Key Takeaways
- จมูกหมู คือ รูปทรงจมูกที่มีปลายเชิดขึ้น เห็นรูจมูกชัด และจมูกค่อนข้างสั้นกว่าปกติ ส่งผลให้ใบหน้าดูแข็ง ขาดมิติ และไม่สมดุลกับโครงหน้าโดยรวม
- จมูกหมูเป็นการรวมเอาลักษณะของ จมูกเชิด และ จมูกสั้น รวมกันในทรงเดียว ทั้งยังทำให้เห็นรูจมูกชัดเจน
- จมูกหมูเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม การเจริญเติบโตของกระดูก อุบัติเหตุ การฉีดสารเหลว และผลจากการเสริมจมูกที่ผิดปกติ
- ควรพิจารณาแก้จมูกหมู หากมีลักษณะปลายจมูกเชิดเกินไป จมูกสั้นผิดปกติ เห็นรูจมูกชัด หรือโครงสร้างจมูกเดิมไม่รองรับซิลิโคน
- วิธีแก้จมูกหมูมีหลายเทคนิค เช่น การเสริมปลายด้วยกระดูกอ่อน การผ่าตัดยืดปลายจมูก ตัดปีก เทคนิคโอเพ่น และเทคนิคพิเศษอย่าง SSTP ของ Vincent Clinic
จมูกหมูเป็นหนึ่งในลักษณะของทรงจมูกที่ทำให้ใบหน้าดูแข็ง ไม่ละมุน ขาดมิติ จมูกดูสั้นไม่สมดุลกับโครงหน้า เวลาจะถ่ายรูปก็ต้องคอยหามุมอยู่ตลอดเวลาเพราะหันมุมไหนก็ไม่มั่นใจ หลายคนจึงมองหาวิธีแก้ไขเพื่อให้ได้ทรงจมูกที่สวยตามต้องการ ซึ่งจมูกทรงนี้คืออะไร ส่งผลทำให้ใบหน้าขาดสมดุลจริงไหม แก้ไขได้ด้วยวิธีใดบ้าง แตกต่างจากจมูกทรงอื่น ๆ อย่างไร ก่อนแก้ไขทรงจมูกมีความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงอะไรบ้างที่ควรรู้ สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้จากเนื้อหาต่อไปนี้ที่ Vincent Clinic Plastic Surgery รวมมาให้ค่ะ
จมูกหมู คืออะไร? มีลักษณะอย่างไรบ้าง?
จมูกหมู คือ ลักษณะของจมูกที่มีปลายยกขึ้นคล้ายกับถูกอะไรรั้งเอาไว้ ทำให้ดูแข็งตึง ไม่เป็นธรรมชาติ ทรงจมูกหมูจะมีระยะความยาวจากโคนถึงปลายจมูกค่อนข้างสั้นกว่าปกติ โดยเฉลี่ยจะวัดได้ประมาณ 3 เซนติเมตร และมีปลายจมูกเชิดจนสามารถมองเห็นรูจมูกกว้างชัดเจน คล้ายกับจมูกของหมู ไม่สมดุลกับโครงหน้าโดยรวม
จมูกหมู จมูกเชิด และจมูกสั้น ต่างกันอย่างไร?
จมูกหมู จมูกเชิด จมูกสั้น อาจทำให้หลายคนสับสน เพราะมองว่ามีความคล้ายคลึงกัน แต่จริง ๆ แล้วมีความแตกต่างกัน ซึ่งสามารถสังเกตได้ง่ายๆ ดังนี้
- จมูกหมู มีลักษณะของปลายจมูกที่เชิดขึ้นสูง มองเห็นรูจมูกชัดเจน และมีขนาดค่อนข้างสั้นคล้ายจมูกหมู
- จมูกเชิด มีลักษณะองศาของปลายจมูกที่เชิดสูงขึ้น ทำให้มองเห็นรูจมูก แต่ไม่ได้มีปัญหาจมูกสั้น
- จมูกสั้น มีขนาดความยาวจากบริเวณโคนถึงปลายจมูกค่อนข้างสั้นผิดปกติ แต่ปลายจมูกไม่ได้เชิดจนเห็นรูจมูก
จมูกหมูเกิดจากอะไร?
จมูกหมูเป็นลักษณะของทรงจมูกที่ทำให้ใบหน้ามีความแข็ง ไม่ละมุน ไม่มีมิติ ซึ่งเกิดขึ้นได้จากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ที่ส่งผลกระทบแตกต่างกันออกไป ดังนี้
- กรรมพันธุ์ ลักษณะทางโครงสร้างร่างกายสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ หากพ่อแม่มีลักษณะของจมูกหมูมีโอกาสสูงที่ลูกจะมีจมูกทรงนี้ได้เช่นกัน
- การเติบโตของร่างกาย ในช่วงที่ร่างกายกำลังเติบโตจะมีการพัฒนาโครงสร้างกระดูกและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในบางคนอาจมีพัฒนาการของโครงสร้างจมูกที่ไม่สมบูรณ์หรือผิดปกติจนทำให้รูปทรงไม่สมส่วนได้เช่นกัน
- อุบัติเหตุ การกระแทกหรืออุบัติเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นบริเวณจมูก อาจทำให้โครงสร้างภายในเสียหายและเกิดการผิดรูปทรงได้
- เคยฉีดสารเหลวหรือฟิลเลอร์ปลอม ผู้ที่เคยฉีดสารเหลวหรือสารเติมเต็มเป็นของปลอม อาจเกิดอาการอักเสบ บวม ฟิลเลอร์ไหลจนทำให้จมูกบิดเบี้ยวผิดรูปทรง
- เคยผ่าตัดเสริมจมูก สำหรับคนที่เคยทำจมูกมาแล้วเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือแพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอ จนทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของผลลัพธ์ที่ได้ เช่น พังผืดดึงรั้ง เป็นต้น อาจทำให้ปลายจมูกเชิดขึ้น และจมูกดูสั้นลงกว่าปกติ
จมูกหมูกับโหงวเฮ้งสัมพันธ์กันอย่างไร?
ตามความเชื่อในศาสตร์ของโหงวเฮ้งนั้น จมูกหมูเป็นลักษณะที่ไม่ค่อยส่งเสริมความมงคล เนื่องจากลักษณะของจมูกที่ดีตามหลักความเชื่อนั้นควรจะเป็นตามรายละเอียดต่อไปนี้
- สันจมูก เป็นส่วนที่เกี่ยวกับเรื่องของเงินทองไม่ติดขัด เงินทองไหลมาเทมาได้ราบลื่น สันจมูกจะต้องไม่เบี้ยว หากจมูกคด จมูกเอียง จมูกงอ ทรงจมูกสั้น อาจทำให้เงินทองติดขัด
- ปลายจมูก ส่วนนี้เกี่ยวกับการเก็บสะสมทรัพย์สิน จึงควรมีลักษณะที่กลมมนรับกับสันจมูก หรือปลายจมูกทรงหยดน้ำ เปรียบเสมือนถุงเงิน เก็บเงินเก่ง
- ปีกจมูก มีความเกี่ยวข้องกับการหาเงิน ความรู้ ความสามารถ จะต้องไม่กว้างกว่าหัวตา ไม่บานหรือเปิดออก มีความหนาพอดีรับกับสันจมูก
- รูจมูก อีกหนึ่งส่วนเสริมในเรื่องของการเงินที่ไม่ควรมองข้าม โดยลักษณะที่ดีจะต้องมองเห็นรูจมูกไม่ชัดเจน รูจมูกไม่ใหญ่ กว้าง หรือเล็กมากเกินไป จะต้องมีความพอดีสมดุลกับจมูกและใบหน้าโดยรวม
จมูกหมูแบบไหนที่ควรแก้ไข?
ถึงแม้ว่าจมูกหมูจะไม่ได้อันตรายถึงชีวิต แต่ในหลายกรณีก็ส่งผลต่อบุคลิกภาพ ความมั่นใจ และอาจกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้เช่นกัน หากปล่อยไว้ไม่รีบรักษาอาจทำให้การแก้ไขทำได้ยากยิ่งขึ้น โดยลักษณะจมูกที่คล้ายหมูซึ่งควรปรึกษาแพทย์หรือทำการรักษา มีดังนี้
- ปลายจมูกเชิดเกินไป ถ้ามองด้านข้างแล้วปลายจมูกเชิดขึ้นจนเห็นรูจมูกชัดเจน ทำให้ใบหน้าขาดความละมุนและดูแข็ง
- จมูกสั้นเกินไป หากความยาวของจมูกจากโคนถึงปลาย มีขนาดน้อยกว่า 3 ซม. อาจทำให้จมูกดูไม่สมส่วน ยิ่งทำให้หน้าดูสั้นตามไปด้วย
- มองเห็นรูจมูกชัดเจน ในกรณีของคนที่รูจมูกกว้าง จมูกบาน เห็นรูจมูกชัดเจน จนทำให้ใบหน้าขาดความสมดุล โครงหน้าไม่ได้สัดส่วน ทำให้สูญเสียความมั่นใจ หากแก้ไขให้ดีขึ้นก็จะช่วยให้ใบหน้าโดยรวมดูดีขึ้นได้อย่างชัดเจน
- โครงสร้างจมูกไม่รองรับซิลิโคน ในกรณีที่เนื้อจมูกบางมาก แล้วเสริม ซิลิโคนจมูก จนเชิดและแหลมเกินไป อาจเสี่ยงเกิดปัญหาซิลิโคนทะลุได้ ควรพิจารณาแก้ไขเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลาม
- เสริมจมูกแล้วปลายเชิดขึ้นเรื่อยๆ หากหลังศัลยกรรมไปแล้ว สังเกตเห็นปลายจมูกที่เชิดขึ้นเรื่อย ๆ อาจเกิดจากพังผืดหดรั้ง ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการประเมินและวางแผนแก้ไข
แก้จมูกหมู เหมาะกับใคร?
การแก้จมูกหมู ไม่ได้จำเป็นสำหรับทุกคน แต่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาปลายจมูกเชิดผิดธรรมชาติ จมูกสั้น หรือรู้สึกว่าใบหน้าดูแข็งไม่ละมุน ซึ่งหากเข้าข่ายลักษณะเหล่านี้ การแก้จมูกหมูจะช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสมดุลขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มต่อไปนี้
- คนที่มีปลายจมูกเชิดมากเกินไปจนเห็นรูจมูกชัดเจน ทำให้ใบหน้าดูไม่ละมุน
- คนที่จมูกสั้นเกินไป ไม่สมดุลกับโครงหน้า อยากปรับให้จมูกยาวมากขึ้น
- คนที่เคยเสริมจมูกแล้วเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือเกิดปัญหา เช่น จมูกเบี้ยว เกิดพังผืดหดรั้ง
- คนที่ไม่มั่นใจในรูปทรงจมูก ต้องการให้ใบหน้ามีความสมดุล ละมุนสวยมากขึ้น
แก้จมูกหมู ไม่เหมาะกับใคร?
ถึงแม้การแก้จมูกหมูด้วยการผ่าตัดจะสามารถทำได้กับคนที่มีปัญหาหรือต้องการปรับลุคให้ใบหน้าดูดีขึ้น แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่มีความเสี่ยงจากปัจจัยส่วนตัวซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงตามมาได้ แพทย์อาจจะพิจารณาเลือกใช้วิธีการอื่นที่เหมาะสมและปลอดภัยมากกว่า โดยกลุ่มคนที่ไม่เหมาะกับการแก้ไขด้วยการผ่าตัดมีดังนี้
- คนที่มีเนื้อจมูกบางมากจนไม่สามารถเสริมจมูกได้อย่างปลอดภัย
- คนที่เคยผ่าตัดเสริมจมูก แก้จมูก มาหลายครั้งจนเนื้อเยื่อหรือโครงสร้างภายในเสียหายเยอะ
- คนที่เคยทำจมูกมาแล้วเกิดพังผืดเยอะและมีความแข็งมากเกินไป
- คนที่ยังมีการอักเสบติดเชื้อจากการศัลยกรรมครั้งก่อนหน้า
- คนที่มีโรคประจำตัวในระดับรุนแรงซึ่งแพทย์ประเมินพบว่ามีความเสี่ยงมากเกินไป
วิธีแก้จมูกหมูมีกี่แบบ?
สำหรับคนที่ต้องการแก้จมูกหมูเพื่อช่วยให้โครงหน้าโดยรวมมีมีความสมดุลมากขึ้น สามารถทำได้ด้วยหลายวิธี ขึ้นอยู่กับปัญหาและโครงสร้างจมูกของแต่ละคนที่แตกต่างกัน โดยแพทย์จะประเมินและออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละคนมากที่สุด โดยมีวิธีการแก้ปัญหาดังนี้
- เสริมปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อน โดยแพทย์จะเลือกใช้กระดูกอ่อนตามร่างกายของคนไข้ เช่น เสริมจมูกกระดูกอ่อนหลังหู กระดูกอ่อนซี่โครง เพื่อช่วยป้องกันปัญหาจมูกทะลุ
- ผ่าตัดยืดปลายจมูก โดยการใช้วัสดุเสริมจมูกอื่น ๆ เช่น กระดูกอ่อน เนื้อเยื่อเทียม เนื้อเยื่อก้นกบ เป็นต้น เพื่อช่วยให้จมูกมีสัดส่วนที่ยาวมากขึ้น
- ปรับขนาดรูจมูก เป็นการใช้เทคนิคการผ่าตัดเพื่อตกแต่งขนาดของรูจมูกให้เล็กลงหรือได้สัดส่วนมากขึ้น เช่น ตัดปีกจมูก ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมินเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะกับรายบุคคล
- เสริมจมูกเทคนิคโอเพ่น เทคนิคนี้จะช่วยให้แพทย์สามารถเข้าไปปรับแก้โครงสร้างภายในจมูกได้อย่างแม่นยำ จึงสามารถวางซิลิโคนเข้าไปในตำแหน่งที่เหมาะสมและช่วยยืดทรงจมูกให้ยาวขึ้นรับกับใบหน้าได้ดี
- เสริมจมูกด้วยเทคนิค SSTP เป็นเทคนิคเฉพาะของ Vincent Clinic ที่สามารถช่วยเพิ่มพื้นที่ในการใส่ซิลิโคนให้มากขึ้น สามารถปรับทรงจมูกโด่งพุ่งสวยได้แม้จะมีเนื้อจมูกน้อย ช่วยให้ได้ทรงจมูกสวยรับกับใบหน้ามากขึ้น ลดอาการบวมช้ำ พักฟื้นน้อย กลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วขึ้น
แก้จมูกหมูมีผลข้างเคียงหรือข้อควรรู้อะไรบ้าง?
ก่อนแก้จมูกหมูควรศึกษารายละเอียดทั้งเรื่องของเทคนิคที่ใช้ ปัญหาของแต่ละคนที่แตกต่างกัน แพทย์ผู้ทำการผ่าตัด เป็นต้น โดยมีรายละเอียดที่ควรทราบก่อนผ่าตัดแก้ไข ดังนี้
- คนที่มีปัจจัยส่วนตัวที่มีความเสี่ยงต่อการผ่าตัด เช่น แพ้ยาสลบ มีเลือดออกง่าย
- หลังทำอาจมีอาการบวมช้ำ หรือมีเลือดซึมบริเวณแผลผ่าตัด ซึ่งจะหายไปได้เองหากดูแลอย่างเคร่งครัด
- อาจเกิดปัญหาจมูกเบี้ยว ซิลิโคนทะลุ หรือซิลิโคนลอย หากทำกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์มากพอ
- อาจเกิดการอักเสบติดเชื้อรุนแรง หากอุปกรณ์ไม่สะอาด หรือดูแลความสะอาดได้ไม่ดี
- อาจมีรอยแผลบริเวณฐานจมูก ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่แพทย์ใช้และการดูแลตัวเองหลังทำ
สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : อาการหลังเสริมจมูก มีอะไรบ้าง อาการผิดปกติสังเกตได้จากอะไรบ้าง
หลังแก้จมูกหมู ควรดูแลตัวเองอย่างไร?
เพื่อให้ผลลัพธ์หลังแก้จมูกหมู เสริมจมูก ออกมาดี ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน และช่วยให้จมูกเข้าที่ไวขึ้น ควรดูแลตัวเองหลังทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยสามารถดูแลตัวเองได้ดังนี้
- ประคบเย็นรอบๆ จมูก ในช่วง 2 – 3 วันแรก เพื่อลดอาการบวมให้น้อยลง ไม่ควรประคบลงบริเวณจมูกโดยตรง
- อย่าให้แผลโดนน้ำในช่วงแรก เพื่อป้องกันการติดเชื้อแนะนำให้ใช้สำลีชุบน้ำเกลือในการทำความสะอาดทุกวัน
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบ เพื่อให้แผล และอาการบวมลดลดได้ไวขึ้น ไม่ควรหยุดยาเอง
- นอนหงายใช้หมอนรองคอเพื่อยกศีรษะสูงขึ้น ห้ามนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ เพื่อป้องกันจมูกได้รับการกระทบกระเทือนหรือถูกกดทับและช่วยให้อาการบวมน้อยลง ในช่วงแรกหลังผ่าตัด
- งดจับ บีบ นวด หรือสัมผัสแรงๆ เพื่อป้องกันซิลิโคนจมูกเคลื่อนหรือทำให้แผลผ่าตัดฉีกขาด
- งดออกกำลังกายและงดทำกิจกรรมที่ออกแรงเยอะๆ ในช่วง 2 – 3 สัปดาห์แรกหลังทำ เพราะอาจไปกระทบกระเทือนจมูกได้
- รับประทานอาหารอ่อน เคี้ยวง่าย ไม่แข็งหรือเหนียวเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนกับแผลผ่าตัด
เลือกแก้จมูกหมูที่ไหนให้ปลอดภัย?
สำหรับคนที่มีปัญหาจมูกหมูและต้องการแก้ไข ก่อนตัดสินใจเลือกทำกับที่ไหนก็ตาม ควรศึกษารายละเอียดให้ครบทุกด้านเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาหรือผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ตามมา โดยสามารถพิจารณาได้ดังนี้
- พิจารณาคลินิก ต้องเป็นคลินิกที่เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง ติดแสดงเลขใบอนุญาตให้เห็นชัดเจน มีห้องผ่าตัดที่สะอาดได้มาตรฐาน
- พิจารณาแพทย์ ต้องเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ ให้คำปรึกษาที่ครบถ้วนถูกต้อง เข้าใจเทคนิคการผ่าตัดเป็นอย่างดี
- พิจารณาซิลิโคน ต้องเป็นซิลิโคนแท้ มีบริษัทนำเข้าอย่างถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้
- พิจารณารีวิวคนไข้จริง การได้เห็นรีวิวจากคนไข้จริงจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์หลังทำที่ชัดเจน ทั้งยังเห็นถึงฝีมือของแพทย์ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับจมูกหมู (FAQ)
มีหลายคนที่ยังสงสัยเกี่ยวกับจมูกหมูในแง่มุมอื่นๆ ในเนื้อหาต่อไปนี้ได้รวบรวมเอาคำถามที่พบบ่อยมาไว้ช่วยไขข้อข้องใจและตอบคำถามที่คาใจให้กระจ่างมากขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้
Q: การแก้จมูกหมูจำเป็นต้องผ่าตัดเท่านั้นไหม?
A: โดยทั่วไปสัดส่วนของจมูกหมูจะมีความไม่สมดุล หากใช้เทคนิคไม่ผ่าตัดในการแก้ไข รูปทรงจะไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมากจึงไม่ได้แก้ปัญหาตรงจุด ส่วนใหญ่การผ่าตัดจึงได้รับความนิยมมากกว่า เพราะสามารถทำให้จมูกเกิดการเปลี่ยนแปลงได้มากที่สุดและปรับให้รับกับใบหน้าได้ดีกว่า
Q: แก้จมูกหมูต้องพักฟื้นนานแค่ไหน?
A: โดยปกติจะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ ระดับความรุนแรงของปัญหา ร่างกายของแต่ละคน และการดูแลหลังทำ
Q: หลังแก้จมูกหมูจะกลับมาเชิดอีกไหม?
A: หากทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ซึ่งมีความเข้าใจในเทคนิคการผ่าตัด เลือกวัสดุเสริมจมูกได้เหมาะสม ตำแหน่งซิลิโคนได้แม่นยำ และคนไข้ดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอตามแพทย์แนะนำ จะช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาหลังทำ จมูกจึงไม่กลับมาเชิดอีก
Q: สามารถใช้ฟิลเลอร์แทนการผ่าตัดเพื่อแก้จมูกหมูได้หรือไม่?
A: ฟิลเลอร์สามารถช่วยเติมเต็มให้ขนาดของสันใหญ่และโด่งขึ้นได้ แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาในเชิงโครงสร้างได้อย่างละเอียด เช่น ความยาวของสันจมูก ความเชิดของปลายจมูก แก้ปัญหาปีกจมูกกว้าง หรือปรับฐานจมูกให้แคบลง เป็นต้น
Q: แก้จมูกหมูมีโอกาสเกิดแผลเป็นหรือไม่?
A: ปัญหารอยแผลเป็นหลังผ่าตัดจมูกสามารถเกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่แพทย์ใช้ หากดูแลหลังทำได้ดีรอยแผลจะจางลงไปจนแทบมองไม่เห็น หรือถ้าแพทย์ใช้เทคนิคที่ไม่มีแผลภายนอกก็จะช่วยซ่อนแผลผ่าตัดไว้ด้านในโพรงจมูก
Q: ทำไมบางคนศัลยกรรมจมูกแล้วกลายเป็นจมูกหมู?
A: ปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้ หากแพทย์ผู้ผ่าตัดไม่มีประสบการณ์มากพอ ทำให้ไม่เข้าใจเทคนิคที่ผ่าตัด วางตำแหน่งซิลิโคนคลาดเคลื่อน แก้ปัญหาไม่ครบ จึงอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงตามมาจนเกิดเป็นจมูกหมูได้
สรุป
จมูกหมูเป็น ทรงจมูก ที่ให้ใบหน้าขาดสมดุล หน้าแข็งไม่ละมุน หน้าสั้น หน้าแบนไม่มีมิติ หันมุมไหนก็ไม่มั่นใจ ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ทำให้ความรุนแรงของปัญหาแตกต่างกัน แพทย์จึงต้องเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะกับรายบุคคล สำหรับใครที่จมูกไม่ได้สัดส่วน ไม่รับกับใบหน้า อยากปรับลุคเปลี่ยนบุคลิกให้ดูดีขึ้น หรือต้องการแก้ไขจมูกเดิมที่เคยทำศัลยกรรมมาแล้วให้ได้รูปทรงตามต้องการและรับกับใบหน้ามากขึ้น แนะนำให้เข้ามาปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic Plastic Surgery เพื่อรับการประเมินจากทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ ออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดี มีเอกลักษณ์เป็นตัวของคุณเอง