Key Takeaways
- ดูดไขมันลำตัวล่าง คือ การกำจัดไขมันเฉพาะจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น บริเวณหน้าท้อง เอว สะโพก และหลังช่วงล่าง
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันดื้อซึ่งลดยากแม้ออกกำลังกายหรือคุมอาหาร ต้องการดูแลรูปร่าง กระชับสัดส่วนอย่างรวดเร็ว สร้างซิกแพ็ค ปรับเอวเอส
- ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคประจำตัวร้ายแรง หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร คนที่มีปัญหาผิวหนัง หรือผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักทั้งตัว เพราะการดูดไขมันลำตัวล่างไม่ได้ช่วยลดน้ำหนักโดยตรง
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน หากควบคุมน้ำหนักและดูแลตัวเองต่อเนื่อง ไขมันจะไม่กลับมาสะสมอีก
- Vincent Clinic มีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ พร้อมเทคโนโลยีทันสมัย ห้องผ่าตัดสะอาดได้มาตรฐาน และระบบดูแลหลังทำครบวงจร เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
ดูดไขมันลำตัวล่างเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ต้องการดูแลรูปร่าง และสัดส่วน ต้องการกำจัดไขมันอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงคนที่มีปัญหาไขมันดื้อกำจัดยากแม้จะควบคุมอาหาร หรือออกกำลังกายไขมันก็ยังไม่ลดลงไป ซึ่งตำแหน่งของลำตัวส่วนล่างเป็นจุดที่ไขมันกำจัดได้ค่อนข้างยาก การดูดไขมันจึงได้รับความนิยมใช้แก้ปัญหาเหล่านี้มากขึ้น สำหรับใครที่สงสัยว่าวิธีการนี้คืออะไร ต่างจากการดูดไขมันตำแหน่งอื่นไหม สามารถทำตำแหน่งไหนได้บ้าง เหมาะกับใคร หลังทำมีผลข้างเคียงอะไรไหม Vincent Clinic Plastic Surgery แนะนำให้ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้จากเนื้อหาต่อไปนี้
ดูดไขมันลำตัวล่าง ครอบคลุมส่วนไหนบ้าง?
การดูดไขมันลำตัวล่างมีด้วยกันหลายจุดซึ่งในแต่ละจุดต่างก็มีการสะสมของไขมันที่แตกต่างกัน มีไขมันดื้อที่ลดยาก ทำให้รูปร่างไม่ได้สัดส่วน การเลือก ดูดไขมัน ในแต่ละตำแหน่งจึงสามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องของรูปร่างได้อย่างเห็นผล โดยมีตำแหน่งที่นิยมดูดไขมันในส่วนล่างของลำตัว ดังนี้
หน้าท้องส่วนล่าง
การดูดไขมันบริเวณหน้าท้องส่วนล่าง ช่วยลดไขมันสะสมที่ทำให้หน้าท้องป่องหรือไม่เรียบแบน ซึ่งพบได้บ่อยจากพฤติกรรมการกินหรือฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในร่างกาย ถึงแม้จะออกกำลังกายแต่ก็ไม่หายไป
เอวด้านข้างส่วนล่าง
บริเวณเอวด้านข้างเป็นตำแหน่งที่สังเกตเห็นถึงการสะสมของไขมันได้ชัดเจน หรือที่หลายคนเรียกว่า ห่วงยาง โดยไขมันในจุดนี้มักเป็นไขมันดื้อที่ลดยาก หากสามารถกำจัดได้จะช่วยให้รูปร่างดูเพรียวขึ้น ช่วยสร้าง S Curve หรือที่เรียกกันว่าเอวเอส หลังจาก ดูดไขมันเอวเอส เวลาใส่เสื้อผ้ามีความมั่นใจเพราะเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งที่ชัดเจนมากขึ้น
สะโพก
การดูดไขมันสะโพกจะทำให้สะโพกลดขนาด และได้สัดส่วนมากขึ้น ไม่ดูหนาหรือเทอะทะ อีกทั้งยังช่วยให้ต้นขาเรียวเล็กลง เพราะไขมันบริเวณสะโพกมักเชื่อมต่อกับต้นขาด้านข้างและด้านหลัง ส่งผลให้รูปร่างโดยรวมดูเพรียว กระชับ มีความโค้งเว้าชัดเจน และเพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัวมากขึ้น
หลังช่วงล่าง
บริเวณหลังช่วงล่างเหนือก้นเป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถมีไขมันสะสมได้เช่นกัน ทำให้ผิวบริเวณนั้นไม่เรียบเนียน และช่วงตัวดูหนา เวลานั่งอาจจะมองเห็นก้อนเนื้อที่นูนออกมาช่วงหลังล่างได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่ลดได้ยาก แม้จะออกกำลังกายก็ไม่หายไปทั้งหมด
ดูดไขมันลำตัวล่าง เหมาะกับใคร?
ในส่วนของการดูดไขมันลำตัวล่างเป็นตัวช่วยในการดูแลรูปร่างและสัดส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะสามารถเข้าไปจัดการเซลล์ไขมันได้โดยตรง จึงเหมาะกับคนกลุ่มต่อไปนี้
- ผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีการอื่นแล้วไขมันยังไม่หายไป ควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายแล้ว แต่ยังมีไขมันดื้อสะสมอยู่ เช่น บริเวณเอว สะโพก หรือหน้าท้องส่วนล่าง
- ผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างให้ได้สัดส่วนมากขึ้น มีปัญหารูปร่างไม่สมดุล เช่น เอวหนา สะโพกใหญ่ หรือมีพุงยื่น การดูดไขมันลำตัวล่างจะช่วยปรับให้รูปร่างเข้ารูป
- ผู้ที่ต้องการลดขนาดเอวหรือสะโพกให้เล็กลง เพื่อให้เสื้อผ้าพอดีตัวมากขึ้น ใส่กางเกง กระโปรง หรือเดรสได้มั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสัดส่วนที่ดูหนาเกินไป
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลอย่างรวดเร็ว เพราะดูดไขมันให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนกว่าการลดด้วยวิธีอื่น เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากรอนาน และต้องการเห็นรูปร่างที่กระชับขึ้นในระยะเวลาอันสั้น
- ผู้ที่ต้องการมีส่วนเว้า ส่วนโค้งชัดเจนมากขึ้น ต้องการเอวเล็ก สะโพกผาย ให้เห็นสัดส่วนเว้าโค้งชัดเจน ใส่ชุดรัดรูปได้มั่นใจมากกว่าเดิม
ดูดไขมันลำตัวล่าง ไม่เหมาะกับใคร?
ถึงการดูดไขมันลำตัวล่างจะช่วยลดไขมันเฉพาะจุดได้อย่างเห็นผล แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ควรทราบไว้เบื้องต้นเพื่อประกอบการตัดสินใจ ดังนี้
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรงในระดับที่ควบคุมไม่ได้ โรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ อาจส่งผลทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนสูง
- ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน หากต้องการใช้วิธีดูดไขมันเป็นวิธีลดน้ำหนัก อาจจะไม่ค่อยเหมาะเนื่องจากไม่ได้มีผลต่อการลดน้ำหนักโดยตรง
- ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เนื่องจากฮอร์โมนยังเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหรือปัญหาอื่นๆ ตามมาได้ จึงเว้นการดูดไขมันไปก่อน
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังหรือการติดเชื้อ ถ้ามีโรคผิวหนังรุนแรง ผิวบางมาก เคยเป็นคีลอยด์ หรือมีปัญหาผิวหนังอักเสบ แพทย์อาจแนะนำเลือกใช้วิธีการอื่นๆ ที่เหมาะกับรายบุคคลมากกว่า
การเตรียมตัวก่อนการทำดูดไขมันลำตัวล่าง
ก่อนดูดไขมันลำตัวล่าง แนะนำให้เตรียมตัวให้พร้อมรับบริการ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือเกิดปัญหาระหว่างทำ โดยสามารถเตรียมตัวก่อนทำได้ดังนี้
- ตรวจสุขภาพเพื่อเช็กความพร้อมของร่างกาย เพื่อประเมินว่าร่างกายอยู่ในสภาพที่เหมาะสม โดยจะตรวจ ความดันโลหิต ระดับน้ำตาล การแข็งตัวของเลือด รวมถึงประเมินผิวหนังและปริมาณไขมันส่วนเกิน เพื่อให้แพทย์วางแผนดูดไขมันได้อย่างเหมาะสม
- แจ้งประวัติการใช้ยา โรคประจำตัว หรือประวัติการเกิดคีลอยด์ให้แพทย์ทราบ หากมีการใช้ยาประจำ มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือเคยมีแผลเป็นคีลอยด์ ควรแจ้งแพทย์อย่างละเอียด เพื่อให้แพทย์พิจารณาความเสี่ยง และปรับวิธีการรักษาให้เหมาะสม
- งดรับประทานวิตามิน อาหารเสริม หรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ก่อนดูดไขมัน เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำ เลือดออกมาก หรือแผลหายช้า
- งดสูบบุหรี่ และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนรับบริการประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะจะส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด การแข็งตัวของเลือด และกระบวนการฟื้นฟูของร่างกาย
- งดรับประทานอาหาร และดื่มน้ำ อย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมงก่อนดูดไขมันลำตัวล่าง เนื่องจากเสี่ยงต่อการสำลัก หรือภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารในระหว่างดูดไขมัน
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาวะสมดุลและพร้อมสำหรับการดูดไขมัน ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้นหลังจากทำ
ข้อดีของการดูดไขมันลำตัวล่าง
เนื่องจากการดูดไขมันลำตัวล่างสามารถกำจัดไขมันเฉพาะจุดได้อย่างเห็นผล จัดการไขมันดื้อที่ลดยากได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นวิธีการที่มีข้อดีหลายอย่าง ดังนี้
- ลดไขมันเฉพาะจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเครื่องมือในการดูดไขมันเป็นท่อขนาดเล็ก Cannula ซึ่งสามารถเข้าถึงตำแหน่งต่าง ๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดีแม้ในพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก ทำลายไขมันได้อย่างตรงจุด
- เห็นผลรูปร่างกระชับและดูดีขึ้นรวดเร็ว เนื่องจากแพทย์สามารถสอดท่อดูดไขมันเข้าไปจัดการที่เซลล์ไขมันได้โดยตรง จึงสามารถเห็นผลลัพธ์ของขนาดไขมันลำตัวล่างที่ลดลงได้หลังทำ ขยับตัวหรือเคลื่อนไหวร่างกายได้คล่องแคล่วมากขึ้น
- สามารถนำไขมันไปเติมในตำแหน่งอื่นได้ ไขมันบริเวณลำตัวส่วนล่างหากเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสม สามารถนำไขมันดีเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเพื่อนำมา เติมไขมันที่หน้า ได้
ข้อเสียของการดูดไขมันลำตัวล่าง
ดูดไขมันลำตัวล่างไม่ได้มีเพียงข้อดีเท่านั้น แต่ยังมีข้อเสียควรรู้ที่ต้องทราบไว้เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาเลือกทำ ดังนี้
- ไม่ใช่วิธีสำหรับการลดน้ำหนัก ดูดไขมันเป็นวิธีลดสัดส่วนเฉพาะจุด คนที่น้ำหนักเกินมากๆ หรือมีปัญหาโรคอ้วนยังจำเป็นต้องควบคุมอาหาร และออกกำลังกายควบคู่
- ไม่สามารถช่วยลดไขมันที่สะสมในช่องท้องได้ ไขมันในช่องท้องจะอยู่ลึกภายในร่างกาย และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่การดูดไขมันสามารถกำจัดได้เฉพาะไขมันใต้ผิวหนังเท่านั้น
- อาจเกิดอาการบวม หรือมีรอยเขียวช้ำหลังทำได้ เป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ตามปกติ และมักจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองภายในไม่กี่สัปดาห์
- ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นหลังทำ ถึงแม้แผลเล็ก และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว แต่ก็ยังต้องพักฟื้นให้ร่างกายฟื้นตัว แผลหาย และผิวกลับมากระชับเข้ารูปเต็มที่
- หลังทำอาจเกิดปัญหาผิวไม่เรียบเนียน หากดูดไขมันออกไม่สม่ำเสมอ หรือผิวหนังไม่กระชับพอ อาจทำให้ผิวหลังทำดูไม่เรียบเนียน มีลักษณะเป็นคลื่น หรือมีก้อนไขมันแข็งๆ ใต้ผิวได้
- อาจเกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับ ผู้ที่มีผิวไม่กระชับหรือมีความยืดหยุ่นน้อย หลังดูดไขมันออกไป ผิวอาจหย่อนคล้อยได้ จึงอาจต้องทำหัตถการอื่นเสริม
- ต้องใส่ชุดกระชับตลอด 24 ชั่วโมงในช่วง 1 เดือนแรก เพื่อช่วยลดบวม ลดอาการช้ำ และปรับรูปร่างให้เข้าที่ การที่ใส่ตลอด 24 ชั่วโมง อาจทำให้หลายคนรู้สึกอึดอัดหรือไม่สะดวก
- ไขมันสามารถกลับมาสะสมในตำแหน่งเดิมได้ แม้ไขมันที่ถูกดูดออกไปแล้วจะไม่กลับมา แต่ถ้าไม่ควบคุมอาหาร หรือไม่ออกกำลังกาย ไขมันใหม่ก็สามารถเกิดขึ้น และสะสมที่ตำแหน่งเดิมหรือบริเวณอื่น ๆ ได้
ขั้นตอนการดูดไขมันลำตัวล่าง มีอะไรบ้าง?
เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการดูดไขมันลำตัวล่างมากขึ้น ว่ามีรายละเอียดวิธีการทำอย่างไร เพื่อที่จะสามารถเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับบริการ โดยมีขั้นตอนของการดูดไขมันบริเวณส่วนล่างของลำตัว ดังนี้
- เข้ารับการประเมินรูปร่างและออกแบบการรักษาโดยแพทย์ ขั้นแรกแพทย์จะทำการตรวจประเมินรูปร่าง สัดส่วน และปริมาณไขมันที่สะสมอยู่ จากนั้นจึงคำนวณปริมาณไขมันที่เหมาะสมต่อการดูดออก กำหนดตำแหน่งที่จะทำการรักษา
- ทำความสะอาดผิวและให้ยาสลบ ก่อนเริ่มจะทำความสะอาดผิวบริเวณลำตัวล่างเพื่อป้องกันการติดเชื้อ แล้วจึงให้ วิสัญญีแพทย์ ทำการดมยาสลบ หรือยาชา ขึ้นอยู่กับเทคนิค และปริมาณไขมันที่จะดูด เพื่อป้องกันความเจ็บ และช่วยให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลายในระหว่างทำหัตถการ
- เปิดแผลขนาดเล็กและใส่ท่อดูดไขมัน (Cannula) เมื่อยาสลบออกฤทธิ์แล้วแพทย์จะเปิดแผลขนาดเล็กมากบริเวณที่จะดูดไขมันเพื่อสอดท่อดูดไขมันเข้าไปใต้ผิวหนัง พร้อมทั้งปล่อยพลังงานเลเซอร์ คลื่นเสียง หรือคลื่นความร้อน ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้เพื่อทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวเป็นอนุภาคเล็ก ๆ ง่ายต่อการดูดออก และช่วยลดการบอบช้ำของเนื้อเยื่อข้างเคียง
- ดูดไขมันออกและเย็บปิดแผล หลังจากไขมันแตกตัวแล้วแพทย์จะทำการดูดออกอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ได้สัดส่วนสมดุลที่สุด จากนั้นจึงเย็บปิดแผล
- พักฟื้นระยะสั้นและกลับบ้านได้ เมื่อยาสลบหมดฤทธิ์คนไข้จะต้องอยู่เพื่อสังเกตอาการในช่วงหนึ่ง หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนก็สามารถกลับบ้านได้
เทคนิคที่นิยมใช้ในการดูดไขมันลำตัวล่าง
สำหรับเทคนิคในการดูดไขมันลำตัวล่างมีด้วยกันหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีมีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกันออกไป โดยสามารถเลือกใช้เทคนิคต่าง ๆ ได้ดังนี้
ดูดไขมันลำตัวล่างด้วย Vaser Smooth 2.2
Vaser Smooth 2.2 จะเป็นการปล่อยคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ (Ultrasonic Assisted Liposuction : UAL) เข้าสู่เซลล์ไขมันโดยตรง ทำให้เกิดการแตกตัวเล็กลงทำให้สามารถดูดออกมาได้ง่ายขึ้น โดยไม่ทำร้ายเซลล์เนื้อเยื่อข้างเคียง ระหว่างดูดไขมันอาจมีเลือดปนออกมาบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน เทคนิคของแพทย์ และตำแหน่งที่ทำ ช่วยลดอาการบวมช้ำ สามารถฟื้นตัวได้ไว นอกจากนั้นยังปรับระดับพลังงานให้เหมาะกับการนำไขมันไปฉีดเติมในตำแหน่งอื่นได้อีกด้วย เช่น เสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง
ดูดไขมันลำตัวล่างด้วย Body Tite
Body Tite จะเป็นการใช้คลื่นวิทยุ RF (Radio Frequency) ที่ทำให้ไขมันแตกตัวด้วยความร้อนและดูดไขมันออกมา นอกเหนือจากนั้นคลื่นวิทยุ RF ยังสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว และช่วยให้ผิวกระชับเต่งตึงได้หลังจากดูดไขมันลำตัวล่างอีกด้วย
ดูดไขมันลำตัวล่างด้วย Body Jet
Body Jet จะเป็นการใช้พลังงานน้ำเข้าไปแยกชั้นไขมันออกจากเนื้อเยื่ออย่างนุ่มนวล พลังงานน้ำจะช่วยให้เซลล์ไขมันค่อยๆ หลุดออกจากผิวหนังโดยไม่ทำลายเส้นเลือดหรือเนื้อเยื่อรอบข้างมากนัก จึงทำให้เกิดการบอบช้ำน้อย เจ็บน้อย และฟื้นตัวได้เร็วกว่าเทคนิคการดูดไขมันแบบดั้งเดิม อีกทั้งยังสามารถนำไขมันไปเติมส่วนหน้าอกได้หากมีปัญหา หน้าอกเล็ก
ดูดไขมันลำตัวล่างด้วย PAL (Power Assisted Liposuction)
PAL จะเป็นการใช้ท่อดูดไขมันที่สามารถสั่นได้ด้วยมอเตอร์ความถี่สูง เพื่อช่วยให้เซลล์ไขมันแตกตัว และแยกออกจากเนื้อเยื่อในปริมาณมากได้ง่ายขึ้น ความสั่นนี้จะช่วยลดแรงเสียดสีที่อาจเกิดกับผิวหนังและเส้นเลือดรอบข้าง จึงทำให้การดูดไขมันมีความแม่นยำสูง บอบช้ำน้อย และลดความเสี่ยงของแผลหรือผิวไม่เรียบหลังทำ
หลังดูดไขมันลำตัวล่างต้องดูแลตัวเองอย่างไร?
เพื่อให้ผลลัพธ์หลังดูดไขมันลำตัวล่างออกมาดีและไม่เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงตามมา คนไข้จึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยสามารถดูแลตัวเองหลังทำได้ดังนี้
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบ ยาที่แพทย์ให้จะประกอบด้วยยาปฏิชีวนะเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ยาลดบวม และยาแก้ปวด ควรรับประทานให้ครบตามที่กำหนด ไม่ควรหยุดยาเองแม้อาการดีขึ้นแล้ว
- ใส่ชุดกระชับตลอด 24 ชั่วโมง ชุดกระชับจะช่วยให้ผิวหนังแนบเข้ากับสัดส่วนใหม่ ลดการบวมช้ำ ป้องกันของเหลวคั่ง ในเดือนแรกควรใส่ตลอด 24 ชั่วโมง และหลังจากเดือนที่ 2 – 3 อาจลดเหลือวันละ 12 ชั่วโมง ตามคำแนะนำของแพทย์
- ทำความสะอาดแผลทุกวัน เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ควรล้างแผลเบาๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือทำแผลตามที่แพทย์สั่ง และปิดแผลด้วยผ้าก๊อซสะอาดทุกครั้ง
- ขยับหรือเคลื่อนไหวร่างกายเบาๆ เช่น เดินช้าๆ หรือยืดเหยียดตัวเล็กน้อย จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ช่วยให้ร่างกายระบายของเสียได้ดี และลดความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
- งดออกกำลังกายหนัก หลังดูดไขมันผิว และเนื้อเยื่อยังอยู่ระหว่างฟื้นตัว หากออกกำลังกายหรือยกของหนักเร็วเกินไปอาจทำให้เกิดการบวมช้ำหรือเลือดออกใต้ผิวหนัง ในช่วง 1 เดือนแรกควรงดไปก่อน
- งดรับประทานวิตามิน อาหารเสริม หรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา โสม แปะก๊วย หรือยาแอสไพริน เพราะอาจทำให้เลือดออกง่าย ฟกช้ำมาก และทำให้แผลหายช้า
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ สารนิโคติน แอลกอฮอล์มีผลต่อการไหลเวียนเลือด และการสร้างคอลลาเจน อาจทำให้แผลหายช้าลง ลดประสิทธิภาพของการฟื้นตัว ควรงดอย่างน้อย 2 – 4 สัปดาห์หลังทำ
- หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารทะเล หรืออาหารรสจัด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงของการอักเสบ กระตุ้นการระคาย และทำให้ติดเชื้อได้ง่ายมากขึ้น จึงควรงดไปก่อนจนกว่าแผลจะหายสนิท
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ การดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 1.5 – 2 ลิตร จะช่วยให้ร่างกายขับของเสีย ฟื้นฟูเซลล์ผิว และลดอาการบวมได้เร็วขึ้น
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการดูดไขมันลำตัวล่าง
หลังดูดไขมันลำตัวล่าง อาจเกิดผลข้างเคียงหรืออาการบางอย่างขึ้นได้ เพื่อให้สามารถป้องกันและลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ให้น้อยลง จึงควรทำความเข้าใจกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังทำ ดังนี้
- มีน้ำหรือของเหลวไหลออกจากแผล ในช่วง 1 – 3 วันแรกหลังทำจะมีของเหลวไหลออกมา ซึ่งของเหลวเหล่านี้เป็นน้ำที่ถูกใช้ในกระบวนการดูดไขมัน เป็นเรื่องปกติที่สามารถพบได้
- อาจมีผิวไม่เรียบเนียน ผิวเป็นคลื่น เกิดจากการดูดไขมันไม่สม่ำเสมอหรือปริมาณผิวหนังที่เหลือไม่กระชับเพียงพอ แต่อาการนี้สามารถดีขึ้นได้เองเมื่อเวลาผ่านไป หรือจะใช้เครื่องยกกระชับเพื่อกระชับผิวก็ได้
- อาจเกิดรอยแผลจากการดูดไขมันได้ แม้รอยแผลที่เกิดจากการสอดท่อดูดไขมันจะมีขนาดเล็กและมักซ่อนไว้ตามตำแหน่งที่มองเห็นยาก แต่ก็ยังคงมีโอกาสเหลือรอยอยู่บ้างถ้าดูแลแผลไม่ดี
- อาจเกิดอาการบวมหรือชา เป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยหลังดูดไขมัน เนื่องจากร่างกายอยู่ในระยะฟื้นตัว อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์
- อาจคลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว เป็นภาวะชั่วคราวจากฤทธิ์ยาสลบ โดยปกติอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นเองภายใน 1 – 2 วัน
ผลลัพธ์หลังดูดไขมันลำตัวล่างอยู่ได้นานแค่ไหน?
ผลลัพธ์หลังการดูดไขมันลำตัวล่างสามารถคงอยู่ได้นานหลายปี เนื่องจากเซลล์ไขมันที่ถูกดูดออกไปแล้วจะไม่กลับมาใหม่ แต่สิ่งสำคัญคือการดูแลตัวเองของคนไข้หลังทำ หากยังรับประทานอาหารที่มีไขมันและแคลอรีสูง หรือไม่ออกกำลังกาย ไขมันใหม่ก็สามารถกลับมาสะสมในตำแหน่งเดิมหรือบริเวณอื่นของร่างกายได้
เปรียบเทียบดูดไขมันลำตัวล่างกับลดน้ำหนักทั่วไป
ความแตกต่างระหว่างการดูดไขมันลำตัวล่างกับการลดน้ำหนักทั่วไป สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ทั้งเรื่องของระยะเวลา ปริมาณและตำแหน่งที่สามารถลดไขมันได้ โดยมีความแตกต่างกันดังนี้
| หัวข้อ | ดูดไขมันลำตัวล่าง | วิธีลดน้ำหนักทั่วไป |
| ผลลัพธ์ | สามารถเห็นผลลัพธ์ของขนาดที่ลดลงได้หลังทำ และจะค่อย ๆ เห็นผลลัพธ์เต็มที่ใน 1–3 เดือน | ใช้ระยะเวลานาน ขึ้นอยู่กับเทคนิคการออกกำลังกายที่ใช้ และความสม่ำเสมอ |
| ตำแหน่งที่ทำได้ | สามารถดูดไขมันเฉพาะจุดได้หลายตำแหน่งในร่างกาย | ไม่สามารถระบุตำแหน่งที่แน่ชัดได้ เน้นไปที่ลดไขมันมวลรวมทั้งตัว |
| ฟื้นตัว | ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้น ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ทำ ปริมาณไขมันที่ดูดออกไป เทคนิคที่ใช้ เป็นต้น | ไม่มีการพักฟื้น |
**ตารางนี้เป็นการเปรียบเทียบเบื้องต้นเท่านั้น
ทำไมต้องเลือกดูดไขมันลำตัวล่างกับ Vincent Clinic?
เนื่องจากการดูดไขมันลำตัวล่างหรือการดูดไขมันในตำแหน่งอื่นๆ ต้องมีการเปิดแผลเพื่อสอดเครื่องมือเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังเพื่อเข้าไปทำให้เซลล์ไขมันแตกตัว จึงต้องพิจารณาให้รอบคอบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีและปลอดภัย โดยที่ Vincent Clinic มีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย มีห้องผ่าตัดที่สะอาดได้มาตรฐาน เครื่องดูดไขมันเป็นของแท้สามารถตรวจสอบได้ มีบริการ After Care Service ที่จะคอยติดดามผลหลังทำ ให้คำปรึกษาตลอดกระบวนการรักษา
ราคาดูดไขมันลำตัวล่างเท่าไหร่?
สำหรับการดูดไขมันลำตัวล่างราคาประมาณ 40,000 – 80,000 บาท ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ ตำแหน่งที่ทำ ปริมาณไขมันที่ต้องการดูดออก ความต้องการของคนไข้ และประสบการณ์ของแพทย์ แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับแพทย์โดยตรงเพื่อให้ได้รับรายละเอียดที่ครบถ้วนถูกต้อง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการดูดไขมันลำตัวล่าง
อาจมีหลายคนที่ยังสงสัยเกี่ยวกับการดูดไขมันลำตัวล่าง ในเนื้อหาต่อไปนี้ได้รวบรวมเอาคำถามที่พบบ่อยเอาไว้เพื่อช่วยไขข้อข้องใจและใช้ประกอบการตัดสินใจเพิ่มเติม ดังนี้
Q: ดูดไขมันลำตัวล่างได้ผลลัพธ์ถาวรไหม?
A: หลังดูดไขมันลำตัวล่างหากไม่ควบคุมอาหาร ไม่ออกกำลังกาย จนน้ำหนักเพิ่มขึ้น ไขมันจะสามารถกลับมาสะสมในตำแหน่งเดิมได้
Q: การดูดไขมันลำตัวล่างเจ็บไหม?
A: ก่อนดูดไขมันแพทย์จะใช้ยาสลบเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้รู้สึกเจ็บระหว่างทำ แต่หลังทำอาจรู้สึกระบมหรือเจ็บได้บ้างเล็กน้อยซึ่งจะค่อยๆ ดีขึ้นได้เองตามการฟื้นฟูของร่างกาย
Q: ควรทำการดูดไขมันลำตัวล่างกี่ครั้งถึงจะเห็นผลดีที่สุด?
A: โดยปกติหลังดูดไขมันลำตัวล่างสามารถเห็นผลได้ในครั้งแรกที่ทำ โดยการทำครั้งเดียวสามารถลดไขมันและปรับรูปร่างได้อย่างชัดเจน แต่บางกรณีอาจจำเป็นต้องทำซ้ำในบางจุดหากต้องการผลลัพธ์ที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
สรุป
ดูดไขมันลำตัวล่างเป็นเทคนิคในการช่วยดูแลรูปร่าง และกระชับสัดส่วนได้อย่างเห็นผลชัดเจน สามารถกำจัดไขมันดื้อที่ลดยากได้อย่างมีประสิทธิภาพ สลายไขมันบริเวณที่ต้องการได้ตรงจุด ทำได้หลายตำแหน่ง โดยจะเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนที่ลดลงได้ตั้งแต่ครั้งแรก สำหรับใครที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินตามร่างกายเยอะ อยากดูแลรูปร่างให้เพรียวบาง มีเอวเอส สร้างซิกแพ็ค แนะนำให้เข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ของ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อรับการประเมินและออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล
