที่ต้องการได้

PAL (Power Assisted Liposuction)

เทคโนโลยีกำจัดไขมันด้วยระบบสั่นที่สามารถช่วยทำให้ไขมันเกิดการแตกตัว สามารถดูดไขมันออกมาได้ง่ายขึ้น ลดการเสียดสีที่อาจเกิดขึ้นกับผิวหนังและเนื้อเยื่อโดยรอบให้น้อยลง กำจัดไขมันในปริมาณมาก ๆ ได้ดี

ดูดไขมันหน้าท้อง เหมาะกับใครบ้าง

ดูดไขมันหน้าท้อง เหมาะกับใครบ้าง?

สำหรับการดูดไขมันหน้าท้อง เป็นวิธีการที่ช่วยจัดการไขมันเฉพาะจุดได้เป็นอย่างดี ช่วยให้สามารถดูแลรูปร่างให้ดีขึ้นได้อย่างเห็นผล จึงเหมาะกับกลุ่มคนที่มีปัญหารูปร่างหรือมีความต้องการ ดังนี้

  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องมากเกินไป
  • เหมาะกับคนที่มีห่วงยาง หน้าท้องใหญ่จนเสียบุคลิก
  • เหมาะกับคนที่อยากแต่งตัวให้ดูดีขึ้น เพิ่มความมั่นใจ
  • เหมาะกับคนที่ออกกำลังกายและควบคุมอาหารแต่ไขมันหน้าท้องยังไม่ลดลง
  • เหมาะกับคนที่ต้องการให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ชัดเจนขึ้น
  • เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมันอย่างรวดเร็ว เห็นผลไว โดยไม่ต้องออกกำลังกาย

ข้อดีของการดูดไขมันหน้าท้อง

การดูดไขมันหน้าท้อง เป็นวิธีการกำจัดไขมันได้อย่างเห็นผล เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนหลังทำ จึงมีข้อดีหลายอย่าง ดังนี้

  • สามารถลดไขมันเฉพาะจุดได้ดี
  • สามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำ เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
  • สามารถแต่งตัวได้สนุกมากขึ้น โชว์รูปร่าง อวดหุ่นสวยได้เต็มที่
  • มีความคล่องตัวในการขยับร่างกายมากขึ้น เพราะไขมันหน้าท้องลดลง ทำให้ห่วงยางบริเวณหน้าท้องหายไป
  • สามารถเลือกโหมดพลังงานให้เซลล์ไขมันยังคงคุณภาพดีที่นำไปฉีดเติมเต็มในส่วนต่าง ๆ ได้

ข้อเสียเกี่ยวกับการดูดไขมันหน้าท้อง

ก่อนที่จะเข้ารับบริการดูดไขมันหน้าท้อง ควรศึกษารายละเอียดและข้อควรระวังเพื่อให้เข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยมีข้อควรระวังดังนี้

  • ไม่ใช่เครื่องมือสำหรับลดน้ำหนักโดยตรง และไม่สามารถลดน้ำหนักตัวเยอะ ๆ ได้
  • ไม่สามารถลดไขมันที่อยู่ในช่องท้องได้
  • หลังทำอาจเกิดอาการบวมหรืออาการเขียวช้ำ
  • อาจเกิดอาการผิวเป็นคลื่นหรือมีก้อนแข็งขึ้นได้
  • มีโอกาสเกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยหลังทำ

ดูดไขมันหน้าท้อง อันตรายไหม?

การดูดไขมันหน้าท้องเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ผู้มากประสบการณ์ในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานและใช้เครื่องมือที่ผ่านการรับรอง อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับการทำหัตถการทางการแพทย์อื่น ๆ ย่อมมีความเสี่ยง เช่น อาการบวมช้ำ ผิวไม่เรียบ ก้อนแข็ง หรือในบางกรณีอาจเกิดการติดเชื้อได้หากไม่ดูแลหลังทำอย่างเหมาะสม ดังนั้นการเข้ารับการประเมินร่างกายก่อนทำ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยได้อย่างมาก

ดูแลตัวเองอย่างไรหลังดูดไขมันหน้าท้อง?

ดูแลตัวเองอย่างไรหลังดูดไขมันหน้าท้อง?

หลังดูดไขมันหน้าท้องควรดูแลตัวเองหลังทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสเกิดผลลัพธ์ไม่พึงประสงค์และอาการผิดปกติต่าง ๆ ให้น้อยลง โดยสามารถดูแลตัวเองหลังทำได้ดังนี้

  • ควรกินยาให้ครบตามกำหนดที่แพทย์สั่ง
  • ทำแผลเป็นประจำทุกวัน ป้องกันการติดเชื้อ
  • ควรเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอดเวลา เพื่อช่วยให้ร่างกายระบายของเสียออกจากแผลได้ดีขึ้น ป้องกันภาวะก้อนเลือดอุกตันบริเวณหน้าท้อง
  • ใน 1 เดือนแรก ควรใส่ชุดกระชับตลอด 24 ชั่วโมง หลังจากเข้าเดือนที่ 2 – 3 เดือน สามารถลดระยะเวลาในการชุดกระชับเป็น 12 ชั่วโมงต่อวัน
  • 1 เดือนหลังทำ งดออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมหนัก ๆ 
  • งดรับประทานอาหารเสริม วิตามิน หรือยา ที่มีผลกระทบต่อการแข็งตัวของเลือด
  • ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงต่อในแต่ละวัน ช่วยป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำ
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ อาการหมักดอง หรืออาหารรสจัด เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ไว แผลหายไว ป้องกันการอักเสบติดเชื้อ

ผลลัพธ์หลังดูดไขมันหน้าท้องเป็นอย่างไร?

หลังดูดไขมันหน้าท้อง ผู้เข้ารับบริการจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างได้ตั้งแต่ช่วงแรกหลังทำ โดยเฉพาะในส่วนของสัดส่วนหน้าท้องที่เล็กลง เห็นรูปทรงร่างกายชัดเจนมากขึ้น ซึ่งความเปลี่ยนแปลงนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่ดูดออกไป ตำแหน่งที่ทำ และเทคนิคของแพทย์ รวมถึงการฟื้นตัวของร่างกายแต่ละบุคคลด้วย

ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน? ดูดไขมันหน้าท้องแล้วจะกลับมาอีกไหม?

ผลลัพธ์ของการดูดไขมันหน้าท้องสามารถอยู่ได้นานหลายปี หากมีการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เช่น การออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และควบคุมน้ำหนักไม่ให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เซลล์ไขมันที่ถูกดูดออกไปจะไม่กลับมาอีกในบริเวณเดิม เนื่องจากเซลล์ไขมันไม่สามารถแบ่งตัวได้เอง แต่หากน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น เซลล์ไขมันที่ยังหลงเหลืออยู่อาจขยายตัวและสะสมไขมันได้อีก จึงควรควบคุมพฤติกรรมเพื่อคงรูปร่างที่ดีไว้ในระยะยาว

เปรียบเทียบการดูดไขมันหน้าท้องกับวิธีการอื่น

แม้ว่าการดูดไขมันหน้าท้องจะเป็นวิธีที่เห็นผลชัดเจนและตรงจุดที่สุด แต่ยังมีเทคโนโลยีอื่นที่สามารถช่วยจัดการกับไขมันหน้าท้องได้เช่นกัน แม้จะมีขอบเขตที่ต่างกัน 

ดูดไขมันหน้าท้อง vs Thermage FLX

Thermage FLX เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นวิทยุ RF ลงลึกสู่ชั้นผิว ช่วยสลายไขมันและกระชับผิว นอกจากนั้นยังมีหัวทิป BODY TIP 16.0 cm ที่เอาไว้ใช้กับบริเวณลำตัวโดยเฉพาะ แต่ไม่สามารถลดไขมันในปริมาณมากในคราวเดียวได้ รวมไปถึงไม่สามารถกำจัดไขมันแข็งหรือไขมันที่ลดยากได้มากเท่ากับการดูดไขมันซึ่งเป็นสอดเครื่องมือเข้าไปใต้ชั้นผิวและเข้าไปจัดการเซลล์ไขมันโดยตรง

  • Thermage FLX ช่วยกระชับผิวและลดไขมันบางส่วนแบบไม่ต้องเจ็บตัว ไม่มีแผล
  • เหมาะกับผู้ที่มีไขมันไม่มาก ต้องการลดไขมันพร้อมยกกระชับ
  • ไม่สามารถกำจัดไขมันแข็งหรือลดยากได้เท่ากับการดูดไขมัน
  • เห็นผลลัพธ์ช้ากว่าและอาจต้องทำซ้ำ

สรุป หากต้องการผลลัพธ์ชัดเจน ลดไขมันในปริมาณมาก และเปลี่ยนรูปร่างอย่างเร็ว การดูดไขมันจึงได้ผลดีกว่า

ดูดไขมันหน้าท้อง vs Morpheus8

Morpheus8 เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ RF และ Microneedling ซึ่งมีหัวทิปขนาด 40 เข็มสำหรับใช้กับลำตัว สามารถช่วยสลายไขมันได้บางส่วน แต่จะเน้นไปที่เรื่องของการปรับผิวให้เรียบเนียน แก้ปัญหารอยแตก และช่วยกระชับผิว

  • Morpheus8 เน้นการปรับผิวให้เรียบเนียนและกระชับมากกว่าการกำจัดไขมันโดยตรง
  • ใช้ได้ดีกับปัญหารอยแตกลาย ผิวไม่เรียบ หรือผิวหย่อน
  • ไขมันที่ลดได้จะเป็นเพียงบางส่วน ไม่เหมาะสำหรับเคสที่ต้องการลดปริมาณไขมันจำนวนมาก
  • ไม่มีแผลขนาดใหญ่ แต่ต้องทำหลายครั้งเพื่อเห็นผล

สรุป Morpheus8 เหมาะกับคนที่ผิวไม่กระชับ หรือมีปัญหาผิวพรรณร่วมด้วย ส่วนการดูดไขมันเหมาะกับการจัดการไขมันจำนวนมากอย่างเฉพาะเจาะจง

ราคาดูดไขมันหน้าท้องเท่าไหร่?

ราคาดูดไขมันหน้าท้องมีด้วยกันหลายปัจจัย ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่ต้องการลด ตำแหน่งที่ทำ เทคโนโลยีที่เลือกใช้ เทคนิคเสริมอื่น ๆ ความต้องการของคนไข้ และประสบการณ์ของแพทย์ โดยราคาทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 – 100,000 บาท

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับดูดไขมันหน้าท้อง (FAQ)

ในบทความนี้ได้รวบรวมเอาคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูดไขมันหน้าท้อง มาไว้เป็นข้อมูลเพื่อช่วยไขข้อข้องใจและใช้ประกอบการตัดสินใจ ดังนี้

Q : ดูดไขมันหน้าท้อง เจ็บไหม?

A : อาจมีอาการเจ็บตึง รู้สึกปวดหรือระบมเล็กน้อยบริเวณที่ทำหลังจากยาชาหมดฤทธิ์ ซึ่งถือเป็นอาการปกติและสามารถควบคุมอาการได้ด้วยยาแก้ปวดที่แพทย์สั่งให้ โดยส่วนใหญ่ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติภายในไม่กี่วัน และอาการเจ็บจะค่อย ๆ ทุเลาลงในช่วง 3-7 วันหลังทำ ทั้งนี้ความรู้สึกเจ็บมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและเทคนิคของแพทย์ที่ใช้ในการดูดไขมันด้วย

Q : ดูดไขมันหน้าท้องพักฟื้นกี่วัน?

A : ระยะเวลาการพักฟื้นหลังดูดไขมันหน้าท้องจะอยู่ที่ประมาณ 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนที่ฟื้นฟูตัวเองไม่เท่ากัน 

Q : ดูดไขมันหน้าท้องต้องทำซ้ำไหม?

A : หากหลังทำคนไข้ดูแลตัวเองควบคู่ไปด้วย เช่น ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย เป็นต้น จะช่วยคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานโดยไม่ต้องทำซ้ำ หากคนไข้มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น มีไขมันกลับมาสะสมใต้ผิวหนังมากขึ้น อาจจะต้องเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีสลายไขมันที่เหมาะสมต่อไป

Q : โปรแกรมดูดไขมันหน้าท้อง แผลเห็นชัดไหม?

A : แผลหลังดูดไขมันหน้าท้อง จะมีขนาดเล็กมาก ถูกซ่อนไว้ในตำแหน่งที่สังเกตเห็นได้ยาก เช่นบริเวณขอบกางเกงชั้นใน ซึ่งแผลจะสมานตัวเองและจางหายไปจนแทบมองไม่เห็น ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้ 

Q : หลังดูดไขมันหน้าท้องผิวจะหย่อนคล้อยไหม?

A : หากใครที่กลัวหน้าท้องหย่อนคล้อยสามารถเลือกใช้เทคนิคเสริมอื่น ๆ เช่น J-Plasma ที่สามารถช่วยกระชับผิวจากภายในด้วยคลื่นวิทยุ RF โดยแพทย์จะสอดเครื่องมือเข้าไปผ่านแผลเดียวกันที่ใช้ดูดไขมัน ทำให้พลังงานเข้าสู่ชั้นผิวที่ถูกดูดไขมันออกไปได้โดยตรง เนื้อเยื่อจะหดตัว ช่วยลดช่องว่างที่เกิดจากไขมันหายไป ผิวกระชับขึ้น

Q : ดูดไขมันหน้าท้องแล้ว เห็นผลได้จริงหรือเปล่า?

A : เห็นผลได้จริง โดยเฉพาะในแง่ของสัดส่วนหน้าท้องที่เล็กลงและรูปร่างที่ชัดเจนขึ้นหลังทำทันทีในระดับหนึ่ง และจะยิ่งเห็นผลชัดเจนมากขึ้นเมื่อร่างกายฟื้นตัวเต็มที่ภายใน 1-3 เดือน โดยเฉพาะหากดูแลตัวเองดีหลังทำ เช่น ใส่ชุดกระชับ ควบคุมอาหาร และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่กระทบต่อการฟื้นตัว ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานและเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนกว่าการลดไขมันด้วยวิธีอื่นที่ไม่สามารถกำจัดไขมันออกจากร่างกายได้โดยตรง

สรุป

ดูดไขมันหน้าท้อง อีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ต้องการดูแลรูปร่าง ลดไขมันเฉพาะส่วน สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหลังทำ ลดไขมันได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย ด้วยการใช้เครื่องมือทางการแพทย์สอดเข้าไปใต้ชั้นผิวและปล่อยคลื่นพลังงานทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวง่ายต่อการดูดออกมา สำหรับใครที่ต้องการกำจัดไขมันหน้าท้องอย่างเห็นผลและมีประสิทธิภาพ ต้องการดูแลรูปร่างให้ได้สัดส่วนที่ดี แต่ยังลังเลว่าจะดูดไขมันหน้าท้องที่ไหนดี แนะนำให้เข้ามาปรึกษาเรื่องการดูดไขมัน กับทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อรับการประเมินและออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดี ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครอบคลุม และมีความปลอดภัย

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม
Scroll to Top
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit