vincent.jpg.png
vc_3.png
Vincent Clinic Bangkok Plastic Surgery
คลินิกศัลยกรรมความงาม ดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit
บทความ
Short Scar Facelift คืออะไร เหมาะกับใคร เป็นเทคนิคดึงหน้าแบบไหน
แชร์ :

Short Scar Facelift คืออะไร เหมาะกับใคร เป็นเทคนิคดึงหน้าแบบไหน

Short Scar Facelift คืออะไร
อยากรู้เรื่องอะไร? คลิกที่หัวข้อได้เลย!

Key Takeaways

  • Short Scar Facelift คือ เทคนิคดึงหน้าที่ใช้แผลผ่าตัดขนาดเล็กบริเวณด้านหน้าหู ไม่ยาวถึงหลังใบหู เหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยระดับปานกลางโดยเฉพาะบริเวณแก้มและกรอบหน้า
  • Short Scar Facelift เหมาะกับผู้ที่มีอายุประมาณ 35–55 ปี ที่ผิวยังมีความยืดหยุ่นดี ไม่จำเป็นต้องยกกระชับถึงลำคอ
  • ข้อดีของ Short Scar Facelift คือ ลดความเสี่ยงต่อเส้นประสาท ไม่มีรอยแผลหลังหู ไม่เปลี่ยนแนวไรผม และลดโอกาสเกิดติ่งหูผิดรูป
  • แตกต่างจาก Full Facelift ตรงที่ Short Scar เหมาะกับการยกเฉพาะจุด ขณะที่ Full Facelift ยกกระชับได้ทั้งใบหน้าและลำคอ เหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยมากหรืออายุมากกว่า
  • หากเลือกทำโดยศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์และคลินิกที่ได้มาตรฐาน จะช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและปลอดภัยในระยะยาว

เทคนิคดึงหน้า Short Scar Facelift ทางเลือกของคนที่ใบหน้ามีปัญหาความหย่อนคล้อย ด้วยการผ่าตัดแบบแผลเล็ก ทำให้หน้ากลับมากระชับ เต่งตึง แลดูอ่อนเยาว์ ซึ่งหลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่าเทคนิคนี้คืออะไร ใครที่เหมาะกับการทำเทคนิคนี้ มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นไหม แตกต่างจากเทคนิคดึงหน้าอื่นๆ อย่างไร พักฟื้นหลังทำนานไหม หลังทำจะมีแผลเป็นหรือไม่ ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้จากเนื้อหาต่อไปนี้ที่ Vincent Clinic Plastic Surgery ได้รวบรวมมาให้ค่ะ

เทคนิค Short Scar Facelift คืออะไร?

Short Scar Facelift คือการ ผ่าตัดดึงหน้า เพื่อยกกระชับเฉพาะส่วนโดยมีแผลผ่าตัดขนาดเล็ก เพื่อจัดเรียงชั้นเนื้อเยื่อให้เรียบเนียนเต่งตึง ดึงชั้น SMAS ให้หน้ายกกระชับขึ้น ซึ่งเป็นชั้นผิวที่ทำให้เกิดปัญหาใบหน้าที่แก่กว่าวัย ผิวเหี่ยวย่น โดยแผลผ่าตัดจะมีขนาดเล็กกว่าการดึงหน้าแบบ Full Facelift ทำให้พักฟื้นน้อย ลดอาการบวมช้ำ เจ็บน้อยกว่า

เทคนิค Short Scar Facelift เหมาะกับใคร?

เทคนิคการดึงหน้า Short Scar Facelift สามารถช่วยยกกระชับเฉพาะจุดได้ดี แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้อย่างเห็นผล จึงเป็นศัลยกรรมดึงหน้าที่เหมาะกับคนกลุ่มต่อไปนี้

  • คนที่มีอายุตั้งแต่ 35 – 55 ปี เพราะเป็นวัยที่เริ่มเผชิญกับปัญหาผิวเสื่อมตามธรรมชาติ คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวลดลง ทำให้ผิวเริ่มหย่อนคล้อยและเห็นริ้วรอยได้ชัดเจน
  • คนที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยชัดขึ้น แต่ผิวยังไม่หย่อนคล้อยมาก หย่อนคล้อยปานกลาง ต้องการชะลอปัญหาผิว
  • คนที่มีความหย่อนคล้อยบริเวณช่วงแก้ม กรอบหน้า ขากรรไกร ทำให้ใบหน้าดูใหญ่ หน้าอ้วน กรอบหน้าไม่ชัดจากผิวไม่กระชับหย่อนคล้อย 
  • คนที่ผิวหนังยังมีความยืดหยุ่นดีอยู่ ถึงแม้ผิวจะหย่อนคล้อย แต่ผิวยังมีคอลลาเจน ยังมีความกระชับอยู่ ไม่ได้หย่อนคล้อยระดับหนัก
  • คนที่ต้องการให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ อยากลดอายุให้ใบหน้าดูเด็กลง ปรับให้ใบหน้าดูสดใสมากขึ้น
  • คนที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนหลังทำ ไม่ต้องคอยกลับมาทำบ่อยๆ และให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่าการดึงหน้าแบบไม่ผ่าตัด

Short Scar Facelift ไม่เหมาะกับใคร? 

ถึงแม้ Short Scar Facelift จะช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยและยกกระชับเฉพาะจุดได้ดี แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ที่สามารถทำการยกกระชับได้ ระดับความหย่อนคล้อยที่สามารถแก้ไขได้ จึงไม่เหมาะกับคนกลุ่มต่อไปนี้ 

  • คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยค่อนข้างมาก Short Scar Facelift จะเหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ถ้าผิวที่หย่อนคล้อยมากอาจต้องดึงหน้าแบบ SMAS Facelift
  • คนที่มีปัญหาหย่อนคล้อยทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ Short Scar Facelift เป็นการยกกระชับเฉพาะจุด เช่น บริเวณแก้ม กรอบหน้า และขากรรไกร แต่ไม่ได้ครอบคลุมทั้งใบหน้าและลำคอ
  • คนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพราะผิวหนังมักสูญเสียความยืดหยุ่นไปมาก และชั้นกล้ามเนื้อก็หย่อนคล้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
  • คนที่คาดหวังผลลัพธ์มากเกินความเป็นจริง ถึงแม้ Short Scar Facelift จะให้ผลลัพธ์ชัดเจนกว่าการยกกระชับแบบไม่ผ่าตัด แต่ไม่สามารถย้อนวัย ไม่สามารถแก้ปัญหาหย่อนคล้อยระดับรุนแรงได้

ข้อดีของการดึงหน้า short car facelift

ข้อดีของการดึงหน้าด้วยเทคนิค Short Scar Facelift

สำหรับเทคนิคดึงหน้า Short Scar Facelift สามารถเข้าไปช่วยดึงชั้นผิวให้ตึงกระชับด้วยการเปิดแผลขนาดเล็ก จึงเป็นการผ่าตัดดึงหน้าที่มีข้อดีหลายอย่าง ดังนี้

  • แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก จึงฟื้นตัวได้เร็วกว่าแบบดึงหน้าเต็มรูป ไม่ต้องพักฟื้นนาน
  • ไม่มีแผลเป็นหลังใบหู ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นให้เห็นชัด ทำให้มั่นใจเวลาเกล้าผม
  • ช่วยยกกระชับผิวหน้าส่วนกลางให้ดูอ่อนเยาว์ แก้ปัญหาแก้มตก และริ้วรอยช่วงแก้มได้ดี
  • ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของเส้นประสาทบนใบหน้า เพราะใช้การเปิดแผลสั้น และผ่าตัดในชั้นไม่ลึก
  • ไม่ทำให้เกิดปัญหาติ่งหูผิดรูปจากการเย็บแผลผ่าตัด ด้วยตำแหน่งและวิธีการเย็บที่ออกแบบเฉพาะ ช่วยให้ติ่งหูยังคงรูปทรงตามธรรมชาติ
  • แนวไรผมไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงจนทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ  การกรีดแผลจะไม่ล้ำเข้ามาในแนวไรผมมากเกินไป จึงไม่ทำให้แนวผมเปลี่ยน

Short Scar Facelift ต่างจาก Full Facelift อย่างไร?

เนื่องจากการผ่าตัดดึงหน้าแบบ Short Scar Facelift เป็นการดึงหน้าเฉพาะจุดและมีแผลเล็ก จึงมีความแตกต่างจาก Full Facelift อย่างเห็นได้ชัดเจน โดยมีรายละเอียดของความต่างกันดังนี้

จุดเปรียบเทียบ Short Scar Facelift Full Facelift
แผลผ่าตัด แผลขนาดเล็ก ซ่อนแผลไว้ตามแนวขอบใบหูด้านหน้า  แผลขนาดใหญ่มีแนวยาวตั้งแต่หนังศีรษะ แนวไรผม ด้านหน้าและด้านหลังใบหู 
บริเวณที่ยกกระชับ ใบหน้าส่วนกลาง เช่น แก้ม กรอบหน้า เป็นต้น ทำได้ทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ
ระยะเวลาพักฟื้น ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ประมาณ 2 – 3 สัปดาห์
เหมาะกับใคร
  • อายุ 35 – 55 ปี
  • เริ่มมีผิวหย่อนคล้อยยังไม่มาก อยู่ในระดับปานกลาง
  • อายุ 60 ปีขึ้นไป
  • ผิวหย่อนคล้อยหนักมาก

*ตารางนี้เป็นเพียงการเปรียบเทียบเบื้องต้นเท่านั้น

ขั้นตอนการผ่าตัดดึงหน้า Short Scar Facelift

ในส่วนของขั้นตอนในการทำ Short Scar Facelift มีกระบวนการที่ซับซ้อนไม่มากเท่ากับการดึงหน้าแบบทั่วทั้งใบหน้า โดยมีรายละเอียดของการทำดังนี้

  • วางแผนการรักษาและออกแบบโครงสร้างหน้า โดยแพทย์จะประเมินจากระดับปัญหาและความต้องการของคนไข้ที่แตกต่างกัน
  • แพทย์กำหนดจุดที่จะทำการผ่าตัดแล้วจึงให้ วิสัญญีแพทย์ ทำการดมยาสลบ เมื่อยาออกฤทธิ์จึงเริ่มทำการผ่าตัดเพื่อเข้าไปจัดเรียงชั้นผิวและยกกระชับใบหน้าในตำแหน่งที่กำหนดไว้ 
  • หลังจากดึงหน้าเสร็จสิ้นแล้ว แพทย์จะเย็บซ่อนแผลไว้ตามขอบใบหูด้านหน้าและไรผม
  • หลังจากยาสลบหมดฤทธิ์ จะคอยดูอาการคนไข้ก่อนสักระยะ เมื่อไม่มีอาการข้างเคียงสามารถกลับบ้านได้เลย

ก่อนผ่าตัด short scar facelift เตรียมตัวยังไง

ก่อนผ่าตัด Short Scar Facelift ต้องเตรียมตัวอย่างไร?

เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างผ่าตัด Short Scar Facelift ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ารับบริการตามที่แพทย์แนะนำ ดังนี้

  • หากมีประวัติแพ้ยา มียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ หรือมีโรคประจำตัว ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนผ่าตัด เพื่อป้องกันอาการเสี่ยงระหว่างผ่าตัด
  • งดวิตามิน ยา หรืออาหารเสริม ที่ส่งผลกระทบต่อการแข็งตัวของเลือด ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้เลือดออกง่าย ช้ำมาก
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัดประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ เนื่องจากส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดและการสมานแผล 
  • ควรเตรียมเวลาสำหรับการพักฟื้นไว้ล่วงหน้า หลังผ่าตัดอาจต้องใช้เวลาพักฟื้นหลายวันถึงสัปดาห์ ควรจัดตารางให้ดี

หลังทำ Short Scar Facelift ต้องดูแลอย่างไร? พักฟื้นนานไหม? 

หลังทำ Short Scar Facelift อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนที่แตกต่างกัน ควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนี้

  • สวมผ้ารัดหน้าเพื่อให้ใบหน้าเข้าที่ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ สามารถคลายออกได้บางเวลาหากรู้สึกแน่นเกินไปประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง แล้วจึงกลับมารัดใหม่อีกครั้ง ตามคำแนะนำของแพทย์
  • ทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ควรล้างแผลและเปลี่ยนผ้าปิดแผลให้สะอาดอยู่เสมอ
  • แนะนำให้ประคบเย็นในช่วง 2 – 3 วันแรกหลังผ่าตัด เพื่อลดอาการบวมช้ำให้น้อยลง ยุบบวมไวขึ้น
  • งดออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ออกแรงเยอะ ๆ ประมาณ 2 สัปดาห์ การเคลื่อนไหวร่างกายแรง ๆ อาจเพิ่มแรงดันเลือด ทำให้บวม ช้ำ หรือแผลหายช้าลง 
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนที่ดีช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น และช่วยให้แผลสมานได้ไว
  • ห้ามให้แผลโดนน้ำประมาณ 5 – 7 วัน ควรเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำบริเวณแผลโดยตรง หรือการสระผมที่อาจทำให้น้ำไหลลงแผล เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบและพบแพทย์ตามนัดหมายตามกำหนด เพื่อควบคุมการติดเชื้อ ลดอาการอักเสบ และติดตามผลการฟื้นตัว หากมีอาการผิดปกติแพทย์จะได้แก้ไขได้ทัน

หลังทำ Short Scar Facelift มีผลข้างเคียงไหม?

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำ Short Scar Facelift ที่พบได้เป็นปกติคืออาการบวมช้ำที่จะหายไปได้เองในช่วง 1 สัปดาห์หลังทำ หรืออาจมีอาการปวดตึงบริเวณแผลผ่าตัดได้เช่นกันซึ่งจะค่อยๆ หายไปได้เองขึ้นอยู่กับความเร็วในการฟื้นฟูร่างกายของแต่ละคน รวมถึงการดูแลตัวเองหลังทำของคนไข้ นอกจากนั้นหากผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงหลังทำ 

ราคา Short Scar Facelift เท่าไหร่?

สำหรับราคาในการทำ Short Scar Facelift ในแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหา เทคนิคที่ใช้ ตำแหน่งที่ทำ ความต้องการของคนไข้ และประสบการณ์ของแพทย์ โดยราคาทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 – 130,000 บาท แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์โดยตรงเพื่อรับการประเมินและได้รับข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน

เลือกทำ Short Scar Facelift ที่ไหนดี? 

เพื่อป้องกันไม่ให้หลังทำ Short Scar Facelift เกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ขึ้น ควรศึกษารายละเอียดให้รอบคอบและพิจารณาในหลายด้านประกอบกันดังนี้

  • คลินิกมีความน่าเชื่อถือ เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีเลขใบอนุญาตติดไว้ให้เห็นชัดเจนสามารถตรวจสอบได้
  • ห้องผ่าตัดได้มาตรฐาน สะอาด แบ่งสัดส่วนพื้นที่ชัดเจน มีระบบปลอดเชื้อ เครื่องติดตามสัญญาณชีพ และอุปกรณ์ฉุกเฉินครบถ้วน เพื่อลดความเสี่ยงระหว่างผ่าตัด
  • แพทย์มีประสบการณ์ สามารถให้คำปรึกษาได้ละเอียดครบถ้วนถูกต้อง เข้าใจเทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด เป็นแพทย์จริงสามารถตรวจสอบกับแพทยสภาได้
  • มีรีวิวจากคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์จริงหลังทำที่ชัดเจนมากขึ้น ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
  • มีการดูแลติดตามหลังทำ เพื่อคอยดูแลติดตามอาการต่าง ๆ หลังทำ รวมถึงให้คำแนะนำและคอยช่วยเหลือหากเกิดอาการผิดปกติ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Short Scar Facelift

เพื่อช่วยให้เข้าใจถึงเทคนิค Short Scar Facelift มากขึ้นและตอบข้อสงสัยเพิ่มเติม ในเนื้อหาต่อไปนี้จึงได้รวบรวมเอาคำถามที่พบได้บ่อยมาไว้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ดังนี้

Q: อายุเท่าไหร่ถึงเหมาะกับการทำ Short Scar Facelift?
A: อายุที่เหมาะกับการดึงหน้า ด้วยเทคนิค Short Scar Facelift อยู่ที่ประมาณ 35 – 55 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่ความหย่อนคล้อยปรากฏชัดเจนแต่ความรุนแรงยังอยู่ในระดับปานกลาง ยังไม่รุนแรงมาก

Q: สามารถทำ Short Scar Facelift ซ้ำได้หรือไม่?
A: สามารถทำซ้ำได้หากอายุเพิ่มขึ้นและผิวกลับมาหย่อนคล้อย โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและออกแบบการรักษาที่เหมาะสมเฉพาะรายบุคคล 

Q: เทคนิค Short Scar Facelift ช่วยยกคิ้วหรือหนังตาตกได้ไหม?
A: สำหรับเทคนิคนี้จะเป็นการยกกระชับใบหน้าส่วนกลาง ได้แก่ แก้ม กรอบหน้า เป็นต้น จึงไม่ได้ส่งผลไปถึงบริเวณคิ้ว หนังตา หรือหางตา หากบริเวณใบหน้าส่วนบนมีปัญหาความหย่อนคล้อย แพทย์อาจจะประเมินเลือกใช้เทคนิค ยกคิ้ว อื่น ๆ เพื่อช่วยเสริมให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีมากยิ่งขึ้น

Q: การทำ Short Scar Facelift จะเห็นรอยแผลชัดเจนหรือไม่?
A: โดยแผลผ่าตัดจะมีขนาดเล็กมากซึ่งถูกเย็บไปตามแนวขอบหูด้านหน้าและไรผม จึงทำให้เนียนไปกับผิวทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดเจน หากดูแลหลังทำตามแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้รอยแผลจางลงจนแทบมองไม่เห็น

Q: ทำ Short Scar Facelift พร้อมกับหัตถการอื่นได้ไหม?
A: สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นๆ ได้ โดยแพทย์จะประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละคนมากที่สุด เช่น ฉีดไขมันใบหน้า เครื่องยกกระชับ เป็นต้น

Q: หลังทำจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เมื่อไร?
A: โดยปกติหลังทำสามารถกลับบ้านได้เลย โดยในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังทำ ควรเลี่ยงกิจกรรมที่ออกแรงเยอะหรือการออกกำลังกาย เพื่อป้องกันกระทบกระเทือนแผลผ่าตัด

Q: ทำไมบางคนเลือก Short Scar Facelift แทนการดึงหน้าแบบเต็มรูปแบบ?
A: เนื่องจากเป็นการดึงหน้าเฉพาะจุดที่ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยในระดับปานกลางได้ดี ลดอาการบวมช้ำ เจ็บน้อย พักฟื้นไม่นาน แต่ในกรณีของคนที่ใบหน้ามีความหย่อนคล้อยมาก ๆ อาจเลือกเทคนิคดึงหน้าในระดับลึก อย่างเช่น Deep Plane Facelift

สรุป

Short Scar Facelift เป็นเทคนิคการดึงหน้าที่มีแผลผ่าตัดขนาดเล็กบริเวณหน้าใบหูโดยไม่ยาวไปถึงหลังใบหู เน้นยกกระชับเฉพาะส่วนกลางถึงล่างของใบหน้า เช่น กรอบหน้า แก้ม เหมาะกับคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยไม่มากอยู่ในระดับกลาง ช่วงอายุ 35 – 55 ปี สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย อยากให้ใบหน้าดูเด็กลง ผิวกระชับเต่งตึง หรือต้องการปรับรูปหน้าให้ได้รูปมากขึ้น แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินและออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับรายบุคคลมากที่สุด

Scroll to Top
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit