Key Takeaways
- ดูดไขมันข้างสะโพกช่วยสร้างสัดส่วนที่ชัดเจนขึ้น ทำให้เห็นเอวคอดและเส้นโค้งเว้าของร่างกายมากขึ้น แก้ปัญหาสะโพกเผละหรือใหญ่ด้านข้าง
- ดูดไขมันข้างสะโพกเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด ลดยากด้วยวิธีปกติ เช่น ออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารแล้วไขมันยังไม่ลดลง โดยเฉพาะคนที่มีไขมันเกาะแน่นข้างสะโพก
- ดูดไขมันข้างสะโพกไม่เหมาะกับผู้ที่มีไขมันน้อยเกินไปหรือผิวหย่อนคล้อยมาก รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรง ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือคาดหวังผลเกินจริงจากการทำ
- การเตรียมตัวก่อนทำดูดไขมันข้างสะโพกมีความสำคัญต่อความปลอดภัย เช่น ตรวจสุขภาพ งดยาและอาหารเสริมบางชนิด งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอ
- การดูแลหลังดูดไขมันข้างสะโพกช่วยให้ได้ผลลัพธ์สวยและลดภาวะแทรกซ้อน เช่น รับประทานยาตามแพทย์สั่ง ใส่ชุดกระชับต่อเนื่อง ดูแลความสะอาดแผล งดออกกำลังกายหนักในช่วงแรก
- ผลลัพธ์จากการดูดไขมันข้างสะโพกจะเริ่มเห็นหลังทำประมาณ 1 เดือน และชัดเจนเต็มที่ใน 3 เดือน เมื่ออาการบวมยุบลง ผิวเข้าที่ รูปร่างจะสมส่วนขึ้น ใส่เสื้อผ้าเข้ารูปและมั่นใจมากกว่าเดิม
ดูดไขมันข้างสะโพก ทางเลือกยอดนิยมสำหรับคนที่มีไขมันสะสมด้านข้างของเอวและสะโพก จนทำให้รูปร่างดูไม่สมส่วน ดูใหญ่และหนา ใส่เสื้อผ้าแล้วไม่มั่นใจ แม้จะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายอย่างหนักแต่ก็ยังลดยาก การดูดไขมันเฉพาะจุดบริเวณนี้สามารถช่วยปรับสัดส่วนให้ดูเอวคอด สะโพกสมส่วนมากขึ้น และช่วยสร้างเส้นโค้งเว้าให้รูปร่างดูมีมิติมากขึ้น สำหรับการดูดไขมันบริเวณข้างสะโพกคืออะไร เหมาะกับใครบ้าง ใช้เทคนิคอะไร มีผลข้างเคียงไหม สามารถติดตามอ่านรายละเอียดจากเนื้อหาต่อไปนี้ที่ Vincent Clinic Plastic Surgery รวบรวมมาให้ได้เลย
ดูดไขมันข้างสะโพก คืออะไร?
ดูดไขมันข้างสะโพก คือ การกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณด้านข้างของสะโพก ซึ่งเป็นบริเวณที่ไขมันมักสะสมได้ง่าย และกำจัดได้ยาก โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีรูปร่างช่วงล่างกว้าง มีมวลไขมันที่มากกว่าผู้ชาย ใส่กางเกงแล้วดูเอวไม่ชัด สะโพกดูใหญ่ ซึ่งการดูดไขมัน เฉพาะจุดในบริเวณสะโพกเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยปรับรูปร่างให้ดูสมส่วน สร้างส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจนมากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งการลดน้ำหนักหรือคุมอาหารเพียงอย่างเดียว สามารถเห็นผลลัพธ์ของสัดส่วนที่ลดลงได้หลังทำ
ดูดไขมันข้างสะโพก เหมาะกับใคร?
การดูดไขมันข้างสะโพกเป็นการกำจัดไขมันเฉพาะจุด สามารถช่วยปรับให้รูปร่างได้สัดส่วนมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีปัญหาเกี่ยวไขมันสะสมบริเวณข้างสะโพกค่อนข้างเยอะ จึงเหมาะกับคนกลุ่มต่อไปนี้
- คนที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุดบริเวณข้างสะโพกเยอะ แม้น้ำหนักโดยรวมจะไม่มาก แต่กลับมีไขมันกระจุกตัวข้างสะโพก ทำให้รูปร่างไม่สมส่วน
- คนที่ออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารแต่ไขมันยังไม่ลด แม้จะพยายามดูแลตัวเองด้วยการฟิตหุ่นหรือปรับพฤติกรรมการกิน แต่ไขมันสะสมบริเวณนี้มักดื้อต่อการเผาผลาญ
- คนที่มีสะโพกใหญ่และยื่นออกมามากเกินไป หากสะโพกขยายออกด้านข้างหรือยื่นเกินจนทำให้รูปร่างดูไม่สมดุล อาจทำให้ช่วงล่างดูกว้างกว่าที่ควร
- คนที่ต้องการปรับสะโพกให้ได้สัดส่วนมากขึ้น รู้สึกว่าช่วงสะโพกกับช่วงเอวหรือขาดูไม่สมดุล ต้องการให้ดูสมส่วนและกลมกลืนกับรูปร่างโดยรวม
- คนที่ต้องการได้รูปร่างที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งที่สมส่วน การสร้างสัดส่วนระหว่างเอว สะโพก และต้นขาให้ชัดเจน ด้วยการดูดไขมันสะโพกจะช่วยเพิ่มความคมชัดของสรีระ
- คนที่อยากให้สะโพกได้รูปทรง ถ้าผิวบริเวณสะโพกหย่อนเล็กน้อย หรือมีไขมันสะสมอาจทำให้ทรงสะโพกดูย้วย ดูเผละ
- คนที่ต้องการใส่เสื้อผ้าแล้วเข้ารูปสวยขึ้น เมื่อไขมันข้างสะโพกลดลง จะทำให้การสวมใส่เสื้อผ้าโดยเฉพาะกางเกงหรือเดรสเข้ารูปดูดีขึ้น
ดูดไขมันข้างสะโพก ไม่เหมาะกับใคร?
แม้ว่าการดูดไขมันข้างสะโพกจะเป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปร่างให้สมส่วน ช่วยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งที่ชัดเจนขึ้น แต่ก็อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มคนต่อไปนี้
- ผู้ที่มีไขมันบริเวณข้างสะโพกน้อยมาก อาจไม่สามารถดูดไขมันออกมาได้เพียงพอ และอาจทำให้ผิวไม่เรียบเนียนหลังทำ
- ผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยมาก หากทำการดูดไขมันอาจยิ่งทำให้ผิวย่น เหี่ยว หรือเกิดความหย่อนคล้อยรุนแรงกว่าเดิม
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรง เช่น เบาหวาน ความดันสูง ภาวะเลือดแข็งตัวยาก โรคหัวใจ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย
- ผู้ที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร การดูดไขมันเป็นหัตถการที่ต้องใช้ยาชาหรือยาสลบ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ หรือปนเปื้อนผ่านน้ำนมได้ จึงไม่ควรทำในช่วงนี้
- ผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์เกินจริง หากคาดหวังว่าการดูดไขมันจะเปลี่ยนรูปร่างทั้งหมด หรือทำให้หุ่นผอมเพรียวในทันที เพราะการดูดไขมันจะช่วยปรับเฉพาะสัดส่วนเท่านั้น
- ผู้ที่ต้องการใช้เป็นวิธีการหลักในการลดน้ำหนัก การดูดไขมันไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่เป็นการลดไขมันเฉพาะจุด ผู้ที่มีน้ำหนักเกินมากๆ ควรลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่น
- ผู้ที่ไม่พร้อมสำหรับการดูแลตัวเองหลังทำ หลังการดูดไขมันจำเป็นต้องดูแลตัวเองอย่างจริงจัง หากไม่พร้อมในส่วนนี้ อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่ดีหรือเกิดภาวะแทรกซ้อน
ดูดไขมันข้างสะโพกช่วยให้รูปร่างดีขึ้นได้อย่างไร?
การดูดไขมันข้างสะโพกสามารถช่วยปรับรูปร่างให้สมส่วนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในคนที่มีไขมันสะสมด้านข้างลำตัวหรือบริเวณข้างสะโพกที่ยื่นออกมามากเกินไป ดูดไขมันบริเวณนี้จะช่วยลดส่วนเกินที่ทำให้รูปร่างไม่สมดุลออกไป ทำให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของช่วงเอวและสะโพกที่ชัดเจนขึ้น สะโพกไม่บานออกด้านข้างมากเกินไป สวมใส่เสื้อผ้าได้สวยขึ้น มั่นใจมากขึ้น สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนที่ลดลงได้หลังทำ
เทคนิคดูดไขมันข้างสะโพกมีอะไรบ้าง?
สำหรับเทคนิคดูดไขมันข้างสะโพกในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายเทคโนโลยี โดยแต่ละแบบมีหลักการทำงานและข้อดีที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสรีระ จุดประสงค์ของการทำ และผลลัพธ์ที่ต้องการ ซึ่งเทคโนโลยีที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีด้วยกันดังนี้
- เทคโนโลยี Vaser Smooth 2.2 เป็นการดูดไขมันที่ใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ (Ultrasonic Assisted Liposuction : UAL) ในการสลายไขมันด้วยความร้อน จนเซลล์ไขมันแตกตัวเล็กลงสำหรับการดูดออกมา ช่วยลดความบอบช้ำต่อเนื้อเยื่อข้างเคียงและลดการเสียเลือดขณะทำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์เนียนเรียบ ฟื้นตัวไว ช้ำน้อย และดูดไขมันออกได้ปริมาณมากอย่างมีประสิทธิภาพ
- เทคโนโลยี Body Tite เป็นการดูดไขมันด้วยการใช้คลื่นวิทยุ RF (Radio Frequency) ปล่อยพลังงานความร้อนสู่ชั้นไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัวและสามารถดูดออกได้ง่าย พร้อมช่วยกระชับผิวบริเวณที่ทำไปในตัว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยและต้องการให้ผิวเต่งตึงหลังทำ
- เทคโนโลยี Body Jet เป็นการดูดไขมันด้วยแรงดันน้ำ (Water Jet) ที่อ่อนโยนต่อเนื้อเยื่อ โดยการปล่อยพลังงานน้ำเข้าไปใต้ชั้นผิวเพื่อทำการแยกไขมันออกจากเนื้อเยื่อ โดยไม่ทำลายเซลล์ไขมัน ทำให้ไขมันยังคงคุณภาพดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการนำไขมันไปเติมเต็มจุดอื่น เช่น เติมไขมันที่หน้า ฉีดไขมันหน้าอก
- เทคโนโลยี PAL (Power Assisted Liposuction) เป็นการดูดไขมันด้วยระบบสั่น โดยหัวดูดจะสั่นในจังหวะพิเศษเพื่อช่วยให้ไขมันแตกตัวและดูดออกง่ายขึ้น กำจัดไขมันปริมาณมากได้ดี ช่วยให้ใช้ระยะเวลาในการรักษาสั้นลง
ดูดไขมันข้างสะโพก อันตรายไหม?
การดูดไขมันข้างสะโพกเป็นวิธีการกำจัดไขมันที่มีความปลอดภัย เมื่ออยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้มีประสบการณ์ มีความเข้าใจเทคนิคการกำจัดไขมันและเทคโนโลยีที่ใช้ กำหนดตำแหน่งที่จะดูดไขมันได้อย่างแม่นยำ เทคโนโลยีที่ใช้เป็นของแท้สามารถตรวจสอบได้ จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีและปลอดภัย ไม่เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงตามมา
ดูดไขมันข้างสะโพก กับ ดูดไขมันสะโพก ต่างกันอย่างไร?
ดูดไขมันข้างสะโพก เป็นการกำจัดไขมันที่เน้นไปที่บริเวณด้านข้างของสะโพกโดยเฉพาะ ในส่วนของการดูดไขมันสะโพกจะเป็นการดูดไขมันรวมทั้งด้านข้างและบริเวณส่วนของบั้นท้ายด้วย ซึ่งทั้งสองตำแหน่งนี้จะเป็นจุดที่มีไขมันส่วนเกินสะสมค่อนข้างมากและทำการลดได้ยาก นอกจากนั้นยังทำให้ดูเผละ ไม่กระชับ ดูเป็นคนตัวใหญ่ ตัวหนาได้อีกด้วย
วิธีเตรียมตัวก่อนดูดไขมันข้างสะโพก
ก่อนเข้ารับการดูดไขมันข้างสะโพก การเตรียมตัวอย่างถูกต้องถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงและทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด ทั้งในแง่ของความปลอดภัยและความพึงพอใจหลังทำ ไม่ว่าจะเป็นการประเมินร่างกาย วางแผนร่วมกับแพทย์ หรือการงดพฤติกรรมบางอย่างที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัว การเตรียมตัวอย่างรอบคอบจะช่วยให้ร่างกายพร้อมและฟื้นตัวได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น สามารถเตรียมตัวได้ดังนี้
- ตรวจสุขภาพก่อนดูดไขมัน เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกายและตรวจหาความเสี่ยงที่อาจแฝงอยู่ เพื่อให้สามารถเข้ารับการดูดไขมันได้อย่างปลอดภัย
- วางแผนการรักษาร่วมกับแพทย์ เพื่อเลือกเทคนิค กำหนดตำแหน่งที่จะดูดไขมัน ให้เหมาะสมกับรูปร่างและความต้องการของแต่ละคน
- แจ้งประวัติเกี่ยวกับโรค การใช้ยากับแพทย์ เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ รวมถึงยาที่รับประทานเป็นประจำ เช่น ยาลดความดัน ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด เพราะอาจมีผลต่อการผ่าตัดและการฟื้นตัว
- งดรับประทานวิตามิน อาหารเสริม หรือยา ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา แอสไพริน อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ก่อนทำ เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกหรือทำให้แผลหายช้า
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่จะทำให้แผลหายช้า ร่างกายฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่
- พักผ่อนให้เพียงพอและงดรับประทานอาหาร ก่อนดูดไขมันประมาณ 6–8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการสำลักและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทำ
การดูแลหลังดูดไขมันข้างสะโพก
หลังการดูดไขมันข้างสะโพก การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว ลดอาการบวมช้ำ ได้ผลลัพธ์ที่ดี ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน โดยสามารถดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนี้
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างครบถ้วน หลังดูดไขมันข้างสะโพก จะมียาลดบวม ยาแก้ปวด หรือยาที่ช่วยควบคุมการอักเสบ เพื่อลดการติดเชื้อ ควรทานให้หมดไม่ควรหยุดเอง
- ทำแผลและดูแลความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ หากไม่รักษาความสะอาด อาจเกิดการอักเสบเป็นหนอง และติดเชื้อได้ จึงควรทำแผลตามที่แพทย์แนะนำ
- ใส่ชุดกระชับตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงเดือนแรกหลังทำ และปรับเป็นใส่ 12 ชั่วโมงต่อวันในเดือนที่ 2 – 3 เพื่อให้ผิวกระชับ และลดการบวมน้ำ
- ขยับร่างกาย หรือเดินช้าบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการนอนนานๆ เพื่อให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี ลดความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
- งดออกกำลังกายหรือกิจกรรมหนัก ๆ ในช่วง 1 เดือนแรก เพื่อให้ร่างกายมีเวลาฟื้นฟู และไม่รบกวนกระบวนการสมานแผล
- งดรับประทานวิตามิน อาหารเสริม หรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด จนกว่าจะพ้นระยะเสี่ยงหรือได้รับอนุญาตจากแพทย์
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อวัน เพื่อช่วยให้ร่างกายขับของเสียออก ลดการคั่งของน้ำเหลือง ลดอาการบวม และช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดีขึ้น
- หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารทะเล และอาหารรสจัด เพราะอาจเพิ่มโอกาสในการอักเสบ ทำให้แผลหายช้าหรือบวมมากขึ้น ควรเลือกรับประทานอาหารที่ย่อยง่ายและมีประโยชน์ต่อการฟื้นฟู
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ เนื่องจากมีผลเสียต่อกระบวนการฟื้นฟูของร่างกาย ทั้งทำให้แผลหายช้า เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ
ดูดไขมันข้างสะโพกราคาเท่าไหร่?
สำหรับราคาของการดูดไขมันข้างสะโพกมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละรายบุคคล ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่ต้องเอาออก ความซับซ้อนของปัญหาที่ต้องแก้ไข เทคนิคที่ใช้ในการดูดไขมัน ประสบการณ์ของแพทย์ เป็นต้น โดยทั่วไปราคาดูดไขมันข้างสะโพกจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 – 80,000 บาท แนะนำให้เข้าปรึกษากับแพทย์โดยตรงเพื่อรับการประเมิน จะทำให้ได้รับรายละเอียดที่ครบถ้วนถูกต้อง เป็นข้อมูลเฉพาะรายบุคคล
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูดไขมันข้างสะโพก (FAQ)
สำหรับคำถามเกี่ยวกับการดูดไขมันข้างสะโพกที่พบได้บ่อยนั้นมีด้วยกันหลายข้อ ซึ่งได้ถูกรวบรวมเอามาไว้ในเนื้อหาต่อไปนี้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
Q: หลังดูดไขมันข้างสะโพก จะกลับมาอ้วนตรงจุดเดิมได้อีกไหม?
A: ในส่วนของไขมันที่ถูกดูดออกไปจะไม่กลับมาในจุดเดิมหากดูแลตัวเองดี แต่หากไม่ได้ควบคุมอาหาร หรือไม่ได้ออกกำลังกายควบคู่ไปจนทำให้น้ำหนักตัวขึ้น ไขมันสามารถกลับมาสะสมที่จุดเดิมได้อีก
Q: ต้องใส่ชุดกระชับนานแค่ไหนหลังดูดไขมันข้างสะโพก?
A: โดยทั่วไปควรใส่ชุดกระชับประมาณ 1 เดือนต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดบวม ป้องกันพังผืด ผิวกระชับเข้าที่เร็วขึ้น โดยหลังจากเข้าสู่เดือนที่ 2 และ 3 สามารถลดระยะเวลาในการใส่ชุดกระชับให้เหลือ 12 ชั่วโมงต่อวันได้
Q: ใช้เวลาพักฟื้นกี่วันถึงจะกลับไปทำงานได้?
A: ส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำงานได้ภายใน 3–5 วัน แต่ควรหลีกเลี่ยงงานที่ต้องใช้แรงเยอะ ๆ ในช่วงนี้ โดยจะเริ่มกลับมาออกแรงเยอะ ๆ ได้ในช่วงประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
Q: ต้องงดออกกำลังกายนานแค่ไหนหลังทำ?
A: สามารถเริ่มออกกำลังกายเบาๆ ได้ หลังจากผ่านไปแล้ว 1 สัปดาห์ และออกกำลังกายจริงจังได้หลัง 3–4 สัปดาห์ โดยเริ่มจากกิจกรรมที่ไม่กระทบกระเทือนบริเวณสะโพกก่อน
Q: มีโอกาสเกิดรอยย่นหรือผิวไม่เรียบไหม?
A: หากดูดไขมันโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม โอกาสเกิดผิวไม่เรียบจะน้อยมาก แต่ในบางรายอาจเกิดรอยย่นชั่วคราวช่วงแรกๆ ซึ่งมักดีขึ้นเมื่อบวมยุบและผิวกระชับเข้าที่ สำหรับคนที่กังวลเรื่องผิวไม่เรียบเนียนหรือความหย่อนคล้อย สามารถเลือกใช้เทคนิคเสริมเพื่อยกกระชับในระหว่างดูดไขมันได้ หรือจะทำหัตถการอื่น ๆ หลังจากฟื้นตัวจากการดูดไขมันไปแล้วก็ได้เช่นกัน
Q: สามารถดูดไขมันข้างสะโพกพร้อมกับดูดบริเวณอื่นได้ไหม?
A: ในการดูดไขมันหนึ่งครั้งสามารถทำควบคู่กับตำแหน่งอื่นได้ เช่น ดูดไขมันขา ซึ่งขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมินเรื่องของความปลอดภัยคนไข้ เพราะปริมาณไขมันที่สามารถดูดได้แต่ละครั้งนั้นมีปริมาณที่จำกัด หากดูดออกมามากเกินไปอาจทำให้เกิดอันตรายกับคนไข้ได้
Q: ผลลัพธ์จากการดูดไขมันข้างสะโพกจะเริ่มเห็นเมื่อไหร่?
A: หลังทำสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนที่ลดลงได้ในระดับนึง และจะค่อย ๆ เห็นชัดขึ้นเมื่ออาการบวมหายไปแล้วผิวเริ่มเข้าที่ ประมาณ 1 เดือน โดยผลลัพธ์เต็มที่จะเห็นได้ในช่วง 3 เดือน
สรุป
การดูดไขมันข้างสะโพกเป็นหนึ่งในวิธีปรับรูปร่าง ลดสัดส่วน ช่วยให้รูปร่างโดยรวมดูสมส่วนมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมด้านข้างของเอวหรือสะโพกจนทำให้รูปร่างดูหนา ขาดส่วนเว้าส่วนโค้งที่ชัดเจน การดูดไขมันบริเวณนี้สามารถช่วยลดปีกสะโพก ทำให้เอวคอด สะโพกได้รูป และใส่เสื้อผ้าได้มั่นใจยิ่งขึ้น สำหรับใครที่ออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารแล้วไขมันไม่ลดลง สะโพกเผละไม่ได้สัดส่วน ใส่เสื้อผ้าไม่มั่นใจ ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว สามารถเข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ของ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินปัญหา วิเคราะห์โครงสร้างร่างกาย เลือกเทคนิคที่ใช้ ออกแบบการรักษาที่เหมาะสม สามารถตอบโจทย์ปัญหาและความต้องการของแต่ละคนที่แตกต่างกันได้อย่างครอบคลุม