

ดูดไขมันเอวเอส สร้างความมั่นใจ เปลี่ยนหุ่นสวยในฝันให้กลายเป็นจริง
ดูดไขมันหน้าท้อง อีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ต้องการแก้ปัญหาไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง บางคนอาจจะออกกำลังกายแล้วแต่ไขมันก็ยังไม่ยอมลด ซึ่งไขมันที่อยู่ในตำแหน่งนี้เป็นจุดที่สลายได้ยาก จึงต้องหาวิธีการเสริมอื่น ๆ เข้ามาช่วย สำหรับใครที่มีความสงสัยว่าวิธีการนี้คืออะไร ช่วยแก้ปัญหาไขมันสะสมได้อย่างไร มีผลข้างเคียงไหม อันตรายหรือเปล่า เหมาะกับใครบ้าง สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเนื้อหาต่อไปนี้จาก Vincent Clinic Plastic Surgery

ดูดไขมันหน้าท้อง คืออะไร?
ดูดไขมันหน้าท้อง คือ การใช้เครื่องมือทางการแพทย์ในการช่วยจัดการไขมันสะสมที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังบริเวณหน้าท้องให้หายไป ด้วยการปล่อยคลื่นพลังงานเข้าไปทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ และดูดออกมาจากร่างกาย โดยวิธีการ ดูดไขมัน ไม่ใช่วิธีการหลักเพื่อลดน้ำหนักแต่เป็นการดูแลรูปร่างลดไขมันเฉพาะจุด ซึ่งสามารถส่งผลทำให้น้ำหนักลดลงได้ประมาณ 1-5 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับไขมันที่ถูกดูดออกไป หากต้องการลดน้ำหนักอาจจะต้องใช้วิธีการอื่นเข้าช่วย
ขั้นตอนการดูดไขมันหน้าท้อง ทำอย่างไร?
การดูดไขมันหน้าท้องเป็นหัตถการที่เน้นการกำจัดไขมันสะสมเฉพาะบริเวณหน้าท้องส่วนบน ล่าง และรอบเอว โดยใช้เทคโนโลยีช่วยสลายไขมันก่อนดูดออกผ่านแผลเล็ก ๆ ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยความแม่นยำสูงและควบคุมโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเห็นผลชัดเจน มีขั้นตอนดังนี้
1. ประเมินรูปร่างและออกแบบจุดที่จะดูดไขมันหน้าท้อง
แพทย์จะตรวจวิเคราะห์บริเวณหน้าท้องโดยละเอียด ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้องส่วนบน ล่าง หรือด้านข้าง เพื่อวางแผนตำแหน่งที่ไขมันสะสม พร้อมประเมินความหนา ความลึก และคุณสมบัติของไขมัน เพื่อเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะกับแต่ละบุคคล
2. เตรียมร่างกายและทำความสะอาดบริเวณหน้าท้อง
ก่อนเริ่มทำจะมีการทำความสะอาดผิวบริเวณหน้าท้องอย่างทั่วถึง แล้วมาร์คตำแหน่งไขมันที่ต้องดูดออก รวมถึงจุดที่จะแทรกเครื่องมือผ่านผิวหนัง ซึ่งจะอยู่บริเวณแนวขอบกางเกงหรือจุดที่ซ่อนแผลได้ง่าย
3. ระงับความรู้สึก ฉีดยาชาเฉพาะจุด หรือดมยาสลบ (ขึ้นอยู่กับเคส)
การดูดไขมันหน้าท้องสามารถทำโดยใช้ยาชาเฉพาะที่ในกรณีที่ปริมาณไขมันไม่มาก หรือเปิดรูไม่กว้าง แต่หากดูดหลายตำแหน่ง ดูดปริมาณมาก หรือผู้ป่วยกังวลเรื่องความเจ็บ แพทย์อาจพิจารณาการให้ยานอนหลับหรือวางยาสลบร่วมด้วย ทั้งนี้การเลือกวิธีระงับความรู้สึกจะขึ้นอยู่กับการประเมินอย่างรอบด้านของแพทย์และความเหมาะสมของผู้เข้ารับบริการ
4. สอดเครื่องมือและเริ่มดูดไขมันบริเวณหน้าท้อง
แพทย์จะใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เช่น คลื่นอัลตร้าซาวด์ (Vaser), คลื่น RF หรือ PAL เพื่อสลายไขมันในชั้นใต้ผิวบริเวณหน้าท้องให้เป็นของเหลวก่อน แล้วจึงดูดออกผ่านท่อดูดขนาดเล็ก (Cannula) อย่างแม่นยำ ไม่กระทบเส้นประสาทหรือเนื้อเยื่อข้างเคียง
5. เสริมเทคโนโลยีกระชับผิวหน้าท้อง (ถ้าจำเป็น)
ในบางกรณี โดยเฉพาะผู้ที่มีไขมันเยอะหรือผิวหย่อนคล้อย แพทย์อาจใช้เทคโนโลยี RF หรือ J-Plasma ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวหน้าท้องกระชับขึ้นหลังดูดไขมัน
6. พักฟื้นระยะสั้นและใส่ชุดกระชับหน้าท้อง
หลังดูดไขมันเสร็จ แพทย์จะปิดแผลเล็ก ๆ ที่หน้าท้องด้วยผ้าก๊อซ แล้วแนะนำให้ใส่ชุดกระชับหน้าท้องทันทีตลอด 24 ชั่วโมงในช่วง 1 เดือนแรก เพื่อให้ผิวแนบเรียบ ลดบวม และช่วยให้ผลลัพธ์คงที่ในระยะยาว
สุดท้ายนี้ การเข้าใจขั้นตอนของการดูดไขมันหน้าท้องอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณเตรียมตัวทั้งร่างกายและจิตใจได้ดีขึ้น เพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจ และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้การเลือกวิธีระงับความรู้สึกจะขึ้นอยู่กับการประเมินอย่างรอบด้านของแพทย์และความเหมาะสมของผู้เข้ารับบริการ หากจำเป็นต้องใช้ยาสลบหรือยานอนหลับ จะมี วิสัญญีแพทย์ ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดขั้นตอนเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ดูดไขมันหน้าท้อง มีด้วยกันกี่แบบ?
สำหรับดูดไขมันหน้าท้อง มีเทคโนโลยีหลากหลายที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ปัญหาและความต้องการของคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป โดยมีเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมเลือกใช้ ดังนี้
Vaser Smooth 2.2
เป็นเครื่องที่ใช้เทคโนโลยีคลื่นอัลตร้าซาวด์ (Ultrasonic Assisted Liposuction : UAL) เข้าไปทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวเล็กลงสามารถดูดไขมันออกมาได้ง่าย โดยมีของเหลวเป็นตัวกลางช่วยให้คลื่นอัลตร้าซาวด์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ทำร้ายเนื้อเยื่อข้างเคียง หลังจากนั้นจึงดูดไขมันออกมาซึ่งอาจมีเลือดปนออกมาได้บ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและเทคนิคที่ใช้ ทั้งยังช่วยลดอาการช้ำให้น้อยลง ฟื้นตัวได้ไวขึ้น นอกจากนั้นยังสามารถปรับโหมดพลังงานให้เหมาะกับการดูดไขมันเพื่อนำไปใช้ฉีดเติมเต็มต่อได้
Body Tite
เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นวิทยุ RF (Radio Frequency) ปล่อยเข้าสู่ชั้นผิวทำให้เกิดเป็นความร้อนเข้าไปทำให้ไขมันเกิดการแตกตัว นอกจากนั้นคลื่นวิทยุยังช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจน ผิวกระชับเต่งตึงหลังทำ
Body Jet
เป็นการใช้เทคโนโลยีพลังงานน้ำปล่อยเข้าไปแยกเซลล์ไขมันออกจากเนื้อเยื่อของผิวหนัง โดยไขมันที่ได้สามารถนำไปใช้ฉีดเติมในส่วนอื่นของร่างกายตามที่ต้องการได้
PAL (Power Assisted Liposuction)
เทคโนโลยีกำจัดไขมันด้วยระบบสั่นที่สามารถช่วยทำให้ไขมันเกิดการแตกตัว สามารถดูดไขมันออกมาได้ง่ายขึ้น ลดการเสียดสีที่อาจเกิดขึ้นกับผิวหนังและเนื้อเยื่อโดยรอบให้น้อยลง กำจัดไขมันในปริมาณมาก ๆ ได้ดี

ดูดไขมันหน้าท้อง เหมาะกับใครบ้าง?
สำหรับการดูดไขมันหน้าท้อง เป็นวิธีการที่ช่วยจัดการไขมันเฉพาะจุดได้เป็นอย่างดี ช่วยให้สามารถดูแลรูปร่างให้ดีขึ้นได้อย่างเห็นผล จึงเหมาะกับกลุ่มคนที่มีปัญหารูปร่างหรือมีความต้องการ ดังนี้
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องมากเกินไป
- เหมาะกับคนที่มีห่วงยาง หน้าท้องใหญ่จนเสียบุคลิก
- เหมาะกับคนที่อยากแต่งตัวให้ดูดีขึ้น เพิ่มความมั่นใจ
- เหมาะกับคนที่ออกกำลังกายและควบคุมอาหารแต่ไขมันหน้าท้องยังไม่ลดลง
- เหมาะกับคนที่ต้องการให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ชัดเจนขึ้น
- เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมันอย่างรวดเร็ว เห็นผลไว โดยไม่ต้องออกกำลังกาย
ข้อดีของการดูดไขมันหน้าท้อง
การดูดไขมันหน้าท้อง เป็นวิธีการกำจัดไขมันได้อย่างเห็นผล เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนหลังทำ จึงมีข้อดีหลายอย่าง ดังนี้
- สามารถลดไขมันเฉพาะจุดได้ดี
- สามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำ เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
- สามารถแต่งตัวได้สนุกมากขึ้น โชว์รูปร่าง อวดหุ่นสวยได้เต็มที่
- มีความคล่องตัวในการขยับร่างกายมากขึ้น เพราะไขมันหน้าท้องลดลง ทำให้ห่วงยางบริเวณหน้าท้องหายไป
- สามารถเลือกโหมดพลังงานให้เซลล์ไขมันยังคงคุณภาพดีที่นำไปฉีดเติมเต็มในส่วนต่าง ๆ ได้
ข้อเสียเกี่ยวกับการดูดไขมันหน้าท้อง
ก่อนที่จะเข้ารับบริการดูดไขมันหน้าท้อง ควรศึกษารายละเอียดและข้อควรระวังเพื่อให้เข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยมีข้อควรระวังดังนี้
- ไม่ใช่เครื่องมือสำหรับลดน้ำหนักโดยตรง และไม่สามารถลดน้ำหนักตัวเยอะ ๆ ได้
- ไม่สามารถลดไขมันที่อยู่ในช่องท้องได้
- หลังทำอาจเกิดอาการบวมหรืออาการเขียวช้ำ
- อาจเกิดอาการผิวเป็นคลื่นหรือมีก้อนแข็งขึ้นได้
- มีโอกาสเกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยหลังทำ
ดูดไขมันหน้าท้อง อันตรายไหม?
การดูดไขมันหน้าท้องเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ผู้มากประสบการณ์ในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานและใช้เครื่องมือที่ผ่านการรับรอง อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับการทำหัตถการทางการแพทย์อื่น ๆ ย่อมมีความเสี่ยง เช่น อาการบวมช้ำ ผิวไม่เรียบ ก้อนแข็ง หรือในบางกรณีอาจเกิดการติดเชื้อได้หากไม่ดูแลหลังทำอย่างเหมาะสม ดังนั้นการเข้ารับการประเมินร่างกายก่อนทำ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยได้อย่างมาก

ดูแลตัวเองอย่างไรหลังดูดไขมันหน้าท้อง?
หลังดูดไขมันหน้าท้องควรดูแลตัวเองหลังทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสเกิดผลลัพธ์ไม่พึงประสงค์และอาการผิดปกติต่าง ๆ ให้น้อยลง โดยสามารถดูแลตัวเองหลังทำได้ดังนี้
- ควรกินยาให้ครบตามกำหนดที่แพทย์สั่ง
- ทำแผลเป็นประจำทุกวัน ป้องกันการติดเชื้อ
- ควรเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอดเวลา เพื่อช่วยให้ร่างกายระบายของเสียออกจากแผลได้ดีขึ้น ป้องกันภาวะก้อนเลือดอุกตันบริเวณหน้าท้อง
- ใน 1 เดือนแรก ควรใส่ชุดกระชับตลอด 24 ชั่วโมง หลังจากเข้าเดือนที่ 2 – 3 เดือน สามารถลดระยะเวลาในการชุดกระชับเป็น 12 ชั่วโมงต่อวัน
- 1 เดือนหลังทำ งดออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมหนัก ๆ
- งดรับประทานอาหารเสริม วิตามิน หรือยา ที่มีผลกระทบต่อการแข็งตัวของเลือด
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงต่อในแต่ละวัน ช่วยป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ อาการหมักดอง หรืออาหารรสจัด เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ไว แผลหายไว ป้องกันการอักเสบติดเชื้อ
ผลลัพธ์หลังดูดไขมันหน้าท้องเป็นอย่างไร?
หลังดูดไขมันหน้าท้อง ผู้เข้ารับบริการจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างได้ตั้งแต่ช่วงแรกหลังทำ โดยเฉพาะในส่วนของสัดส่วนหน้าท้องที่เล็กลง เห็นรูปทรงร่างกายชัดเจนมากขึ้น ซึ่งความเปลี่ยนแปลงนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่ดูดออกไป ตำแหน่งที่ทำ และเทคนิคของแพทย์ รวมถึงการฟื้นตัวของร่างกายแต่ละบุคคลด้วย
ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน? ดูดไขมันหน้าท้องแล้วจะกลับมาอีกไหม?
ผลลัพธ์ของการดูดไขมันหน้าท้องสามารถอยู่ได้นานหลายปี หากมีการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เช่น การออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และควบคุมน้ำหนักไม่ให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เซลล์ไขมันที่ถูกดูดออกไปจะไม่กลับมาอีกในบริเวณเดิม เนื่องจากเซลล์ไขมันไม่สามารถแบ่งตัวได้เอง แต่หากน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น เซลล์ไขมันที่ยังหลงเหลืออยู่อาจขยายตัวและสะสมไขมันได้อีก จึงควรควบคุมพฤติกรรมเพื่อคงรูปร่างที่ดีไว้ในระยะยาว
เปรียบเทียบการดูดไขมันหน้าท้องกับวิธีการอื่น
แม้ว่าการดูดไขมันหน้าท้องจะเป็นวิธีที่เห็นผลชัดเจนและตรงจุดที่สุด แต่ยังมีเทคโนโลยีอื่นที่สามารถช่วยจัดการกับไขมันหน้าท้องได้เช่นกัน แม้จะมีขอบเขตที่ต่างกัน
ดูดไขมันหน้าท้อง vs Thermage FLX
Thermage FLX เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นวิทยุ RF ลงลึกสู่ชั้นผิว ช่วยสลายไขมันและกระชับผิว นอกจากนั้นยังมีหัวทิป BODY TIP 16.0 cm ที่เอาไว้ใช้กับบริเวณลำตัวโดยเฉพาะ แต่ไม่สามารถลดไขมันในปริมาณมากในคราวเดียวได้ รวมไปถึงไม่สามารถกำจัดไขมันแข็งหรือไขมันที่ลดยากได้มากเท่ากับการดูดไขมันซึ่งเป็นสอดเครื่องมือเข้าไปใต้ชั้นผิวและเข้าไปจัดการเซลล์ไขมันโดยตรง
- Thermage FLX ช่วยกระชับผิวและลดไขมันบางส่วนแบบไม่ต้องเจ็บตัว ไม่มีแผล
- เหมาะกับผู้ที่มีไขมันไม่มาก ต้องการลดไขมันพร้อมยกกระชับ
- ไม่สามารถกำจัดไขมันแข็งหรือลดยากได้เท่ากับการดูดไขมัน
- เห็นผลลัพธ์ช้ากว่าและอาจต้องทำซ้ำ
สรุป หากต้องการผลลัพธ์ชัดเจน ลดไขมันในปริมาณมาก และเปลี่ยนรูปร่างอย่างเร็ว การดูดไขมันจึงได้ผลดีกว่า
ดูดไขมันหน้าท้อง vs Morpheus8
Morpheus8 เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ RF และ Microneedling ซึ่งมีหัวทิปขนาด 40 เข็มสำหรับใช้กับลำตัว สามารถช่วยสลายไขมันได้บางส่วน แต่จะเน้นไปที่เรื่องของการปรับผิวให้เรียบเนียน แก้ปัญหารอยแตก และช่วยกระชับผิว
- Morpheus8 เน้นการปรับผิวให้เรียบเนียนและกระชับมากกว่าการกำจัดไขมันโดยตรง
- ใช้ได้ดีกับปัญหารอยแตกลาย ผิวไม่เรียบ หรือผิวหย่อน
- ไขมันที่ลดได้จะเป็นเพียงบางส่วน ไม่เหมาะสำหรับเคสที่ต้องการลดปริมาณไขมันจำนวนมาก
- ไม่มีแผลขนาดใหญ่ แต่ต้องทำหลายครั้งเพื่อเห็นผล
สรุป Morpheus8 เหมาะกับคนที่ผิวไม่กระชับ หรือมีปัญหาผิวพรรณร่วมด้วย ส่วนการดูดไขมันเหมาะกับการจัดการไขมันจำนวนมากอย่างเฉพาะเจาะจง
ราคาดูดไขมันหน้าท้องเท่าไหร่?
ราคาดูดไขมันหน้าท้องมีด้วยกันหลายปัจจัย ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่ต้องการลด ตำแหน่งที่ทำ เทคโนโลยีที่เลือกใช้ เทคนิคเสริมอื่น ๆ ความต้องการของคนไข้ และประสบการณ์ของแพทย์ โดยราคาทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 – 100,000 บาท
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับดูดไขมันหน้าท้อง (FAQ)
ในบทความนี้ได้รวบรวมเอาคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูดไขมันหน้าท้อง มาไว้เป็นข้อมูลเพื่อช่วยไขข้อข้องใจและใช้ประกอบการตัดสินใจ ดังนี้
Q : ดูดไขมันหน้าท้อง เจ็บไหม?
A : อาจมีอาการเจ็บตึง รู้สึกปวดหรือระบมเล็กน้อยบริเวณที่ทำหลังจากยาชาหมดฤทธิ์ ซึ่งถือเป็นอาการปกติและสามารถควบคุมอาการได้ด้วยยาแก้ปวดที่แพทย์สั่งให้ โดยส่วนใหญ่ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติภายในไม่กี่วัน และอาการเจ็บจะค่อย ๆ ทุเลาลงในช่วง 3-7 วันหลังทำ ทั้งนี้ความรู้สึกเจ็บมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและเทคนิคของแพทย์ที่ใช้ในการดูดไขมันด้วย
Q : ดูดไขมันหน้าท้องพักฟื้นกี่วัน?
A : ระยะเวลาการพักฟื้นหลังดูดไขมันหน้าท้องจะอยู่ที่ประมาณ 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนที่ฟื้นฟูตัวเองไม่เท่ากัน
Q : ดูดไขมันหน้าท้องต้องทำซ้ำไหม?
A : หากหลังทำคนไข้ดูแลตัวเองควบคู่ไปด้วย เช่น ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย เป็นต้น จะช่วยคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานโดยไม่ต้องทำซ้ำ หากคนไข้มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น มีไขมันกลับมาสะสมใต้ผิวหนังมากขึ้น อาจจะต้องเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีสลายไขมันที่เหมาะสมต่อไป
Q : โปรแกรมดูดไขมันหน้าท้อง แผลเห็นชัดไหม?
A : แผลหลังดูดไขมันหน้าท้อง จะมีขนาดเล็กมาก ถูกซ่อนไว้ในตำแหน่งที่สังเกตเห็นได้ยาก เช่นบริเวณขอบกางเกงชั้นใน ซึ่งแผลจะสมานตัวเองและจางหายไปจนแทบมองไม่เห็น ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้
Q : หลังดูดไขมันหน้าท้องผิวจะหย่อนคล้อยไหม?
A : หากใครที่กลัวหน้าท้องหย่อนคล้อยสามารถเลือกใช้เทคนิคเสริมอื่น ๆ เช่น J-Plasma ที่สามารถช่วยกระชับผิวจากภายในด้วยคลื่นวิทยุ RF โดยแพทย์จะสอดเครื่องมือเข้าไปผ่านแผลเดียวกันที่ใช้ดูดไขมัน ทำให้พลังงานเข้าสู่ชั้นผิวที่ถูกดูดไขมันออกไปได้โดยตรง เนื้อเยื่อจะหดตัว ช่วยลดช่องว่างที่เกิดจากไขมันหายไป ผิวกระชับขึ้น
Q : ดูดไขมันหน้าท้องแล้ว เห็นผลได้จริงหรือเปล่า?
A : เห็นผลได้จริง โดยเฉพาะในแง่ของสัดส่วนหน้าท้องที่เล็กลงและรูปร่างที่ชัดเจนขึ้นหลังทำทันทีในระดับหนึ่ง และจะยิ่งเห็นผลชัดเจนมากขึ้นเมื่อร่างกายฟื้นตัวเต็มที่ภายใน 1-3 เดือน โดยเฉพาะหากดูแลตัวเองดีหลังทำ เช่น ใส่ชุดกระชับ ควบคุมอาหาร และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่กระทบต่อการฟื้นตัว ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานและเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนกว่าการลดไขมันด้วยวิธีอื่นที่ไม่สามารถกำจัดไขมันออกจากร่างกายได้โดยตรง
สรุป
ดูดไขมันหน้าท้อง อีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ต้องการดูแลรูปร่าง ลดไขมันเฉพาะส่วน สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหลังทำ ลดไขมันได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย ด้วยการใช้เครื่องมือทางการแพทย์สอดเข้าไปใต้ชั้นผิวและปล่อยคลื่นพลังงานทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวง่ายต่อการดูดออกมา สำหรับใครที่ต้องการกำจัดไขมันหน้าท้องอย่างเห็นผลและมีประสิทธิภาพ ต้องการดูแลรูปร่างให้ได้สัดส่วนที่ดี แต่ยังลังเลว่าจะดูดไขมันหน้าท้องที่ไหนดี แนะนำให้เข้ามาปรึกษาเรื่องการดูดไขมัน กับทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อรับการประเมินและออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดี ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครอบคลุม และมีความปลอดภัย