vincent.jpg.png
vc_3.png
Vincent Clinic Bangkok Plastic Surgery
คลินิกศัลยกรรมความงาม ดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit

ดึงลำคอคืออะไร ยกกระชับคอให้เรียบเนียน แก้ไขคอหย่อนคล้อย คอปล้อง

การดึงลำคอเป็นการศัลยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาคอหย่อนคล้อย คอย่น หรือมีผิวส่วนเกินที่ทำให้ลำคอไม่เรียวชัด ซึ่งการที่ลำคอหย่อนคล้อยถึงแม้หน้าจะดูเรียบกระชับก็ทำให้ดูมีอายุได้ ในบทความนี้ Vincent Clinic Plastic Surgery จะพามารู้จักเกี่ยวกับการศัลยกรรมดึงยกกระชับลำคอแบบเจาะลึก ตั้งแต่ขั้นตอนการผ่าตัด ข้อควรรู้ การดูแลหลังทำ รวมถึงข้อดี ข้อจำกัด และความเสี่ยง เพื่อให้คนที่ต้องการยกกระชับลำคอตัดสินใจได้ว่าควรทำดีไหม

อยากรู้เรื่องอะไร? คลิกที่หัวข้อได้เลย!
ดึงลำคอ ยกกระชับคอ

Key Takeaways

  • ดึงลำคอ (Neck Lift) คือการศัลยกรรมเพื่อยกกระชับผิวบริเวณคอ ลดความหย่อนคล้อย คอเป็นปล้อง หรือคอย่น โดยดึงกระชับกล้ามเนื้อและผิวหนัง ตัดผิวส่วนเกิน และดูดไขมันส่วนเกินออกหากจำเป็น
  • เหมาะกับผู้ที่มีคอหย่อนชัดเจน เหนียงเยอะ หรือริ้วรอยลึกบริเวณลำคอ และไม่ตอบสนองต่อหัตถการไม่ผ่าตัด
  • ศัลยกรรมดึงลำคอให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นานหลายปี แม้ไม่สามารถหยุดการเสื่อมของผิวได้ถาวร แต่สามารถชะลอให้ผิวดูอ่อนเยาว์ลงได้อย่างชัดเจน
  • การดึงคอมีความเสี่ยงเหมือนการผ่าตัดใหญ่ เช่น อาการบวม ช้ำ ชา เสี่ยงติดเชื้อ หรือเส้นประสาทเสียหาย จึงควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง
  • ต้องมีการเตรียมตัวก่อนผ่าตัด เช่น งดแอลกอฮอล์ วิตามิน งดอาหารก่อนผ่าตัด และดูแลตัวเองหลังผ่าตัดอย่างเคร่งครัดเพื่อให้แผลหายดี
  • ต่างจากหัตถการยกกระชับแบบไม่ผ่าตัด (เช่น Ulthera, Thermage) ที่ผลลัพธ์อ่อนกว่า ไม่ถาวร และไม่เหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยมาก
  • ราคาศัลยกรรมดึงลำคออยู่ที่ประมาณ 100,000 – 200,000 บาท ขึ้นอยู่กับเทคนิค ความยาก และประสบการณ์ของแพทย์
  • การเลือกคลินิกและศัลยแพทย์ที่ มีใบอนุญาต มีรีวิวจริง และมีประสบการณ์ เป็นปัจจัยสำคัญในการลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจในผลลัพธ์

ปัญหาคอหย่อนคล้อยเกิดจากอะไร?

คอเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่หลายคนมักละเลย ทั้งที่ความจริงแล้วผิวบริเวณคอบางและเสื่อมสภาพได้ง่ายกว่าที่คิด ปัญหาคอหย่อนคล้อยหรือคอย่นเกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งภายนอก และภายในดังนี้

  • อายุที่เพิ่มขึ้น เพราะร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินน้อยลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวคอสูญเสียความยืดหยุ่น บางลง และเกิดความหย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วง
  • ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว เพราะผิวหนังบริเวณคออาจปรับตัวไม่ทัน จนเกิดการหย่อนยานหรือมีเหนียงตามมา
  • ก้มหน้าบ่อย เนื่องจากการดูโทรศัพท์หรือทำงานหน้าคอมนานๆ ทำให้ผิวพับซ้ำ จนเกิดริ้วรอยถาวรหรือที่เรียกว่า “Tech Neck”
  • ไม่ทาครีมกันแดดบริเวณคอ เมื่อผิวคอถูกทำร้ายจากรังสียูวีจะทำให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพเร็ว เห็นริ้วรอย จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ
  • สูบบุหรี่ เพราะสารพิษจากบุหรี่สามารถทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ลดการไหลเวียนเลือดไปหล่อเลี้ยงผิว ทำให้ผิวคอเหี่ยวง่าย
  • ความเครียดและพักผ่อนน้อย เมื่อฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อผิว ทำให้เสื่อมสภาพเร็ว ผิวขาดความสดใส และแห้งง่าย
  • ท่านอนที่กดทับคอ เมื่อนอนตะแคงเป็นเวลานาน สามารถทำให้เกิดรอยย่น และผิวไม่เรียบเนียนจนเป็นริ้วรอยที่คอชัด
  • พันธุกรรม เนื่องจากโครงสร้างผิวและความยืดหยุ่นบางส่วนถ่ายทอดทางพันธุกรรม ทำให้บางคนเกิดคอหย่อนเร็วกว่าคนอื่น
  • ไม่ดูแลผิวคอ เมื่อละเลยไม่ทำความสะอาด ไม่บำรุง หรือไม่เติมความชุ่มชื้นให้กับคอ ทำให้ผิวคอเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

การดึงลำคอช่วยแก้ปัญหาอย่างไร?

ดึงลำคอ (Neck Lift) คือ การศัลยกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาคอหย่อนคล้อย คอเหี่ยว คอย่น หรือคางสองชั้น โดยแพทย์จะเปิดแผลเล็กๆ ที่รอยพับใต้คาง หรือหลังใบหูขึ้นอยู่กับเทคนิคที่เลือกใช้ จากนั้นจะค่อยๆ แยกชั้นผิวหนังออกจากชั้นกล้ามเนื้อด้านใน แล้วตัดผิวหนังส่วนเกินออก ดึงกระชับกล้ามเนื้อคอที่หย่อน 

หากมีไขมันสะสมใต้คอหรือเหนียงเยอะ แพทย์อาจทำการ ดูดไขมัน ร่วมด้วย ซึ่งจะทำให้ผิวคอที่เคยหย่อนคล้อยตึงเรียบ ริ้วรอยลึกบริเวณลำคอลดลง เหนียงหายไป ลำคอดูเรียวสวยกระชับขึ้น และช่วยให้กรอบหน้าดูชัดเจนมากขึ้น ซึ่งสามารถทำควบคู่กับการ ดึงหน้า ส่วนล่าง (Lower Facelift) เพื่อให้ผลลัพธ์ของกรอบหน้าต่อเนื่องกับลำคอได้ในครั้งเดียว

การดึงคอเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคอหย่อนยานชัดเจนหรือเหนียงขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการทาครีมหรือทำหัตถการทั่วไปการดึงลำคอจะช่วยยกกระชับอย่างลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและอยู่ได้นานหลายปี แม้จะไม่สามารถหยุดการเสื่อมของผิวถาวร แต่สามารถชะลอและปรับสภาพลำคอให้ดูอ่อนกว่าวัยได้อย่างชัดเจน

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม

ใครบ้างที่เหมาะกับการดึงลำคอ?

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวคอหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น หรือมีเนื้อเยื่อส่วนเกินบริเวณคอและเหนียงอย่างชัดเจน
  • ผู้ที่มีร่องลึกและริ้วรอยถาวรบริเวณลำคอ ที่แก้ไขด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว คอเรียบเนียน ตึงกระชับ และกรอบหน้าชัดมากขึ้น
  • ผู้ที่เคยทำหัตถการอื่นแล้วไม่ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ เช่น เลเซอร์ ร้อยไหม หรือทรีตเมนต์ต่างๆ
  • ผู้ที่ยินดีดูแลตนเองหลังผ่าตัด และพร้อมรับการพักฟื้นตามคำแนะนำของแพทย์
  • ผู้ที่สุขภาพโดยรวมแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้ามต่อการผ่าตัดใหญ่
  • ผู้ที่มีความคาดหวังสมเหตุสมผล และปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะทางก่อนตัดสินใจเพื่อประเมินความเหมาะสม

ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการดึงลำคอ?

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรง เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ หรือโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
  • ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ หรือมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด
  • ผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ หรือไม่สามารถพักฟื้นได้ตามที่แพทย์กำหนด
  • ผู้ที่มีโรคเรื้อรังบางประเภท ซึ่งอาจส่งผลต่อการสมานแผลหรือกระบวนการฟื้นฟูของร่างกาย
  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร
ข้อดีข้อเสียของการดึงลำคอ

ข้อดี–ข้อเสียของการดึงลำคอ

ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมดึงลำคอ สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจข้อดีและข้อเสีย เพราะแม้การดึงคอจะช่วยให้ผิวคอดูเรียบตึงและอ่อนเยาว์ขึ้นได้ชัดเจน แต่ก็มีทั้งข้อเสีย และข้อดีดังนี้

 

ข้อดีการดึงลำคอ

  • ให้ผลลัพธ์ชัดเจน เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังการผ่าตัด
  • ช่วยแก้ปัญหาคอหย่อนคล้อย คอเหี่ยว รอยย่น หรือคอเป็นชั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นานหลายปี แต่หากดูแลผิวดีอาจไม่ต้องทำซ้ำบ่อย
  • รอยแผลเป็นเล็กทำให้แทบมองไม่เห็น และจะจางลงตามเวลา
  • ช่วยปรับรูปคอและแนวกรอบหน้าให้เรียบเนียน ชัดเจน เสริมความมั่นใจโดยรวม

ข้อเสียการดึงลำคอ

  • เป็นการผ่าตัดใหญ่ ต้องพักฟื้น มีอาการบวม ช้ำ เจ็บ หรือรู้สึกชาในช่วงแรก
  • อาจเกิดเลือดออกหรือติดเชื้อในบางกรณี เสี่ยงต่อการบาดเจ็บของเส้นประสาทหรือเส้นเลือด
  • มีความเสี่ยงต่อการเกิดรอยแผลเป็นได้หากดูแลแผลไม่ดี
  • ผลลัพธ์อาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง อาจต้องทำการผ่าตัดแก้ไขเพิ่มเติม
  • อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยาสลบ
  • ต้องดูแลและปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัดระหว่างพักฟื้นเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด

ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

แม้การดึงคอจะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และช่วยให้ลำคอดูตึงกระชับขึ้น แต่ก็เป็นการผ่าตัดใหญ่ที่มีความเสี่ยงเหมือนการศัลยกรรมประเภทอื่นๆ โดยมีความเสี่ยงในการดึงคอดังนี้

  • มีอาการบวม ฟกช้ำ เจ็บปวด หรือรู้สึกไม่สบายตัวหลังผ่าตัด ซึ่งมักจะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อร่างกายฟื้นตัว
  • อาจเกิดอาการชาในบริเวณคอหรือแนวกรามจากการกระทบกระเทือนเส้นประสาท ซึ่งอาจเป็นชั่วคราวหรือในบางกรณีอาจยาวนาน
  • เสี่ยงต่อการเกิดเลือดคั่งหรือเลือดออกใต้ผิวหนังถ้าแพทย์ไม่เชี่ยวชาญ ซึ่งอาจต้องรับการรักษาเพิ่มเติม
  • มีโอกาสติดเชื้อหากดูแลแผลไม่ถูกต้องหรือร่างกายสมานแผลได้ไม่ดี
  • อาจมีรอยแผลเป็น หรือผิวไม่เรียบเนียนในบริเวณที่ผ่าตัด และอาจต้องใช้เวลานานให้รอยแผลจาง
  • อาจมีการสร้างเม็ดสีผิดปกติ สีเข้มขึ้น หรืออ่อนลงบริเวณแผล ทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ
  • ผลลัพธ์หลังผ่าตัดอาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง จนต้องผ่าตัดแก้ไขใหม่
  • มีความเสี่ยงของการบาดเจ็บต่อเส้นประสาทหรือเส้นเลือดบริเวณคอ อาจทำให้เกิดอาการชาเรื้อรังหรือการทำงานของกล้ามเนื้อผิดปกติ
  • อาจมีภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยาสลบ เช่น ปฏิกิริยาร่างกายต่อยา หรือภาวะหัวใจและระบบหายใจล้มเหลวในระหว่างการผ่าตัด

วิธีเตรียมตัวก่อนผ่าตัดดึงคอ

ก่อนเข้ารับการผ่าตัดดึงลำคอ การเตรียมตัวอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยให้ผ่าตัดเป็นไปอย่างปลอดภัยแล้ว ยังช่วยให้ผลลัพธ์ออกดี และลดความเสี่ยงจากการดึงลำคอ โดยมีวิธีเตรียมตัวดังนี้

  • ปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์เพื่อประเมินสภาพใบหน้าและลำคอ รวมถึงแจ้งโรคประจำตัวหรือยาที่ใช้อยู่ โดยเฉพาะโรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือยาละลายลิ่มเลือด เพื่อให้แพทย์ประเมินว่าทำได้ไหม
  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงแผลติดเชื้อ และการสมานแผลผิดปกติ แผลหายช้าลง
  • งดยา วิตามิน และสมุนไพรที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามินอี โสม กระเทียม อย่างน้อย 1–2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพราะทำให้เลือดไหลไม่หยุดได้ในระหว่างผ่าตัด
  • งดอาหารและน้ำก่อนผ่าตัด 6–8 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยในการให้ยาสลบ เพราะถ้าไม่งดอาจสำลักอาหารระหว่างสลบได้
  • เตรียมเสื้อผ้าหลวม สบาย ง่ายต่อการสวมใส่สำหรับช่วงพักฟื้น และสระผม อาบน้ำให้เรียบร้อยก่อนผ่าตัด
  • จัดเตรียมเครื่องใช้จำเป็น เช่น หมอนหนุนคอ ผ้าก๊อซ หน้ากากประคบเย็น และเตรียมคนมารับกลับบ้านหลังผ่าตัด
  • ลางานล่วงหน้าอย่างน้อย 1–2 สัปดาห์ เพื่อให้มีเวลาพักฟื้นและดูแลแผลให้สมานดี
ขั้นตอนการดูแลหลังผ่าตัดดึงลำคอ

การดูแลหลังผ่าตัดดึงลำคอ

การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีจะช่วยให้แผลหายเร็ว ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และทำให้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามความต้องการ โดยมีวิธีดูแลหลังดึงคอดังนี้

  • ดูแลแผลผ่าตัดให้แห้งตลอดเวลา หลีกเลี่ยงไม่ให้เปียกจนกว่าจะถึงกำหนดตัดไหม
  • เช็ดทำความสะอาดแผลสม่ำเสมอ และทายาตามคำแนะนำของแพทย์
  • นอนหนุนหมอนสูงเพื่อลดอาการบวม และประคบเย็นในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก
  • งดออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ต้องใช้แรงกระแทกอย่างน้อย 1 เดือน
  • งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 เดือน เพราะจะรบกวนการสมานแผล ทำให้แผลหายช้าลง
  • งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด เพราะจะทำให้แผลหายได้ช้าลง
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัดหรือความร้อนเป็นเวลา 2 เดือนหลังผ่าตัด เพราะ อาจทำให้บวม ช้ำ ระคายเคืองง่ายขึ้น หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอได้
  • ใส่ผ้ารัดคอเพื่อกระชับลำคอจลอด 24 ชั่วโมงในสัปดาห์แรก แต่ขึ้นอยู่กับคำแนะนำแพทย์ด้วย
  • ควรพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลการรักษา หากพบอาการผิดปกติ เช่น บวมแดงมาก มีเลือดออก หรือเจ็บรุนแรง ควรแจ้งแพทย์ทันที

คำแนะนำการปฏิบัติตัวในระยะยาวหลังผ่าตัดถึงคอ

การดูแลตัวเองในระยะยาวจะช่วยคงความกระชับและยืดอายุผลลัพธ์หลังดึงคอให้นานขึ้น โดยมีวิธีดังนี้

  • บำรุงผิวคอเป็นประจำด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ หรือเซรั่มที่ช่วยเสริมความยืดหยุ่น 
  • ทาครีมกันแดดที่คอทุกวันเพื่อลดการทำลายคอลลาเจนจากรังสี UV 
  • หลีกเลี่ยงการก้มหน้าเล่นมือถือหรือทำกิจกรรมที่ทำให้คอพับซ้ำบ่อย 
  • รักษาน้ำหนักตัวให้คงที่เพื่อป้องกันการหย่อนคล้อยที่อาจเกิดซ้ำ 
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ และไม่สูบบุหรี่ก็ช่วยให้ผิวคอแข็งแรงและดูอ่อนเยาว์ได้นานขึ้น

ดึงคอ vs. หัตถการยกกระชับแบบไม่ผ่าตัด แตกต่างกันอย่างไร?

สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาคอหย่อนคล้อยหรือมีเหนียงอาจลังเลว่าจะเลือกการผ่าตัดดึงคอหรือทำหัตถการยกกระชับแบบไม่ผ่าตัดดี ซึ่งระหว่างการดึงคอ และหัตถการยกกระชับคอมีความต่างกันอยู่ การดึงคอเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่แพทย์จะเลาะผิวหนังดึงกระชับชั้นกล้ามเนื้อ ตัดผิวส่วนเกินออก และเย็บปิดแผล วิธีนี้ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเห็นได้ทันที ผิวคอจะดูเรียบตึง แนวกรอบหน้าชัด และอยู่ได้นานหลายปี เหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยมาก หรือทำหัตถการอื่นมาแล้วแต่ไม่ได้ผล แต่วิธีนี้ต้องพักฟื้นเพื่อให้แผลสมาน และต้องดูแลตัวเองตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด

ส่วนหัตถการยกกระชับลำคอแบบไม่ผ่าตัด เช่น Ulthera, Ultraformer, Thermage ลำคอ เป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและทำให้ผิวคอดูกระชับขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์จะค่อยๆ เห็นการเปลี่ยนแปลง และอยู่ได้ประมาณ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่ใช้และสภาพผิวเดิม ข้อดีคือไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันทีหลังทำ

ความแตกต่างระหว่างการดึงคอกับการดึงหน้าส่วนล่าง

แม้จะทำในบริเวณใกล้เคียงกัน แต่ก็มีจุดประสงค์หลัก และผลลัพธ์ที่ได้ต่างกัน ซึ่งการดึงคอจะช่วยกระชับผิวหนัง และกล้ามเนื้อบริเวณคอ รวมถึงกระชับใต้คาง ลดเหนียง ทำให้แนวคอดูเรียบเนียนตึงกระชับ 

ส่วนการดึงหน้าส่วนล่างจะยกกระชับผิวบริเวณกรอบหน้าและแนวขากรรไกร ปรับรูปหน้าส่วนล่างให้ชัดขึ้น ลดความหย่อนคล้อยของแก้มล่าง และมุมปาก ใบหน้าดูเรียวชัด ร่องแก้ม ร่องน้ำหมากหาย โดยทั้ง 2 วิธีสามารถทำร่วมกันได้เพื่อให้กรอบหน้าและลำคอตึงกระชับได้ในครั้งเดียว ไม่ต้องเจ็บตัวหลายๆ รอบค่ะ

ดึงลำคออยู่ได้นานแค่ไหน?

ดึงลำคอสามารถอยู่ได้นานหลายปีประมาณ 5 – 10 ปี แต่ระยะเวลาขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ สภาพผิว โครงสร้างเนื้อเยื่อเดิม การดูแลหลังผ่าตัด และพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ถ้าสูบบุหรี่เป็นประจำ ตากแดดจัดบ่อยๆ ผลลัพธ์จะอยู่ได้ไม่นานต้องกลับมาผ่าตัดซ้ำ

เจาะลึก : ทำดึงหน้าตอนอายุเท่าไหร่ดีที่สุด มีข้อควรรู้ก่อนทำอย่างไรบ้าง?

ดึงลำคอราคาเท่าไหร่?

ราคาของการดึงคอแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ ประสบการณ์ของแพทย์ ความยากของปัญหาลำคอของแต่ละคน และราคาของแต่ละคลินิก โดยปกติการดึงยกกระชับคอราคาประมาณ 100,000 – 200,000 บาทค่ะ

การเลือกคลินิกและศัลยแพทย์อย่างไรให้มั่นใจ

การเลือกคลินิกและศัลยแพทย์สำหรับการผ่าตัดดึงลำคอเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้ หากเลือกทีมแพทย์และสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานผลลัพธ์ก็จะออกมาดี และลดความเสี่ยงหลังทำได้ จึงควรเลือกคลินิกให้ดีดังนี้

  • เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข 
  • ศัลยแพทย์ควรมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านศัลยกรรมใบหน้าและลำคอ และมีประสบการณ์จริงในการผ่าตัด
  • ตรวจสอบผลงานจริงของแพทย์ผ่านรีวิวที่น่าเชื่อถือ หรือเคสผู้รับบริการจริงที่ตรวจสอบได้
  • คลินิกควรมีการให้คำปรึกษาและติดตามผลหลังผ่าตัดอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้คำแนะนำการพักฟื้น การดูแลแผล และการนัดตรวจซ้ำอย่างสม่ำเสมอ
  • ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน และเลือกคลินิกที่ให้ข้อมูลชัดเจนตอบข้อสงสัยได้ถูกต้องตรง และทำให้คุณรู้สึกมั่นใจในทุกขั้นตอน

ทำไมต้องเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมดึงคอ?

การดึงคอเป็นการผ่าตัดที่ต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะบริเวณลำคอมีเส้นประสาทสำคัญจำนวนมาก ต้องอาศัยความละเอียดและความชำนาญสูง เพราะหากแพทย์เชี่ยวชาญไม่พออาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้อย่างการที่รู้สึกชาบริเวณกราม และลำคอ จนไปถึงผลข้างเคียงที่อันตรายอย่างเส้นประสาท หรือเส้นเลือกฉีกขาดเกิดความเสียหายค่ะ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับผ่าตัดดึงลำคอ

Q: การดึงคอใช้เวลาผ่าตัดนานไหม?
A: ใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง แต่เวลาอาจนานกว่านี้ได้ขึ้นอยู่กับกับเทคนิคของแพทย์ และปัญหาของแต่ละบุคคล

Q: หลังผ่าตัดต้องใส่ผ้ารัดคอนานเท่าไหร่?
A: แพทย์อาจแนะนำให้ใส่ผ้ารัดคอ 24 ชั่วโมง นานประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ เพื่อลดบวม และช่วยกระชับลำคอให้ได้รูป

Q: หลังผ่าตัดดึงคอสามารถนอนตะแคงได้หรือไม่?
A: หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงอย่างน้อย 2 – 3 สัปดาห์ และควรนอนหงายหนุนหมอนสูงเพื่อลดบวม และช่วยให้แผลหายได้ดีขึ้น

Q: มีโอกาสที่ผิวคอจะกลับมาหย่อนเหมือนเดิมหรือไม่?
A: มีโอกาส เพราะผิวจะยังคงเสื่อมสภาพเรื่อยๆ ตามอายุที่มากขึ้น แต่การดึงคอจะช่วยชะลอให้ช้าลงได้
Q: สามารถทำหัตถการอื่นร่วมกับการดึงคอได้หรือไม่?
A: ได้ เช่น ดึงหน้าล่าง ดูดไขมันเหนียง จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสมบูรณ์ ลำคอ และหน้าเรียวกระชับได้อย่างชัดเจน เป็นธรรมชาติ

Q: หลังผ่าตัดดึงคอต้องหยุดงานกี่วัน?
A: ควรหยุดงานประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อพักฟื้นให้แผลหายดี และลดความเสี่ยงบวมช้ำ

Q: หลังผ่าตัดจะมีอาการชา หรือรู้สึกตึงคอนานแค่ไหน?
A: อาการชาและความรู้สึกตึงคอมักค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 2–4 สัปดาห์ แต่บางรายอาจใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะหายสนิท

Q: ควรเลือกคลินิกอย่างไรเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัย?
A: เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตถูกต้อง แพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มีรีวิวจริงไม่ปรับแต่ง และให้ข้อมูลชัดเจนทุกขั้นตอน

สรุป

การดึงลำคอสามารถยกกระชับลำคอให้เห็นผลได้ชัดเจน รวดเร็ว รวมถึงผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนานกว่าวิธีอื่นๆ แต่ต้องเลือกคลินิกที่มีความปลอดภัยมีการรับรองอย่างถูก แพทย์มีความเชี่ยวชาญอย่างมาก เพราะลำคอเป็นบริเวณที่มีเส้นประสาทเยอะ หากแพทย์ไม่เชี่ยวชาญอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายได้ ใครที่มีปัญหาคอหย่อนคล้อย ต้องการยกกระชับคอให้เรียบเนียนสามารถเข้ามาปรึกษากับ Vincent Clinic Plastic Surgery ซึ่งจะมีแพทย์ที่มีประสบการณ์คอยให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษาอย่างละเอียด และวิเคราะห์วิธีแก้ปัญหาให้เหมาะสมในแต่ละคนค่ะ

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม
Scroll to Top
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
"><font style="vertical-align: inherit
"><font style="vertical-align: inherit