Key Takeaways
- การปรับปลายจมูก คือ เทคนิคศัลยกรรมเฉพาะบริเวณปลายจมูก เพื่อปรับรูปทรงให้ดูละมุน สวยสมส่วน รับกับใบหน้า และสามารถทำได้หลากหลายทรง เช่น ปลายพุ่ง ปลายหยดน้ำ หรือปลายเชิด
- ปรับปลายจมูกเหมาะกับผู้ที่มีปัญหา จมูกงุ้ม จมูกสั้น จมูกเชิดเกินไป ปลายจมูกใหญ่ ปลายจมูกเบี้ยว เป็นต้น
- เทคนิคปรับปลายจมูกที่ใช้มีหลากหลาย เช่น เสริมด้วยกระดูกอ่อนหลังหู เสริมด้วยเนื้อเยื่อก้นกบ เสริมด้วยเนื้อเยื่อเทียม และการยืดผนังกั้นจมูก โดยแพทย์จะประเมินเทคนิคที่เหมาะกับแต่ละรายบุคคล
- ปรับปลายจมูกจะช่วยให้จมูกดูละมุน ลดความเสี่ยงปลายบางหรือทะลุ รูปทรงเป็นธรรมชาติ
- ผู้ที่เนื้อปลายจมูกบางมากหรือเคยทำจมูกหลายรอบควรได้รับการประเมินอย่างละเอียด และควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อความปลอดภัย
- สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนเฉพาะปลายจมูกโดยไม่แก้ทั้งทรง สามารถทำได้หากโครงสร้างจมูกเดิมดีอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมิน
- เทคนิคนี้ต่างจากการฉีดฟิลเลอร์ปลายจมูก เพราะการผ่าตัดปรับปลายจมูกให้ผลลัพธ์ถาวรและสามารถแก้ปัญหาโครงสร้างภายในได้ดีกว่า
ปรับปลายจมูก อีกหนึ่งเทคนิคในการเสริมจมูก ที่ช่วยปรับปลายจมูกให้ได้สัดส่วนรับกับใบหน้ามากขึ้น สามารถเลือกทำได้หลายทรงตามความเหมาะสม การปรับรูปทรงบริเวณปลายจมูกสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดโดยใช้เทคนิคและวัสดุเสริมอื่น ๆ เพิ่มเติม สำหรับใครที่สงสัยเกี่ยวกับเทคนิคว่าเป็นคืออะไร เหมาะกับใครบ้าง จมูกแบบไหนที่ควรทำ อันตรายไหม หรือผลข้างเคียงอะไรบ้าง มีกี่เทคนิคที่ใช้ในการปรับรูปทรงของปลายจมูก สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้จากเนื้อหาต่อไปนี้ที่ Vincent Clinic Plastic Surgery รวบรวมมาให้ค่ะ
ปรับปลายจมูก คืออะไร?
ปรับปลายจมูก คือ การผ่าตัดปรับรูปทรงเฉพาะส่วนบริเวณปลายจมูก เพื่อให้ได้ทรงที่สวยงามรับกับทรงจมูกและใบหน้ามากขึ้น สามารถทำได้หลายทรงไม่ว่าจะเป็น จมูกปลายพุ่ง จมูกทรงหยดน้ำ หรือจมูกปลายเชิด ซึ่งมักทำร่วมกับการเสริมจมูกเพื่อให้ได้ทรงตามที่ต้องการและรับกับโครงหน้าของแต่ละคนมากที่สุด
ทรงจมูกแบบไหนควรปรับปลายจมูก?
สำหรับการเสริมปลายจมูกเป็นเทคนิคที่ช่วยปรับแก้รูปทรงจมูกให้ได้สัดส่วนมากขึ้น ซึ่งทรงจมูกที่ควรได้รับการแก้ไขปลายจมูกมีด้วยกันหลายแบบ ดังนี้
- ทรงจมูกงุ้ม เป็นจมูกที่มีปลายยาวและห้อยหรือตกลงมามากกว่าปกติ ทำให้เห็นเป็นลักษณะโก่ง งอ หรือที่บางคนเรียก จมูกแม่มด ทำให้ใบหน้าขาดความละมุน หน้าดูดุ แก่กว่าวัย
- ทรงจมูกสั้น สามารถพบได้มากในกลุ่มคนเอเชีย ด้วยโครงสร้างของกระดูกที่สั้นกว่าปกติ สามารถเห็นได้ชัดเมื่อมองจากด้านข้าง หรือเกิดขึ้นจากคนที่เคยเสริมจมูกมาแล้วเกิดพังผืดรั้ง
- ทรงจมูกใหญ่ มักเกิดจากโครงสร้างกระดูกที่ใหญ่กว่าปกติ มีเนื้อเยอะหรือผิวจมูกหนา นอกจากทำให้ปลายจมูกใหญ่แล้วยังทำให้ปีกจมูกดูใหญ่ จมูกบานจนเห็นรูจมูกชัดเจนได้
- ปลายจมูกเชิดเกินไป เป็นลักษณะของปลายจมูกที่เชิดขึ้นสูงจนเห็นรูจมูกชัดเจน หากมีโครงสร้างของจมูกสั้นร่วมด้วยจะทำให้เกิดเป็นปัญหาจมูกหมู
- ปลายจมูกเบี้ยว เป็นลักษณะแกนจมูกมีการเบี้ยวไปด้านใดด้านหนึ่ง ส่งผลทำให้ปลายจมูกเบี้ยวหรือ จมูกเอียง ตามไปด้วย เกิดขึ้นได้จากทั้งหลังการผ่าตัดเสริมจมูกและเกิดขึ้นตั้งแต่กำเนิด
การปรับปลายจมูกมีกี่เทคนิค?
สำหรับการปรับปลายจมูก มีด้วยกันหลายเทคนิคที่สามารถเลือกทำได้ตามความเหมาะสมของแต่ละรายบุคคล ซึ่งมีปัจจัยมาจากระดับปัญหา โครงสร้างจมูก และความต้องการของคนไข้แต่ละคน โดยแพทย์จะพิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะกับแต่ละรายบุคคลมากที่สุด โดยมีเทคนิคที่นิยมใช้ดังนี้
เทคนิคเสริมด้วยกระดูกอ่อนหลังหู
เสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู วิธีนี้แพทย์จะทำการผ่าตัดนำกระดูกอ่อนบริเวณหลังใบหูของคนไข้มารองที่ปลายจมูก ซึ่งจะช่วยลดแรงเสียดสีระหว่างซิลิโคนกับผิวหนังที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดจมูกทะลุ อีกทั้งยังทำให้ปลายจมูกดูนิ่ม และมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น
เทคนิคเสริมด้วยเนื้อเยื่อก้นกบ
เสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อก้นกบ วิธีนี้เป็นการใช้เนื้อเยื่อจากก้นกบของคนไข้มาช่วยเสริมบริเวณปลายจมูก โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อนำชิ้นมาใช้แก้ปัญหาจมูกสั้น ผิวจมูกบาง และเนื้อจมูกน้อย ซึ่งการใช้เนื้อเยื่อจากร่างกายตนเองมีข้อดีคือช่วยลดความเสี่ยงในการแพ้หรือต่อต้านจากร่างกาย อีกทั้งยังช่วยให้ปลายจมูกมีความแข็งแรงและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
เทคนิคเสริมด้วยเนื้อเยื่อเทียม
เสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียมวิธีนี้เป็นการใช้วัสดุที่ผ่านการสังเคราะห์ขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับใช้ในการรองปลายจมูก จุดเด่นของวิธีนี้คือช่วยลดความเสี่ยงซิลิโคนทะลุและเพิ่มความละมุนให้กับปลายจมูกโดยไม่ต้องมีการผ่าตัดหลายตำแหน่งเพื่อเก็บเนื้อเยื่อจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยให้การพักฟื้นสั้นลง และลดความเสี่ยงจากการเกิดแผลผ่าตัดส่วนเกิน
เทคนิคยืดผนังกั้นจมูก
เทคนิคยืดผนังกั้นจมูกวิธีนี้เป็นการผ่าตัดนำชิ้นส่วนกระดูกอ่อนจากผนังกั้นจมูกมาใช้ในการยืดปลายจมูกให้ยาวขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาปลายจมูกสั้นหรือผู้ที่ต้องการให้จมูกโด่งพุ่งและได้รูปมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นจมูกที่ดูยาวและมีสัดส่วนกลมกลืนกับใบหน้า อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาปลายจมูกบางหรือซิลิโคนทะลุ แต่ต้องอาศัยทักษะและประสบการณ์ของแพทย์สูงเนื่องจากเป็นการผ่าตัดที่มีความซับซ้อน
ปรับปลายจมูกเหมาะกับใคร?
เทคนิคเสริมปลายจมูกมีข้อดีหลายอย่างและทำได้หลากหลายเทคนิค จึงสามารถแก้ปัญหาและตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละคนได้อย่างครอบคลุม จึงเหมาะกับกลุ่มคนต่อไป
- คนที่มีจมูกงุ้มและต้องการปรับให้ปลายเชิดรับกับทรงจมูก
- คนที่มีปลายจมูกใหญ่ต้องการปรับให้ปลายจมูกเรียวสวย
- คนที่มีจมูกสั้นต้องการปรับให้ปลายจมูกยาวขึ้น
- คนที่ปลายจมูกบุ๋ม ต้องการเติมให้ผิวกลับมาเรียบเนียนเต็มขึ้น
- คนที่ต้องการปรับองศาปลายจมูกให้ได้ตำแหน่งที่ต้องการ
- คนที่มีสันจมูกสวยอยู่แล้ว แต่ต้องการให้จมูกดูละมุนสวยมากขึ้น
การปรับปลายจมูกอันตรายไหม?
สำหรับการปรับปลายจมูกเป็นเทคนิคที่มีความซับซ้อน จึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีความเข้าใจในเรื่องของเทคนิคการผ่าตัด สามารถปรับแต่งรูปทรงจมูกและปลายจมูกได้อย่างเหมาะสม จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
เสริมปลายจมูกมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
หลังปรับปลายจมูก อาจเกิดผลข้างเคียงบางอย่างขึ้นได้ มีทั้งแบบที่พบได้ปกติและเกิดขึ้นจากความผิดปกติ โดยมีรายละเอียดของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนี้
- อาการบวมช้ำหรือปวดตึง เป็นอาการที่พบได้ปกติ เกิดจากการที่เนื้อเยื่อได้รับความเสียหายจากการผ่าตัดและกำลังฟื้นฟูรักษาตัวเอง
- มีเลือดซึมบริเวณแผลผ่าตัด ในช่วงแรกอาจมีคราบเลือดแห้ง ๆ ติดอยู่บริเวณแผลผ่าตัดที่จมูก ซึ่งควรทำความสะอาดด้วยสำลีพันก้านชุบด้วยน้ำเกลือ และเช็ดอย่างเบามือ
- พักฟื้นนานกว่าปกติ ในกรณีของคนที่ใช้วัสดุเสริมปลายจมูกที่มาจากร่างกายของคนไข้เอง จะมีการผ่าตัดในตำแหน่งอื่นนอกจากจมูก จึงต้องพักฟื้นนานกว่าเทคนิคอื่น
- เจ็บมากกว่า ในส่วนของคนที่เลือกใช้วัสดุจากตำแหน่งอื่นของร่างกาย อาจจะทำให้รู้สึกเจ็บได้มากกว่าการเสริมจมูกเพียงอย่างเดียว
- ปลายจมูกยุบหรือผิดรูป สามารถเกิดขึ้นได้จากการเลือกวัสดุที่ไม่เหมาะสมหรือเกิดพังผืดหดรั้งทำให้เกิดความผิดปกติที่ปลายจมูก
สามารถอ่านเกี่ยวกับอาการหลังเสริมจมูกแบบเจาะลึกได้ที่ : อาการหลังเสริมจมูก มีอะไรบ้าง อาการผิดปกติสังเกตได้จากอะไรบ้าง?
เสริมปลายจมูกอย่างเดียวโดยไม่ต้องแก้ทั้งจมูกได้ไหม?
ในกรณีของคนที่ต้องการปรับปลายจมูกเพียงอย่างเดียว สามารถทำได้แต่ต้องขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมินวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะกับคนไข้แต่ละคน โดยส่วนมากจะสามารถทำได้ในกรณีของคนที่ทรงจมูกค่อนข้างสวย สันจมูกโด่ง แต่มีปัญหาแค่ช่วงปลายจมูกเท่านั้น และไม่ต้องการปรับแก้จมูกทั้งหมด
ปรับปลายจมูกต้องใช้เทคนิคไหนจึงจะไม่ทะลุ?
สำหรับการเสริมปลายจมูกไม่ให้เกิดปัญหาจมูกทะลุ สามารถทำได้หลายเทคนิค เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตให้น้อยลง โดยสามารถเลือกทำได้หลายเทคนิค เช่น เสริมด้วยกระดูกอ่อนหลังหู เสริมด้วยเนื้อเยื่อก้นกบ เสริมด้วยเนื้อเยื่อเทียม หรือยืดผนังกั้นจมูก ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหา วิเคราะห์โครงสร้างจมูก และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
การดูแลหลังปรับปลายจมูก
เพื่อให้ผลลัพธ์หลังแต่งปลายจมูกออกมาดีและไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน ควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยสามารถทำได้ดังนี้
-
- ประคบเย็น ในช่วง 2 – 3 วันแรกหลังผ่าตัด อาจเกิดอาการบวมช้ำ แนะนำให้ประคบเย็นบริเวณหน้าแก้ม บริเวณหน้าผาก และบริเวณรอบๆ จมูก โดยห้ามกดลงจมูกโดยตรง เพื่อช่วยลดอาการบวมช้ำให้น้อยลง
- ควรนอนหงายและยกศีรษะสูงในช่วงแรก เพื่อลดอาการบวม ป้องกันไม่ให้จมูกถูกกระทบกระเทือน
- หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำในช่วงแรก เพราะอาจทำให้ซิลิโคนเคลื่อนไปในตำแหน่งอื่นได้
- งดจับ ขยี้ แคะ หรือสัมผัสแรง ๆ บริเวณจมูก เพราะเพิ่มโอกาสที่จะติดเชื้อให้มากขึ้น แผลผ่าตัดฉีกขาด ทั้งยังอาจทำให้ซิลิโคนขยับได้อีกด้วย
- งดออกกำลังกาย ยกของหนัก หรือทำกิจกรรมที่ออกแรงเยอะๆ เพราะจะทำให้จมูกได้รับความกระทบกระเทือน ในช่วง 2 – 3 สัปดาห์แรกหลังทำ
- ห้ามให้แผลโดนน้ำในช่วงแรก เพราะจะทำให้แผลหายช้า และเพิ่มโอกาสทำให้เกิดการติดเชื้อบริเวณจมูกมากยิ่งขึ้น
- ทำความสะอาดแผลผ่าตัด ควรล้างแผลผ่าตัดบริเวณจมูกอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์ โดยใช้สำลีพันก้านชุบน้ำเกลือและเช็ดอย่างเบามือ
- งดทำทรีทเมนต์ เลเซอร์ หรือการนวดหน้า ในช่วงแรกที่แผลยังไม่หายหรือจมูกยังไม่เข้าที่
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ เพราะมีสารบางอย่างที่ทำให้ร่างกายฟื้นตัวช้า แผลหายช้ากว่าเดิม
- ควรรับประทานอาหารที่เคี้ยวง่าย อาหารอ่อน รสไม่จัด เพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อขยับเยอะจนกระทบกระเทือนจมูก และป้องกันจมูกอักเสบ
- ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ไว เช่น โปรตีนจากเนื้อปลา ผัก ผลไม้ ซึ่งเป็นอาหารที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดี
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อลดอาการปวดระบม ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว แผลหายไว และไม่ควรหยุดยาเองควรทานให้หมด
- เข้าพบแพทย์ให้ครบตามกำหนด เพื่อให้แพทย์ติดตามผลหลังทำ เพื่อผลลัพธ์ออกมาตรงตามความต้องการ และแก้ไขได้หากมีอาการผิดปกติ
หลังเสริมปลายจมูกพักฟื้นนานไหม?
หลังแต่งปลายจมูกอาจจะต้องพักฟื้นประมาณ 1 สัปดาห์ จึงจะเริ่มกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติมากขึ้น อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 2 สัปดาห์ และจมูกจะเริ่มเข้าที่ใน 1 – 3 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ปรับปลายจมูกราคาเท่าไหร่?
ราคาของการปรับปลายจมูก มีความหลากหลายและแตกต่างกันไปในแต่ละรายบุคคล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เทคนิคในการผ่าตัด เทคนิคเสริมอื่น วัสดุที่ใช้ โครงสร้างเดิมของจมูกคนไข้ ความต้องการของคนไข้ และประสบการณ์ของแพทย์ เป็นต้น โดยราคาทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 – 200,000 บาท แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับแพทย์โดยตรงเพื่อรับข้อมูลเที่ถูกต้องครบถ้วนมากที่สุด
เปรียบเทียบ ปรับปลายจมูก กับ ฟิลเลอร์ปลายจมูก
สำหรับการปรับปลายจมูกด้วยการผ่าตัดและฉีดฟิลเลอร์ปลายจมูก มีความแตกต่างกันในหลายกระบวนการ ทั้งเรื่องของขั้นตอนการทำ เทคนิคที่ใช้ วัสดุที่ใช้ และผลลัพธ์ที่ได้ โดยมีความแตกต่างกัน ดังนี้
หัตถการ |
เหมาะกับใคร |
ผลลัพธ์ |
ความคงอยู่ |
ผ่าตัดปรับปลายจมูก |
|
|
คงอยู่ถาวร จนกว่าจะต้องการแก้ไขหรือมีปัญหาจนต้องผ่าตัดเอาออก |
ฉีดฟิลเลอร์ปลายจมูก |
|
– ทรงไม่ชัด ทำได้แค่เติมเต็ม จัดทรงไม่ได้มาก
– มีโอกาสไหลย้อย – ไม่สามารถปรับแก้โครงสร้างได้ – มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ฟิลเลอร์ไหลเข้าไปในเส้นเลือดเกิดการอุดตันหรือตาบอด เป็นต้น |
6–12 เดือน ต้องฉีดเติมบ่อย |
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปรับปลายจมูก (FAQ)
เพื่อช่วยให้เข้าใจการปรับปลายจมูกมากขึ้น ในเนื้อหาต่อไปนี้ได้รวบรวมเอาส่วนหนึ่งของคำถามที่สามารถพบได้บ่อย มาไว้ให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนทำ ดังนี้
Q: ถ้าปลายจมูกบางมาก จะสามารถปรับปลายจมูกได้ไหม?
A: สามารถทำได้โดยแพทย์จะเลือกเทคนิคและวัสดุรองปลายจมูกที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคนไข้มากที่สุด เช่น กระดูกอ่อนหลังหู หรือ เนื้อเยื่อก้นกบ เป็นต้น
Q: เคยเสริมจมูกมาแล้วหลายรอบ ยังสามารถปรับปลายจมูกได้อีกหรือไม่?
A: สามารถทำได้แต่ต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินความเหมาะสมเฉพาะรายบุคคล เพราะการแก้จมูก หลายรอบอาจทำให้เกิดพังผืดมากมายภายในและผิวอาจจะยิ่งบางมากขึ้นได้ อาจต้องใช้เทคนิคพิเศษเพิ่มเติมเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและปลอดภัย
Q: หลังปรับปลายจมูกไปแล้ว ถ้ารู้สึกว่าไม่พอใจ สามารถแก้ไขได้อีกไหม?
A: สามารถแก้ไขได้ แต่ต้องรอให้เนื้อเยื่อฟื้นตัวก่อน อย่างน้อย 3 – 6 เดือน และต้องทำภายใต้การประเมินโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพราะผิวอาจบางลงและมีพังผืดเกิดขึ้นทำให้ต้องเลาะออก เสี่ยงที่จะทำให้เนื้อเยื่อเสียหายมากขึ้น
Q: การปรับปลายจมูกเจ็บไหม? ต้องดมยาสลบหรือไม่?
A: โดยปกติการผ่าตัดบริเวณจมูกแพทย์จะเลือกดมยาสลบคนไข้โดย วิสัญญีแพทย์ เพื่อไม่ให้รู้สึกเจ็บ และผ่อนคลายระวังทำมากขึ้น จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเจ็บหรือไม่ แต่หลังทำอาจรู้สึกปวดตึงจากแผลผ่าตัดได้บ้างซึ่งจะหายไปได้เอง
Q: ถ้าทำปลายจมูกหยดน้ำแล้ว จะได้ผลเหมือนในรีวิวทุกเคสไหม?
A: ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าผลลัพธ์ในแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน เนื่องจากมีโครงสร้างจมูกที่แตกต่างกัน ผิวหนังที่บางไม่เท่ากัน รวมไปถึงความต้องการที่แตกต่างกันออกไป แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาสวยรับกับใบหน้าของคนไข้แต่ละคนมากที่สุด มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใบหน้าจึงไม่เป็นบล็อกเหมือนกันทุกคน
Q: หลังปรับปลายจมูกแล้ว แต่งหน้าได้เมื่อไหร่?
A: โดยทั่วไปสามารถแต่งหน้าได้หลังจาก 1 สัปดาห์ หรือหลังจากแผลหายดีและจมูกเริ่มเข้าที่แล้ว แนะนำให้แต่งหน้าแบบเบา ๆ ไปก่อน และไม่ควรกดบริเวณจมูกมากนัก เพราะอาจทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของซิลิโคนและวัสดุรองปลาย
Q: ถ้าต้องการแค่ ปลายจมูกหยดน้ำ จำเป็นต้องเปลี่ยนซิลิโคนไหม?
A: สำหรับคนที่อยากแก้จมูกให้เป็นจมูกทรงหยดน้ำสามารถทำได้แต่ขึ้นอยู่กับว่าทรงจมูกเดิมว่ารับกับปลายหยดน้ำหรือไม่ มีปัญหาที่ต้องแก้ไขมากไหม หากไม่พอดีอาจต้องปรับแก้โครงสร้างทั้งหมดและเปลี่ยนทรง ซิลิโคนเสริมจมูก ใหม่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดี
สรุป
ปรับปลายจมูก เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยทำให้จมูกได้สัดส่วนมากขึ้น ปลายจมูกรับกับโครงสร้างจมูก ช่วยให้ภาพรวมของจมูกรับกับโครงหน้ามากขึ้น เหมาะกับคนที่มีจมูกงุ้ม จมูกสั้น จมูกเชิดมากเกินไป รวมไปถึงคนที่เนื้อปลายจมูกน้อยหรือผิวบาง เป็นต้น ใบหน้าละมุนสวยมีมิติ ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติมากขึ้น สำหรับใครที่ต้องการแต่งปลายจมูกให้ได้สัดส่วนมากขึ้น อยากเสริมจมูกให้ได้ทรงสวยรับกับโครงหน้า หรือทำจมูกมาแล้วผลลัพธ์ไม่เป็นตามที่ต้องการ สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อรับการประเมินโดยทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์และออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล