Power Assisted Liposuction หรือเทคโนโลยีดูดไขมันด้วยแรงสั่น ช่วยให้การสลายและดูดไขมันทำได้ง่ายขึ้น ลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อรอบข้าง แต่สำหรับใครหลายคนที่กังวลใจเกี่ยวกับการลดไขมันด้วยเทคโนโลยีนี้ Vincent Clinic Plastic Surgery จะพาคุณไปหาคำตอบทั้งหมดเกี่ยวกับ Power Assisted Liposuction เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้นก่อนทำค่ะ
Key Takeaways
- Power Assisted Liposuction (PAL) คือเทคโนโลยีดูดไขมันด้วยแรงสั่นสะเทือนจากอเมริกา ช่วยให้ดูดไขมันได้ง่าย ปลอดภัย และฟื้นตัวไวกว่าวิธีเดิม
- เครื่อง Power Assisted Liposuction ใช้แรงสั่นสะเทือนความเร็วสูงกว่า 4,000 ครั้งต่อนาที ช่วยสลายไขมันได้เร็วขึ้นกว่าระบบ Manual ประมาณ 31%
- จุดเด่นของการดูดไขมันด้วยเครื่อง PAL ในการดูดไขมันคือผิวจะไม่เกิดความร้อนสะสม จึงลดความเสี่ยงผิวไหม้ แผลเล็ก เจ็บน้อย และลดการบอบช้ำของเนื้อเยื่อรอบข้าง
- เครื่อง Power Assisted Liposuction สามารถดูดไขมันได้ทั้งบริเวณใหญ่และจุดที่เข้าถึงยาก เช่น หน้าท้อง แขน ขา เอว หลัง เหนียง หรือสะโพก
- ไขมันที่ดูดออกจากเครื่อง PAL มามีคุณภาพดี สามารถนำไปฉีดเติมต่อได้ เช่น หน้าอก ก้น หรือใบหน้า
- แม้ให้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนและปลอดภัย แต่เครื่อง Power Assisted Liposuction ไม่ช่วยเรื่องยกกระชับผิวมากนัก
- ราคาเริ่มต้นของการดูดไขมันด้วยเครื่อง Power Assisted Liposuction มีราคาอยู่ที่ประมาณ 25,000 บาทต่อบริเวณ ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและขนาดพื้นที่ที่ทำ
Power Assisted Liposuction คืออะไร
Power Assisted Liposuction (PAL) คือ เทคโนโลยีการดูดไขมัน พลังงานสั่นสะเทือนจากประเทศอเมริกา ถูกพัฒนามาจากเทคโนโลยี SAL (การดูดไขมันแบบดั้งเดิม) หลักการทำงานของ PAL จะใช้พลังการสั่นดูดไขมันความเร็วสูง เพื่อแยกไขมันออกจากเนื้อเยื่อก่อนทำการดูดไขมันออก โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง และช่วยลดแรงต้านระหว่างดูดไขมัน ทำให้แพทย์ควบคุมบริเวณที่จะดูดไขมันได้ละเอียดและแม่นยำมากขึ้น ผลคือได้ผิวที่เรียบเนียน จึงเจ็บน้อย ช้ำน้อย และฟื้นตัวเร็วกว่าเดิม เหมาะสำหรับคนที่อยากปรับรูปร่างให้กระชับได้สัดส่วน ดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพักฟื้นนาน
ดูดไขมันด้วย Power Assisted Liposuction ดีอย่างไร
การดูดไขมันด้วย Power Assisted Liposuction (PAL) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้แรงสั่นสะเทือนความเร็วสูงถึง 4,000 ครั้งต่อนาที ช่วยสลายไขมันได้เร็วขึ้นกว่าระบบ Manual ประมาณ 31% ทำให้ดูดไขมันได้ง่ายขึ้น เจ็บน้อย และฟื้นตัวไว พร้อมหัวดูดไขมันหลายประเภทที่ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับหลายบริเวณ ได้แก่
- Extraction Cannulas ใช้สำหรับดูดไขมันปริมาณมากในชั้นลึก หรือบริเวณที่มีไขมันหนาและแข็ง เช่น หน้าท้อง เอว
- Harvesting Cannulas หัวดูดไขมันที่ถูกออกแบบมาสำหรับรักษาเซลล์ไขมันให้สมบูรณ์ที่สุด สำหรับการเก็บไขมันคุณภาพดีเพื่อนำไป เติมไขมันที่หน้า สะโพก หรือส่วนต่างๆ ได้
- Specialty Cannulas ใช้ดูดไขมันในบริเวณที่เข้าถึงยาก เช่น คาง หน้าอก หรือน่อง
- High Definition (HD) Cannulas ใช้สำหรับการสร้างสัดส่วนหรือสร้างไลน์กล้ามเนื้อให้คมชัด เช่น การทำซิกแพค หรือร่อง 11
แม้เทคโนโลยี PAL จะถูกออกแบบมาให้อ่อนโยนต่อเนื้อเยื่อผิว และง่ายต่อการดูดไขมันในหลายบริเวณ แต่ก็ทั้งนี้เครื่อง PAL ก็ยังมีทั้งข้อดี และข้อเสีย ดังนี้
ข้อดี Power Assisted Liposuction
- ดูดไขมันได้ง่ายและรวดเร็ว แม้ในจุดที่ไขมันหนาแน่นหรือมีพังผืด
- ดูดไขมันออกได้มาก โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง
- ไม่เกิดความร้อนสะสม จึงไม่เสี่ยงผิวไหม้
- แผลมีขนาดเล็ก ฟื้นตัวไว เจ็บน้อย
- ใช้เวลาในการดูดไขมันไม่นาน เหมาะกับผู้ที่ไม่อยากพักฟื้นนาน
- สามารถดูดไขมันในตำแหน่งที่เข้าถึงยาก เช่น แผ่นหลัง หนอกหลังคอ หน้าท้องด้านบน หรือน่อง
- ช่วยลดความเสี่ยงผิวเป็นคลื่นหรือผิวบุ๋ม ทำให้ผิวบริเวณที่ดูดไขมันเรียบเนียน
- ไขมันที่ดูดออกมามีคุณภาพดี สามารถนำไปฉีดต่อเติมส่วนอื่นของร่างกายได้ เช่น หน้าอก ก้น หรือใบหน้า
ข้อเสีย Power Assisted Liposuction
- เครื่องมีราคาสูง ทำให้ราคาดูดไขมันค่อนข้างสูงตามไปด้วย
- ระหว่างทำจะมีเสียงเครื่องดังจากระบบสั่นสะเทือน
- บางรายอาจมีอาการบวมและช้ำมากกว่าวิธีอื่น ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานขึ้น
- มักไม่นิยมนำมาใช้เดี่ยวๆ มักใช้ร่วมกับเครื่องดูดไขมันชนิดอื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
- ไม่ค่อยช่วยในเรื่องการยกกระชับผิว เนื่องจากไม่มีพลังงานความร้อนช่วยกระตุ้นคอลลาเจน
- หากทำโดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญ อาจเกิดภาวะเสียเลือดมาก ผิวไม่เรียบ หรือผิวเป็นคลื่นได้ เพราะเส้นเลือดและเนื้อเยื่อได้รับความกระทบกระเทือน

PAL เหมาะกับใคร
ก่อนตัดสินใจดูดไขมันด้วยเทคโนโลยี MicroAire PAL การรู้ว่าใครเหมาะกับการทำหัตถการนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแม้จะเป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและเห็นผลชัดเจน แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน มาดูกันว่าคนแบบไหนที่เหมาะกับการดูดไขมันด้วยเครื่องนี้มากที่สุด
- ผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา คอ หรือหน้าอกผู้ชาย
- ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง และไม่ต้องการผ่าตัดยกกระชับ
- ผู้ที่มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่อยากปรับรูปร่างให้กระชับและได้สัดส่วนมากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการดูดไขมันอย่างปลอดภัย เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว และได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ
- ผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันเฉพาะส่วนที่ออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารแล้วไม่สามารถลดได้
เครื่องดูดไขมัน PAL ใช้บริเวณไหนได้บ้าง
เทคโนโลยี PAL สามารถใช้ได้กับหลายตำแหน่งทั่วร่างกาย ทั้งบริเวณที่มีไขมันสะสมมากและจุดที่เข้าถึงยาก ไม่ว่าจะเป็น
- ดูดไขมันเหนียง ช่วยกำจัดไขมันใต้คางให้กรอบหน้าชัด ดูหน้าเรียวขึ้น
- ดูดไขมันนมน้อย ช่วยลดไขมันส่วนเกินบริเวณรักแร้ที่ปลิ้นออกมา
- ดูดไขมันหน้าท้อง ช่วยลดไขมันสะสมที่หน้าท้อง และปรับให้ดูแบนราบ
- ดูดไขมันหลังล่าง ช่วยกำจัดไขมันหลังส่วนล่างที่อยู่เหนือก้น
- ดูดไขมันต้นแขน ลดไขมันที่ทำให้แขนย้วย ช่วยให้แขนเรียวขึ้น
- ดูดไขมันเอว ช่วยปรับรูปร่างให้เอวคอด เอวเอสดูมีเชฟมากขึ้น
- ดูดไขมันขา ช่วยลดไขมันรอบขาและทำให้ขาดูเรียวยาวขึ้น
- ดูดไขมันสะโพก ช่วยปรับทรงสะโพกให้สวยกลมกลึง ได้รูปขึ้น
- ดูดไขมันน่อง ช่วยลดไขมันส่วนเกินบริเวณน่องให้ขาดูเล็ก และได้สัดส่วน
PAL ต่างกับเครื่องดูดไขมันแบบอื่นอย่างไร
ก่อนตัดสินใจดูดไขมัน หลายคนอาจสงสัยว่าเครื่อง Power Assisted Liposuction (PAL) แตกต่างจากเครื่องดูดไขมันแบบอื่นอย่างไร ทั้งในแง่ของเทคโนโลยี การทำงาน และผลลัพธ์ที่ได้ ซึ่งแต่ละแบบก็มีจุดเด่นเฉพาะตัวแตกต่างกันออกไป
Power Assisted Liposuction vs VASER
PAL ใช้แรงสั่นสะเทือนความเร็วสูงช่วยแยกไขมันออกจากเนื้อเยื่อ ทำให้ดูดไขมันได้เร็ว เจ็บน้อย และไม่เกิดความร้อนสะสม ส่วน VASER Liposuction ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์สลายไขมันก่อนดูดออก ช่วยให้ผิวกระชับและไขมันที่ได้สามารถนำไปฉีดต่อได้ ทั้งสองให้ผลลัพธ์สัดส่วนกระชับ แต่ PAL เด่นเรื่องความปลอดภัยและฟื้นตัวไว ส่วน VASER เด่นเรื่องความเรียบเนียนและการกระชับผิว
Power Assisted Liposuction vs BodyTite
Power Assisted Liposuction และ BodyTite เป็นเทคโนโลยีดูดไขมันที่มีหลักการทำงานต่างกัน โดย PAL ใช้แรงสั่นสะเทือนความเร็วสูงช่วยแยกไขมันออกจากเนื้อเยื่อ ทำให้ดูดไขมันได้เร็วขึ้น เจ็บน้อย จึงปลอดภัยต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง ส่วน BodyTite ใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ ในการละลายไขมันและกระตุ้นคอลลาเจนไปพร้อมกัน ช่วยให้ผิวตึงกระชับขึ้นหลังดูดไขมัน เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยและต้องการให้ผิวเรียบเนียนแน่นกระชับในคราวเดียว
Power Assisted Liposuction vs J-Plasma
เครื่อง Power Assisted Liposuction และ J-Plasma เป็นเทคโนโลยีดูดไขมันที่มีจุดเด่นต่างกัน โดย PAL ใช้แรงสั่นสะเทือนความเร็วสูงช่วยแยกไขมันออกจากเนื้อเยื่อ ทำให้ดูดไขมันได้เร็ว เจ็บน้อย ส่วน J-Plasma ใช้พลังงานพลาสมาจากก๊าซฮีเลียมร่วมกับคลื่นความถี่วิทยุ RF เพื่อกระชับผิวหลังดูดไขมัน ช่วยให้ผิวแน่น เรียบเนียน และฟื้นตัวเร็ว จึงมักใช้ร่วมกับ PAL เพื่อให้ได้ทั้งผลลัพธ์การลดไขมันและการยกกระชับผิวในคราวเดียว

ดูดไขมัน Power Assisted Liposuction ราคาเท่าไร
ราคาดูดไขมันด้วย Power Assisted Liposuction (PAL) มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 25,000 บาท ต่อหนึ่งบริเวณโดยประมาณ ราคาจริงจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดและตำแหน่งที่ดูดไขมัน ปริมาณไขมัน ความซับซ้อนของเคส ความชำนาญของแพทย์ เครื่องมือที่ใช้ มาตรฐานของคลินิก ฯลฯ ดังนั้นจึงควรเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและรับใบเสนอราคาที่ชัดเจนก่อน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Power Assisted Liposuction (FAQ)
Q: PAL ทำร่วมกับเครื่องดูดไขมันอื่นๆ ได้ไหม
A: เครื่อง PAL สามารถทำร่วมกับเครื่องดูดไขมันชนิดอื่นได้ เช่น Vaser, BodyTite หรือ J-Plasma เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสลายไขมันและช่วยยกกระชับผิวให้เรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
Q: ผิวหย่อนคล้อยทำ Power Assisted Liposuction ได้ไหม
A: หากผิวหย่อนคล้อยมาก แนะนำให้ทำ Power Assisted Liposuction ร่วมกับเทคโนโลยียกกระชับผิวอื่น เช่น BodyTite หรือ J-Plasma จะช่วยให้ผิวตึงกระชับและได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนมากขึ้น
Q: นำไขมันที่ดูดจาก PAL มาเติมจุดไหนได้บ้าง
A: ไขมันที่ดูดออกด้วยเครื่อง PAL สามารถนำมาใช้เติมเต็มได้หลายบริเวณ เช่น หน้าอก ก้น ใบหน้า ขมับ แก้ม ร่องน้ำตา หรือจุดอื่น ๆ ที่ต้องการเพิ่มวอลุ่ม เพื่อให้ใบหน้าหรือรูปร่างดูอิ่มฟูและสมส่วนอย่างเป็นธรรมชาติ
Q: เครื่องดูดไขมัน PAL สร้างซิกแพคได้ไหม
A: เครื่อง PAL สามารถใช้สร้างซิกแพคหรือเน้นกล้ามท้องให้ดูชัดได้ เพราะแพทย์สามารถควบคุมการดูดไขมันได้อย่างละเอียดและแม่นยำ ช่วยเก็บรายละเอียดร่องกล้ามเนื้อให้ดูมีมิติและเป็นธรรมชาติ โดยมักใช้ร่วมกับเทคนิค High Definition Liposuction (HD Lipo) เพื่อให้ได้ลอนซิกแพคที่คมชัดยิ่งขึ้น
Q: วิธีดูแลหลังดูดไขมันด้วย Power Assisted Liposuction
A: หลังดูดไขมันด้วย PAL ควรใส่ชุดกระชับตลอดเวลาอย่างน้อย 1 – 2 เดือน หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือยกของหนักในช่วง 2 สัปดาห์แรก ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ งดของเค็มและแอลกอฮอล์ และมาตรวจติดตามกับแพทย์ตามนัดเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยและปลอดภัย
สรุป
เครื่อง Power Assisted Liposuction เป็นเทคโนโลยีดูดไขมันด้วยแรงสั่นสะเทือนจากอเมริกา ช่วยสลายไขมันได้เร็ว ปลอดภัย เจ็บน้อย และฟื้นตัวไว เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างให้กระชับอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถใช้ได้หลายบริเวณ เช่น แขน ขา หน้าท้อง หรือเอว มักทำร่วมกับเครื่องอื่นเพื่อเพิ่มการยกกระชับ ถ้ามีไขมันสะสมที่ต้นแขน หรือต้นขา และกำลังไม่มั่นใจ สามารถเข้ามาปรึกษาที่ Vincent Clinic Plastic Surgery โดยมีทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์คอยวิเคราะห์ แนะนำวิธีการดูดไขมันให้อย่างตรงจุด