แก้หน้าอก คืออะไร สาเหตุที่ทำให้ต้องผ่าตัดแก้ไข ทำได้บ่อยไหม?
แก้หน้าอก คือสิ่งสุดท้ายของคนที่เคยทำศัลยกรรมหน้าอกมาอยากจะได้ยิน เพราะไม่มีใครที่อยากให้เกิดปัญหาขึ้นกับตัวเองแต่หากเกิดความผิดปกติขึ้นกับหน้าอกของเราแล้ว การตัดสินใจรีบรักษาอย่างเร่งด่วนคือสิ่งที่ควรทำเพื่อช่วยลดโอกาสลุกลามให้น้อยลง พร้อมทั้งยังสามารถช่วยแก้ไขให้กลับมาดีดังเดิมหรือดีมากขึ้นกว่าเดิมได้ ซี่งปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหากลับหน้าอกหลังผ่าตัดมานั้นมีด้วยกันหลายสาเหตุ เพื่อช่วยให้เข้าใจปัญหามากขึ้น หลีกเลี่ยงต้นเหตุการณ์เกิดปัญหา และเลือกวิธีการรักษาได้อย่างเหมาะสม สามารถติดตามอ่านได้จากบทความนี้

แก้หน้าอก คืออะไร?
การแก้หน้าอก หรือ การแก้นม คือ การทำศัลยกรรมเพื่อแก้ไขหน้าอกที่เกิดปัญหาขึ้นหลังจากการเสริมหน้าอก ไม่ว่าจะเป็น หน้าอกผิดรูปทรง หน้าอกเบี้ยว ขนาดไม่เท่ากัน นมแข็ง เป็นต้น โดยใช้เทคนิคพิเศษเข้ามาช่วยทำให้หน้าอกกลับมาได้ขนาดและรูปทรงที่สวยงามตามต้องการ เพราะระดับปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกันส่งผลทำให้ความยาก–ง่ายต่างกัน แพทย์จึงต้องเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคนไข้มากที่สุด
อาการที่บ่งบอกว่าต้องแก้หน้าอก
ก่อนแก้หน้าอก สามารถสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตัวเองเพื่อเช็กให้แน่ใจว่าเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที โดยสังเกตได้ดังนี้
- เมื่อสัมผัสหน้าอกจะรู้สึกถึงอาการเต้านมที่แข็งมากขึ้นกว่าปกติ ไม่เป็นธรรมชาติ
- บริเวณหน้าอกมีตุ่มขึ้นหรือมีจุดที่แข็งขึ้นมา
- มีก้อนแข็งอยู่ที่บริเวณใต้รักแร้
- บริเวณหน้าอกมีอาการตึงหรือชามากกว่าปกติ
- บริเวณเต้านมเกิดอาการแสบร้อน
- เกิดอาการหายใจไม่สะดวก แน่นหน้าอก

ทำไมต้องแก้หน้าอก?
การแก้หน้าอก เป็นวิธีที่สามารถช่วยแก้ไขหน้าอกที่เกิดปัญหาความผิดปกติต่าง ๆ ให้กลับมาดีขึ้น ทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์ ความสวยงาม หรือขนาด โดยมีปัญหาที่มักพบได้บ่อย ดังนี้
- หน้าอกมีขนาดไม่พอดีกับตัว อาจเกิดขึ้นได้จากการเสริมหน้าอกแล้วมีขนาดใหญ่มากเกินไป
- หน้าอกไม่เป็นธรรมชาติ อาจเกิดขึ้นได้จากซิลิโคนผิดปกติ หน้าอกแข็ง เป็นต้น
- หน้าอกมีรูปทรงผิดปกติ เช่น นมแฝด นมห่าง นมสูง นมยาน เป็นต้น
- หน้าอกไม่เท่ากัน โดยธรรมชาติหน้าอกทั้งสองข้างจะเท่ากัน เมื่อเสริมหน้าอกจะยิ่งทำให้เห็นปัญหาชัดเจนมากขึ้น เกิดขึ้นได้จากการที่ซิลิโคนมีการเคลื่อนตัว
- ปัญหาสุขภาพ ในบางรายอาจเกิดอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดกล้ามเนื้อ เป็นต้น เพราะขนาดหน้าอกมีขนาดใหญ่มากเกินไป จนร่างกายรับน้ำหนักไม่ไหว
- เกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้น เป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการเสริมหน้าอก เช่น เกิดการอักเสบหรือเกิดการติดเชื้อรุนแรงจนลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่

แก้หน้าอกช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?
สำหรับการแก้หน้าอก มีด้วยกันหลายวิธีขึ้นอยู่กับแพทย์จะเลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุม ดังนี้
1. ปัญหาหน้าอกแข็ง
หน้าอกแข็ง คือ ลักษณะของหน้าอกที่มีทรงเป็นบล็อกแข็งไม่เป็นธรรมชาติ เมื่อสัมผัสจะรู้สึกว่ามีความแข็งซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น เกิดพังผืดขึ้นที่หน้าอกอาจทำให้ผิดรูปทรงหรือบางรายอาจจะรู้สึกเจ็บได้ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น
- แพทย์อาจจะไม่มีประสบการณ์มากพอหรือไม่มีความเชี่ยวชาญ
- หลังผ่าตัดไม่มีการหยุดเลือดที่ดีมากพอส่งผลให้เกิดปัญหาเลือดคั่งกลายเป็นก้อน มีอาการปวดบวม เขียวช้ำ หน้าอกมีขนาดที่ผิดปกติ
- เกิดการติดเชื้อหลังผ่าตัด โดยอาจมีอาการผื่นแดง ปวดบวม มีอาการช้ำ หรือหน้าอกเป็นคลื่นได้เช่นกัน
- ขนาดของซิลิโคน มีผลทำให้รูปทรงไม่เป็นธรรมชาติ เพราะใส่ซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่เกินไปไม่พอดีกับตัวหรือฐานหน้าอกเดิม
2. ปัญหาหน้าอกแฝด
หน้าอกแฝด เป็นลักษณะของเต้านมมีความชิดกันมากเกินไปจนทำให้ร่องหน้าอกหายไป นอกจากนั้นหัวนมมีการเคลื่อนไปจากตำแหน่งเดิมจนมองเห็นหน้าอกเป็นก้อนเดียวกัน เกิดขึ้นได้จากในระหว่างการผ่าตัดมีการเลาะเนื้อเยื่อบริเวณแกนกลางหน้าอกที่เชื่อมกับกระดูกซี่โครงมากเกินไป ทำให้หลังใส่ซิลิโคนเข้าไปแล้วมีโอกาสสูงที่จะเคลื่อนตัวเข้ามาเชื่อมหากัน สามารถพบได้ในคนที่เสริมหน้าอกที่มีขนาดใหญ่เกินไป
3. ปัญหาหน้าอกเป็นลอน
หน้าอกเป็นลอน หน้าอกเป็นริ้ว คือ ลักษณะของเต้านมที่มีรอยย่น มีริ้ว หรือมีคลื่น เห็นขอบซิลิโคนชัดเจน ผิวหน้าอกมีความขรุขระไม่เรียบเนียน เกิดขึ้นได้จากการใส่ซิลิโคนใหญ่มากกว่าฐานของเต้านมเดิม ทำให้เกิดการแยกชั้นระหว่างซิลิโคนและฐานนมชัดเจน จึงทำให้เกิดเป็นลอนคลื่นขึ้นได้
4. ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย
หน้าอกหย่อนคล้อย ลักษณะของหน้าอกที่ความหย่อนคล้อย หน้าอกยานมากกว่าปกติ ทำให้ขาความมั่นใจ รูปทรงหน้าอกไม่สวยงามตามต้องการ เกิดขึ้นได้จากอายุของคนไข้ที่เพิ่มขึ้น ขนาดของซิลิโคนที่ใหญ่เกินไป ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการที่ไม่ค่อยสวมชุดชั้นใน ซึ่งสามารถทำให้เกิดปัญหาความหย่อนคล้อยของหน้าอกได้
5. ปัญหาซิลิโคนพลิก
หน้าอกพลิก คือ ลักษณะของหน้าอกที่ผิดรูป เกิดขึ้นได้จากซิลิโคนพลิกกลับด้าน ทำให้เต้านมไม่เท่ากัน ทำให้เห็นขอบซิลิโคนที่ชัดเจน มักเกิดขึ้นได้จากการที่แพทย์เลาะโพรงหน้าอกใหญ่กว่าขนาดของซิลิโคน ทำให้มีพื้นที่ว่างเพียงพอที่ซิลิโคนจะพลิกตัวได้ นอกจากนั้นอาจเกิดจากการที่นวดหน้าอกผิดวิธีหรือนวดแรงเกินไป รวมไปถึงหน้าอกที่หย่อนคล้อยจากการมีบุตรก็สามารถส่งผลกระทบให้เกิดปัญหานี้ได้ง่ายขึ้น
6. ปัญหาพังผืดรอบซิลิโคน
พังผืดรอบซิลิโคน โดยปกติหลังเสริมหน้าอกไปอาจเกิดพังผิดบาง ๆ ขึ้นได้ แต่หากเกิดพังผืดหนาหดรั้งซิลิโคน อาจทำให้เกิดอาการเจ็บ ปวดบริเวณหน้าอก หน้าอกผิดรูปทรง หรือเกิดเป็นปัญหานมแข็งเป็นก้อน หน้าอกไม่เป็นธรรมชาติ เกิดขึ้นจากการที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดกระบวนการสร้างพังฟืดขึ้นมาหุ้มรอบซิลิโคนเอาไว้ เมื่อเวลาผ่านไปพังผืดจึงเกิดการหดรั้งหรือเกิดการแข็งตัวขึ้น
7. ปัญหาซิลิโคนทะลุ
ซิลิโคนทะลุ เกิดขึ้นจากการที่แผลผ่าตัดปริและขยายขนาดกว้างขึ้น สามารถเกิดขึ้นได้จากการที่ใส่ซิลิโคนมีขนาดที่ใหญ่มากเกินไป แพทย์เย็บแผลได้ไม่ดี นอกจากนั้นอาจเกิดขึ้นได้จากการที่คนไข้ออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ออกแรงเยอะ ๆ หลังผ่าตัดเร็วเกินไป จึงทำให้แผลเกิดการปริแตกได้ง่ายขึ้น
8. ปัญหาซิลิโคนรั่ว
ซิลิโคนรั่ว คือ อาการที่ถุงซิลิโคนแตกจนเกิดการรั่วไหลอยู่ภายในเต้านม ทำให้เต้านมไม่เท่ากันอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลทำให้เกิดอาการเจ็บ ปวด หรือแสบร้อน ทั้งยังอาจเกิดอาการเป็นก้อนแข็งขึ้นได้ หากไม่รีบทำการรักษาอาจส่งผลทำให้เกิดปัญหาที่ลุกลามในอนาคตได้ สาเหตุมาจากการใช้ซิลิโคนที่ไม่ได้มาตรฐาน ได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง รวมไปถึงเกิดพังผืดที่มากเกินไปบริเวณเต้านม
แก้หน้าอก ควรเว้นระยะห่างก่อนทำเท่าไหร่?
ก่อนแก้หน้าอก ควรเว้นระยะห่างจากการเสริมหน้าอกครั้งก่อนหน้าประมาณ 6 – 12 เดือน เพื่อให้รอยแผลผ่าตัดหายดีและให้ร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่กลับสู่ภาวะปกติ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา ในกรณีของคนที่หลังทำหน้าอกมานานแล้วไม่ได้มีปัญหาเกิดขึ้นแต่อยากแก้ไขหน้าอกก็สามารถทำได้ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี เพราะอายุของซิลิโคนสามารถอยู่ได้มากกว่า 10 ปีขึ้นไป หากไม่ได้อยากแก้ไขหรือไม่ได้มีปัญหาเกิดขึ้นก็สามารถอยู่ไปตลอดชีวิต
แก้หน้าอก สามารถทำซ้ำได้กี่ครั้ง?
แก้หน้าอก สามารถทำได้หลายครั้งโดยในแต่ละครั้งที่ทำการแก้ไขจะทำให้มีข้อจำกัดหรือความยากที่เพิ่มมากขึ้น เพราะมีการกระทบกับเนื้อเยื่อเต้านมบ่อยครั้งอาจทำให้เกิดพังผืดเกาะซิลิโคนได้มากขึ้น ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละคนมากที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัย
แก้หน้าอกแล้วนมเหี่ยวไหม?
แก้หน้าอกแล้วเกิดอาการหย่อนคล้อย หรือ นมเหี่ยว อาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น น้ำหนักตัวลดลง ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร รวมไปถึงเกิดปัญหาจากการเสริมหน้าอกครั้งก่อนหน้า เป็นต้น โดยสามารถแก้ไขได้ด้วยการศัลยกรรมยกกระชับหน้าอกซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ก่อนแก้หน้าอก ควรเตรียมตัวอย่างไร?
การแก้หน้าอก ก่อนเข้ารับบริการควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ตามมาในอนาคต โดยมีแนวทางปฏิบัติตัวดังนี้
- งดรับประทานอาหารและงดดื่มน้ำ ก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง
- งดรับประทานวิตามิน อาหารเสริม ก่อนผ่าตัดประมาณ 1 เดือน
- 1 เดือนก่อนเข้ารับการผ่าตัด ควรงดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ในกรณีที่คนไข้มียาที่ต้องทานเป็นประจำ มีประวัติแพ้ยา หรือมีโรคประจำตัว ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนเข้ารับการผ่าตัดทุกครั้ง
หลังแก้หน้าอก ควรดูแลตัวเองอย่างไร?
หลังผ่าตัดแก้หน้าอก ควรดูแลตัวเองตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ทั้งยังช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูตัวเองได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด โดยมีวิธีดูแลตัวเอง ดังนี้
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ 1 เดือนหลังผ่าตัด
- คนไข้ควรงดขับขี่ยานพาหนะด้วยตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากแผลยังไม่สมาน รวมถึงฤทธิ์ของยาชาและยาสลบอาจจะยังไม่หมดไปทำให้สมรรถภาพในการขับขี่ลดลงได้
- ในช่วง 1 เดือนหลังผ่าตัด ควรงดออกกำลังกาย ทำกิจกรรมหนัก ๆ หรือยกของหนัก เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนกับแผลผ่าตัด
- งดแช่น้ำหรือว่ายน้ำ ในช่วง 1 เดือนหลังการผ่าตัด
- งดนอนคว่ำหรือนอนตะแคง เพื่อป้องกันซิลิโคนถูกกดทับหรือเคลื่อนที่ไปในตำแหน่งอื่นที่ไม่ต้องการ
- ควรนอนหงาย ยกหัวให้สูง หลังเข้ารับการผ่าตัด
- ควรใส่ซัพพอร์ตบราตลอดเวลารวมถึงตอนนอนในช่วงระยะเวลา 1 เดือนหลังผ่าตัด และสามารถใส่แทนบราปกติต่อไปอีก
- ในกรณีที่ไม่ได้ใช้กาวปิดแผล ไม่ควรให้แผลโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม ควรทำให้แผลแห้งอยู่ตลอดเวลา
แก้หน้าอก ราคาเท่าไหร่?
แก้หน้าอก มีราคาค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหา เทคนิคที่ใช้ ยี่ห้อซิลิโคนที่เลือกเปลี่ยน และความต้องการของคนไข้แต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและออกแบบการรักษาที่เหมาะกับแต่ละคนมากที่สุด ราคาโดยทั่วไปจะเริ่มต้นที่ประมาณ 60,000 – 200,000 บาท แนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์โดยตรงเพื่อให้คนไข้ได้รับรายละเอียดที่ครบถ้วนถูกต้องมากที่สุด
สรุป
แก้หน้าอก ทางเลือกของคนที่หน้าอกมีปัญหาหลังจากเสริมหน้าอกมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น หน้าอกแข็ง หน้าอกเบี้ยวผิดรูปทรง หน้าอกไม่เท่ากัน หรือมีพังผืดดึงรั้ง เป็นต้น ซึ่งต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์มากประสบการณ์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีเหมาะกับคนไข้แต่ละคนมากที่สุด แก้ปัญหาได้ตรงจุด และมีความปลอดภัย หากใครที่ต้องการศัลยกรรมหน้าอกครั้งแรกหรืออยากแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับหน้าอกที่เคยทำมาแล้ว สามารถเข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ของ Vincent Clinic เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินปัญหา เลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม และออกแบบการรักษาที่รับกับสรีระของคนไข้แต่ละคน